ตอนที่ 2 ข่าวดีหรือร้าย
“หวานท้อง!! แน่ใจนะ หวานไปตรวจที่ไหนมาครับ” คามินรู้สึกตกใจไม่หาย สีหน้าของเขาไม่ได้มีความดีใจ
“พี่ดีใจไหมคะ หวานกำลังมีเบบี๋ค่ะ เบบี๋ตัวน้อยอยู่ในนี่ หมอบอกว่าได้หนึ่งเดือนแล้วนะคะ พรุ่งนี้หวานจะไปฝากครรภ์พี่มินว่า”
“เดี๋ยวก่อนหวาน! คือ...ตอนนี้พี่...พี่ขอเวลาคิดหน่อยได้ไหม” คามินดึงมือที่แป้งหวานกุมอยู่ออกก่อนที่เขาจะใช้มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปที่เรือนผมดกดำ
“พี่มินไม่ดีใจเหรอคะ” รอยยิ้มแห่งความดีใจของเธอหายไปเมื่อมองเห็นสีหน้าของแฟนหนุ่ม
“เป็นไปได้ยังไง พี่ป้องกันตลอดหวานจะท้องได้ยังไงไม่มีทางหรอก” คามินจ้องมองแฟนสาว เขาไม่ได้ปัดความรับผิดชอบแต่เป็นความสงสัยของตัวเอง มีความสัมพันธ์ทุกครั้งเขาป้องกันตลอด
“หวานไม่เคยมีอะไรกับใครเลยนะคะ จริง ๆ นะคะ” เธอเขย่าแขนของเขา คามินปัดมือของเธอออก “พี่มิน พี่ไม่เชื่อใจหวานเหรอคะ”
“ไม่ใช่แบบนั้น พี่คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าหวานท้องได้ยังไง พวกเราป้องกันดีมากนะหวานเปอร์เซ็นต์ที่หวานจะท้องเป็นศูนย์เลยนะ ไม่มีทางหรอกหมอต้องตรวจผิดแน่ พรุ่งนี้ไปตรวจใหม่อีกรอบให้แน่ใจ”
“ไม่ค่ะ วันนี้หวานตรวจทุกอย่างละเอียดหมดแล้วค่ะ หมอไม่มีทางตรวจพลาดหรอกค่ะ พี่มินบอกหวานมาเลยดีกว่าค่ะว่าจะทำยังไงกับลูกของเรา” แป้งหวานไม่เคยมีสีหน้าจริงจังแบบนี้มาก่อน ทำให้คามินที่นั่งอยู่ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ
“พี่ขอคิดดูก่อน ช่วงนี้งานพี่เยอะมากหวานก็รู้ว่าเวลาของเราแทบไม่ตรงกันเลย อีกอย่าง...วันนี้พี่มีเรื่องดี ๆ มาบอกหวานด้วยนะ...พี่ได้เป็นนายแบบโกอินเตอร์แล้วนะ สัญญาสองปี”
“ดีใจด้วยนะคะ นี่เป็นเหตุผลที่พี่มินลังเลใจหรือเปล่าคะ ถ้าวันนี้หวานไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดจากพี่ หวานจะคิดว่าพี่ไม่ต้องการหวานกับลูกนะคะ”
“หวาน...” คามินรับรู้ได้ถึงความกดดันจากน้ำเสียงของเธอ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักเธอ เขารักเธอมากแต่เขาก็อยากมีอนาคตที่ดีขึ้นเพื่อที่จะได้ดูแลเธอให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้
“ตอบหวานมาค่ะ” เธอใช้น้ำเสียงเรียบกดดันให้เขาตอบคำถามอีกครั้ง
“พี่ว่า...” คามินกำลังตอบคำถามที่ไม่แน่ใจของตัวเอง เสียงโทรศัพท์จากผู้จัดการของเขาก็ดังขึ้น “พี่ขอรับโทรศัพท์ก่อน” เขากดรับโทรศัพท์คุยอยู่ไม่นานก่อนวางสาย
“เรื่องด่วนเหรอคะ”
“ใช่ เรื่องด่วน เรื่องที่หวานถามพี่ พี่ว่า...ตอนนี้พี่ยังไม่พร้อมเอาไว้เราพร้อมแล้วเราค่อยมีดีไหมหวาน” คามินคว้ามือของเธอขึ้นมากุมเอาไว้ “พี่ทำทุกอย่างเพื่อนหวานนะครับ”
“......” แป้งหวานน้ำตารินไหล สิ่งที่เธอคาดการณ์เอาไว้ได้พังลงไปหมดแล้ว เธอคิดน้อยไปคิดว่าเขานั้นจะดีใจเหมือนที่เธอดีใจออกนอกหน้า หญิงสาวดึงมือคืนกลับ ก่อนยกมันขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเอง
“ไม่ร้องนะคนดี พี่ขอโทษที่ให้ลูกของเราเกิดมาไม่ได้ พี่ขอโทษ” คามินดึงเธอเข้ามาสวมกอด
“ถ้าหวานอยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้ พี่จะว่ายังไงคะ” ทั้งสองจ้องมองตากัน ช่างเป็นคำถามที่ยากที่จะตอบสำหรับคามิน “หวานอยากเก็บเขาเอาไว้ค่ะ หวานจะเลี้ยงดูเขาเองพี่ไม่ต้องเป็นห่วง พี่สามารถไปทำงานที่พี่รักได้”
“หวานจะเก็บเด็กเอาไว้เหรอ การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งไม่ได้ง่ายเลยนะ พี่ไม่เห็นด้วยหวานเอาเด็กออกเถอะ มันอาจเป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัว แต่พี่...ยังไม่อยากมีลูกตอนนี้”
สิ้นเสียงของคามินภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบก่อนที่เสียงร้องไห้ของแป้งหวานจะตามมา ชายหนุ่มรู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้าเสียใจมากแค่ไหน แต่เขายังไม่พร้อมที่จะกลายเป็นพ่อคนในเวลานี้ ฐานะทางการเงินของเขาพึ่งดีขึ้นไม่เหมือนกับแป้งหวานที่เป็นดารามาตั้งแต่เด็กเธอจึงมีเงินเก็บมากมาย คงไม่ได้นึกถึงอนาคตที่ต้องลำบากเรื่องเงินทอง
ในเวลานี้เขากำลังมีอนาคตที่ก้าวไกลได้เซ็นสัญญากับเอเจนซี่ของต่างประเทศ ชีวิตของเขากำลังไปได้ดีไม่อยากมีเรื่องให้มาดึงรั้งให้เขาได้ทิ้งความฝันไป อาจบอกว่าเขาเห็นแก่ตัว ใช่! เขาเห็นแก่ตัวแต่ความเห็นแก่ตัวของเขาก็หวังอยากมีอนาคตที่ดีกับเธอด้วยเช่นกัน คามินอยากเดินขึ้นไปยืนอยู่เคียงข้างแป้งหวานอยากเป็นผู้ชายที่คู่ควรกับเธอ ไม่อยากให้ใครพูดว่าเขากำลังเกาะเธอกิน
ด้วยพื้นฐานชีวิตที่ไม่ได้ร่ำรวยปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เด็กของคามิน ในชีวิตนี้เขาไม่เหลือใครแล้วเมื่อมีแป้งหวานเข้ามาในชีวิตเธอก็กลายมาเป็นอีกครึ่งชีวิตของเขา หวังว่าเธอจะเข้าใจเหตุผลที่ไม่ต้องพูดคนที่เป็นดาราคงเข้าใจดีกว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก
“หวานเข้าใจพี่นะครับ นะหวาน” เขายังคงดึงเธอเข้ามาสวมกอด “วันนี้เราพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้เดี๋ยวพี่พาหวานไปทำเรื่องทุกอย่างเอง”
“ค่ะ” สุดท้ายเธอก็ยอมคล้อยตามเขา เมื่อคิดถึงมุมมองของคามินเธอไม่ควรเห็นแก่ตัวสินะ! เพราะเรื่องลูกเป็นเรื่องของคนสองคน หากยังเก็บเด็กเอาไว้เธอกับเขาก็คงได้ทะเลาะกัน
“ไปกินข้าวกัน” ความอ่อนโยนของคามินยังคงไม่หายไป เขายังคงดูแลเอาใจใส่จัดแจงอาหารตั้งโต๊ะแล้วจับป้อนให้เธออย่างเอาใจ
“เรื่องงานเป็นยังไงบ้างคะ พี่ต้องไปอยู่ต่างประเทศเลยหรือเปล่าคะ”
“ก็คงไป ๆ มา ๆ หวานไม่ต้องห่วงพี่จะโทรหาหวานทุกวัน ถ้าหวานว่างก็ไปหาพี่ได้ พี่ว่างก็จะรีบบินกลับมาหาหวานดีไหม” คามินยิ้มรู้ว่าเรื่องที่หนักใจยังคงอยู่แต่เขาไม่อยากแสดงมันออกมาให้เธอต้องวุ่นวายใจ
“พี่คิดอีกทีดีไหมคะ”
“หวานครับ พี่คิดดีแล้ว นี่เป็นทางออกที่ดีของเราในตอนนี้นะครับ อีกอย่างเราสองคนยังไม่ได้เปิดตัวกันออกสื่อ ลำพังพี่ไม่เท่าไหร่แต่หวานสิคนอื่นจะมองยังไง”
“หวานไม่สนใจหรอกค่ะ ใครจะคิดยังไงก็ช่างแค่เพียงพี่เข้าใจหวานก็พอ หวานขอนอนคิดอีกคืนนะคะ” แป้งหวานวางช้อนในมือลงทั้งที่ตักอาหารทานไปได้ไม่กี่คำ
“ทานน้อยเกินไปหรือเปล่าหรืออาหารไม่อร่อย” เขาถามก่อนเลื่อนแก้วน้ำเปล่าไปให้เธอ หากมองดูจานอาหารของเขาก็ยังคงเหลืออยู่เกินครึ่งไม่ต่างกัน
“หวานอยากพักแล้วค่ะ หวานฝากพี่เก็บโต๊ะด้วยนะคะ” หญิงสาวเดินตรงมาที่ห้องนอนก่อนเตรียมตัวอาบน้ำ เพราะคามินคงอยากใช้ห้องอาบน้ำต่อจากเธอ
คอนโดใหญ่ใจกลางเมืองเป็นห้องของแป้งหวานที่ซื้อด้วยเงินสดเมื่อหลายปีก่อน ทั้งชั้นมีเพียงห้องเดียวเท่านั้น คามินชอบมาที่นี้ทุกครั้ง เมื่อเขาว่างจากการทำงานหรือแค่ได้มาเห็นหน้าของเธอเขาก็จะมาเพียงให้หายคิดถึง
หญิงสาวเดินขยี้ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ในเวลานี้คามินน่าจะทำทุกอย่างข้างนอกเสร็จแล้วเธอจึงเดินออกมาตามแฟนหนุ่ม ได้ยินเพียงเสียงพูดคุยที่ดังอยู่ที่ห้องรับแขก แสงไฟในห้องสลัวเพราะเปิดทิ้งเอาไว้เพียงโคมไฟมุมห้องแต่ก็ยังคงสว่างมองทุกอย่างภายในห้องได้ชัดเจน
“พี่ว่าอะไรนะครับ ผมไม่ได้อยากเก็บเด็กเอาไว้ อีกอย่างผมก็ไม่รู้ว่าลูกผมจริง ๆ หรือเปล่า” เสียงของคามินกำลังพูดคุยอยู่กับใครบางคนดังเข้าหูของแป้งหวานที่ยืนอยู่มุมหนึ่งของห้อง
“ผมไม่เอาเด็กไว้หรอก ตอนนี้ผมกำลังจะดังนะพี่ ไม่อยากให้มาเสียเวลาเพราะเรื่องเด็กที่อยู่ ๆ ก็เกิดขึ้นมา หวานอยากเก็บเด็กเอาไว้แต่ผมไม่เก็บเด็กเอาไว้แน่นอน” คามินยังคงพูดคุยโทรศัพท์ต่อ จนกระทั่งเขาได้มองเห็นแป้งหวานจึงได้วางสาย
“หวานมาตั้งแต่เมื่อไหร่มาตามพี่ไปอาบน้ำใช่ไหมครับ” เขากำลังเดินเข้ามาสวมกอด
“พี่มิน...พี่ไม่เชื่อใจหวานใช่ไหมว่าเด็กคนนี้เป็นลูกพี่” เธอจ้องมองเขาแล้วถอยห่าง “หวานได้ยินที่พี่พูดทั้งหมดแล้ว ถ้าหวานกับลูกกลายเป็นตัวถ่วงพี่ก็ไปเถอะค่ะ”
“หวานจะให้พี่ไปไหนครับ พี่ขอโทษหวาน...” เขาพยายามง้อเธอแต่กลับได้เพียงความเฉยชาจากใบหน้าสวย
“ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวหวานจัดการทุกอย่างเองค่ะ เราจบกันแค่นี้เถอะค่ะ พี่ออกไปจากห้องได้แล้วค่ะ” แป้งหวานเดินมาเปิดประตูห้องพัก “ไปสิคะ”
“หวานครับ พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นนะ หวาน!!”