EPISODE 02
2 ปีที่เเล้ว
“ฉันชอบเธอ คบกันมั้ย? ”
“ขอโทษน่ะ ฉันยังไม่อยากคบใคร”
“………………”
ปัจจุบัน
“มึงเป็นอะไรหรือเปล่าน้ำ กูเห็นมึงนั่งเหม่อลอยตั้งเเต่กลับจากผับละ”ใช่.. ตอนนี้ฉันกับเพื่อนกลับมาถึงบ้านแล้ว ถ้าถามว่าฉันรอดมาได้ยังไง? ง่ายๆ พายุปล่อยฉันกลับมา แต่การปล่อยครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งนั้น
‘พรุ่งนี้มาเจอกันหน่อยมั้ย? ’
'ไม่'
'หึ.. อยากให้ฉันบุกไปฉุดเธอกลางมหาลัย? หรือที่บ้านเธอดี? ’
‘'นายทำไม่ได้ นายไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน'
‘ได้สิ.. อะไรที่ฉันอยากรู้ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องยากเเล้ว'
‘หมายความว่ายังไง? ’
‘ไอ้เพลิง มึงช่วยไปสืบประวัติผู้หญิงคนนี้ให้กูหน่อยสิ เธอชื่ออารยา ประติภาร'
'ได้.. เดี๋ยวกูจัดการให้'
และนั้นก็เป็นคำขู่สุดท้ายที่เขาทิ้งไว้พร้อมรอยยิ้มที่เเสดงถึงความเหนือชั้นกว่าก่อนที่เขาจะเดินหายไปในห้องหนึ่ง ปล่อยให้ฉันยืนเอ๋อเเตกอยู่คนเดียว เเค่เขาบอกชื่อฉันให้เพื่อนเขารับรู้เขาจะสามารถสืบข้อมูลฉันได้ทุกอย่างจริงๆงั้นเหรอ..
“ไอ้น้ำ!! กูถามไม่ได้ยินไง? นอกจากตูดมึงรั่วเเล้วนี้หูมึงยังดับอีก? ”เสียงเเว้ดของไอรีนปลุกสติฉันที่ดิ่งลงไปกับอดีตให้กลับมาอีกครั้ง ฉันกะพริบตาสองทีเพื่อปรับสภาพก่อนจะหันไปยิ้มร่าใส่มันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“มึงจะเสียงดังทำไมกูก็เเค่ใจลอยไปเรื่อย สงสัยกูจะมึนหัวมึงก็รู้ว่ากูไม่ค่อยถูกกับผับเท่าไหร่”
“เอ่อแล้วไป กูนึกว่ามึงมีเรื่องอะไรเครียดเลยถามดู”
“ไม่มี กูเหรอจะเครียดห่างไกลจ้ะ!”อยากจะบอกเพื่อนน่ะว่าฉันเจอพายุ แต่ก็กลัวพวกมันจะพลอยกลัวไปด้วยเพราะใครๆก็รู้จักพายุดีว่านิสัยร้ายกาจยังไงฉันจึงตัดสินใจเงียบไว้ก่อนแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไว้ค่อยหาโอกาสบอกถ้าฉันรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเอาไม่อยู่จริงๆ
“เหรอ..”ไอ้พิมพ์ตอบสั้นๆเเต่สายตาจับผิดไปยังไส้ติ่ง
“เอ่อ ไปนอนแหละง่วงมาก”จังหวะนี้ต้องรีบสับขาหนีขึ้นไปข้างบนอย่างด่วนก่อนจะโดนจับได้ ยิ่งจับผิดเก่งกันด้วยเเต่ละคน
Line
เดินเข้าห้องไม่ถึงสิบก้าวเสียงเเจ้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้น ฉันเดินไปนั่งบนเตียงเเล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู
MR.PY ได้เพิ่มคุณจากหมายเลขโทรศัพท์
ใคร? ใครคือ MR.PY ฉันจ้องมือถือในมือนิ่งพร้อมกับใช่ความคิดไปด้วย
Line
เสียงเเจ้งเตือนดังขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้เเหละชัดเจนเลยว่าสิ่งที่ฉันเเอบคิดไว้ในหัวเป็นเรื่องจริง
ฉันเห็นข้อความไลน์ที่เเจ้งเตือนบนหน้าจอมือถือแล้วเปิดอ่านมันทันที
MR.PY : ฉันเอง พายุ :)
ถ้าบอกว่าไม่ตกใจนี้โกหกโลกเเตกมากเลยนะ ฉันกับเขาเเยกกันไม่ถึงชั่วโมงเขาก็ได้เบอร์โทรฉันมาเเล้ว หลังจากนี้จะได้อะไรมาอีกล่ะ.. ให้ตายสิ..
MR.PY : รู้ว่าอ่านอยู่ ไม่ตอบนี้อยากให้ไปหา?
หัวใจกระตุก เริ่มกัดปากตัวเองไปด้วยแต่ก็ยังไม่กดเปิดข้อความอยู่ดี
MR.PY : 7/2 XXXX ลาดพร้าว ×× นี้ใช่บ้านเธอมั้ย?
หัวใจกระตุกวูบไปอีกครั้งหนึ่งคราวนี้ฉันเกือบจะหน้ามืดจริงๆนะ มันเป็นความตกใจที่พุงทะยานสุดขีดจนรู้สึกกดดัน มือสั่นๆรีบกดอ่านข้อความไลน์ทันที
Namsai : อย่ามานะ
เขาอ่านทันทีที่ฉันส่งข้อความไปเหมือนเปิดรอไว้เเล้ว
MR.PY : ถ้าไม่อยากให้ไปก็มาหาสิ..
Namsai : พายุ.. ฉันว่าเราควรคุยกันให้ชัดเจน
MR.PY : ชัดเจนของเธอนี้มันยังไง? นอนคุยกันอย่างนี้เหรอ?
ดูมันสิ..
Namsai : ฉันว่าเราไม่ควรเจอกันอีกนะ ที่ผ่านมามันควรจะจบไปแล้วไม่ใช่หรือไง
MR.PY : โทษทีวะน้ำ เผอิญโลกเหวี่ยงให้เธอมาเจอฉันก่อน ฉันเคยเตือนเล้วถ้าคิดจะหนีก็หนีไปให้พ้นเมื่อไหร่ที่ฉันเจอเธออีกฉันจะไม่ปล่อยเธอไปแน่..
และนี้ก็เป็นข้อความสุดท้ายที่เขาส่งมา ฉันส่งอะไรไปเขาก็ไม่เปิดอ่านเลย ไม่บอกด้วยซ้ำว่าที่เขาบอกให้ฉันไปหานั้นจริงหรือแค่ขู่เล่น
วันต่อมา
“วันนี้คนสวยไม่กลับนะพอดีต้องกลับบ้านอะ”ไอรีนว่า
“น้องรีนไม่อยู่เเล้วพี่น้ำจะเถียงกับใครละคะ? ”
“พี่น้ำก็ไปนั่งเถียงยืนเถียงกลิ้งเถียงกับคุณหนูญา น้องพิมพ์ไปก่อนสิคะเเล้วพรุ่งนี้น้องรีนจะกลับมาเถียงเป็นเพื่อนเหมือนเดิม”
“คุณหนูญาคงต้องขออภัยด้วยนะคะเพราะวันนี้คุณหญิงเเม่ให้กลับบ้านนะคะเนื่องจากอาทิตย์ก่อนไม่ได้กลับถ้าขัดใจคุณหญิงเเม่อีกเกรงว่าท่านจะจับคุณหนูญามัดไว้กับเสาในบ้านเเล้วลงโทษไม่ให้ออกจากบ้านเจ็ดวันเจ็ดคืนอีกนะคะ”ฉันเบะปากมองคุณหนูญาที่กำลังจีบปากจีบคออธิบายให้พวกฉันฟังด้วยท่าทีนุ่มนวล เรียบร้อยประหนึ่งผ้า (ยับ) พับไว้
“อ้อเหรอคะ! ถ้าอย่างนั้นก็เชิญคุณหนูญากลับไปเถอะค่ะเห็นเเล้วรำคาญลูกตามากตอนนี้”
“มึงอะพิมพ์กลับบ้านมั้ย? ” ปกติพวกฉันก็ไม่ได้กลับบ้านบ่อยหรอกเเต่ก็อาจจะมีกลับบ้างเดือนละหนงี้
“ต้องกลับอะ พอดีพ่อมีธุระด้วย”
“มึงอะน้ำกลับมั้ย ถ้าไม่กลับก็เหลือมึงคนเดียวนะ”ที่พิมพ์ถามแบบนี้ก็เพราะปกติฉันไม่ค่อยกลับบ้านไงส่วนมากจะหยุดอยู่บ้านพักนั่นแหละ ไม่อยากกลับเพราะบรรยากาศที่บ้านไม่ได้น่าอยู่เหมือนบ้านคนอื่นนัก..
“ไม่เป็นไร ปกติกูก็อยู่คนเดียวมั้ยเวลาพวกมึงกลับเดี๋ยวพรุ่งนี้ไอรีนมันก็กลับแล้ว”
“เอ่อ แล้วเเต่เลยงั้นตอนนี้เเยกย้ายได้ละ ไม่อยากกลับบ้านดึกเกิน”
“อื้อ”
Rrrt
บอกตรงๆว่าเสียงมือถือทำให้ฉันขวัญเสียมาก เพราะมันโทรมาตั้งเเต่ฉันเลิกเรียนแล้วเแต่เมื่อกี้ปิดเสียงไว้พึ่งเปิดตอนนี้เเหละมันก็ดังขึ้นมาเลย เบอร์แปลกด้วยเเละฉันก็รู้ดีว่าเป็นเบอร์ใคร ไม่รับๆ บอกกับตัวเองซ้ำๆ
พรึ่บบ
“เฮ้ย! ปล่อยฉันนะ!”ฉันร้องเสียงดังเมื่ออยู่ๆตัวเองก็ถูกผู้ชายที่ไหนไม่รู้จับไว้เเล้วพยายามขยี้ผ้าเช็ดหน้าลงกับจมูกฉันเเรงๆ ฉันพยายามจะดิ้นให้ออกแต่เเรงผู้ชายกับผู้หญิงมันต่างกันมากดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หลุด แต่สิ่งที่หลุดตอนนี้คือสติฉันมันค่อยๆดับไปทีละนิดจนมันมืดสนิทไปเลย..
(จบการบรรยาย :: น้ำใส)
Payu talk
อยากขัดใจผมเอง จุดจบก็อย่างที่เห็น.. ผมให้คนไปจับตัวเธอมาที่บ้านเเละตอนนี้เธอก็นอนอยู่บนเตียงผมพร้อมกับมือและขาที่ถูกผมผูกไว้ ผมไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนถ้าหวังให้ผมจับตัวเธอมาเเล้วจะพูดจาอ่อนโยนให้เธอรักคุณคงคิดผม เพราะผมไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาด สิ่งที่ผมจะทำก็คือ.. บังคับให้เธอรักผมซะต่อให้เธอจะไม่เต็มใจก็ตาม
“อื้อ..”ผมเหยียดตามองน้ำใสที่ตอนนี้เหมือนจะเริ่มรู้สึกตัว เธอเริ่มขยับตัวแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก เธอลืมตาขึ้นมาเเล้วเห็นหน้าผมรู้มั้ยครับเธอทำหน้ายังไง? หน้าตาหวาดกลัวของเธอมันเร้าใจผมจริงๆผมชอบเวลาเธอกลัวเพราะผมจะเป็นคนขยี้ความกลัวของเธอด้วยตัวผมเอง
“พายุ! นายจับฉันมาทำไมปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ!”เธอขู่ผมเหมือนลูกแมว พยายามดิ้นให้เชือกที่ผูกมือผูกขาหลุด แต่ก็นะ.. โคตรเสียเวลา
“เธอไม่รับมือถือเอง ช่วยไม่ได้”
“ก็ฉันบอกแล้วไงให้ต่างคนต่างอยู่นายไม่ควรทำแบบนี้!”เหรอ? ไม่มั้ง
“ต่างคนต่างอยู่? ”ผมเอียงคอถาม น้ำใสเริ่มขยับหนีผมที่ค่อยๆคลานขึ้นไปคร่อมตัวเธอ ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ เธอก็หันหน้าหนีผม
ให้ตายสิ.. มีความพยายามดีจริงๆเลย
"......”
“เธอแม่ง! โคตรเฮงซวย!!!”เธอหลับตาปี๊ กลัวผม
ดี.. กลัวให้ตายไปเลย
"......”
“รู้มั้ย? ตอนนั้นฉันชอบเธอมากแต่เธอดันทำเหมือนความรู้สึกฉันเป็นของเล่น สนุกมากมั้ยที่ทำลายความรู้สึกที่ฉันมีให้”
“ฉันผิดเหรอ? ฉันผิดหรือไงที่ฉันปฏิเสธผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกดีด้วยอย่างนาย!”เธอโต้ตอบกลับมาทันที
พรึ่บ
ผมกระชากให้เธอลุกขึ้นมานั่งก่อนที่ผมจะดันเธอไปติดผนักเตียงโดยที่ตัวเองยกมือขึ้นมาค้ำผนังไว้ ผมชอบข่มขู่ เวลาเธอตัวสั่นมันเป็นสิ่งที่ผมโคตรพอใจ
“เธอมันผู้หญิงตอแหล..”
(จบการบรรยาย :: พายุ)
Namsai talk
ฉันถูกพายุบีบกรามอย่างเต็มเเรงจนฉันรู้สึกเหมือนกรามตัวเองจะเเตกคามือเขาให้ได้ มันรุนเเรงพอๆกับสายตาที่เขาใช้มองฉันตอนนี้
“ฟังนะพายุ ฉันยังยืนยันคำเดิมฉันไม่สามารถรักผู้ชายที่ไม่รักตัวเองเด็ดขาด ฉันเกลียดคนใจร้อนนายก็เป็น ฉันเกลียดผู้ชายที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนายก็เป็น ฉันไม่สามารถทำใจรักในสิ่งที่ตัวเองหลีกเลี่ยงมาทั้งชีวิตได้นายเข้าใจมั้ย!”
ตุ้บ
ฉันยกมือที่ถูกผูกไว้ขึ้นมาทุบหน้าอกเขา ฉันอึดอัด อึดอัดที่พายุทำเหมือนฉันเป็นคนผิดทุกอย่างทั้งที่เขาเองก็ผิดเหมือนกันนั่นแหละ ฉันเกลียดผู้ชายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่สุด เเละเขาก็คือหนึ่งในนั้น ฉันสัญญากับตัวเองไว้ตั้งเเต่ที่รู้ว่าพ่อตัวเองติดยาฉันจะไม่มีวันรักผู้ชายที่เกี่ยวข้องกับยานรกนั้นเด็ดขาดเพราะฉันเห็นเเละรับรู้ถึงภัยอันตรายจากมันมาตั้งเเต่เด็ก พ่อกับเเม่ต้องหย่ากันก็เพราะมัน พ่อต้องเกเรเเละถูกทุกคนในครอบครัวรังเกียจก็เพราะมัน แล้วจะให้ฉันเลือกรักผู้ชายที่ยุ่งเกี่ยวกับยานรกนั้นอีกเหรอ?
ไม่.. ฉันไม่เอาด้วยเด็ดขาด ฉันไม่อยากเจ็บปวดไปมากกว่านี้เเล้ว
“ฉันไม่เสพมันเเล้ว..”พายุยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูฉัน ลมหายใจกรุ่นร้อนเป่ารดใบหูฉันอย่างเชื่องช้า สัมผัสที่ชวนขนลุกทำให้ฉันต้องเบี่ยงหน้าหนี
“......”
“แต่ฉันขายเเทนว่ะ..”จบประโยคนั้นหัวใจฉันเเทบจะร่วงลงตาตุ่มให้ได้ ฉันคิดว่าพายุจะเป็นคนที่ดีกว่านี้เเต่ทำไม..
“พายุ..”ฉันเรียกเขาเสียงเบา เเววตาจับจ้องดวงตาที่มีเเต่ความรุนเเรงราวกับพายุลูกใหญ่ไว้ เขาไม่ได้ตอบเเต่ก็จ้องหน้าฉันกลับมา
“เลิกเถอะนะ เลิกเอาตัวเองไปเสี่ยงกับอะไรเเบบนี้สักที เท่าที่ฉันเห็นมาไม่มีใครมีความสุขสักคนมันมีเเต่อันตรายจุดจบของมันก็คือตาย นายคงไม่อยากเป็นเเบบนั้นหรอกใช่มั้ย? ”เขาเหยียดยิ้มเเละเเค่นเสียงหัวเราะออกมาเหมือนเรื่องที่ฉันพูดเป็นเรื่องตลก
“เผอิญว่าตายยากว่ะ ยังอยู่ทรมานเธอได้อีกนานเธอเหอะไหวมั้ย? ”
“พายุ ฉันขอร้องละ”
“ทำไมวะ! ฉันมันน่ารังเกียจจนเธอรักไม่ได้เลยงั้นเหรอ แต่ตอนนี้ฉันไม่สนเว้ยเเค่ให้ฉันได้ทำร้ายเธอก็พอ!!”
“พายุ!! อะ ออก ไป”เสียงพูดฉันขาดห้วงเมื่อริมฝีปากร้อนซุกไซร้ลงมาตามซอกคอฉัน ฉันถูกพายุไล่จูบไปทั่วซอกคอความร้อนจากริมฝีปากทิ้งไออุ่นทุกที่ที่เขาลากผ่าน”
“อ๊ะ.. ยะ อย่า..”ซอกคอฉันถูกดูดดึงก่อนจะปล่อยออกเเล้วขยี้ความเจ็บเเสบด้วยการกัดซ้ำ ร่างกายฉันรู้สึกหวาดกลัวกับสัมผัสที่พายุยัดเยียดให้โดยที่ฉันไม่เต็มใจ การกลับมาของเขาครั้งนี้มันทำให้ฉันรู้ตัวว่าหลังจากนี้ฉันจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
“ถ้ารู้ว่านุ่มเเบบนี่ตอนนั้นคงปล้ำไปนานเเล้ว”เขาพูดเสียงอู้อี้ในลำคอโดยไม่ยอมผละหน้าออกมา
“ปล่อยฉัน!! ปล่อยสิ!”เมื่อรู้สึกว่าเริ่มจะไม่ดีฉันก็เริ่มดิ้นเเรงขึ้นเรื่อยๆต่อให้มือที่ถูกมัดไว้ฉันก็พยายามยกขึ้นมาทุบหน้าอกเขาอย่างเต็มเเรง
“รำคาญฉิบหาย!”
“กรี๊ดด!!”
พรึ่บ!
ร่างฉันถูกดึงให้ลงมานอนราบกับเตียงนอนโดยมีพายุขึ้นมาคร่อมฉันไว้ข้างบน พายุยิ้มเขายิ้มทั้งที่ตาดูโมโหแบบนั้นได้ยังไง
“เธอจะยอมเป็นเมียฉันมั้ยน้ำ? ”เขาก้มลงมาจนจมูกเราเบียดเสียดกัน
“ไม่!”
“งั้นเหรอ.. งั้นฉันควรทำยังไงดีไหนลองบอกมาสิ”ถึงการพูดเขาเหมือนจะใจเย็นเเต่การกระทำของเขากลับทำให้ตัวฉันร้อนรนจนนอนไม่ติดกับเตียงเเล้ว นิ้วเรียวยาวค่อยๆปลอดกระดุมเสื้อนักศึกษาฉันออกไปทีละเม็ดอย่างใจเย็น ต่อให้ฉันดิ้นเท่าไหร่เขาก็ไม่กระเด็นออกไปสักที
“หยุด! ฉันบอกให้หยุดไง!”
“เธอคิดว่าฉันจะโง่ทำตามที่เธอพูด? ถ้าทำตามก็คงจะโง่มาก”เขาปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายออกไปบราเซียที่อยู่ข้างในโผล่ออกมาให้พายุเห็นเเละเขาก็เอาเเต่จ้องมัน จ้องเหมือนจงใจทำให้ฉันอายและฉันก็อายจริงๆอายจนต้องหันหน้าอุดใส่หมอน
“ถ้านายไม่หยุดฉันจะเกลียดนายไปตลอดชีวิต”
กึก
ทุกอย่างหยุดนิ่ง นิ่งสงบจนฉันต้องเงยหน้าจากหมอนขึ้นมาดูว่าทำไมพายุถึงหยุดและเงียบไปเลยแล้วพอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขากลับพบว่าฉันไม่น่าพูดคำนั่นออกไป
ผั๊วะ! ผั๊วะ! ผั๊วะ!
พายุต่อยผนังห้องเต็มเเรง ต่อยรัวๆเหมือนคนสติหลุด
“เธอแม่งก็เกลียดฉันอยู่เเล้วมั้ยวะ!!! จะมาหาข้ออ้างเพิ่มขึ้นอีกทำไม!!”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะพายุ!”
“ห้าม? ห้ามทำไม ปล่อยให้เเม่งเลือดออกหมดตัวไปเลยเธอชอบไม่ใช่เหรอที่เห็นฉันเจ็บปวดเเบบนี้ จริงมั้ย? ที่รัก..”พายุกุมใบหน้าฉันด้วยมือที่อาบเลือดของเขา เขามองหน้าฉันพร้อมยิ้มอย่างอารมณ์ดีมือที่อาบไปด้วยเลือดลูบไล้ใบหน้าฉันไปด้วย
“นายมันบ้า นายมันบ้าไปแล้วพายุ”
“หึ.. ฉันบ้าได้มากกว่านี้อีกที่เธอเจออยู่ตอนนี้มันเเค่น้ำจิ้ม.. เธอชอบมั้ย? ที่เห็นฉันเจ็บแบบนี้”พายุซบหน้าลงมาตรงหน้าอกฉัน เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังตัดพ้อ
“เธอต้องชอบอยู่เเล้ว เพราะเธอเกลียดฉัน!!”แล้วอยู่ๆอารมณ์ก็รุนเเรงขึ้นมา ฉันสับสนไปกับอารมณ์ของพายุมาก เมื่อกี้ยังดูเหมือนจะอ่อนลงเเต่อยู่ดีๆก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าฉันตาเเข็งเเล้วตะโกนด่าฉันลั่นห้อง อารมณ์เขาขึ้นลงเร็วมากจนฉันปรับตัวตามไม่ทัน
Talk
เรื่องนี้พระเอกจะเถื่อนนิดนึง นางมาพร้อมความแค้นเลยรุนแรง
ฝากเม้น + กดหัวใจให้กันด้วยน่า