ครืด! ครืด! ครืด! ครืด!
แต่แล้วสายตาที่จับจ้องดูงานอยู่นั้นก็เปลี่ยนเส้นทางหันไปมองโทรศัพท์ที่กำลังสั่นดังอยู่ไม่ไกล ‘พี่วัช’ ชื่อนี้โชว์ขึ้นมาบนหน้าจอส่งผลให้คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันที
“ว่า?” แต่สุดท้ายแล้วก็กดรับสายอยู่ดี “เข้าเนื้อหาเลยนะ ไม่ต้องอ้อมค้อม”
(ฟ้าช่วยพี่ด้วย)
“ช่วยอะไร พี่ไปทำอะไรมาอีก” น้ำเสียงของเพียงฟ้าเข้มขึ้นเมื่อได้ยินคำบอกกล่าวของคนเป็น ‘พี่ชาย’ ที่กำลังเอ่ยออกมาอย่างร้อนรน
(พี่ขอโทษ พี่ผิดไปแล้ว)
“พี่ทำอะไรพี่วัช”
(พี่ติดหนี้พนันแล้วไม่มีเงินไปจ่าย)
“…”
(มีคนเข้ามายื่นข้อเสนอให้พี่ทำงานให้เขา แล้วเขาจะเคลียร์หนี้ที่เหลือให้)
“…”
(พี่ก็เลยยอมตกลง)
“งานอะไร?” แม้ปากจะถามแต่ความรู้สึกของเพียงฟ้าดันรู้สึกใจไม่ดีแปลก ๆ “พี่ทำงานอะไรและทำให้ใครพี่วัช”
(พี่ไม่รู้ว่าทำให้ใคร)
“…”
(เขาสั่งให้พี่ขโมยสินค้าในบริษัทของเราไปให้เขา)
มือบางที่จับโทรศัพท์อยู่นั้นสั่นเทาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “พี่ทำมานานแค่ไหนแล้ว”
(หนึ่งปี… ขโมยสินค้าตัวอย่างไปห้าชิ้น)
เพียงฟ้ากดตัดสายทิ้งพร้อมกดปิดเครื่องทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น มือที่สั่นเทาเริ่มสั่นหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำว่า ‘หนึ่งปี’
เธอไม่อาจคิดมูลค่าความเสียหายได้เลยว่ามันจะเป็นตัวเลขจำนวนเท่าไหร่ ไม่ต้องถามหรือหยิบเครื่องคิดเลขมากดก็พอจะรู้ว่ามันอยู่ใน ‘หลักล้าน’ แน่นอน
เธอเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีก็จริง เงินเดือนสูงก็ใช่ แต่เธอก็ไม่ได้มีเงินเก็บมากพอที่จะเอามาจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัทถึงขนาดหลักล้านหรือหลักสิบล้าน แย่หน่อยก็ร้อยล้าน
เธอไม่มีปัญญาแน่นอน
‘ภาวัช’ คือพี่ชายต่างพ่อต่างแม่ของเพียงฟ้า แม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก และพ่อของเธอได้แต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ ‘เกสร’ ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็มีลูกติดคือภาวัชคนนี้
เกสรดูแลเพียงฟ้าดีทุกอย่าง ดูแลราวกับว่าเป็นเหมือนลูกสาวคนหนึ่งก็ว่าได้ เธอรู้สึกโชคดีที่ตัวเองเจอแม่เลี้ยงที่ดี ไม่เป็นเหมือนในหนังในละครที่ได้เห็น ไม่อย่างนั้นคงวุ่นวายน่าดู
แต่แม่ดีก็ใช่ว่าลูกจะดีตาม… ภาวัชเป็นเหมือนผู้ชายที่ใช้ชีวิตได้ห่วยแตกในสายตาของเพียงฟ้า เขากิน เที่ยว เล่น และใช้เงินหมดไปกับการพนันไปวัน ๆ มีหลายครั้งหลายคราที่เธอต้องตามกวาดล้างให้เพราะเห็นแก่เกสร อีกทั้งตอนนี้เกสรกำลังป่วยหนักจึงไม่อยากให้มีเรื่องไปกระทบกระเทือนใจ เพราะแบบนี้ก็เลยต้องกลายเป็นคนแบกภาระและปัญหาของภาวัชไว้กับตัว
และปัญหาของภาวัชในครั้งนี้มันใหญ่เกินกว่าทุกครั้งที่เธอเคยเจอมา
ไม่รู้เลยว่าทางออกครั้งนี้จะเป็นอย่างไร
“พี่ฟ้าคะ!” เสียงเรียกของปลายฝันดึงสติเพียงฟ้ากลับมาจนร่างสะดุ้งตัวลอย ซึ่งคนที่เรียกก็รีบยกมือไหว้ทันทีทันใด “ขอโทษค่ะ ฝันเรียกพี่ฟ้าหลายครั้งแล้วแต่พี่ฟ้าไม่ได้ยิน”
“ไม่เป็นไร” เพียงฟ้าซ่อนความกังวลไว้ในใจแล้วกลับมาทำตัวปกติ “ฝันเรียกพี่มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ ฝันแค่เห็นพี่ฟ้านั่งเหม่อก็เลยลองเรียกดู”
“ไม่มีอะไรหรอก” ริมฝีปากที่แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีสวยขยับว่าในขณะที่มือหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาถือ “เดี๋ยวพี่ไปประชุมก่อนนะ กลับมาอีกทีก็น่าจะเที่ยง”
“ค่ะ”
ตากลมโตของคนเป็นลูกน้องที่พ่วงตำแหน่ง ‘เมียลับท่านประธาน’ มองตามหลังหัวหน้าของตัวเองไปจนลับสายตา ก่อนที่จะหันกลับมาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองเหมือนเดิมเมื่อเห็นอีเมลของคนเป็น ‘สามี’ ส่งเข้ามา ปากเล็กระบายยิ้มกว้างแล้วกดพิมพ์ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี
ต่างจากเพียงฟ้าที่ทั้งนั่งประชุมทั้งเหม่อลอยคิดถึงเรื่องปัญหาของตัวเองที่ไม่ได้เป็นคนก่อ วันนี้เธอกลายเป็นคนไม่มีสติสตังอยู่กับเนื้อกับตัวเพราะกำลังกลุ้มใจกับปัญหาที่กำลังตามมา
หากเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่… ภาวัชอาจจะถูกจับเข้าคุก ส่วนเธออาจจะโดนเชิญออกเพราะเป็นน้องสาวของภาวัชผู้ที่ขโมยสินค้าและอาจนำความเสียหายมาให้บริษัท
คงไม่มีใครเก็บน้องของโจรไว้ให้ทำงานต่อ และหากเป็นเช่นนั้นบริษัทไหนจะรับเธอเข้าทำงานอีก
ตอนนี้เพียงฟ้ามืดแปดด้านจริง ๆ
“คุณฟ้า…” เสียงเอ่ยเรียกทำให้เพียงฟ้าที่เพิ่งประชุมเสร็จหันมอง ก็ต้องได้พบกับใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังส่งยิ้มอารมณ์ดีมาให้เธอ “เจอกันอีกแล้วนะครับ”
“แปลกตรงไหนคะ บริษัทก็มีเท่านี้เจอกันบ่อย ๆ ฟ้าว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร”
“ก็จริง” รุจพยักหน้ารับแผ่วเบา “เที่ยงนี้ไปกินข้าวกับผมหน่อยไหม”
“ไม่สะดวกค่ะ” เพียงฟ้าปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยเพราะต้องการเว้นระยะห่างจากผู้ชายคนนี้ เมื่อเช้าเธออาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไม ‘รุจ’ ถึงพูดและมองเธออย่างนั้น แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันหมายความว่าอย่างไร
เขากำลังกวนน้ำให้ขุ่น…
พอน้ำขุ่นแล้วปลาก็จะแตกตื่น และกลับมาสงบเหมือนเดิมเมื่อน้ำใส
เขากำลังเล่นสนุกกับเรื่องนี้ ทำไมเธอจะไม่รู้
“น่าจะจริงที่เขาว่าหัวหน้าฝ่ายบัญชีดุเหมือนเสือ”
“…”
“แต่ผมชอบนะ…โดยเฉพาะเสือสวย ๆ”
สีหน้าและท่าทางของรุจทำให้เพียงฟ้านับหนึ่งถึงสิบในใจเพราะกลัวว่าจะอดเผลอพลั้งปากด่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าการอดกลั้นของหญิงสาวอยู่ในสายตาของรุจตลอดเวลา
เพียงฟ้าเป็นผู้หญิงที่สวย…
แม้จะตีหน้ายักษ์หรือสบมองเขาอย่างไม่พอใจก็ยังสวยอยู่ดี เพราะแบบนี้รุจก็เลยสนใจเธอเป็นพิเศษ จากตอนแรกที่คิดว่าการเข้าหาผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิง ‘หัวอ่อน’ อย่างที่เคยเห็นผ่าน ๆ มา
แต่เมื่อมีเรื่อง ‘หนอน’ มาเกี่ยวข้อง การเข้าหาเพียงฟ้าจึงไม่จำเป็นแล้ว
เธอต่างหากที่ต้องเข้าหาเขา… ไม่ใช่เขาเข้าหาเธอ
“เราจะยืนอยู่ตรงนี้ทั้งวันผมก็ไม่ติดนะ”
“ถ้าคุณรุจไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ฟ้าขอตัวค่ะ”
“แล้วคุณไม่มีเรื่องที่จะพูดกับผมเหรอคุณฟ้า” คำพูดดังกล่าวทำให้เพียงฟ้าชะงักขา “ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะครับ”
“ฟ้าไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณค่ะ” ตาคมเฉี่ยวหันกลับมาสบตาคมอย่างไม่เกรงกลัว “ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวยิ่งไม่มีเลยค่ะ”
“คุณแน่ใจ?” ริมฝีปากของรุจยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์เจ้ากล “แล้วเรื่องที่บริษัทล่ะคุณฟ้า…”
“เรื่องนั้นก็ไม่มีเหมือนกัน” แม้ปากจะบอกว่าไม่มีแต่ดวงตาสวยดันหลบหนีไม่ยอมสบตากับอีกคน “ขอตัวค่ะ”
“ภาวัช… ใช่พี่ชายของคุณหรือเปล่า” เป็นอีกครั้งที่คำพูดของรุจหยุดการเคลื่อนไหวของเพียงฟ้าได้ แต่การหยุดยั้งครั้งนี้เริ่มทำให้ใบหน้าสวยแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน และเธอก็ไม่คิดที่จะปิดบังมัน
“คุณต้องการอะไรคะคุณรุจ?”
“ต้องการเพื่อนกินข้าวเที่ยงในวันนี้”
“…”
“ถ้าคุณไปกินข้าวกับผม”
“…”
“เรื่องของภาวัชจะถูกเก็บเป็นความลับต่อไป”
“…”
“คุณมีสิทธิ์เลือกเพียงฟ้า… อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกหรือเปล่า”