กรเดินคอตกเข้ามานั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหิน สีหน้าท่าทางของเขาดูค่อนข้างเครียดเล็กน้อย เพราะเมื่อคืนเขานอนไม่ค่อยหลับ และแทบจะไม่นอนเลยก็ว่าได้ เพราะเอาแต่คิดเรื่องที่เเม่ของเขายื่นข้อเสนอมาแทบทั้งคืน
"โทรมมาเชียวนะมึง เมื่อคืนนอนไม่หลับหรอวะ"เภาถามกรที่เดินก้มหน้าก้มตาเข้ามานั่ง
"อืม ก็นิดหน่อยว่ะ" กรตอบกลับเสียงอ่อย
"เป็นอะไรรึเปล่ากร สีหน้านายดูไม่ค่อยดีเลยนะ" นัทถามอีกคนเพราะว่าเป็นห่วง
"เฮ้อ ก็แม่เราอะดิ เมื่อวานเราไปขอแม่เรื่องออกมาอยู่หอ เพราะเราบอกว่าช่วงนี้เราต้องอยู่ประกวดเดือนมหา'ลัยด้วยเลยกลับบ้านค่อนข้างดึก แล้วพวกแกรู้ไหมว่าแม่พูดกับเราว่ายังไง แม่เราบอกว่า ให้เราได้รางวัลจากการประกวดเดือนมาสักรางวัลก่อน แล้วแม่ถึงจะยอมให้เราออกมาอยู่หอคนเดียวได้"
"ก็ไม่แปลกที่แกจะเครียด เพราะว่ามันไม่มีทางเลยที่แกจะชนะอยู่แล้ว" แอนหัวเราะชอบใจใหญ่
"นี่แหนะไอ้เพื่อนเลว แกไม่เข้าข้างกันบ้างเลยหรอวะ" กรปาปากกาใส่หัวแอนที่นั่งขำเขาอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม
"เอาน่า มึงทำใจเหอะ ชาตินี้มึงคงไม่ได้ออกมาอยู่หอกับกูแล้วล่ะไอ้กร คิดซะว่าชาติที่แล้วมึงทำบุญมาน้อยละกันนะเพื่อน" เภาทำท่ากอดและลูบหัวกรไปมาแต่ก็ไม่วายหัวเราะชอบใจไปด้วย
"ไอ้เภา นี่มึงอีกคนหรอวะ" กรดันตัวเภาออกและถลึงตาใส่ทันที ที้มีแต่เพื่อนๆ ไม่เข้าข้าง
"สู้ๆ นะกร เราเอาใจช่วย" นัทยิ้มและชูสองนิ้วให้
"นี่สิเพื่อนรักของเรา ไม่เหมือนไอ้สองตัวนั้นหรอก" กรโผเข้ากอดนัทที่มีเพื่อนเข้าข้างเขาอยู่เพียงคนเดียว
ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
"เออกร วันนี้เราไม่ไปเป็นเพื่อนแกนะ พอดีนัดกับที่บ้านไว้" วันนี้แอนขอตัวกลับบ้านก่อนเลยไปดูกรซ้อมไม่ได้
"แล้วแกสองคนล่ะ" กรหันไปถามเภากับนัท
"เออ กูไปก็ได้ " เภาบอกเสียงดัง
ทั้งสามคนเดินมายังตึกที่ทำกิจกรรม วันนี้ตามตารางให้ทุกคนมารวมตัวกัน เพื่อสอบถามเรื่องการแสดงบนเวทีของแต่ละคน
"หวัดดี น้องกร น้องนัท น้องเภา มากันแล้วเหรอ" โทนี่ทักทายน้องๆ ทั้งสามคนที่กำลังเดินขึ้นมายังตึก กลุ่มพวกเฮดว้ากก็มากันได้สักพักแล้ว พวกเขาเองก็มาเป็นเพื่อนคิริวเช่นกัน ซึ่งคิริวยังคงต้องทำหน้าที่ในฐานะเดือนมหา'ลัยอยู่ทุกครั้งที่มีการจัดประกวด เขาเลยต้องมาคอยซัพพอร์ทพวกรุ่นน้องที่ลงประกวดดาวเดือนประจำคณะของตัวเองอีกด้วย
"หวัดดีครับพี่ๆ" ทั้งสามคนยกมือไหว้พี่ๆ ทันทีที่เดินมาถึง
"น้องกรจะแสดงโชว์อะไรเหรอ" พี่ป๊อบถามขึ้นมาก่อนเลย
"ผมว่าจะเล่นกีตาร์และร้องเพลงไปด้วยน่ะพี่" กรตอบกลับรุ่นพี่เพราะเขาคิดไว้แล้วว่าจะแสดงอะไร
"โห อะไรมันจะบังเอิญซะขนาดนั้นเนี่ย พวกน้องรู้มั้ยว่าไอ้คิริวมันก็เล่นกีตาร์แล้วก็ร้องเพลงไปด้วยเหมือนกัน อย่างนี้ตำแหน่งเดือนมหา'ลัยต้องตกเป็นของคณะวิศวะไม่มีพลาดชัว" กาดเดินเข้ามากอดคอกรและยิ้มกริ่มด้วยความภูมิใจในตัวของรุ่นน้อง
กรเหลือบสายตาไปมองทางคิริว แต่เขากลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลยสักนิดเดียว
"นี่ ไอ้ริว มึงไม่คิดที่จะให้คำแนะนำอะไรกับน้องมันบ้างเลยเหรอวะ" ป๊อบหันไปถามคิริวที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆ
"แค่ตั้งใจทำให้ดีที่สุด แล้วก็คิดถึงหน้าคณะเข้าไว้ เพราะเราเป็นถึงตัวแทนคณะ ไม่งั้นจะอายเขาได้" เสียงพูดอันเรียบเฉยจบลงท่ามกลางความเงียบกริบของคนที่รอฟังฟังอยู่
"ไม่ค่อยจะกดดันกูเลยเนาะ" กรหันไปกระซิบกับเพื่อนของตัวเองเบาๆ ยิ่งพูดมาแบบนี้แล้วเขายิ่งยอมแพ้ไม่ได้เลย
"เอ่อ น้องกรไม่ต้องไปฟังมันหรอกนะ เพื่อนพี่มันก็เป็นอย่างนี้แหละ พูดของมันไปเรื่อย เอาเป็นว่าเราก็ทำให้เต็มที่ก็แล้วกัน แพ้ชนะยังไงค่อยว่ากันเนาะ ยังไงพวกพี่ก็เชียร์อยู่" กาดรีบพูดเสริมทันทีเพื่อไม่ให้น้องรู้สึกกดดันน้อยลง
กิจกรรมการประกวดเริ่มดำเนินไปตามปกติ เหล่าบรรดารุ่นพี่เฮดว้ากเองก็ยังคงยืนร่วมดูกสรทำกิจกรรมอยู่บริเวณรอบๆ
"ว๊าย ตายแล้ว ใครก็ได้มาช่วยกันหน่อย มีน้องเป็นลมค่ะ"
เสียงรุ่นพี่ที่คุมกิจกรรมต่างส่งเสียงฮือฮา พากันแตกตื่นตกใจจนเริ่มวุ่นวายไปหมด มีน้องคนนึงที่กำลังทำกิจกรรมอยู่เป็นลม กลุ่มของคิริวพอได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือก็รีบวิ่งเข้าไปดูเหตุการณ์ทันที เผื่อว่าจะมีอะไรให้กลุ่มของพวกเขาช่วยได้บ้าง
กร เดือนคณะวิศวกรรม ซึ่งตอนนี้ได้ลงไปนอนแผ่หลาอยู่กับพื้นเสียแล้ว เป็นเพราะว่าเมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอน เลยค่อนข้างที่จะเพลีย จึงทำให้เป็นลมล้มลงไป ซึ่งตอนนี้ทุกคนต่างพากันรุมช่วยอยู่จนวุ่นวายไปหมด
"เฮ้ย นั่นมันน้องกรเด็กคณะเรานี่หว่า" เสียงกาดบอกเพื่อนเมื่อวิ่งมาถึงบริเวณที่มีคนมุงกันอยู่
"หลบหน่อย" คิริวพูดขึ้นเสียงดังจนทุกคนแหวกทางให้แก่เขา เขารีบวิ่งเข้าไปอุ้มกรทันที เพื่อพาน้องไปส่งยังห้องพยาบาลก่อน
คิริวอุ้มกรมาส่งยังห้องพยาบาล พยาบาลประจำห้องพยาบาลบอกว่าเขาน่าจะอดนอนมา เลยทำให้เพลียและเป็นลมได้ คงเป็นเพราะว่าพักผ่อนไม่เพียงพอ พยาบาลจึงให้คิริวถือแอมโมเนียแล้วเอาให้กรดม เผื่อว่าอาการจะดีขึ้นบ้าง ไม่นานนักกรก็รู้สึกตัว แต่สีหน้าเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ทั้งหน้าซีดและริมฝีปากซีดให้เห็นอยู่บ้างเล็กน้อย
"เป็นไง ดีขึ้นรึยัง" คิริวถามอาการของคนที่พึ่งฟื้น
"อืม ปวดหัวนิดหน่อย"
"นายเป็นลม แล้วนี่ไปทำอะไรมาเห็นหมอบอกว่าน่าจะอดนอน" คิริวซักถามเจ้าตัวเป็นการใหญ่
"เปล่า" กรตอบออกไปเพียงสั้นๆ
"หมอบอกตื่นแล้วก็ให้กลับได้เลย"
กรจึงลุกขึ้นมานั่ง ตอนนี้หน้าเขามันซีดมากและก็เวียนหัวอีกด้วย เพื่อนเขาเองก็ไม่มีใครอยู่แล้วเพราะขอตัวกลับไปตั้งแต่เย็นกันหมดแล้วด้วย
"กลับบ้านยังไง" คิริวถามเมื่อเห็นน้องมีอาการไม่ค่อยดี
"เดี๋ยวไปเรียกแท็กซี่ พี่ช่วยพาเดินไปหน้ามหา'ลัยก็พอ" กรฝืนตอบออกไปเสียงอ่อย
คิริวเดินพยุงกรมาเรื่อยๆ เขาไม่ได้เดินไปส่งกรที่หน้ามหา'ลัยอย่างที่น้องบอก แต่เขาพากรเดินไปที่ลานจอดรถแทน ใช่ วันนี้คิริวเอารถมา เขาคิดว่าเขาน่าจะไปส่งกรแทนที่จะให้กรขึ้นแท็กซี่กลับบ้านไปเอง เพราะในฐานะรุ่นพี่เขาควรจะไปส่งน้องเองจะดีกว่า
"เฮ้ยพี่ จะไปไหนเนี่ย" คิริวไม่ตอบเขาพากรมายังรถของเขา และเปิดประตูรถก่อนจะดันกรให้ขึ้นไปนั่ง
"นี่ เดี๋ยว ผมกลับเองได้ไง ไม่รบกวนพี่หรอก" กรบอกคิริวด้วยสีหน้าจริงจัง แต่เจ้าตัวกลับไม่ตอบอะไร เขาเดินอ้อมมาขึ้นรถและขับออกไปอย่างหน้าตาเฉย
"พี่ จอดแค่หน้ามหา'ลัยก็พอ" กรยังคงพูดต่อเมื่อคิริวขับรถออกมาจนถึงหน้าทางเข้ามหา'ลัย
คิริวยังคงนิ่งเฉย จนกรเริ่มขมวดคิ้วและนั่งกอดอกอย่างไม่พอใจ เพราะไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ออกไปคิริวก็ไม่ตอบกลับเขาเลยสักคำเดียว
ไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้นตั้งแต่หน้ามหา'ลัยจนถึงบ้านของกร คิริวจอดรถที่หน้าประตูบ้านอย่างเงียบๆ กรเลยหันหน้าไปมองอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก
"ขอบคุณ" กรบอกเพียงเท่านั้นก็เปิดประตูแล้วลงรถเดินเข้าบ้านไปทันที
กรเข้าบ้านมาพร้อมกับความหงุดหงิด เขาไม่เข้าใจไอ้รุ่นพี่คิริวเลยแม้แต่น้อยว่ามันเป็นอะไร กับเขานักหนา ทำท่าเหมือนจะใจดีด้วย แต่ก็เปล่าเลย ออกจะกวนตีนจนทำให้เขาโมโหมากกว่า
"ไอ้บ้าเอ้ย เป็นห่าอะไรของมันวะ คนก็อุตส่าห์พูดด้วยดีดี แต่แม่งก็ไม่พูดอะไรเลยสักคำ ให้ตายเหอะกวนประสาทชะมัดเลย คนแบบนี้แม่งมีด้วยหรอวะเนี่ย" เขานอนบ่นพึมพำอยู่คนเดียวด้วยความหงุดหงิด