บทที่ 2 ทางออก (1/2)

1225 คำ
2.ทางออก สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องมากินข้าวกับคุณรุจเพราะรู้ดีว่าคำพูดที่เอ่ยเหมือนเสนอทางออกผสมผสานคำข่มขู่มันหมายความว่าอย่างไร ฉันมั่นใจมากว่าผู้ชายคนนี้ต้องรู้เรื่องอะไรบางอย่างมาอย่างแน่นอน และเรื่องที่ว่าคงจะไม่พ้นเรื่องของ ‘พี่วัช’ ที่ขโมยสินค้าตัวอย่างออกจากบริษัท เพราะหากเขาไม่รู้เราก็คงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ และเขาคงไม่เอ่ยชื่อพี่ชายต่างพ่อต่างแม่ของฉันออกมาในขณะที่เรายังยืนคุยกันด้วยความตึงเครียด “มองเหมือนจะฆ่ากันแบบนี้ผมใจไม่ดีนะคุณฟ้า” น้ำเสียงยียวนกวนประสาทเป็นเหตุให้ฉันกลับเข้าสู่ความจริงจัง “ฟ้าคิดว่าคุณคงไม่ได้ชวนฟ้ามากินข้าวอย่างเดียวหรอกใช่ไหมคะ” “ก็อยากชวนไปทำอย่างอื่นอยู่เหมือนกัน” ตาคมที่อยู่หลังกรอบแว่นสีใสเหลือบมองฉันอย่างสนุกสนาน “ถ้าชวนแล้วคุณจะไปกับผมไหม?” “ไปตายเหรอคะ” “ไปตายก็ได้ถ้ามีคนสวยอย่างคุณไปด้วย” แต่เขาก็ไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของฉันเลยสักนิด “ไปไหมล่ะ…ผมพาไปขึ้นสวรรค์ได้นะ” ให้ตาย… ผู้ชายคนนี้มีดีแค่หน้าตาจริง ๆ “คุณกำลังด่าผมอยู่ในใจ” “ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับโดยไม่คิดจะแก้ตัว “เข้าเรื่องเถอะค่ะ” “เข้าเรื่องอะไรเหรอ” แล้วใบหน้าหล่อเหลาก็สื่อความใสซื่อออกมาราวกับว่าไม่เข้าในใจคำพูดของฉัน เพียงเท่านั้นก็ทำให้ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ พยายามอดกลั้นเท่าที่จะทำได้ เพราะหากสติแตกขึ้นมามันคงจะไม่ใช่เรื่องดี เขาไม่ใช่หนึ่งในคณะกรรมการผู้บริหารก็จริง แต่เขาก็ยังอยู่ในตำแหน่ง ‘ผู้จัดการฝ่ายบริหาร’ ถือว่าเป็นตำแหน่งสูงและมีอำนาจพอสมควร มันคงไม่ดีหากฉันจะเอ่ยปากด่าผู้ชายคนนี้ “เรื่องของพี่วัช ฟ้าอยากคุยเรื่องนี้ค่ะ” และเป็นฉันเองที่ต้องดึงเข้าเรื่อง “ฟ้ารู้ว่าคุณรู้อะไรมา” “ฉลาด” คุณรุจพยักหน้ารับ “พี่ชายของคุณขโมยสินค้าตัวอย่างไปขายให้บริษัทคู่แข่งตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้บริษัทหลายสิบล้าน” หัวใจของฉันกระตุกสั่นไหวเมื่อได้ยินเช่นนั้น คำว่าหลายสิบล้านกระแทกกลางใจจนเจ็บหนึบไปหมด แต่ก็ยังแสร้งนั่งทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้ง ๆ ที่ตอนนี้กระวนกระวายไปหมดแล้ว “ไม่รวมกับที่บริษัทจะทำการฟ้องร้องค่าเสียหาย” “…” “มูลค่าทั้งหมดอาจจะปาไปหลักร้อยล้านหรือหลักพันล้าน” “…” เกิดความเงียบระหว่างเราหลังจากที่คุณรุจพูดจบ และเป็นฉันเองที่เงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร ปัญหานี้มันใหญ่โตเกินไป ฉันคงไม่มีปัญญาหาเงินร้อยล้านพันล้านมาชดใช้อย่างแน่นอน “เรื่องนี้มีใครรู้บ้างคะ” “ก็มีแค่ผม เพราะผมเป็นคนตรวจสอบเรื่องนี้” น้ำเสียงของอีกฝ่ายยังเอ่ยออกมาอย่างผ่อนคลาย “แต่ไม่นานคงรู้กันทั้งบริษัท” “แล้วทำไมคุณถึงเอาเรื่องนี้มาบอกฟ้าก่อน?” “บอกให้คุณเตรียมตัวหาทางออก” เหอะ! เขาพูดราวกับว่ากำลังหวังดีทั้ง ๆ ที่ฉันไม่รู้สึกอย่างนั้นเลยสักนิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องเอ่ยปากถามอีกคนอยู่ดี “ยังไง?” “คุณถามใจตัวเองดูสิคุณฟ้าว่ามันมีทางออกทางไหนบ้างที่จะทำให้คุณกับพี่ชายรอดพ้นจากเรื่องนี้” คิ้วเข้มยกขึ้นเล็กน้อยพร้อมนัยน์ตาสีเหล็กประกายวาววับอะไรบางอย่างออกมาให้เห็น และฉันต้องส่ายหน้าทันทีเพราะรู้ความหมายว่านัยน์ตาคู่นั้นกำลังจะสื่ออะไร “ฟ้าไม่ได้ขายตัว” “ผมก็ยังไม่ได้บอกว่าคุณขายตัว” “แววตาของคุณมันฟ้อง” ฉันมองอีกคนด้วยสายตาวาววับอย่างเอาเรื่อง “เสแสร้งไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะคุณรุจ” “แม่เสือประทับร่างอีกแล้ว” “…” “ที่จริงคุณควรพูดกับผมดี ๆ นะคนสวย ขอร้องอ้อนวอนให้ผมเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจนกว่าคุณจะหาทางออกได้ ดีกว่ามานั่งเถียงแบบนี้” ใบหน้าหล่อเหลายังคงสื่อความอารมณ์ดีออกมาให้เห็นท่ามกลางความตึงเครียดของฉัน นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะอย่างปั่นประสาท อารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้… “หรือถ้าหาทางออกไม่ได้…ผมจะเสนอตัวเองเป็นทางออกให้คุณก็ได้” “ไม่ค่ะ” เป็นอีกครั้งที่ฉันปฏิเสธโดยที่ไม่ต้องคิด ทำไมฉันจะไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เสนอตัว’ ของเขาว่ามันคืออะไร “ไม่ว่าจะฟ้าเสนอตัวให้คุณ หรือคุณเสนอตัวให้ฟ้า คำตอบก็คือไม่ค่ะ” “ทำไมล่ะ?” เขาถามกลับมาด้วยสีหน้าใสซื่อ “ผมก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่นะคุณฟ้า ถึงอายุจะสามสิบห้าแล้วแต่ก็ยังดูดีอยู่นะ” “…” “หรือคุณว่าไม่จริง?” ถ้าฉันลุกขึ้นกรี๊ดกลางร้านอาหารแล้วบอกว่าผีเข้าจะมีใครเชื่อฉันไหม เพราะถ้าให้นั่งฟังอยู่แบบนี้โดยโต้ตอบอะไรไม่ได้คงประสาทกินแน่ “อย่าด่วนตัดสินใจไปนักเลย ค่อย ๆ คิดก็ได้” “ฟ้าขอเวลาห้าเดือน” “ห้าเดือนกับอะไร?” “ห้าเดือนกับการหาเงิน” เพียงเท่านั้นคุณรุจก็หัวเราะออกมาราวกับว่ากำลังชอบอกชอบใจกับคำบอกกล่าวของฉัน “ผมชอบในความไม่ยอมแพ้ของคุณนะคุณฟ้า” “…” “ผมก็ไม่ได้อยากจะปิดกั้นทางออกของคุณหรอกนะ แต่เงินหลักร้อยล้านถึงพันล้านมันไม่ได้หามาง่าย ๆ” “คุณควรให้โอกาสให้ฟ้าหาก่อน” “ผมขอพูดแบบไม่มีหวังเลยก็แล้วกัน” สีหน้าของคุณรุจจริงจังขึ้น สลัดคราบหนุ่มอารมณ์ดีออกภายในพริบตา “ยังไงพี่ชายคุณก็ต้องติดคุกอยู่ดี ต่อให้คุณมีเงินร้อยล้านพันล้านมากองก็คงไม่มีประโยชน์อะไร” “…” “ท่านประธานไม่ชอบให้โอกาสคนหรอกคุณฟ้า ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้จักนิสัยของท่านประธานดี” “งั้นทางออกของฟ้ามีแค่ทางเดียวสินะ” ฉันค่อย ๆ ยกยิ้มทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกอยากยิ้มเลยสักนิด “พูดง่าย ๆ ตอนนี้ชีวิตของฟ้าอยู่ในกำมือของคุณ” “อือฮึ ถ้าคุณคิดแบบนั้นแล้วสบายใจก็ตามใจคุณเลย” “ถ้าฟ้ายอมนอนกับคุณ เรื่องนี้จะจบใช่ไหม” ว่าแล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียแล้วฉันก็จะสู้ให้ถึงที่สุด “อย่าพูดเหมือนผมบังคับขู่เข็ญคุณนักสิ” “…” “มันก็แค่แลกเปลี่ยนความพึงพอใจทางกายก็เท่านั้น” คุณรุจยังทำหน้าอารมณ์ดีเหมือนเดิมก่อนจะยื่นนามบัตรอะไรสักอย่างมาให้ฉัน “เอาเป็นว่าผมให้เวลาคุณตัดสินใจหนึ่งอาทิตย์ ถ้าตัดสินใจได้ก็ติดต่อมา” “…” “แล้วเรื่องที่พี่ชายของคุณเป็นหนอนจะถูกปิดเป็นความลับตลอดไป”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม