ตอนที่ 3 ต้องทำยังไง
เสียงเคาะประตูห้องยังคงดังขึ้นอยู่นานคามินที่อยู่ด้านนอกกำลังร้อนรนใจ แต่เจ้าของห้องกลับไม่สนใจปล่อยให้เขาเคาะประตูห้อง ตัวเองนั้นกลับเข้ามาในห้องนอนร้องไห้สุดแรงที่มีพร้อมกับลูบท้องของตัวเองไปพลาง
“พ่อไม่ต้องการหนู แต่แม่ต้องการหนูนะลูก ฮือ ๆๆ” แป้งหวานร่ำไห้เจ็บปวดหัวใจกับคำพูดที่ได้ยินจากปากของคามิน พยายามเข้าใจเขา แต่ก็ยังคงรู้สึกผิดต่อลูกในท้องความคาดหวังในตอนแรกนั้นกำลังทำให้เธอเจ็บปวดใจที่ไม่ได้เห็นสีหน้ายินดีของคามิน
เขาไม่รู้สึกผิดบ้างหรือ...ไม่รู้สึกเห็นใจคนเป็นแม่เช่นเธอ ไม่รู้สึกดีใจที่อีกหนึ่งชีวิตจะเกิดมา เป็นคำถามที่ดังอยู่ภายในใจของเธอ
วันรุ่งเช้าอาการแพ้ท้องของแป้งหวานรู้สึกดีขึ้นมาก เมื่อคืนเธอแทบไม่ได้นอนเพราะเอาแต่คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ดาริกาที่กำลังทำหน้าที่คนขับรถให้ในวันนี้ได้แต่หันมองมาทางเธอ
“ไม่สบายดีขึ้นหรือยัง แล้วตกลงจะเอายังไงกับเรื่องนี้”
“เอาไว้เสร็จงานวันนี้ค่อยคุยกันค่ะ” ว่าแล้วเธอก็หันหน้าออกนอกกระจก
“มินโทรมาหาพี่แล้ว เขาบอกว่าต้องเดินทางไปต่างประเทศเมื่อคืนนี้ ให้หวานรับโทรศัพท์เขาหน่อย” ถึงแม้แป้งหวานไม่ได้บอกอะไรแต่ดาริกาก็สามารถเดาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้
“พี่ดาแวะซื้อมะม่วงตรงหน้าปากทางให้หวานหน่อยนะคะ” เธอเปลี่ยนเรื่องคุยในทันที “หวานหาข้อมูลมาว่าของเปรี้ยวสามารถลดอาการแพ้ท้องได้ ช่วงนี้คงลำบากพี่ดามากหน่อยหวานขอโทษด้วยนะคะ”
“เดี๋ยวพี่ลงไปซื้อให้ เอาอะไรอีกไหม” ดาริกาพูดแล้วหันมายิ้ม ไม่อยากทำสีหน้าเคร่งเครียดใส่เธอแค่นี้แป้งหวานคงกังวลใจมากพอแล้ว
“ขอบคุณนะคะ” เธอหันไปส่งยิ้มมันอาจเป็นยิ้มที่ฝืนใจ แต่ก็ไม่อยากทำให้ผู้จัดการสาวเป็นห่วง
หญิงสาวมีถ่ายละครทั้งวันแต่โชคดีที่วันนี้มีถ่ายแต่ฉากในร่ม ทำให้ดาริกาค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อยจะได้ทำให้แป้งหวานทำงานได้สะดวก ถึงจะมีอาการเวียนศีรษะอยู่บ้าง
“อุ๊ยตายแล้ว! น้องหวานหน้าซีดมากเลยนะคะ” ช่างแต่งหน้าเอ่ยขึ้น “เหงื่อออกขนาดนี้พี่ว่าไปล้างหน้าแล้วนอนพักสักหน่อย ดีกว่าไหมคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ กว่าจะแต่งหน้าอีกคงใช้เวลานาน” เธอไม่ยอมไปล้างหน้าล้างตาทำเพียงนำผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อ “พี่ดา” แป้งหวานหันไปทางดาริกาที่กำลังอ่านบทอยู่ที่เก้าอี้
“มีอะไร? เอาน้ำหน่อยไหม” เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูไม่ดีของแป้งหวาน ดาริกาจึงลุกขึ้นเดินมาวัดอุณหภูมิของร่างกาย “มีไข้นะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อยาให้”
“อยากกินน้ำมะนาว” เธอกระซิบบอกเสียงเบา
“ได้ เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้ด้วย จะกินข้าวกล่องที่กองหรือจะให้พี่ซื้อมาให้ใหม่” เธอมองนาฬิกาที่ข้อมืออีกไม่นานก็จะเที่ยงวันแล้ว
“พี่ดาอยากทานอะไรก็ซื้อมาเลยค่ะ หวานขอสลัดผักกับแซลมอนย่างร้านนั้นก็ได้ค่ะ อย่าลืมน้ำมะนาวนะคะ” เธอทิ้งตัวลงนั่งแล้วยิ้ม
เมื่อดาริกาเดินออกจากเต็นท์พักไป ด้านในก็เหลือเพียงเธอแค่คนเดียวเท่านั้น แป้งหวานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความของคามินแต่ไม่ตอบกลับ ข้อความที่ส่งมามีเพียงคำขอโทษเพียงเท่านั้น
อาการเจ็บในอกทำให้น้ำตาของเธอรินไหลอีกครั้ง พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้เพราะกลัวว่าใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางไว้นั้นจะพังเสียหมด สุดท้ายเธอก็พ่ายแพ้ให้กับน้ำตาเจ้ากรรมที่ยิ่งพยายามหยุดมันกลับยิ่งไหลไม่ยอมหยุด
แป้งหวานฝืนทำตัวปกติจนงานแล้วเสร็จในช่วงหกโมงเย็น ดาริกาจึงพาเธอมาส่งที่คอนโดพร้อมกับเดินขึ้นมาที่ห้องเพราะดาราสาวชวนขึ้นมาพูดคุยกันถึงเรื่องที่พูดค้างเอาไว้ในตอนเช้า
“หวานอยากขายห้องนี้ค่ะ” เธอยังไม่ทันวางกระเป๋าในมือลงก็เอ่ยสิ่งที่นอนคิดทั้งคืนออกมา
“อะไรนะ!! จะขาย!” ดาริกาหันมาทางเจ้าของห้องในทันที “พูดมาให้หมด เมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้น”
“หวานคิดผิดค่ะ” เธอหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟา วางกระเป๋าแบรนด์เนมในมือลงเหมือนหมดเรี่ยวแรง “คิดว่าจะได้เห็นใบหน้าดีใจของพี่มิน แต่พี่ดารู้ไหมพี่เขาไม่ได้ดีใจเลย เขาบอกให้...บอกให้...ฮือๆๆๆๆ”
แป้งหวานปิดใบหน้าร้องไห้ออกมาร่างบอบบางสั่นเทาความเจ็บจุกในอกกำลังทำให้เธอเหมือนคนที่จมลงไปใต้สระน้ำลึก หากแต่ขาดอากาศหายใจไปในตอนนี้มันคงดีมากกว่ารับรู้ทุกอย่าง
“ไม่เป็นไรนะ ทุกคนมีเหตุผล พี่อยากให้หวานตัดสินใจด้วยเหตุผลเหมือนกัน” ดาริกาสวมกอดปลอบด้วยความสงสาร ไม่คาดคิดว่าคามินจะทำให้แป้งหวานร้องไห้หนักมากขนาดนี้เพราะตั้งแต่ที่คบกันมาทั้งสองไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง
“พี่มินบอกว่ายังไม่พร้อมค่ะ เขาอยากให้หวานเอาลูกออก พี่ดา...ฮือๆๆ หวานต้องทำยังไงดีคะ ฮือๆๆๆ” เสียงร่ำไห้ปานใจจะขาดของเธอ ทำให้ดาริกาอดเวทนาไม่ได้
“ทุกอย่างมีทางออกนะ หวานต้องคิดให้มากคำตอบของเขาเป็นแบบนั้นแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับหวานแล้วว่าจะทำยังไง พี่เคารพทุกการตัดสินใจของหวานไม่ว่าหวานจะเอาเด็กไว้หรือเปล่า พี่ก็จะอยู่กับหวานพี่ไม่ทิ้งหวานหรอก”
“พี่มินเขาไม่ยอมรับว่าเด็กเป็นลูกเขาค่ะ เขาไม่ยอมรับเด็กคนนี้หวานได้ยินเขาคุยโทรศัพท์” หญิงสาวปาดน้ำตาจ้องมองใบหน้าของผู้จัดการ “ตอนที่เขาคุยกับหวานเขายังเชื่อใจหวานอยู่เลย พอลับหลังเขาบอกว่าเด็กไม่ใช่ลูกของเขาค่ะ”
“ไอ้บ้านั้น มันพูดแบบนั้นเหรอ!” ดาริกาได้ยินถึงกับโกรธแทนเธอ “หน้าตัวเมีย ทำแล้วไม่รับผิดชอบ”
“พี่ดา หวานนอนคิดมาทั้งคืนแล้วค่ะ หวานอยากขายห้องนี้ พี่ดาช่วยหาคนมารับซื้อข้าวของพวกนี้ต่อได้ไหมคะ เดี๋ยวหวานจะแยกของเอาไว้ให้ว่าอันไหนจะขายบ้าง”
“ตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม แล้วจะให้พี่ไปดูที่อยู่ตรงไหนให้ พี่ว่าแถว ๆ บ้านพี่ก็ดีเหมือนกันนะพี่จะได้ไปรับหวานได้เร็วขึ้นด้วย มีหมู่บ้านจัดสรรเปิดใหม่หวานเห็นไหมก่อนถึงซอยบ้านพี่ ตอนนี้ทำเสร็จแล้วกระเป๋าใบเดียวก็พร้อมอยู่เลย”
“หวานยังไม่คิดเรื่องที่อยู่ใหม่เลยค่ะ คืนนี้หวานว่าจะเอาแค่ของที่อยากเอาไปด้วยนะคะ พรุ่งนี้จะไปพักที่โรงแรมเป็นไปได้หวานไม่อยากให้พี่ดาติดต่อกับพี่มินค่ะ” เธอจ้องมองดาริกาด้วยสายตาที่จริงจัง
“คุยกันอีกครั้งดีไหม ตกลงกันให้เรียบร้อย ที่จริงพี่ก็ไม่ได้เข้าข้างมินหรอกนะ ตอนนี้เขากำลังโกอินเตอร์เรื่องลูกก็คงเป็นปัญหาจริง ๆนั่นแหละนอกเสียจากเขาจะยอมเสียสละ งานที่ไทยก็มีเข้ามาเรื่อย ๆ อาจไม่เป็นที่พอใจของเขาเท่าไหร่ มาคุยกันหาจุดกึ่งกลางดีไหมพี่ไม่อยากให้หวานกับมินเลิกกันไปเพราะสาเหตุนี้”
“หวานพยายามเข้าใจแล้วค่ะ หวานแค่ต้องการเวลาถ้าหวานไม่เอาเด็กคนนี้ไว้ พี่คิดว่าหวานจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เหรอคะ อีกอย่าง...พี่มินเขาไม่เชื่อใจหวานค่ะ หวานไม่อยากคุยอะไรอีกต่อไปแล้ว ข้อความที่เขาส่งมาก็มีแค่คำขอโทษ หวานฟังมามากแล้วค่ะ”
“ถ้าตัดสินใจดีแล้วพี่ก็โอเค แล้วหวานตัดสินใจเรื่องลูกยังไง”
“หวานขอคิดอีกหน่อยนะคะ ถ้าได้คำตอบแล้วหวานจะบอกพี่ดาค่ะ” แป้งหวานน้ำตาคลอ “พี่ดา บางครั้งคำตอบของหวานอาจเห็นแก่ตัวไปบ้าง พี่ดาคงไม่ว่าอะไรหวานนะคะ”
“ไม่หรอก ถ้าหวานบอกว่าจะเก็บเด็กเอาไว้พี่ก็จะช่วยหวานเลี้ยงลูก ถึงแม้จะถูกขุดคุ้ยเรื่องพ่อเด็กก็เถอะนะ แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้มินคงต้องยอมรับผลที่จะตามมาด้วยเหมือนกัน” ดาริกาเอนหลังพิงโซฟา
“คืนนี้พี่ดานอนกับหวานที่นี่ได้ไหมคะ”
“ได้อยู่แล้ว งั้นไปอาบน้ำเข้านอนกันดีไหมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” เธอลุกขึ้นยืนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องว่างอีกห้องที่เป็นห้องประจำที่เคยนอน
แป้งหวานเดินมาเข้ามาในห้องนอน ก่อนหันมองไปทางภาพถ่ายที่ติดเอาไว้ภายในห้องนอน เธอยืนจ้องอยู่นานเพราะภาพนั้นเป็นภาพของเธอและคามินตอนไปเดทกันครั้งแรกที่ต่างประเทศ
“หวานต้องทำยังไงคะ หวานรักพี่มาก แต่หวานก็รักลูกมากเหมือนกัน เขาเกิดจากความรัก หวานไม่อยากปล่อยเข้าไปเลยค่ะ” เธอวางมือลงที่หน้าท้องแบนราบพร้อมกับคราบน้ำตา