บท 2

1177 คำ
            “เท็น ลี… ตอนนี้มันดึกแล้วนะ”             “ดึกอะไรกัน เพิ่งจะสองทุ่มแท้ ๆ”                 “….”                 “อ้าว! หลบไปสิ ข้างนอกหนาวจะแย่” เท็นไม่ว่าเปล่า แต่ยังพยายามแทรกกายเข้าไปด้านในห้องของลินด้วย หลังสภาพอากาศข้างนอกมันเลวร้ายเกินกว่าที่เขาจะยืนคุยกับอีกคนที่ด้านหน้าห้องเฉย ๆ                 “คืนนี้เราจะดูหนังเรื่องอะไรดี?” ขณะที่กำลังถอดเสื้อกันหนาวชั้นนอกออก เท็นก็เอ่ยถามลินไปด้วย เพื่อไม่ให้บรรยายกาศระหว่างทั้งคู่เงียบเกินไป                 “The boy next door”                 “หืม? เราจะดูหนังเรื่องนี้จริงเหรอ” เพราะคำตอบของลิน นั่นจึงทำให้เท็นได้แต่หันกลับไปมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ                 “ทำไม” ลินถามกลับ                 “เปล่า เราก็แค่ไม่คิดว่าลินจะเสนอหนังเรื่องนี้น่ะ”                 “ถ้าเราเอาหนังเรื่องดัง ๆ มันก็อาจจะไปซ้ำกับคนอื่นได้” อีกฝ่ายให้เหตุผล                 “อ๋อ เข้าใจแล้วล่ะ” เท็นพยักหน้ารับ แล้วถามต่อ “แล้วนี่นายกินอะไรมาหรือยัง เรามากินรามยอนกันไหม?”                 วูบหนึ่ง… เท็นสังเกตได้ว่าลินแอบขมวดคิ้ว แต่พอเขาชูถุงของที่แวะซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อให้อีกฝ่ายดู ลินก็กลับมาทำหน้านิ่งเช่นเดิม ทำเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทว่านั่นกลับทำให้เท็นถึงกับฉีกยิ้มกว้าง เพราะมั่นใจมากว่าอีกคนคงกำลังคิดไปถึงไหนต่อไหนเป็นแน่                 “ห้องนายมีโซนครัวนี่นา งั้นดีเลย! เรามากินรามยอนกันเถอะ” เท็นพูดต่อด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะถือวิสาสะหิ้วถุงของไปยังโซนครัวของลิน เพื่อจัดการต้มรามยอนยี่ห้อดังกินคู่กับกิมจิและเครื่องเคียงอื่น ๆ                 เท่าที่สังเกตเห็น… ฐานะทางบ้านของลินคงมีอันจะกินอยู่ไม่น้อย เพราะห้องพักที่อีกฝ่ายอยู่มีทั้งเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง รวมไปถึงขนาดห้องที่กว้างขวางจนสามารถแยกเป็นสัดส่วนได้ด้วย                 “ลิน… เราลืมซื้อไข่ไก่มาด้วยอะที่ห้องนายมีไหม?” ขณะที่กำลังรับบทเป็นพ่อครัวอยู่หน้าเตา แล้วลินก็กำลังนั่งพับผ้าของตัวเองอยู่ เท็นก็ถามขึ้น                 “อยู่ในตู้เย็น” ลินตะโกนตอบกลับมา                 “โอเค งั้นเราขอเปิดตู้เย็นหน่อยนะ” เท็นทำทีเอ่ยขออย่างมีมารยาท แล้วเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบไข่ไก่ในนั้นทันที ซึ่งนอกจากในห้องของลินจะมีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างแล้ว ภายในตู้เย็นของอีกฝ่ายก็ยังมีเสบียงมากมาย จนสามารถอยู่แต่ในห้องได้เป็นสัปดาห์ด้วยซ้ำ                 “เสร็จแล้ว เรามากินกันเถอะ” เมื่อรามยอนร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟแล้ว เท็นก็ตะโกนเรียกเจ้าของห้องทันที                 “หยุดพูดแบบนี้สักที”                 “อะไรเหรอ? เราก็แค่ชวนกินรามยอนเอง” เท็นถามลินทั้งหน้าซื่อ แล้วเปลี่ยนเรื่อง “เราซื้อไส้กรอกชีสมาด้วยนะ แต่ไม่แน่ใจว่าลินชอบกินไหม เราก็เลยไม่ได้หั่นใส่น่ะ”                   การทานอาหารร่วมกันมื้อแรกของเรา แม้มันจะเงียบไปเสียหน่อย เพราะไม่มีใครชวนใครคุย แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น…                 “จะไปไหน?” ขณะที่กำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เพื่อกินรามยอนและเท็นก็กำลังนั่งกินไส้กรอกชีสไปด้วย จู่ ๆ ลินก็ลุกขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จนทำให้เขาต้องเอ่ยถามออกไป                 “ไปเอามีดมาหั่นไส้กรอกให้” อีกฝ่ายว่า                 “ไม่ต้อง”                 “….”                 “เราชอบกินไส้กรอกแบบนี้… มันอร่อยกว่า” เท็นปฏิเสธความหวังดีนั้นทันที ซึ่งนั่นก็ทำให้ลินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนั่งลงตามเดิม                 “แล้วเราจะเริ่มดูหนังกันตอนกี่ทุ่ม? เพราะนี่ก็จะสี่ทุ่มแล้วนะ” ลินถามขึ้น                 “ตอนนี้เลยไหมล่ะ? เราอิ่มพอดี” แล้วเพราะอย่างนั้น… หลังจากที่ช่วยกันเคลียร์โต๊ะอาหารเสร็จ เท็นกับลินก็มานั่งดูหนังที่โซฟาต่อ โดยมีอุปกรณ์เป็นปากกากับสมุด เพื่อเตรียมจดรายละเอียดจุดที่น่าสนใจในหนังด้วย               ลินเป็นคนที่เงียบมากและเป็นคนที่เท็นคาดเดาไม่ออกด้วยว่าภายใต้ใบหน้านิ่งเฉยของอีกฝ่ายนั้น เจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่…             ขณะที่หนังกำลังดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ แล้วสายตาของลินก็กำลังจับจ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์ตาไม่กะพริบ เท็นก็ได้แต่ชำเลืองมองผู้เจ้าของห้องอยู่เป็นระยะ ๆ หลังความสงสัยมากมายผุดขึ้นมาในความคิดของเขา จนเท็นแทบไม่ได้สนใจงานคู่ที่อาจารย์สั่งด้วยซ้ำ                 “มีอะไร” ในที่สุดลินก็ถามขึ้น ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวยังไม่หันกลับมามองกันด้วยซ้ำ                 “คือเรากำลังสงสัยน่ะ… ว่านายสายตาสั้นจริงหรือเปล่า?” เท็นถามความสงสัยแรกออกไปก่อน                 “ถ้าไม่ได้สายตาสั้น แล้วคนเราจะใส่แว่นทำไมเหรอ?” ลินถามกลับ                 “ไม่รู้สิ”                 “….”                 “แต่คนที่สร้างคาแรคเตอร์เพื่อให้ตัวเองเป็นที่น่าจดจำ มันก็มีเยอะแยะไปไม่ใช่เหรอ”                 “แต่ไม่ใช่เรา” ลินตอบกลับในทันที ซึ่งนั่นก็ทำให้เท็นถึงกับยิ้มออกมาอีกครั้ง แล้วขยับตัวเข้าไปใกล้ลินเล็กน้อยอย่างใจเย็น เพื่อไม่ให้ลินตื่นตูม                 “แล้วถ้าเราถอดแว่นของลินออก… ลินจะมองเห็นเราไหม?” เมื่อขยับตัวเข้าไปใกล้เจ้าของห้องจนน่าพอใจแล้ว เท็นก็ถามเพื่อนร่วมคณะเสียงแผ่ว โดยในขณะเดียวกันนั้นมือของเขาก็ค่อย ๆ ถอดแว่นของอีกฝ่ายออกด้วย                 “เห็นสิ สายตาเราไม่ได้สั้นขนาดนั้น” ลินตอบกลับมา ไม่ได้มีท่าทีว่าจะหลบสายตาแต่อย่างใด                 ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งคู่ได้สบตากันอยู่อย่างนั้น                 “มีใครเคยบอกหรือยังว่าดวงตาของนาย… สวยมาก” ระหว่างที่พูด เท็นก็จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของลินด้วย โดยเขาก็ไม่ได้ชมเพื่อหวังผลแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะดวงตาของลินมันสวยจริง ๆ จนทำให้เท็นไม่สามารถผละสายตาออกไปได้ต่างหาก                 “ก็พอมีบ้าง”                 “ใครเหรอ?” เขาถามต่อด้วยความใคร่รู้                 “แม่… แม่บอกว่าตาเราสวย”                 “อืม แม่นายพูดความจริงนะ เพราะตาของนายสวยจริง ๆ”             “แล้วชอบไหม?” ลินถามกลับ ซึ่งนั่นก็ทำให้เท็นชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่อีกฝ่ายจะขยายความต่อ “หมายถึงดวงตาเราน่ะ”                 “ชอบสิ เพราะถ้าไม่ชอบแล้วเราจะชมทำไม” หลังให้คำตอบเสร็จ เท็นก็รีบผละสายตาออกทันที ก่อนที่เขาจะรู้สึกเผลอไผลไปกับดวงตาคู่สวย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม