7:เขยิบเข้ามาซิ

2268 คำ
เขยิบเข้ามาซิ…: เขยิบ เขยิบ เขยิบ เขยิบเข้ามาสิกระแซะ กระแซะ กระแซะ กระแซะเข้ามาสิหากว่าคุณรักปักดวงใจปอง แต่คุณมัวนั่งมองฉันก็ขอติใกล้เข้ามานิด… “ฟังอะไรของมึงแต่เช้าห๊ะไอ้ดิม!” เฮียเดินเข้ามาปิดเพลงในสตรีมมิ่งหมวดลูกทุ่งคลาสสิคของผม “เฮียไม่ชอบเหรอ?” ถามไปทั้งที่มือยังจัดเซ็ทผมอยู่ตรงหน้ากระจกตู้เสื้อผ้า “นี่อุตส่าห์เปิดเพลงเอาใจวัยเฮียเลยนะผมจำได้ว่าแม่ใหญ่ผมชอบฟัง” หันไปยิ้มหวานให้เฮียที่ยืนท้าวเอวอยู่ข้างเตียง “แม่ใหญ่?” “ยายผมเอง” ตอบแบบภูมิใจและนึกขึ้นได้ว่าผมไม่เคยได้เล่าอะไรเกี่ยวกับที่บ้านให้เฮียฟัง เฮียรู้แค่ว่าผมไม่มีพ่อและอยู่กับแม่แต่ผมไม่ได้บอกว่าแม่ที่ว่าก็คือยายผมเองที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิด ไม่ได้ล่ะกว่าจะได้ดองกันผมต้องให้เฮียเริ่มศึกษาข้อมูลครอบครัวผมก่อน “นี่มึงคิดว่ากูแก่รุ่นเดียวกับยายมึงงั้นเหรอไอ้ดิม!” “เปล่า…อย่างเฮียน่ะรุ่นเดียวกับคุณบุศ” “ใครอีกวะ?” เฮียถามงงๆ เมื่อผมเพิ่มสมาชิกในครอบครัวฝังหัวเฮียทีละคนสองคนน่ะครับ “แม่ผมเองยังสาวอยู่นะอายุ 45 เรียกว่าเป็นพี่สาวคนโตของเฮียได้แต่อย่าเป็นเลยดีกว่าเป็น…” “มึงนี่ก็ประหลาดนะเรียกแม่ซะห่างเหินแล้วยังเรียกยายเป็นแม่อีก” “ก็ยายผมเลี้ยงผมมาตั้งแต่เกิดมันติดปากเรียกตามลุงตามน้าอ่ะ” “ครอบครัวมึงคงเป็นครอบครัวใหญ่สินะ” “ยังรับเพิ่มได้อีกนะตำแหน่งหลานเขยหลานสะใภ้แม่ใหญ่ยังไม่มีใครจองเฮียจะเอาอันไหนล่ะอยากจะเป็นหลานเขยหรือว่าหลานสะใภ้” “เดี๋ยวกูโบกอย่ามาลามปามไม่น่าชวนมึงคุยเลยว่ะ” “น้ำหยดลงหินหินยังสึกได้ น้ำคำผมที่หยอดลงหูมันไม่ไหลซึมเข้าหัวใจเฮียบ้างเลยเหรอ?” “นี่อยากให้กูอ้วกใช่มั้ย” “เปล่า…อยากให้เฮียส่งหัวใจมาให้ผมดูแลก็พอ” “พอเหอะวะไอ้ดิมยิ่งมึงพูดกูยิ่งอึดอัด” “ผมจะไม่พูดก็ได้นะแต่ก็ยังจะรักเฮียต่อไปจะอยู่ใกล้ๆ จะช่วยดูแลจะรอเฮียจนแก่ตายกันไปข้าง” หันไปสบตามองหน้าเฮียอย่างจริงจังเพื่อย้ำว่าสิ่งที่ผมพูดมามันคือความจริงจากใจ “…” เฮียเงียบและรีบหลบตา สายไปแล้วล่ะ… เสี้ยววินาทีเล็กๆ มันก็คือเวลาที่มีค่ามากพอที่จะให้ผมสังเกตุเห็นถึงมันได้ ความหวั่นไหว ประหม่า เขิน ไม่เป็นตัวของตัวเอง ทำตัวไม่ถูก หรือจะอะไรก็ช่างผมไม่ขอสรุปความหมายที่มาจากสายตาคู่นั้นรู้แค่ว่ามันคือพลังที่ส่งมายังหัวใจผม “ทำตัวแบบนี้ใจมันเต้นแรงนะเฮีย หวั่นไหวนะนี่” ผมแกล้งเอามือลูบหน้าอกแต่เสียงหัวใจนี่ไม่ได้โกหกนะครับ สายตาเฮียที่เหมือนจะรู้สึกกับบางอย่างในคำพูดผมมันทำให้หัวใจที่แห้งแล้งของผมเหมือนมีฝนพรำลงมาแต่อยากได้แบบตกกระหน่ำตกแบบไม่ลืมหูลืมตาเชิญเฮียสาดพลังความรักเข้ามาสู่หัวใจผมด้วยคำว่า’ รัก’ ได้เลย สาดผมแบบจังๆ สาดแบบตรงๆ เฮียทำให้ผมได้มั้ย? “ทำอะไร! กูยังไม่ได้ทำไรสักหน่อย!” เฮียขึ้นเสียงโวยวายแล้วก็เดินออกไปจากห้อง ทุกคนครับ… ความปรกติที่มันไม่ปรกติของเฮียมันเริ่มจะมากขึ้น ทุกคนรู้สึกถึงมันเหมือนอย่างที่ผมรู้สึกถึงใช่มั้ย มันไม่ใช่แค่สายตาเสี้ยววินาทีเมื่อกี้นะ มีมากกว่านั้น ผมกับเฮียโตยังคงนอนห้องเดียวกันเตียงเดียวกันตั้งแต่วันแรกที่มาอาสัยบ้านเขาอยู่ยาวมาจนถึงวันนี้ที่เฮียตี๋ย้ายออกไป ผมก็ไม่ยอมย้ายไปนอนห้องอื่นคนที่ต้องอดทนฝืนนอนข้างผมคือเฮีย แต่ผมก็ยังทนได้ อันที่จริงก็ไม่แน่ใจนักว่าใครทนใครเอาเป็นว่าเราสองคนต่างเป็นฝ่ายอดทนในกันและกัน เฮียเคยหมดความอดทนไปสองสามครั้ง มีครั้งนึงเฮียย้ายลงมานอนที่พื้นผมตื่นมาไม่เจอเฮียมันก็กระวนกระวายหันไปเห็นเฮียนอนอยู่ที่พื้นก็สงสารจับใจรีบตอบแทนด้วยการลงมานอนข้างๆ ให้มันเท่าเทียมกันทั้งสองคนไม่ต้องเล่าต่อว่าผมโดนอะไร อีกสองครั้งก็คือเฮียเล่นขนทุกอย่างพาตัวเองย้ายไปนอนห้องอื่นซึ่งมันทำร้ายจิตใจผมมากนอนไม่หลับเพราะอึดอัดกับพื้นที่บนเตียงมันกว้างมากเกินไป อ้างว้างขาดที่ยึดเหนี่ยวทางใจจนนอนไม่หลับสุดท้ายก็หอบหมอนตามไปเคาะห้องเฮียทำตัวเป็นเด็กน่าสงสารเลยไปจนระรานขอนอนข้างๆ เฮียจนได้ หลังจากนั้นเฮียก็ไม่ย้ายไปนอนห้องไหนอีกรู้แล้วล่ะว่าไม่มีทางหนีผมพ้น ผมไม่ได้ติดแค่เฮียหรอกนะ มันมาจากการที่ผมไม่เคยนอนคนเดียวเลยตั้งแต่จำความได้จนโตมาได้ทุกวันนี้คนอื่นพอเริ่มโตเป็นหนุ่มก็คงชอบความเป็นส่วนตัวแต่ผมยังชินกับการนอนจับนมแม่ใหญ่อยู่เลยครับพอมีเมียก็เปลี่ยนมานอนจับนมเมียแทนที่ใครๆ ชมว่าผมรักเมียเมาแค่ไหนก็จะกลับไปนอนบ้านมันเป็นเพราะเหตุผลนี้แหล่ะแต่ตอนนี้ไม่มีเมียมีแต่เฮียจะขอจับนมเฮียทดแทนก็ไม่ได้ เพราะเฮียใจร้ายไม่ยอมให้จับ! ... กลับมาโฟกัสที่สายตาเฮียเมื่อกี้ดีกว่า หรือว่า… ทฤษฎีอาจารย์อิฐนี่มันจะใช้ได้ครับ ขนาดยังไม่ได้เริ่มอะไรเท่าไหร่เลยนะแค่ลดความกวนตีนลงมาเท่านั้นแล้วก็เชื่อฟังคำสั่งเฮียมากขึ้น หึหึ… หัวเราะคนเดียวเมื่อนึกไปถึงวันที่มันสำเร็จไอ้ต้าวคนแก่เสร็จผมแค่คิดยังมีความสุขเลยครับ มองความหล่อตัวเองในกระจกแล้วก็คว้ามือถือเดินออกไปจากห้องเดินลงมาชั้นล่างเห็นเฮียนั่งกินกาแฟอยู่ที่โต๊ะกินข้าวผมก็เดินเข้าครัวไปชงโอวัลตินมานั่งกินเป็นเพื่อนเฮีย ครืด… ลากเก้าอี้ออกและนั่งลง “อะไร?” เฮียหันมาถามผมทันที “แล้วอะไรล่ะที่เฮียว่า?” “มึงมานั่งเบียดกูทำไม?” อ่า…เข้าใจๆ ผมนั่งชิดติดเฮียเลยไงอึดอัดใช่มั้ยล่ะ สองมาตรฐานนะที่ให้ผมนอนก่ายขาเฮียล่ะนอนได้แต่พอมานั่งใกล้กลับไม่ได้ซะงั้น ระแวงอะไรขนาดนั้นวะเฮียผมไม่ทำไรเฮียสักหน่อย “เขยิบ เขยิบ เขยิบ เขยิบเข้ามาซิ…ไหนร้องให้ฟังหน่อยดิ๊เฮีย” ไม่ตอบตรงคำถามแต่เปลี่ยนเป็นการร้องเพลงให้เฮียฟัง “จะกวนตีนแต่เช้าเลยใช่มั้ย?” “กวนตีนไหนเฮียไม่ร้องไม่เป็นไรเดี๋ยวผมร้องให้ฟัง…เขยิบ เขยิบ ขะ…” “พอ! กูขอล่ะ” “เฮียอยากขออะไรล่ะผมจะให้แต่ไม่เอาแบบให้ผมเลิกอยู่ใกล้ๆ เลิกสนใจเลิกวุ่นวายกับเฮียนะอันนี้ทำให้ไม่ได้” “ยังนะมึงนี่…” “เอ้า…ขอดิเฮียผมให้จริงๆ นะ” “มึงจะมาให้อะไรกู” “ไอ้ที่ให้ไปแล้วแต่เฮียไม่รู้ก็มีนะ…” อมยิ้มเล็กๆ แล้วเลี่ยงประเด็นด้วยการจิบโอวัลตินแก้เขิน จีบเฮียแบบละมุนหอมหวานดั่งรสชาติและควันที่ฟุ้งกลิ่นหอมจางๆ ผสมระหว่างกลิ่นโอวัลตินในมือผมและกลิ่นกาแฟจากแก้วในมือเฮีย หวานมากนะ… จิบเครื่องดื่มแล้วแอบสบตากันไปมาเนี่ยขนาดใส่น้ำตาลไปนิดเดียวนะ “ไอ้ดิม…” เฮียวางแก้วกาแฟใช้น้ำเสียงที่กลับมามีความจริงจัง “อะไร…ผม…หมายถึงค่าไฟเดือนนี้น่ะผมจ่ายไปแล้วนะเฮียไม่รู้ใช่ป่ะ” เลี่ยงประเด็นอีกแล้วครับจะเบี่ยงไปเรื่อยๆ จนกว่าเฮียเริ่มที่จะไม่ต่อต้านจะแอบหยอดหวานๆ แบบนี้ทุกวันจะทำตัวให้อบอุ่นร้อนแรงดั่งพระอาทิตย์ “เท่าไหร่วะเอาตังไป” เฮียเอียงตัวเข้ามาใกล้เพื่อล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง หอมจัง… หมายถึงกลิ่นน้ำหอมหรือไม่ก็กลิ่นโรออนที่เฮียใช้น่ะมันทำให้ผมอยากจะเอียงตัวเข้าไปหาเฮียบ้าง สติ! ไอ้ดิมมึงต้องมีสติ! หยิกแขนตัวเองหนึ่งทีแล้วเอียงตัวหนีเฮียพร้อมกับเอาอีกมือจับแขนห้ามเฮียไว้ “ผมจ่ายได้ครั้งนี้ให้ผมจ่ายบ้างเหอะอยู่ฟรีกินฟรีจนตังล้นบัญชีแล้วเนี่ย” แกล้งบ่น “ก็ดีแล้วมีตังก็เก็บไว้เรื่องแต่งรถมอไซค์เบาได้ก็เบา” เฮียได้จังหวะบ่นสอน “ให้ผมเก็บตังเอาไว้แต่งเมียใช่ป่ะ…จะเรียกสินสอดแพงมั้ยน๊าเมียในอนาคตช่วยมาตอบที” ถามลอยๆ แล้วก็ยกแก้วขึ้นมาจิบแก้เขินอีกครั้งไม่กล้ามองเฮียว่ากำลังทำหน้าแบบไหน “สายแล้ว…ไปบ้านนายใหญ่ได้แล้วมึงอ่ะ” เฮียไล่ผมก็หันไปมองนาฬิกาจากบ้านเฮียโตบิดมอไซค์ไปบ้านนายใหญ่ก็ใช้เวลาประมาณพอควร “เฮียไปด้วยกันดิ” “วันนี้ไอ้ตี๋เข้าบริษัทกูไม่ต้องรีบ” “ก็รู้…แต่ยังไงวันนี้เฮียก็ต้องไปดูแลไอ้อิฐกับคุณหนูชิวเยว่อยู่ดีอ่ะไปด้วยกันนะจะได้ประหยัดเวลาประหยัดน้ำมัน” “หาเหคุผลเก่งจังนะมึง” “พูดจริงไม่ได้คิดอะไรทะลึ่งเลยนะ” เดินไปคว้ากุญแจหันมาจ้องเฮียแบบกดดันให้ลุกตามผมมาซะดีๆ เฮียยังนั่งเฉยผมเลยเข้าไปฉุดแขนเฮียให้ลุกขึ้นผลักให้เฮียออกเดินนำหน้าจัดแจงล็อคบ้านให้เรียบร้อยแล้วส่งหมวกกันน็อคใบใหม่ที่ใช้อยู่มาให้เฮียใส่ส่วนผมก็เดินย้อนไปหยิบใบเก่า “ใส่เป็นมั้ยต้องให้ช่วยใส่หรือเปล่า?” “ไม่ต้อง” “เฮียเคยนั่งมอไซค์ป่ะ?” “เคย กูไม่ใช่ลูกคนมีตังนะที่เห็นสบายตอนนี้น่ะผมทำงาน” “งั้น…แปลว่าเฮียใช้ชีวิตบ้านๆ ได้พร้อมจะอยู่กลางดินกินกลางทรายแล้วใช่ป่ะ” “เพื่อ?” “เอ่อ…ผมหมายถึงถ้าเฮียได้แฟนที่ฐานะด้อยกว่าจนกว่าเฮียจะทำไง?” “กูก็ต้องทำงานเลี้ยงแฟนไง” “จริงอ่ะสบายแล้วกู…” “มึงว่าไงนะ?” “เปล่าครับเปล่าคุยกับตัวเองเฉยๆ” “พูดมากจังวะเดี๋ยวก็สายไปส่งนายน้อยไม่ทัน” “อ่าๆ ไปเดี๋ยวนี้ครับ” ขยับคร่อมรถมอไซค์คู่ใจทันที คะนองเดชลูกพ่อ…ทักทายแม่ใหม่สิครับวันนี้ห้ามเกเรให้พ่อเสียหน้านะบอกไว้ก่อน เสียบกุญแจกดปุ่มสตาร์ทหันไปมองคนซ้อนที่ยังไม่ขึ้นมา “ไหนว่าเดี๋ยวผมไปส่งนายน้อยไม่ทัน?” ย้อนถามเฮียที่ยังทำหน้าไม่มั่นใจ กลัวไรหรือว่ากลัวว่าคะนองเดชของผมมันจะพาไปไม่ถึง “รู้จักกันไว้ดิเฮียนี่คะนองเดชลูกชายผม” “มึงตั้งชื่อให้มอไซค์ด้วยเหรอวะ” “ไมอ่ะมอไซค์ไอ้อิฐยังชื่อสุดหล่อเลยนะเฮียจะดูป่ะผมมีหลักฐาน” “พอๆ รีบไป” เฮียเดินมานั่งคร่อมซ้อนท้ายอย่างเร็ว “ไมนั่งซะห่างล่ะเฮียขยับมาน้ำหนักมันถ่วงหลังนะ” เอี้ยวตัวหันไปมองเพราะเห็นจากในกระจกมองข้างว่าเฮียนั่งซะห่างแบบเอาเด็กนั่งคั่นกลางได้คนนึงอ่ะ นี่ใช่มั้ยที่เฮียลังเลไม่ยอมขึ้นมาไม่อยากนั่งเบียดผมสินะอย่างนี้มันน่าแกล้งใช่มั้ยล่ะ “เร็วๆ ดิเฮียขยับมาวันนี้จะได้ออกจากบ้านป่ะเนี่ยรังเกียจผมรึไง” “เออ!” เฮียขยับเข้ามาอีกนิดคำว่าเออของเฮียคงแปลว่ารังเกียจผมแหล่ะ “ไม่ตลกดิขยับมาอีกหรือต้องให้ร้องเพลงเดิมให้ฟัง? ... เขยิบ เขยิบเข้ามาซิ…เฮียจะฟังอีกกี่รอบอ่ะเห็นผมเสียงดีนี่ให้ร้องบ่อยเชียวนะ” “…” เฮียไม่พูดถอนใจใส่อย่างหงุดหงิดแล้วขยับมาใกล้เท่านั้นยังไม่พอเอามือมาจับเสื้อผมไว้อีกต่างหาก ประชดแหล่ะดูออก “ถ้าจะประชดมันก็ต้องจับเอวป่ะ?” “พูดมากจังวะรีบไป!” เฮียตบหมวกกันน็อคผมเจ็บมือมั้ยล่ะ “รถมันแรงจับให้ดีๆ นะเฮีย” “ถ้ามึงยังพูดอีกคำกูจะลง” เสียงอันทรงอำนาจทำให้ผมรีบพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟังหันกลับไปมองทางตบชิวหน้าแบบตัดแสงของหมวกกันน็อคลงมากำมือบิดรถมอไซค์ออกจากบ้านแทบจะทันที ได้เท่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้วครับคะนองเดชลูกพ่อคงดีใจมากๆ กับว่าที่แม่ใหม่ทำความรู้จักคุ้นเคยกันไว้นะถ้าลูกชอบพ่อจะพาแม่เขามานั่งซ้อนบ่อยๆ เช้านี้อากาศดีจังวุ้ย! ... ยิ้มเป็นบ้าอยู่ในหมวกกันน็อคคนเดียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม