EP04 CHEETAH
Cheetah’ s Part
@พาฬโรจนภาคิน
ฉันรู้เรื่องทั้งหมดจากธันเดอร์แล้วว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆ ไทเกอร์ถึงได้เรียกเพื่อนไปหา มิน่าล่ะเมื่อวานตอนทานข้าวด้วยกันอยู่พี่ชายฉันถึงได้มีท่าทีแปลกๆ ไปแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรและเพราะเรื่องเมื่อวานนั่นแหละมั้ง วันนี้พี่ๆ ถึงได้เรียกฉันให้กลับมาทานข้าวที่บ้านทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงวันนัดรวมตัวกันประจำเดือนเลยไม่รู้ว่าไทเกอร์เล่าเรื่องนั้นให้พี่คนอื่นๆ ฟังหรือยังสิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้คือทำเหมือนยังไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้ฉันคุยกับธันเดอร์แล้วว่าจะเอายังไงเขาบอกว่าเขาพร้อมที่จะเปิดนะเพราะยังไงสุดท้ายก็ต้องเปิดแต่ฉันไม่เห็นด้วย เปิดน่ะเปิดแน่แต่ไม่ใช่ตอนนี้ฉันรู้จักพี่ตัวเองดีและถ้าไทเกอร์รู้ว่าคนที่ฉันคบด้วยเป็นใครจะเป็นยังไง อย่างน้อยก็ขอปิดไว้อีกนิดเพื่อคิดหาวิธีที่จะบอกไทเกอร์ยังไงให้เซฟที่สุดก่อน
ฉันรู้ว่าพวกเขาไม่ใจร้ายกับฉันหรอกแต่กับคนอื่นก็...
“คนโตอยู่ไหนหรอคะพี่พรีม”
“คุณจากัวร์อยู่บนห้องน่ะค่ะ อีกเดี๋ยวคงลงมา”
พี่ ‘พรีม’ เลขาส่วนตัวของพี่ชายคนโตหัวมาบอกฉันยิ้มๆ ในระหว่างที่เธอกำลังจะกลับเธอเป็นคนไปรับฉันมาน่ะก่อนหน้านี้ก็เห็นขึ้นไปคุยงานกับจากัวร์บนห้องที่ตอนนี้ยังไม่ลงมาเลย
“แล้วพี่พรีมจะกลับเลยหรอคะไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันหรอ?”
“ขอบคุณที่ชวนนะคะแต่เวลาครอบครัวพี่พรีมไม่อยากรบกวน ขอตัวนะคะ”
ฉันพยักหน้าเข้าใจยกมือไหว้ลาเลขาพี่ชายที่ฉันไม่ได้รู้สึกว่าเธอเป็นคนอื่นคนไกลเลยเหมือนมีพี่สาวเพิ่มอีกคนด้วยซ้ำเพราะเธอคอยช่วยงานและดูแลจากัวร์กับคนในครอบครัวอย่างดีมาหลายปีแล้ว
แต่ช่างเรื่องนั้นก่อนเพราะตอนนี้แม่บ้านจัดโต๊ะอาหารเสร็จและทุกคนก็ลงมากันแล้วฉันรีบวิ่งไปอ้อน ‘จากัวร์’ และ ‘แพนเทอรา’ ทันทีเพราะไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่ส่วนไทเกอร์ยืนตาบวมมองฉันด้วยสายตาเจ็บปวดอยู่ข้างๆ ไม่รู้จะสงสารหรือตลกดี
“ไงคะคนเล็กเรียนเป็นไงบ้าง”
ผู้ชายตัวสูงหน้าตาหล่อเหลาและน่าเกรงขามถามฉันด้วยคำพูด คะ ขา ต่างจากบุคลิกภายนอกที่ดูนิ่งๆ และแน่นอนว่าไม่มีใครได้เห็นมุมนี้ของเขานอกจากคนในบ้านโดยเฉพาะฉัน ;)
“เหนื่อยมากๆ อีกสองวีคก็สอบแล้วหนังสือยังไม่ได้อ่านเลย : (” ได้ทีฉันก็รีบอ้อนพี่ชายทันที
“ปีหนึ่งเองเรียนหนักแล้วเหรอ?”
“หนักสิ ต้านับถือเกอร์เลยที่เรียนมาจนอยู่ปีสามได้โคตรเหนื่อย”
“ช่วงปรับตัวก็อย่างนี้แหละค่ะเดี๋ยวก็ชินนะ มีอะไรก็ถามเกอร์เรียนคณะเดียวกันอยู่แล้ว”
“ค่ะ แล้วคนโตเป็นไงบ้างงานเยอะหรือเปล่า”
“เยอะค่ะ แต่ดีหน่อยที่มีคุณพรีมคอยช่วย”
“ดีๆ พี่พรีมเก่ง สวย แล้วก็ใจดีด้วยต้าชอบๆ”
ฉันยิ้มตาหยีให้พี่ชายแถมอวยเลขาคนสวยพี่เพิ่งเจอกันให้ฟังจนโดนยีหัวก่อนจะหันไปคุยกับพี่สาวบ้าง
“แล้วแพนเป็นไงบ้างต้าเห็นแพนปั่นโปรเจคหัวฟูเลย”
“เหนื่อยมากค่ะคนเล็ก ยิ่งจะจบแล้วยิ่งเหนื่อย”
“วันหลังถ้าเหนื่อยบอกต้านะๆ เดี๋ยวรีบไปชาร์ตพลังให้เลย”
“อ้อนเก่งจริงๆ คนนี้” โดนบีบจมูกกลับมาตามมาด้วยโดนพี่ๆ หอมแก้มฟอดใหญ่ด้วยความเอ็นดูจนไทเกอร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ กระแอมใส่
“แฮ่ม ไม่เห็นถามเกอร์บ้างเลยจะน้อยใจแล้วนะ”
“โอ๋ ๆ เมื่อวานก็เจอกันไปแล้วนี่นา” ฉันหันไปโอ๋ไทเกอร์ที่พยายามจะทำตัว ‘ปกติ’ เราสี่คนคุยกันเล็กน้อยก่อนจะเริ่มทานอาหารเย็นกัน ลืมเล่าไปว่าบ้านเรามีกันสี่คนนะคุณพ่อกับคุณแม่เสียตั้งแต่ฉันยังเด็กเพราะอุบัติเหตุทำให้ฉันโตมากับพี่ๆ ที่คอยดูแลเอาใจใส่มาตลอดเพื่อไม่ให้ฉันรู้สึกขาดที่ไม่เคยได้อยู่กับพ่อแม่
ตั้งแต่พวกท่านเสียจากัวร์ก็ต้องขึ้นเป็นหัวหน้าครอบครัวและดูแลทุกอย่างเพื่อสานต่อธุรกิจของพ่อแม่ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบทำให้เขาได้เป็นประธานตั้งแต่อายุยังน้อยแถมตอนนี้ยังเนื้อหอมสุดๆ ทั้งหล่อ รวย ทำงานเก่ง และยังหนุ่มยังแน่นจนสาวๆ แวะเวียนมาขายขนมจีบไม่หยุดแต่ฉันไม่ยอมยกให้ใครหรอกนะ! ผู้หญิงพวกนั้นก็เข้ามาเพื่อหวังเงินทั้งนั้น
อ้อ แล้วก็เรายังมีคุณหญิงย่าอีกหนึ่งคนที่ยังอยู่กับเราแต่ท่านแก่แล้วและชอบธรรมชาติมากจึงขอไปอยู่บ้านสวนแทนนานๆ ทีฉันกับพี่ๆ ถึงจะแวะไปเยี่ยมหรือไม่ท่านก็มาหาที่บ้านใหญ่
ฉัน ไทเกอร์ และ แพนเทอรา แยกออกไปอยู่คอนโดเพราะใกล้มหาลัยส่วนบ้านใหญ่มีแค่คนโตอยู่น่ะถึงจะไม่ได้ใกล้ที่ทำงานแต่จากัวร์ก็ยืนยันที่จะอยู่บ้านเพราะไม่อยากปล่อยบ้านที่คุณพ่อกับคุณแม่เป็นคนสร้างขึ้นมาทิ้งไว้
ถึงจะไม่มีคุณพ่อกับคุณแม่แล้วแต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกขาดอะไรและมีความสุขดีเพราะพี่ๆ ดูแลฉันดีมาก
แต่ก็คงจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าพวกท่านยังอยู่กับเรา
.
.
“ทำไมอยู่ๆ วันนี้ถึงเรียกมาทานข้าวด้วยกันล่ะ”
เป็นชีตาร์ที่เปิดบทสนทนาขึ้นเมื่อสี่พี่น้องทานข้าวเสร็จและกำลังนั่งทานของหวานกันอยู่แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรสักทีทั้งสามคนมองเกี่ยงกันไปมาจนชีตาร์ดูออก
“เอ่อ คือจริงๆ แล้วพวกเรามีเรื่องจะถามคนเล็กน่ะ” เป็นแพนเทอราที่พูดออกมาในที่สุด
“ถามอะไรคะ? ทำไมทุกคนดูซีเรียสจังหนูกลัวแล้วนะ : (”
“ไม่ต้องเครียดนะคะ ไม่มีใครดุหนูหรอกคุยกันดีๆ นะ”
จากัวร์ลูบหัวน้องสาวสุดที่รักเมื่อคนตัวเล็กเริ่มเบะเขาไม่อยากให้ร้องรู้สึกว่ากำลังโดนรุม จริงๆ พอได้ยินเรื่องจากไทเกอร์เขาก็ตกใจแต่ก็อยากจะถามจากเจ้าตัวก่อน ถามว่าหวงน้องมั้ยแน่นอนว่าหวงมากใครจะเข้ามาต้องผ่านด่านพี่ๆ ไปก่อนแต่สิ่งที่ชีตาร์ทำมันไม่ใช่เรื่องผิด
น้องก็เป็นคนคนหนึ่งมีความต้องการได้เขาไม่ได้สอนให้น้องหัวโบราณมาแต่ไหนแต่ไรแล้วก็ยังดีที่อย่างน้อยน้องก็ป้องกัน เรื่องมีเซ็กส์ไม่ใช่ประเด็นใหญ่สิ่งที่พวกเขาอยากรู้ที่สุดคือคนคนนั้นว่า ‘มันเป็นใคร!’ มากกว่า
ที่พวกเขาหวงก็เพราะกลัวน้องเจอคนไม่ดีครอบครัวเขามีชื่อเสียงและร่ำรวยเป็นที่พูดถึงใครๆ ก็รู้จักมันมีโอกาสที่คนเหล่านั้นจะเข้าหาชีตาร์เพราะผลประโยชน์ พวกเขาแค่ไม่อยากให้น้องโดนหลอกและเสียใจ
“ก็ทุกคนดูเครียดจะถามอะไรหนูคะ?”
“งั้นไม่อ้อมค้อมแล้วนะ ตอนนี้...คนเล็กกำลังคบใครอยู่หรือเปล่าคะ?”
จากัวร์ถามน้องดีๆ ไม่ได้ดุแต่อย่างใด ชีตาร์กุมมือตัวเองแน่นผลุบตามองต่ำไม่กล้าสบตาพี่ๆ ที่มองอย่างคาดหวังในคำตอบจนไทเกอร์ที่มองอยู่นานต้องคาดคั้น
“ตอบมาสิต้า”
“เกอร์ใจเย็นๆ อย่าดุน้อง”
แพนเทอราต้องหันไปดุเมื่อไทเกอร์เริ่มเสียงดังจนน้องสะดุ้ง ในบรรดาพวกเขาสามคนไทเกอร์คือคนที่หวงชีตาร์มากที่สุดตอนที่ไทเกอร์โทรมาร้องไห้กับแพนเทอราเธอยังตกใจเลย
ถามว่าเข้าใจไทเกอร์มั้ยก็เข้าใจแต่ก็ต้องเข้าใจชีตาร์ด้วยเหมือนกัน
“ว่าไงคะ ตอนนี้คนเล็กได้คบกับใครอยู่หรือเปล่า”
“ทำไม...อยู่ๆ ถึงถามแบบนี้ละคะ?”
ไทเกอร์ยอมเปิดปากเล่าเรื่องที่ไปเจอถุงยางใช้แล้วในถังขยะห้องน้องสาวให้ชีตาร์ฟังอย่างไม่อ้อมค้อมซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็ฟังมาจากธันเดอร์บ้างแล้ว และจากที่ฟังดูตอนนี้พี่ๆ ของเธอไม่ได้ติดถ้าจะมีแฟนแต่ติดตรงที่อยากรู้ว่าคนคนนั้นเป็นใครมากกว่า
“พี่ๆ โกรธต้ามั้ย” ชีตาร์ถามหลังจากที่ฟังเรื่องทั้งหมดจบ
“โกรธเรื่องอะไรคะ” ,จากัวร์
“ถุงยางนั่นต้าใช้เองจริงๆ ทุกคนโกรธต้ามั้ย ต้าเป็นเด็กไม่ดีหรือเปล่า”
“คนดีขาพี่ๆ ไม่ได้โกรธหนูเลยนะถ้าหนูจะทำแบบนั้นแค่หนูรู้จักป้องกันก็ดีแล้ว แต่คนโตถามได้มั้ยคะว่าคนนั้นคือใคร”
ยอมรับว่าทั้งสามคนเจ็บหัวใจไม่น้อยที่รู้ว่ามีคนได้แตะต้องร่างกายน้องสาวคนเล็กที่พวกเขาเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็กแต่พวกเขาไม่มีใครมีสิทธิ์โกรธน้องทั้งนั้นเพราะเราทุกคนไม่ใช่เจ้าของชีวิตใคร ชีตาร์เป็นเจ้าของชีวิตและมีสิทธิ์ในร่างกายตัวเองทุกอย่างเธอจะทำยังไงกับมันก็ได้ แต่ก็แอบช็อกอยู่เหมือนกันไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้ ชีตาร์อายุสิบเก้าแล้วก็จริงแต่ในสายตาพี่ๆ น่ะเธอก็ยังสามขวบอยู่เสมอนั่นแหละ (โพน้องงง)
“ว่าไงคนเล็กแฟนหนูคือใครคะ?” แพนเทอราถามน้องย้ำอีกครั้งเมื่อชีตาร์ยังไม่ยอมบอกสักที
“หนูยอมรับว่าหนูมีอะไรกับเขาจริงแต่...”
ชีตาร์พูดก่อนจะเว้นช่วงไปครู่หนึ่ง
“หนูบอกไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร”
“ทำไมละคะ?” ,จากัวร์
“มันเป็นแค่วันไนท์สแตนเองค่ะหนูจะบอกว่าเขาเป็นแฟนได้ยังไงล่ะจริงมั้ย”
“ไม่ใช่แฟน? แต่ต้าพามันเข้าห้องเลยเนี่ยนะ” ,ไทเกอร์
“ก็มันจำเป็น...”
ชีตาร์เลือกที่จะพูดโกหกออกไปแต่ยิ่งพูดแบบนี้ยิ่งทำเอาพี่ๆ อึ้งหนักยิ่งกว่าเดิมนี่น้องสาวเขาโตถึงขั้นรู้จักวันไนท์สแตนแล้วเหรอเนี่ย
“สรุปคือหนูไม่ได้มีแฟนจริงๆ หรอคะ?” ,จากัวร์
“ค่ะ ยังไม่ใช่ตอนนี้”
รู้ว่าที่ทำอยู่มันไม่ถูกต้องทั้งหมดแต่ตอนนี้เธอต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงหน้านี้ก่อน ได้แต่ขอโทษพี่ๆ อยู่ในใจที่ต้องทำแบบนี้แต่เธอจำเป็นจริงๆ เธอไม่อยากให้ธันเดอร์ผิดใจกับไทเกอร์เพราะผู้ชายทั้งสองคนเป็นคนที่เธอรักและสำคัญกับเธอทั้งคู่
ขอเวลาหน่อย ขอให้เธอหาตรงกลางและทางออกที่ดีได้แล้วจะบอกกับทุกคนตรงๆ เอง
ประเด็นนี้ถูกเคลียร์จบโดยง่ายดายท่ามกลางความช็อคของพี่ๆ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะสอนน้องมากกว่าที่จะดุทั้งในเรื่องการดูคนอย่าไว้ใจใครง่ายๆ ถึงจะช็อคกับเรื่องนี้แต่พอได้ยินว่าน้องยังไม่ได้มีแฟนจริงจังพวกเขาก็เบาใจไปได้ส่วนหนึ่งเพราะยังไม่พร้อมให้ชีตาร์แบ่งความรักไปให้ใครเหมือนกัน (ทั้งที่ไม่รู้ว่าความรักถูกแบ่งไปตั้งนานแล้วก็เถอะ) ไทเกอร์เองแม้จะตงิดใจอยู่บ้างแต่ถ้าชีตาร์ว่ามาแบบนี้เขาก็จะเชื่อ
ต่างจากจากัวร์ที่ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้เพราะหลังจากที่ไทเกอร์พาน้องกลับเขาก็รีบโทรไปสั่งงานลูกน้องทันที...
‘คุณธนดลช่วยสืบให้ผมหน่อยว่าคนที่น้องสาวผมวันไนท์ด้วยเป็นใครและมีใครบ้าง’