ตอนที่ 4
เวลาประมาณบ่ายแก่ๆของวัน ก็มีรถตู้คันสีดำเงาวับขับเข้ามาจอดในบ้าน นั่นทำให้มุจลินท์รู้ทันทีว่า คงจะเป็นรถที่ขับเข้ามารับเธอแน่ๆ พอถึงเวลาที่จะได้ไปจากบ้านหลังนี้จริงๆ เธอก็รู้สึกใจหายอยู่เหมือนกัน บ้านที่เธอเคยอยู่มาตั้งแต่เด็กๆ อาจจะมีสุขบ้างทุกข์บ้าง ถึงความสุขที่เคยมีมันอาจจะน้อยนิดมากก็ตาม
“ลิน...จำคำของลุงไว้นะลูก ความดีของหนูจะชนะทุกสิ่ง จงรักษาความดีเอาไว้ ต่อไปนี้ชีวิตเป็นของลิน จงมีความสุขกับสิ่งที่หนูได้เลือก ลุงขอให้หนูโชคดี” คุณพัฒนารู้ดีว่ามุจลินท์อยู่ที่นี่ไม่ได้มีความสุขเหมือนเด็กสาวทั่วๆไปแล้วคุณพัฒนาก็ไม่รู้อีกว่า อนาคตต่อไปของมุจลินท์จะเป็นยังไง ท่านก็ทำได้แค่อวยพรให้ก็เท่านั้น
“ขอบคุณคุณลุงมากนะคะ”
“ไปเถอะ...ลุงขอให้ลินของลุงโชคดีเจอแต่คนดีๆนะลูก” มุจลินท์ยกมือเรียวเล็กของเธอพนมมือไหว้ผู้เป็นลุงแท้ๆ แล้วออกเดินถือกระเป๋าใบหนึ่งออกไปหารถคันสีดำที่จอดรออยู่ โดยคนขับรถกับพลีสลูกน้องคนสนิทของคิมหันต์ ได้ลงจากรถมารอเพื่อจะเปิดประตูรถให้ เพราะรถที่ขับมารับเป็นรถตู้
“เชิญครับ” มุจลินท์ยอมก้าวขาขึ้นรถไปแต่โดยดี เธอนั่งเงียบๆไป ตลอดทาง กว่าจะถึงที่ออฟฟิศของคิมหันต์ก็เป็นเวลามืดเสียแล้ว เพราะคิมหันต์สั่งลูกน้องไว้ว่า ให้พาเธอมาหาเขาก่อน ก่อนที่จะพากันกลับบ้านเพราะเขาจะต้องตกลงอะไรบางอย่างกับเธอก่อน
“ถึงแล้วเหรอคะ” เมื่อรถตู้จอดสนิทมุจลินท์ก็เอ่ยถามขึ้น เพราะสิ่งที่เธอกังวลกำลังจะเกิดขึ้น สิ่งที่เธอไม่รู้ว่าเจ้าหนี้ของคุณลุงของเธอ จะเอาเธอไปทำอะไร แต่ระหว่างทางที่เดินทางมาถึงที่นี่ เธอก็ได้ทำใจไว้บ้างแล้วแหละ
“ที่นี่เป็นออฟฟิศของลูกพี่ครับ ไม่ใช่บ้านลูกพี่ของพวกเราให้พาคุณมาหาที่นี่ก่อนครับ”
“แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง”
“อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ คุณรออยู่ในรถก่อนก็ได้ ผมขอไปรายงานลูกพี่ก่อน” พลีสรายงานพร้อมกับลงจากรถไปเปิดประตูให้มุจลินท์แล้วพลีสก็เดินเข้าออฟฟิศไปรายงานคิมหันต์ที่เขานั้นกำลังนั่งทำงานรออยู่
“ลูกพี่ครับ ผู้หญิงคนที่ลูกพี่ให้ผมไปรับเธอมาแล้วนะครับ” พลีสเดินเข้าไปรายงาน คิมหันต์ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงยอมมาง่ายจัง
“ฮึ! เธอยอมมาแต่โดยดีเลยเหรอ” คิมหันต์ที่นั่งทำงานอยู่เพลินๆ เงยหน้าขึ้นมาถามลูกน้องอย่างสงสัย เพราะมันง่ายเกินเหตุ จากที่เขาคาดการณ์เอาไว้ ใครมันจะยอมยกลูกสาวให้ง่ายๆ อย่างนั้นวะ แล้วเธอคนนั้นทำไมถึงยอมมากับคนของเขาง่ายจัง
“ครับ เธอก็นั่งมาเงียบๆ ตลอดทางไม่เห็นถามหรือพูดอะไรสักคำ” นั่นยิ่งทำให้คิมหันต์รู้สึกแปลกใจเข้าไปใหญ่ แต่ยอมมาง่ายๆก็ดีเขาจะได้ไม่ต้องออกแรงให้เมื่อย
“อือ...ไปพาเธอเข้ามา” จากนั้นพลีสก็ออกไปเรียกให้มุจลินท์เข้ามาหาผู้เป็นเจ้านาย เธอเดินตามพลีสเข้ามา ด้วยจิตใจกลัวนิดๆ ถึงในใจจะบอกกับตัวเองว่า คงไม่มีที่ไหนที่น่ากลัวเท่ากับบ้านที่เธออยู่อีกแล้ว
“มาแล้วครับลูกพี่” พลีสพามุจลินท์เข้ามาส่ง แล้วก็ปิดประตูให้อย่างรู้งาน มุจลินท์ยืนตัวแข็งทื่อ ถึงเธอจะบอกกับตัวเองว่าไม่ให้กลัวแต่เธอก็กลัวอยู่ดี คิมหันต์ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารกองโต มองหน้ามุจลินท์อย่างพินิจพิจารณา พร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย เพราะเธอคนนี้ดูไม่เหมือนสาวไฮโซเลยสักนิด แถวแววตายังดูตื่นกลัวอีกต่างหาก ใบหน้าจัดว่าสวยถูกใจเขาเลยแหละ ดวงตากลมโตขนตางอนยาวสวย จมูกไม่ได้โด่งมากแต่ก็รับกับใบหน้าได้ดี ริมฝีปากเล็กมองแล้วกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารัก ทรวดทรงองเอวเล็กมาก เธอเป็นคนตัวเล็กอยู่แล้ว แถมยังผอมมากอีกด้วย ผิวขาวแต่ดูหมองคล้ำไปหน่อย ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้เลยสักนิด แต่ก็ไม่เป็นไร ในเมื่อเขาต้องการแค่ผู้หญิงสักคนมาทำหน้าที่แม่ให้กับลูกของเขาเท่านั้น แล้วเธอก็ไม่ได้จัดว่าแย่ ขุนให้อ้วนอีกหน่อยก็น่าจะพาออกหน้าออกตาได้สบาย
“นั่งลงสิ เรามีเรื่องที่จะต้องตกลงกัน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมุจลินท์ถึงกับสะดุ้งนิดๆ เพราะยังรู้สึกประหม่าอยู่ มุจลินท์ค่อยๆเดินเข้ามาแล้วหย่อนสะโพกนั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของคิมหันต์
“สวัสดีค่ะ” มุจลินท์นั่งลงช้าๆ เธอพนมมือขึ้นแล้วเอ่ยสวัสดีเขา พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองเขา...มุจลินท์รู้สึกตกใจกับใบหน้าของเขา ทำไมถึงได้หล่อเหลาขนาดนี้นะ ตอนแรกที่เธอเดินเข้ามา เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ แล้วเธอก็ยืนก้มหน้าอยู่เลยไม่ทันได้มองใบหน้าของเขาชัดๆ แต่ตอนนี้เธอเห็นใบหน้าของเขาชัดแล้ว เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายคนนี้จะอายุน้อยและยังดูดีมากขนาดนี้ อีกอย่างคุณลุงของเธอก็ไม่ได้บอกด้วยว่า เขานั้นอายุเท่าไหร่ ได้แต่บอกว่าเป็นเจ้าหนี้ เธอคิดว่าคนที่มีเงินมากมายขนาดนั้น น่าจะมีอายุมากแล้ว สักห้าสิบถึงหกสิบปีตามที่เธอคิดเอาไว้ แต่ทำไมผู้ชายคนนี้อายุของเขาน่าจะอยู่ที่สามสิบต้นๆ เท่านั้น ซึ่งเธอไม่อยากจะเชื่อเลย
“อือสวัสดี แล้วจะมองอีกนานไหม” เมื่อสายตาของมุจลินท์ที่มองเขาอย่างไม่ปกปิด เธอเผลอมองเขานานเกินไปหน่อย เสียงของเขาทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย
“อ่อ ขอโทษค่ะ”
“เธอชื่ออะไร” คำถามแรกที่คิมหันต์อยากรู้ เพราะเขาแทบจะไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวของเธอเลย เพราะฉะนั้นก่อนที่จะพาเธอเข้าบ้านเขาจะต้องทำความรู้จักกับเธอให้ดีเสียก่อน เพราะถ้าเรื่องนี้คุณแม่ของเขาเกิดรู้เรื่องขึ้นมา มีหวังเขาโดนด่าจนหูชาแน่ๆ ผู้ชายอย่างคิมหันต์ไม่เคยกลัวใคร แต่ยกเว้นผู้หญิงที่เขาเรียกว่าแม่ไว้คนหนึ่ง แล้วเขาก็รักท่านมาก
“ชื่อมุจลินท์ค่ะ” มุจลินท์เลือกที่จะใช้ชื่อและความเป็นตัวตนของเธอทุกอย่าง เพราะคุณลุงของเธอบอกไว้ว่า เธอไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อพี่สาว แล้วเธอก็ไม่ได้อยากใช้ด้วย เธอขอเป็นตัวเองแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะไปในทางทิศไหนที่นี่ดีกว่า
“มุจลินท์...มีชื่อที่เรียกง่ายๆกว่านี้ไหม” ตอนแรกคิมหันต์ก็ไม่ได้คิดที่จะพูดดีๆกับเธอคนนี้หรอก แต่แววตาอันแสนเศร้าของเธอนั้นทำให้เขารู้สึกสงสาร หรือจะเป็นเงินสิบล้านบาท ที่พ่อของเธอเป็นหนี้ เธอเลยเจียมตัวขนาดนี้ ที่จริงเขาคิดไว้ว่าคุณหนูไฮโซแบบนั้น น่าจะพยศกับข้อเสนอของเขามากกว่ามานั่งเจียมเนื้อเจียมตัวแบบนี้
“เรียนลินเฉยๆ ก็ได้ค่ะ” คิมหันต์พยักหน้า ลินคงเป็นชื่อเล่นของเธอสินะ