หลังเลิกเรียน….
ฉันมายืนอยู่หน้าผับสักพักมีแวบหนึ่งที่ผุดขึ้นมาว่าฉันคิดดีแล้วเหรอที่จะเอาชีวิตอันสงบสุขมาพัวพันกับพวกเขาแต่พวกนั้นเขาจะมาสนใจฉันทำไม ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ตัวเองไปก็แค่นั้น...คิดมากไปเปล่าวะเนี่ย โอกาสดีๆ อย่างงี้หาได้ง่ายซะที่ไหน...เอาวะ
ฉันเปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นมีพนักงานกำลังจัดโต๊ะทำความสะอาดอยู่หลายคนแล้วพูดบอกผู้ชายที่อยู่ใกล้ประตูมากที่สุด
“มาติดต่อคุณนีรดาร์ค่ะ”
“อ่อครับ ทางนี้ครับ” ผู้ชายคนนั้นหันมาตอบฉันแล้วเดินนำฉันขึ้นไปชั้นบนที่ฉันเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันเดินตามแผ่นหลังเขาไปแล้วมองไปรอบๆ ความจริงฉันก็เคยมาเที่ยวที่นี่นะแต่ไม่เคยได้ขึ้นมาโซน VIP แบบนี้หรอก ได้อยู่แต่ข้างล่าง สักพักเขาก็มาหยุดที่หน้าห้องๆ หนึ่งที่อยู่ในสุดทางเดินยกมือขึ้นเคาะประตูสองสามทีแล้วบิดลูกบิดเปิดมันออก
ก๊อกๆ ๆ ๆ
แอ๊ดดดดด
ฉันเดินเข้าไปข้างในก็เห็นผู้หญิงคนนั้น...อ๋อ คุณนีรดาร์ ฉันรู้ชื่อเธอแล้วนิ นั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับกองเอกสารกองโตบนโต๊ะ เธอเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มให้ฉันแบบใจดีสุดๆ ฉันเลยยกมือไหว้เธออย่างนอบน้อม
“มิณาริน ใช่ไหม นั่งก่อนซิ” เธอพูดขึ้นพลางปิดแฟ้มลงแล้วทิ้งตัวพิงเก้าอี้ ฉันเลยเลื่อนเก้าอี้ออกนั่งอย่างงงๆ คุณนีรดาร์รู้จักชื่อฉัน...เหอะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนี่หว่า รวยซะขนาดนี้แล้วแถมแฟนยังเป็นมาเฟียอีกจะสืบประวัติใครสักคนแค่ดีดนิ้วก็ได้แหละมั้ง
“มิณต้องทำอะไรบ้างคะ”
“ก็ทำบัญชีทั่วไปนั่นแหละ ไม่เยอะเท่านี้หรอกไม่ต้องตกใจ ช่วงเนี่ยฉันแพ้ท้องน่ะ เลยทำบ้างไม่ทำบ้าง งานก็เลยกองต้องหาคนมาช่วย”
“ทะ...ท้อง กับรุ่นพี่…” ฉันถามย้ำออกไปเพื่อความแน่ใจแล้วเธอก็พยักหน้าให้ฉันแบบยิ้มๆ ฉันไม่เห็นรู้เลยว่ารุ่นพี่ดินกำลังจะมีเบบี้ นี่มัน talk of the town ยิ่งกว่าตอนที่มีข่าวว่ารุ่นพี่มีแฟนอีกนะ แล้วฉันรู้เป็นคนแรก oh my goddddd
“มิณทำได้ถึงกี่โมงล่ะ”
“กี่โมงก็ได้ค่ะ เสร็จแล้วค่อยกลับก็ได้ หอมิณอยู่ไม่ไกลเท่าไร”
“เห้ย ไม่ได้ เราเป็นผู้หญิงกลับดึกได้ไง แต่…” เธอพูดขึ้นแล้วหยุดไปเหมือนกำลังใช้ความคิด
“อะไรเหรอค่ะ” ฉันเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นเธอเว้นช่วงไปนาน ใจก็กลัวเธอจะเปลี่ยนใจไม่จ้างฉันทำงาน
“ความจริงที่นี่ก็คนเยอะแยะให้ใครไปส่งก็ได้ เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง ส่วนเงินเดือน..”
“เท่าไรก็ได้ค่ะ แล้วแต่คุณนีรดาร์เลย” ฉันพูดออกไปด้วยความเต็มใจเพราะเธอดูใจดีแล้วเป็นกันเองมากให้เท่าไรฉันก็เอาทั้งนั้น ไม่ซี...ได้เจ้านายดีก็พอ เพราะที่ผ่านมามีแต่เจ้านายโหดๆ เคี้ยวๆ เธอดูเหมือนจะตกใจนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้ารับแล้วหัวเราะน้อยๆ ออกมา เธอน่ารักแบบนี้นี่เองถึงได้มัดใจรุ่นพี่ดินได้อยู่หมัด
“เรียกพี่หนูดาก็ได้นะ ไม่ต้องเรียกเต็มขนาดนั้นหรอก”
“ค่ะ…”
“เออ..เดี๋ยวพาไปแนะนำก่อน อยู่ที่นี่ต้องรู้จักพวกนี้” พี่หนูดาพูดขึ้นพลางลุกจากเก้าอี้แล้วขวักเรียกฉันให้ตามมาด้วย
“ใครเหรอค่ะ” ฉันเอ่ยถามก่อนจะลุกตามเธอไป พวกนี้...พวกรุ่นพี่รึเปล่านะ แต่คำตอบที่ได้ยิ่งทำให้ฉันงงหนักเข้าไปอีก ลูกค้า เกี่ยวไรกับฉัน...ยังไงฉันก็ไม่เจอลูกค้าอยู่แล้ว
“ลูกค้า VIP”
…..
….
….
ฉันเดินตามเธอเข้ามาในห้องที่มันดูคุ้นตาแปลกๆ ...เหอะ ห้องนี้มันที่ฉันเข้ามาเมื่อวานนี่ ใช้จริงๆ ด้วยเพราะรุ่นพี่ทั้งสามคนนั่งอยู่กันครบเลย และฉันมีคนที่ฉันไม่รู้จักอีกสามคน
“นี่เฮียหมอไวน์ เฮียแม็ก และก็เฮียฟิวส์ ส่วนสามตัว เอ๊ย! สามคนนี้คงรู้จักแล้ว” พี่หนูดาชี้ไล่ไปที่สามคนนั้นที่ฉันไม่รู้จักก่อนที่เธอจะนั่งลงข้างรุ่นพี่ดินและดึงฉันนั่งลงข้างๆ เธอ ฉันเลยยกมือไหว้พวกเขาตามมารยาท แต่เหมือนเขาจะไม่ค่อยสนใจเท่าไร มีแต่รุ่นพี่สามคนที่กำลังจ้องพี่หนูดาตาขวางที่หลุดปากเรียกตัวเมื่อกี้ หึ
“พามาแนะนำทำไม ก็แค่พนักงานคนหนึ่ง หึ” รุ่นพี่ยูตะพูดขึ้นแล้วแสยะยิ้มขึ้นมุมปากก่อนหันมามองฉันด้วยสายตาแปลกๆ อะไรของเขาวะ...ฉันไปทำอะไรให้เขาเนี้ย
“ปากดีๆ พามาให้นายขอโทษนั่นแหละ เร็วเลย ขอโทษน้องเขาซะ” พี่หนูดาหยิบน้ำแข็งปาใส่รุ่นพี่ยูตะแต่เขาดันหลบได้ทันและส่งเสียงโวยวายออกมา
“โว้วๆ ๆ ๆ นายหญิงอย่ารุนแรงนักซี เดี๋ยวลูกออกมาก็ซาดิสม์เหมือนพ่อมันหรอก” สิ้นเสียงรุ่นพี่ยูตะ รุ่นพี่ดินก็หยิบน้ำแข็งปาใส่รุ่นพี่ยูตะอีกคราวนี้เยอะกว่าเดิมมีรึจะไม่โดน...สม ปากเสียดีนัก ฉันยิ้มเยาะเขาในใจ...แต่เหมือนจะออกอาการมากไปหน่อย
“ยิ้มอะไร ห๊ะ! ยัยหัวขโมย” แล้วเขาก็หันมาแว้งกัดฉันจนได้...พาลนี่หว่า
“ยิ้มให้หลอดไฟ ให้โซฟา ให้เหล้าพวกเนี่ย” ฉันพูดพลางยกไหล่ขึ้นน้อยๆ แล้วหันไปอีกทางอย่างลอยหน้าลอยตาแล้วรุ่นพี่ยูตะลุกขึ้นยืนตะคอกใส่หน้าฉันดังลั่น
“ฉันเพื่อนเล่นเธอเหรอ ห้ะ!”
“แล้วฉันไปทำอะไรให้รุ่นพี่รึยัง ห้ะ! พูดดีๆ กับฉันไม่เป็นรึไง ตะคอกอยู่ได้” ฉันลุกขึ้นยืนแล้วตอกกลับไปเสียงดังลั่นกว่า น่าโมโหชะมัด ฉันยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาเลยสักนิด เอะอะก็ตะคอกใส่อยู่ได้
“เหอะ...แล้วฉันต้องสน ฉันไม่มีทางขอโทษเธอแน่ เพราะมันเป็นความผิดเธอที่ไม่ยอมบอกฉันแถมยังทำตัวมีพิรุธอีก โทษฉันมะ…”
แกร่ก...แอ๊ดดดดดด
เขายังพูดไม่ทันจบก็หันไปมองที่ประตู ก่อนจะทำท่าเหมือนช็อกไปชั่วขณะ สองคนนี้ใครวะ ทำไมรุ่นพี่ยูตะต้องช็อกขนาดนี้ด้วย