โยชินค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ร่างสูงของเขาขยับเล็กน้อย เมื่อรู้สึกถึงความเมื่อยขบจากการกดทับของร่างเล็กนั้น สายตาคมค่อยๆปรับให้สู้กับแสงแดดที่รู้สึกเหมือนมันจะทะลุกระจกเข้ามากระทบหน้า มือหนายกขึ้นบังแต่เมื่อหันไปมองอีกคนที่มัวแต่หลับปุ๋ย ใบหน้าหล่ออมยิ้ม พลางขยับมือขึ้นมาบังใบหน้าหวานของเด็กขี้เซาจอมหื่นนั้นไว้
“อื้อ แดดแทงตาขนาดนี้ยังไม่ตื่นอีก” เสียงทุ้มเปรยออกมาเบาๆ เขาแอบมองใบหน้าใสยามกระทบกับแสงแดดนั้นอย่างเพลินตา ความใสของเจ้าหล่อนมันเปล่งประกายออร่าเป็นที่สุด ผิวเนียนนุ่มดุจใยไหม ส่วนความหอมนั้นไม่ต้องพูดถึง เมื่อคิดดังนั้นปลายจมูกโด่งก็ก้มลงไปแตะพวงแก้มใสนั้นอย่างแผ่วเบา
“จุ๊บ!!” ปากหยักจรดลงผิวนุ่มอย่างอ่อนโยน ขณะที่ปลายจมูกโด่งก็สูดกลิ่นหอมดุจขนมหวานนั้นเข้าปอด
“อื้อ ...”ร่างเล็กครางอย่างขัดใจ แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะลืมตาขึ้น โยชินจึงหยิบรีโมทกดม่านเพื่อบังแสงรบกวน
แกร็กกก!! เสียงนั้นก็ไม่อาจทำให้เด็กสาวนั้นรู้สึกตัว
“ตื่นได้แล้วยายเด็กหื่น” เสียงนุ่มแต่แหบพร่าก้มลงไปกระซิบข้างใบหู มันได้ผลคนที่นอนหลับใหลขยับตัวแล้ว แต่ทว่าเพียงแต่พลิกไปอีกด้านหนึ่งก็เท่านั้น โยชินมองเนื้อตัวใสที่โพล่พ้นผ้าห่มอย่างพอใจ รอยแดงเมื่อคืนเขาเป็นคนสร้างมันขึ้น ช่วยไม่ได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเกินไป พวกจะจับกินอยู่แล้ว ทำแบบนี้คนอื่นจะได้รู้ว่าพื้นที่ตรงนี้มีคนจองแล้ว มือหนาค่อยๆดึงผ้าห่มนั้นออกอย่างช้าๆ พลางเคลื่อนเข้าไปหาบั้นท้ายงอนงามที่ไพล่
“อ๊ะ อื้อ ” ดวงตาหวานของร่างที่หลับใหลค่อยๆปรือขึ้น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อรู้สึกหนักอึ้งอยู่เหนือคิ้วทั้งสองข้างนั้น
“อื้อ..ปวดหัวจัง” หล่อนเปรยออกมาเบาๆก่อนที่จะลืมตาโพล่งเมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องนั้นตื่นก่อนแล้ว
“อุ๊ย!! พี่โยชินตื่นแล้วเหรอคะเนี่ย”
“อื้อ..ยังมั๊ง” โยชินทำท่ากวนประสาท
“อื้อ หนูขอโทษค่ะที่ตื่นสาย หนูปวดหัวมากเลยค่ะ” ญารินพยายามผงกหัวเพื่อลุกขึ้นนั่ง แต่ทว่ากลับล้มลงไปด้วยอาการเมาค้าง
“เอ้าๆ นอนเหอะ จะรีบลุกขึ้นทำไมกัน”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูลุกขึ้นทำอะไรให้ทานนะคะ” ญารินพยายามกุลีกุจอลุกขึ้นจากเตียงนอนนั้น
“อุ๊ย!! ว๊ายย!!”
ควับ !!ตุ๊บ!!
“อื้อ เห็นไหมเกือบล้มแล้ว หากฉันไม่คว้าเอาไว้ หัวฟาดพื้นแน่เลย” สายตาเฉี่ยวมองร่างเล็กกว่าบนตักด้วยสายตาเข้ม ใจในนึกขอบคุณครอบครัวที่เคยส่งไปเรียนวิชาป้องกันตัว โดยใช้ความไวจากสัญชาตญาณจึงคว้าร่างน้อยนี้ไว้ได้
“อื้อ ขะ ขอบคุณพี่มากนะคะ” ญารินก้มหัวลงเล็กน้อย แต่เมื่อสายตาเงยขึ้นไปสบเข้ากับดวงตาเข้มหล่อนก็จำต้องก้มลงมือตักตัวเองนั้น
“วันนี้ไม่ต้องทำอะไรให้ฉันกินทั้งนั้น ฉันยังไม่ค่อยหิวเท่าไรหรอก เมื่อคืนกินเด็กหื่นจนเต็มท้องแล้ว” ประโยคสุดท้ายทำให้ญารินหน้าแดงขึ้นมา หล่อนเงยหน้าเม้มปากอย่างเอียงอาย โยชินรู้สึกชอบใจเมื่อเห็นว่าเจ้าหล่อนเกิดอาการแบบนี้ สายตาหวานไล่มองพวงแก้มใสนั้นก็อดที่จะเคลื่อนจมูกเข้าไปหาอีกจนได้
“จุ๊บ!!”
“อุ๊ย พี่โยชิน” ญารินหันไปมองหน้าเขา แต่หล่อนก็ต้องอมยิ้ม เมื่อรู้สึกได้ถึงมือไม้ที่ปัดป่ายตามขาอ่อนของหล่อนนั้น หล่อนเริ่มรู้สึกหายใจติดขัดเมื่อร่างโปร่งเริ่มกอดรัดร่างหล่อนแน่นมากยิ่งขึ้น
“อ๊ะ พี่โยชิน อย่าค่ะ หนูปวดหัวอยู่เลย” เสียงร้องห้ามดังอ่อยๆพรางใบหน้าสวยก็เอียงหลบจมูกที่แสนซนของเขาที่คอยแต่จะซุกเข้ามาหาซอกคอของหล่อนอยู่นั้น
“เดี๋ยวพี่ฉีดยาให้เอง” เสียงแหบพร่าดังขั้นข้างซอกหู ปากเล็กของเขาก็เฝ้าขบเม้มติ่งหูของหล่อนไปมาอยู่อย่างนั้น
“อื้อ พี่โยชิน อ๊ะ อ๊ะ อ่าส์” ญารินพยายามขัดขืนเล็กน้อย ใช่ว่าหล่อนจะจริงจัง ในใจรู้สึกดีเป็นที่สุด กายสาวแทนที่จะเบี่ยงหนี มันกลับเบียดเสียดเข้าหาร่างโปร่งจนเนื้ออวบหยุ่นทั้งสองข้างบี้เบียดกับหน้าอกของเขาอยู่นั้น
“อื้ม เรียกชื่อพี่เสียงแบบนี้ ไม่โดนกินตอนนี้แล้วจะโดนกินตอนไหน หืมม” โยชินไล่จมูกกับปากจากลำคอเคลื่อนเข้าหาปากอิ่มที่เผยอรอเขาอยู่ก่อนแล้ว ปากเล็กของเจ้าหล่อนจึงจัดการประกบปิดกลีบปากนุ่มนิ่มนั้นอย่างหนักหน่วง โยชินไล่ขบเม้มจากริมฝีปากล่างจากซ้ายไปขวา เคลื่อนไปเม้มริมฝีปากบนจากขวาไปซ้าย เขาออกแรงดูดเม้มกลีบปากเจ้าหล่อนสร้างความวาบหวามให้กับอีกคนเป็นที่สุด
“อ๊ะ อ๊ะ อ่าส์ อ่าส์” เสียงหวานครางอย่างพอใจในลำคอ เมื่อความหอมหวานนั้นถูกสูดเข้าปอด โยชินเริ่มติดใจเรือนร่างเล็กตรงหน้านี้เสียแล้ว พักหลังๆไม่ค่อยได้เรียกหาสาวคนไหน มีเพียงเด็กหื่นขี้อ่อยคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่หล่อนยังคงกินอย่างไม่รู้จักเบื่อ มันอาจะยังใหม่อยู่ก็เป็นได้ โยชินพยายามบอกตัวเอง
“อ๊ะ อ๊ะ จ๊วบ อ่าส์ อ่าส์” เสียงปากของทั้งสองประกบจูบกันอย่างเมาส์มัน ญารินก็ไม่รอช้าที่จะให้เขาป้อนความหวานให้หล่อนฝ่ายเดียว ลิ้นเล็กที่อยู่ด้านในแลบออกมาทำหน้าที่เชิญชวนเขาถึงที่ ร่างสาวบนตักของหล่อนแอ่นเข้าหาเพื่อกระตุ้นความต้องการของอีกฝ่าย มันได้ผลเมื่อมือของเขาเคลื่อนล้วงลึกเข้าหาน้องสาวของหล่อนที่รอให้เขาใช้เข็มฉีดยาที่เขาบอก
“อื้ม จ๊วบ อื้ม เปียกหมดแล้วสาวน้อย” โยชินพูดชิดปากเล็กขณะที่นิ้วร้ายก็กรีดอยู่กับร่องสวยของหล่อน น้ำหนืดๆที่ไหลออกมาจากร่างสาวทำให้น้องสาวของหล่อนร้อนผ่าวเช่นกัน หล่อนค่อยๆจับร่างเล็กกว่าบนตักไปวางไว้ข้างๆกายของตัวเองแล้วจับมือของอีกฝ่ายให้เคลื่อนมาสัมผัสเนื้ออูมของหล่อนบ้าง
“อื้อ อ่าส์ ของพี่โยชินก็ไม่แพ้กันนะคะ” สายตาหวานของญารินมองเขาอย่างหวานเยิ้ม ขณะที่นิ้วร้ายของตัวเองก็กรีดลงใจกลางความสาวของเขาเช่นกัน เขาทำยังไงกับหล่อน หล่อนก็ทำเช่นนั้นตอบ เขากดติ่งเนื้อของหล่อน หล่อนก็ไม่ยอมแพ้เขาเด็กขาด ยิ่งรับรู้ว่าของเขาร้อนผ่าว หล่อนยิ่งบดบี้มันเป็นสองเท่าทวีคูณ
“อ๋อย อ่าส์ ญาริน อื้อ อื้อ” โยชินครางเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงความเซี้ยวของคนฝั่งตรงข้าม สองสาวตอนนี้ร่างกายเปลือยป่าวทั้งสองร่างกำลังแลกเรือนร่างของกันและกัน โยชินมองเจ้าหล่อนก็อมยิ้ม กายสาวขยับเข้าหาร่างเล็ก โดยสอดขาสวยของหล่อนผสานเข้าหา สายตาก้มมองใจกลางความสาวของหล่อนทั้งสองแล้วก็พยักหน้า ญารินหน้าร้อนผ่าว เมื่อเขาผละนิ้วร้ายออกจากส่วนนั้น แล้วขยับร่างของเขาเข้าใกล้หล่อนมากยิ่งขึ้น
“อ๊ะ พี่คะ” ญารินเงยหน้ามองเขา แล้วก้มมองเนินสาวของหล่อนที่ถูกเขาแทรกกายสาว
“อยู่เฉยๆแล้วทำตามพี่” เสียงกระเส่าเอ่ยขึ้น พรางค่อยๆขยวับเนื้ออูมเข้าประกบตามจังหวะรักนั้น
เสียงเนื้อกระทบกันอย่างช้าๆ และเนิบนาบ สลับกับเสียงหวานครางอยู่ในลำคอ เสียงหวานดังประสานกันขึ้นตามจังหวะ
“พี่โยชิน หนู หนู จะไม่ไหวแล้ว” ญารินไม่รอช้าที่จะบอกเขา หล่อนเด้งสะโพกสวนทุกการกระทำของเขาเช่นเดียวกัน
“อื้ม อือ อือ พร้อมกัน ” โยชินครางเสียงต่ำขณะที่ญารินก็ครางกระเส่า กายสาวบิดเร้าไปมาอยู่อย่างนั้น
“อ๊ะ อ๊ะ อ่าส์ กรี๊ด/ อื้อ อื้อ อือ อือ ” ไม่นานนักเสียงสองสาวก็ร้องครางอย่างสุขสม ร่างสองสาวกอดกันแน่นคล้ายเกรงว่าใครคนใดคนหนึ่งจะหนีหาย ร่างทั้งสองเกร็งกระตุกไปพร้อมกันๆ ขณะที่ร่างหนาก็คว้าเอวเล็กมากอดเอาไว้ ก่อนจะพากันไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว
ติ๊ง ต่อง!!!!! เสียงกริ่งหน้าห้องทำให้ญารินขมวดคิ้ว สายตาหล่อนมองหาเขา
“ไปเปิดเหอะ พี่แต่งตัวเสร็จแล้ว” โยชินส่งเสียงบอกเจ้าหล่อน ญารินจึงเดินไปเปิดประตูห้อง
“อุ๊ย!! ขอโทษค่ะมาห้องผิด โยชินไม่ได้อยู่ห้องนี้แล้วเหรอคะ” ร่างบางที่ปรากฏตัวขึ้นทำให้ญารินยืนตัวแข็งทื่อ สายตาของหล่อนยังจ้องอยู่กับใบหน้าสวยของอดีตคนรักของเขานั้น
“เอ่อๆ ”
“ใครมาเหรอญาริน” ยังไม่ทันที่ญารินจะเอ่ยคำใด เสียงแหลมเล็กของโยชินก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“ศศิ ! โยชิน !!” ต่างฝ่ายต่างเรียกชื่ออีกคนอย่างประหลาดใจ สายตามองกันนิ่ง แต่ในใจของทั้งสองสาวเต็มไปด้วยคำถามมากมาย แต่คนที่ทำตัวไม่ถูกที่แท้จริง คือคนที่ยืนอยู่ระหว่างกลางนั้น.....>>>>>>