09:30น.
ตลาดน้ำ นอกเมือง…
ท่ารถสองแถว…
อบเชย อบมณีรัตน์….
“เดี๋ยวบ่ายสามโมงมารอตรงนี้…เดี๋ยวมารับ”พี่คนเก็บตังค์เอ่ยขึ้นหลังจากที่พวกเราทั้งห้าคนลงมาจากรถของเขาเรียบร้อยแล้ว
“ครับพี่^_^”
“เราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี?”ส้มๆหันมาขอความคิดเห็นจากฉัน ซึ่งฉันก็มองไปรอบๆพลางกระพริบตาปริบๆเพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนเหมือนกัน เพราะฉันไม่เคยมา
“เอ่อใช่ฉันลืมไป”ส้มๆว่าอย่างเพิ่งคิดออกที่มาขอความคิดเห็นจากฉัน ผู้ที่ไม่เคยมาและไม่รู้อะไรเลย
“นี่ไอ้ฟาย?”
“จ๋าส้มๆๆ”
“แกหยุดทำหน้าแบบนี้สักทีได้ไหม”ส้มๆว่าอย่างเหนื่อยใจ ฉันจึงมองไปที่หน้าของไฟบ้างก็เห็นว่าเขากำลังทำหน้าตาหวานเยิ้มรอยยิ้มกว้างแบบนั้นทำให้ฉันรู้สึกขำๆขึ้นมา
“มันน่ารักจนส้มๆทนไม่ไหวเลยใช่ป่ะ?”ไฟขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ๆส้มๆมากขึ้น
“มันน่าเตะมากกว่าเว้ย!!”
โพล๊ะ
“โอ้ย!”ไฟร้องออกมาอย่างเจ็บปวดที่โดนส้มๆชกหน้าเขาไปอย่างแรง ฉันนี้รีบยกมือขึ้นมากุมแก้มตัวเองอย่างเสียวแทนเลย คงจะเจ็บน่าดูนะ
“ผู้หญิงอะไรชอบรังแกผู้ชาย”ไฟเบะปากทำท่าจะร้องไห้ แต่ส้มๆก็ไม่ได้สนใจอะไรไฟกลับหันมาจับมือฉันและพาเดินออกมาจากสามคนนั้นอย่างไว ส้มๆพาฉันวิ่งเข้าไปในตัวตลาดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่นอกเมืองที่นี้ของขายเยอะมากและมีแต่ของน่าซื้อทั้งนั้นเลย^_^
พรึบ
“เฮ้อเหนื่อย”ส้มๆบ่นอุบหลังจากที่พาฉันวิ่งมาจนสุดท้ายตลาดนางก็ปล่อยมือฉันและทรุดตัวนั่งลงบนม้านั่งอย่างหมดแรง
พรึบ
“หิวน้ำจัง”ฉันบ่นขึ้นพลางมองหาร้านขายน้ำ
“เดี๋ยวเรามานะส้มๆ…กินน้ำอะไร?”
“น้ำส้มล่ะกัน”
“เคจ้า^_^”
“เดินดีๆนะอบ”ส้มๆว่าอย่างเป็นห่วง ฉันก็หันไปพยักหน้าให้นางและเดินมุ่งหน้าไปยังร้านขายน้ำ
“แม่ค้าคะ”
“จ๋า…รับน้ำอะไรดีคะน้อง”พี่เจ้าของร้านน้ำเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
“น้ำเปล่าหนึ่งขวดแล้วก็น้ำส้มปั่นหนึ่งแก้วค่ะ”
“โอเคจ้า…รอแปปนะ”
“ค่ะ^_^”ฉันรับคำแม่ค้าและนั่งรอตรงที่นั่งที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ลูกค้านั่งรอ ฉันก็มองไปรอบๆสถานที่แห่งนี้ ผู้คนพากันเดินถือของพะรุงพะรังไปยังทางที่จอดรถและทางออกของตลาด กลิ่นหมูปิ้งหอมๆโชยลอยตามลมมาทำให้ฉันแอบลอบกลืนน้ำลายลงคอ หอมดีจัง กลิ่นควันไฟที่ย่างไก่ก็ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เสียงพูดคุยจอแจของคนหลายคนที่ยิ้มหัวเราะกันอย่างมีความสุข มันเป็นภาพที่น่ามองจนฉันต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เพราะไม่รู้ว่าฉันจะได้มาที่แบบนี้อีกเมื่อไหร่
“น้องคะ..น้ำได้แล้วค่ะ”
“อ้อค่ะ”ฉันรีบลุกขึ้นไปยังหน้าร้านเพื่อรอรับน้ำและจ่ายเงินทันที
“เท่าไหร่คะ?”
“สามสิบบาทจ้า^_^”ฉันพยักหน้ารับรู้เมื่อแม่ค้าบอกจำนวนเงิน ฉันหยิบแบงค์พันขึ้นมาหนึ่งใบเพราะในกระเป๋าฉันมีแต่แบงค์พันหมดเลย
พรึบ
“น้องไม่มีเเบงค์อื่นเหรอ?”
“พี่ไม่มีทอนหรอกจ๊ะ”แม่ค้าว่า ฉันก็ค้นหาในกระเป๋ากางเกงและกระเป๋าสตางค์แต่ก็ไม่พบเงินแบงค์แล้ว
“หนูไม่มีค่ะ…มีแค่แบงค์นี้เเบงค์เดียว”ฉันว่าอย่างเสียงเศร้าเพราะกลัวโดนแม่ค้าดุ
“พี่ก็ไม่มีทอนอ่ะ….”
“ที่นี้เขาไม่มีใครเขาพกเงินแบงค์พันกันหรอกหนู…”
พรึบ
“นี่ครับสามสิบบาท”และแล้วก็มีคนมาช่วยฉันแล้วเเขนขาวๆที่ยื่นเงินเหรียญสิบสามเหรียญให้แม่ค้าร้านน้ำทำให้ฉันหันไปมองหน้าคนคนนั้นทันที
“ไบรท์?”ฉันเอ่ยชื่อคนที่จ่ายค่าน้ำแทนฉันอย่างสงสัยว่าเขาตามฉันมาทันได้ยังไง
“ขอบใจจ้าเด็กๆ”
“ครับ..ขอให้ขายดีๆนะครับพี่สาวคนสวย^_^”
“ปากหวานจังเลยนะพ่อหนุ่มน้อย^_^”
“ผมไปก่อนนะครับ^_^”ไบรท์หันไปมองแม่ค้าและหันมายิ้มให้ฉัน รอยยิ้มที่เขายิ้มให้ฉันเหมือนทุกครั้ง
“เดี๋ยวเราเอาเงินมาคืนเธอนะ”ฉันว่าหลังจากที่ฉันกับไบรท์เดินออกมาจากร้านน้ำแล้ว
“ไม่เป็นไร…นึกว่าเราเลี้ยงเธอ...ในการรู้จักกันครั้งแรกของเรา"
“อืมเอาอย่างงั้นเหรอ….มันจะดีเหรอ?”ฉันว่าอย่างเกรงใจ
“งั้นถ้าเธอรู้สึกไม่สบายใจเอาเป็นการแลกเปลี่ยนกันดีกว่า”ไบรท์ว่าอย่างยิ้มแย้ม ใบหน้าของเขาถึงจะมีรอยฟกช้ำและเลือดชิบๆแต่ก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้าเขาดูดีน้อยลงเลย
“แลกเปลี่ยนอะไรเหรอ?”ฉันถามไบรท์ไปอย่างงงๆ ไบรท์ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“เธอบอกเราได้ไหมว่าเธอชื่ออะไร…แลกกับการที่เราจ่ายค่าน้ำให้เธอไง”
“อ้อได้สิ....เราชื่อ”
“ชื่อ?”ไบรท์ทำหน้าลุ้นตามที่ฉันกำลังจะบอกชื่อตัวเอง ใบหน้าเขาลุ้นยิ่งกว่าตอนป้านันลุ้นฉลากกินแบ่งรัฐบาลซะอีกน่ะเนี่ย
“อบเชย^_^”
“ชื่อน่ารักจัง^_^”ไบรท์ว่าพลางยิ้มหวานตาหวานเยิ้ม
“เหรอชื่อเราน่ารักเหรอ…บางคนบอกว่าชื่อเราโบราณมากกว่า”ฉันว่าอย่างนึกน้อยใจเพื่อนที่โรงเรียนแต่ฉันก็ไม่ได้โกรธพวกเธอหรอกนะ เพราะชื่อที่แม่ฉันตั้งให้ยังไงก็ไพเราะสำหรับฉันเสมอ^_^มันเป็นสิ่งเดียวที่แม่ทิ้งไว้ให้ฉัน
“เธอเป็นคนแรกเลยนะที่ชมชื่อเรา^_^”ฉันว่าพลางยิ้มให้ไบรท์ ไบรท์ก็มองหน้าฉันและยิ้มแบบแปลกๆและเขาก็ยกมือขึ้นไปเกาท้ายทอยตัวเองและหันหลังให้ฉันอย่างไว อะไรของเขา
“อ้าว?ส้มๆไปไหนแล้ว?”ฉันว่าอย่างนึกตกใจและสงสัยที่พอฉันเดินมาถึงที่ส้มๆนั่งอยู่เมื่อกี้นี้....แต่ตอนนี้กลับไร้เงาของนาง
“ไปกับไอ้ไฟไอโฟมน่ะ”ไบรท์หันมาตอบฉัน ฉันก็หันไปมองหน้าเขาเป็นจังหวะเดียวกันทำให้เราสองคนสบตากันเข้าพอดีและก็เป็นไบรท์ที่หลบสายตาฉันโดยการหันหลังหนีฉันเหมือนเมื่อกี้
“ไปไหนเหรอ?”
“ไปหาซื้อกบ…ม๊าไอ้ไฟมาซื้อที่นี้เป็นประจำมันเลยรู้ว่าร้านอยู่ตรงไหน”ไบรท์ตอบฉันมา ฉันก็พยักหน้าเข้าใจและค่อยๆเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนม้านั่งตัวยาว
“ขอนั่งด้วยได้เปล่า?”ไบรท์ว่าพลางชี้นิ้วมาที่นั่งตรงข้างๆฉัน ฉันก็มองเขาและยิ้มออกมานี่เขากล้ามองหน้าฉันแล้วเหรอ
“นั่งเลย^_^”
“ขอบคุณครับ^_^”
“ขอโทษนะที่เมื่อวานทำให้ตกใจ”ไบรท์หันมาเอ่ยขอโทษฉันในขณะที่ฉันกำลังดื่มน้ำเปล่าจากหลอดอยู่ ฉันก็มองหน้าเขาและนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อวานที่ไบรท์รัวคำถามใส่ฉันเป็นชุดใส่ฉัน จนฉันตกใจ
“เราก็ต้องขอโทษเธอด้วย...ที่หนีเธอมาแบบนั้น”
“เราเข้าใจ..เธอคงจะกลัวเราสินะ”ไบรท์ว่าพลางจะเอามือของเขาไปลูบแผลที่หางคิ้ว
พรึบ
“อย่าใช้มือนะ”ฉันร้องเสียงหลงพลางจับมือไบรท์อย่างไวให้เขาหยุดเอามือไปสัมผัสแผลของตัวเอง ไบรท์ทำหน้าตื่นตกใจ
“ใช้นี้เช็ดดีกว่า…เดี๋ยวเราเช็ดให้นะ”ฉันว่าพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูที่มีรอยปักเป็นชื่อฉันทำท่าจะยื่นไปเช็ดแผลให้ไบรท์
“อืม”ไบรท์ตอบ ฉันก็ยื่นมือไปใช้ผ้าเช็ดหน้าค่อยๆเช็ดไปตามคราบเลือดที่แห้งของเขาแล้ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำจากแผลเก่าและแผลใหม่
“โอ้ย!”ไบรท์ร้องออกมาเมื่อผ้าเช็ดหน้าของฉันไปสัมผัสโดนแผลของเขาเข้าเต็มๆ ฉันมัวแต่เผลอมองโครงหน้าของไบรท์จนไม่ได้มองแผลเปิดของไบรท์เลย เขาคงจะเจ็บมากเลยนะ
“ขอโทษ”ฉันเอ่ยขอโทษไบรท์ไปอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไร….เราแค่เจ็บ”
“เจ็บมากไหม?”
“ไกลหัวใจน่ะ^_^”ไบรท์ว่าพลางยิ้มหวานให้ฉัน ฉันก็ยิ้มให้เขา การมีเพื่อนผู้ชายนี่ก็รู้อะไรดีเหมือนกันน่ะ พวกเขาตลกดี เวลาที่ไบรท์โฟมไฟอยู่ด้วยกันน่ะยิ่งตลกมากอ่ะ
“แผลเธอใหญ่มากเลยนะทำไม…ไม่ใส่ยาล่ะ”ฉันว่าอย่างสงสัย ไบรท์ก็หลบตาต่ำลง
“เราไม่มีเงินซื้อยาอ่ะ”ไบรท์ว่าเสียงแผ่วเบา คำพูดของไบรท์ทำให้ฉันรู้สึกผิดยังไงไม่รู้ที่ไปถามคำถามนั้นกับเขา
“บ้านเราจน….เธอจะรังเกียจเราไหม?”ไบรท์เงยหน้าขึ้นมาถามฉันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล ฉันก็มองหน้าเขาอย่างนึกสงสาร และมองเครื่องแต่งกายนักเรียนของเขาที่มันยับยู่ยี่เหมือนไม่เคยได้รับการรีดเสื้อนักเรียนมาก่อนและสีของเสื้อก็ไม่เป็นสีขาวออกไปทางสีครีมซะมากกว่า
“ถ้าเธอรังเกียจเรา…จะไม่เป็นเพื่อนกับเราก็ได้นะ”
“พูดอะไรไบรท์….เราไม่ได้คบเพื่อนเพราะรวยหรือจนหรอกนะ”คำพูดของฉันทำให้ไบรท์มองหน้าฉันอย่างไวแววตาเบิกโตขึ้นแวววาวขึ้นมาทันที มุมปากของไบรท์ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา
“เธอนิสัยดีจัง….งามทั้งหน้าตาและจิตใจ^_^”
“งื้อ…พูดแบบนี้เราก็เขินแย่สิ^//^”ฉันว่าพลางอมยิ้มออกมาบิดตัวไปมาเล็กน้อย เพราะนี้เป็นคำชมจากเพื่อนชายคนแรกของฉัน เพื่อนที่ได้มาแบบบังเอิญ
“แก้มแดงเลย^_^”
“ไบรท์!”ฉันแกล้งเสียดังใส่ไบรท์พลางเบะปากใส่เขาด้วย
“อ่ะๆๆไม่แซวแล้วก็ได้….ว่าแต่เราก็เรียนโรงเรียนใกล้กันแต่ทำไมเราไม่เคยเจอกันเลยอ่ะ?”
“คงเพราะเวลาของเราไม่ตรงกันมั้ง?”
“เราว่าต้องเป็นเพราะพรมลิขิตแน่ๆ”
“พรมลิขิต?”ฉันมองหน้าไบรท์อย่างสงสัย เขาก็หันมายิ้มให้ฉัน
“ก็ถ้าวันนั้นเราไม่เจอเธอ….เราสองคนอาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยก็ได้นะ”ไบรท์ว่าด้วยสีหน้าจริงจัง ฉันก็ขมวดคิ้วงุนงงไม่เข้าใจอยู่ดี
“เพราะเราทั้งคู่ก็เรียนที่นี้มาตั้งหลายปี…เรายังไม่เคยเจอกันเลย^_^”
“เหรอ?”
“อืม^_^”
“เธอคงไม่เชื่อพรมลิขิตสินะ?”ไบรท์ถามฉัน ฉันก็ส่ายศีรษะไปมา พรมลิขิตอย่างงั้นเหรอฉันว่าไม่ใช่หรอก เพราะที่เราเจอกันวันนั้นเป็นเพราะฉันมัวแต่ซ้อมรำจนมืดต่างหากล่ะ ฉันว่าเป็นเพราะเวลาของเราไม่ตรงกันมากกว่า
“เธอมีโทรศัพท์ไหม?”ไบรท์ถามฉัน ฉันก็พยักหน้าเป็นคำตอบว่ามี
“ขอยืมหน่อยสิ”
“อืม”ฉันพยักหน้าและล้วงมือไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์เกรี๊ยมมายื่นให้ไบรท์พร้อมกับปลดล็อกหน้าจอให้เสร็จสรรพ
“ใช้โทรศัพท์แพงจัง”
“คุณพ่อเราซื้อให้น่ะ”
“เราอยากมีบ้างจัง”
“ถ้าเธอไม่เกรงใจเรา…เราเเอาเครื่องเก่ามาให้เธอได้นะ”
“ไม่เป็นไร….เราไม่รบกวนเธอดีกว่า^_^”ไบรท์ว่าพลางยิ้มบางๆให้ฉัน ฉันก็พยักหน้าเข้าใจ เขาก็ไม่ได้มีนิสัยอันธพาลอย่างที่ฉันคิดเลยนี่นา
“ลองฟังเพลงนี้สิ…เราชอบมันมากเลยนะ^_^”ไบรท์ว่าพลางกดเปิดเพลงในแอพพลิเคชั่นยูทูปขึ้นมา
“เพลงอะไรเหรอ?”ฉันถามไบรท์ไปอย่างสงสัย
“พรมลิขิต^_^”ไบรท์หันมาตอบฉันพลางยิ้มให้ฉัน
~~~เหม่อมองบนฟ้าไกล~~~
~~~จ้องมองด้วยความสงสัย~~~
~~~ว่าใครกันนะใคร~~~~
~~~~ที่พาให้เธอเดินหลงทางมาเจอกับฉัน~~~
~~~~มีคนเป็นล้านคน~~~~
~~~~ช่างไร้เหตุผลจริงจริงที่เราเจอกัน~~~
~~~~จากเป็นคนไม่เชื่ออะไร~~~~
~~~สุดท้ายก็ได้ แต่ถามตัวเองซ้ำซ้ำ~~~
~~~ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหม~~~
~~~ที่เขียนให้เป็นอย่างนั้น~~~
~~~ตกลงให้เรารักกันใช่ไหม~~~
~~~อย่างนั้นขอได้หรือไม่~~~
~~~~โปรดอย่าทำให้เราพลัดพราก~~~
~~~ให้เรารักกัน เนิ่นนานถึงจนวันตาย~~~
~~~โฮ้ โฮ ฉันขอได้ไหม~~~
“เราเชื่อนะว่าพรมลิขิตทำให้เธอเดินหลงทางมาเจอเรา”
“และพรมลิขิตจะทำให้เรากลับมาเจอกันอีกครั้งในวันที่เราต้องแยกจากกัน”
“จริงเหรอไบรท์?”
“จริงสิ….เชื่อพรมลิขิตเถอะ^_^”และเราสองคนก็ยิ้มให้กัน ในใจของฉันพองโตขึ้นมาหัวใจเต้นรัวอย่างไม่มีเหตุผลอีกแล้ว วันนี้เต้นแรงสองครั้งแล้วนะ
ขอขอบคุณเพลง “พรมลิขิต” ของ Big Ass