ภายในคลับ
“เชิญคุณเจย์เดนทางด้านนี้คะ” พนักงานเดินนำหน้าเจย์เดนมาที่โต๊ะประจำ
“นั้นไง เป้าหมายของเธอ” เจย์เดนมองไปที่มาวินที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่
“รอเวลา 10 นาทีคะ” ระรินมองไปที่อาร์เทอร์กับภรรยาที่กำลังเดนเข้ามา มาวินรีบเดินไปจับมืออาร์เทอร์และภรรยาสีหน้าดูเคร่งเครียดนิดหน่อย
“เสียงทั้งสองคนคุยกัน แม้ไม่ดังมากแต่ระรินก็พอจับใจความได้ว่า อาร์เทอร์ต้องไม่ยอมทำสัญญากับมาวินแน่ๆไม่นานภรรยาของอาร์เทอร์ก็เดินแยกออกไปทางห้องน้ำ ระรินจึงรีบเดินตามภรรยาของอาร์เทอร์ไป ประจวบเหมาะกับการไม่มีคนระรินจังแกล้งทำเป็นน้ำหกแต่ไม่มีใครเช็ดและเดินไปยืนรอจังหวะที่ภรรยาอาร์เทอร์เดินออกมา
“ว๊ายยย”เสียงภรรยาอาร์เทอร์ร้องออกมาระรินที่ยืนรอจังหวะวิ่งเข้าไปพยุงได้ทันก่อนที่ภรรยาอาร์เทอร์จะล้มลงไปกองที่พื้น
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ระรินถามออกไปทันที
“ไม่เป็นไรคะ เกือบไปแล้วขอบคุณมากนะ ว่าแต่หนูชื่ออะไร ไปนั่งด้วยกันไหมถือเป็นการขอบคุณที่ช่วยฉันไว้ฉันชื่อ จินนี่ เรียกมาดามจินก็ได้คะ”
“หนูชื่อระรินคะ มาดามจิน” ระรินพูดออกมาด้วยอาการเจียมตัวนิดหน่อย
“ไปนั่งด้วยกันเถอะจ๊ะ” มาดามจิมเดินจับมือระรินไปนั่งโต๊ะที่อาร์เทอร์และมาวินนั่งคุยงานกันอยู่
“สวัสดีคะ คุณมาวิน” ระรินแสยะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย
“แม่หนูคนนี้ นี้” มาวินมองมาที่ระรินแล้วกำลังจะพูดต่อ
“คุณคะนี้หนูระริน หนูระรินช่วยฉันไว้เมื่อกี้ไม่งั้นฉันคงแย่” มาดามจินบอกผู้เป็นสามี
“มีอะไรให้ฉันช่วยบอกได้เลยนะ ฉันยินดีที่จะช่วยเหลือเธอทุกอย่าง” อาร์เทอร์พูดออกมาแล้วยิ้มให้ระรินด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“นายครับ” คนสนิทของอาร์เทอร์มากระซิบแล้วอาร์เทอร์กับมาดามจินก็ขอตัวสักครู่แล้วจะกลับมาคุยเรื่องข้อตกลงที่มาวินเสนอไปแต่ยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่
“รอที่นี้นะจ๊ะ เดี๋ยวฉันมา” มาดามจินเดินมาลูบหัวระรินเบาๆและเดินตามผู้เป็นสามีไปเปิดงานเลี้ยงทันที
“เธอเป็นคนของเจย์เดน เธอต้องการอะไร” มาวินถามเข้าประเด็น
“ต้องการลายเซนต์ของคุณบนสัญญานี้” ระรินวางสัญญาลงและมองไปที่มาวิน
“ฉันไม่มีเวลาจะคุยกับเธอตอนนี้ ฉันต้องการลายเซนต์ของคุณอาร์เทอร์เซนต์อนุมัติส่งของทางเรือของฉันเหมือนกัน
“ของที่ว่าคือ ข้าวสารนำเข้า อาหารทะเลแปรรูปแต่สอดใส้อาวุธเถื่อน” ระรินมองมาที่มาวินแล้วพูดออกมา
“นี้เธอ” มาวินกำลังจะพูดต่อ
“ฉันช่วยคุณได้แต่ต้องแลกกับลายเซนต์บนสัญญาฉบับนี้ ลองคิดดูนะว่าจะยอมแลกหรือจะพังไม่เป็นท่าทั้งคู่” ระรินมองมาที่มาวินแล้วแสยยะยิ้มมุมปากที่มีเลศนัย ฝั่งเจย์เดนที่มองมาที่ระรินกับมาวินที่กำลังคุยกันอยู่ ดูท่าทางมาวินเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่ตนเคยส่งคนไปคุยมาวินจะปฏิเสธท่าเดียว แต่ทำไมกับระรินมาวินถึงมีทีท่าว่ากำลังกรุ่นคิดอยู่
“มีเวลา 5 นาทีก่อนที่คุณอาร์เทอร์จะกลับมานั่งตรงนี้ ถ้าคุณตกลงเราก็วินๆทั้งคู่” ระรินยื่นคำขาดก่อนที่กำลังจะลุกขึ้น
“อือ โอเคถ้าเธอทำไดอย่างที่พูด ฉันจะยอมเซนต์สัญญาฉบับนี้ให้แต่ถ้าเธอทำไม่ได้ ถึงจะเป็นเพื่อนลูกชายฉัน ฉันก้ไม่เว้น” มาวินพูดออกมาพร้อมกับเอียงคอมองมาที่ระริน พรางคิดในใจว่าเด็กตัวแค่นี่เหรอที่จะมาทำให้อาร์เทอร์เปลี่ยนใจเซนต์สัญญากับตัวเองได้
ฝั่งเจย์เดน
“คุณเจย์เดนครับ” ตะวันเรียกเจย์เดนขึ้น
“อือ ฉันเห็นแล้วฉันว่าแล้วว่าทำไมคุณมารศรีถึงส่งเด็กคนนี้มาแทนโรสริน” เจย์เดนพูดและยิ้มออกมาเบาๆ
“เจย์เดนคะ” เสียงหวานคุ้นหูดังมาจากทางด้านหลังของเจย์เดน
“คุณแพรวา” ตะวันพึมพำออกมาเบาๆ
“แพรได้ยินมาว่าคุณพาเด็กสาวมางานนี้ด้วย เขาคือใครเหรอคะ” แพรวาถามเจย์เดนขึ้น เจย์เดนไม่ได้ตอบแต่สายตาจ้องมองไปที่ระรินที่กำลังคุยกับอาร์เทอร์ มาดามจินนี่และมาวินด้วยท่าทางจริงจัง
“เด็กคนนั้น” แพรวาพึมพำออกมา
"เธอชื่อ ระรินเป็นคนในไร่ ที่วันนี้นายให้มาช่วยงาน” ตะวันตอบแทนเจย์เดน แพรว่านิ่งไปลงและมองไปที่ระรินหญิงสาวที่ไม่ได้มีความสวยเลย มีแค่การยิ้มที่อัธยาศัยดีเท่านั้นที่ทำให้ระรินดูน่ารักสมวัยตัวเองเท่านั้น
ฝั่งระริน
“หนูระรินว่ายังไงนะจ๊ะ” มาดามจินนี้พูดขึ้น
“พอดีเห็นคุณมาวินบอกว่าคุณหญิง”
“มาดามจินจ๊ะ”
“อ๋อ มาดามจินชอบถุงผ้าลดโลกร้อน และแก้วเก็บความเย็น พอดีหนูได้มีโอกาสไปเจอมาเลยซื้อมา ที่แรกว่าจะเก็บไว้เองแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว หนูเลยคิดว่าเอามาฝากเพื่อเป็นการของร้องไม่ทราบว่าจะเป็นการรบกวนมากไปหรือเปล่าคะ” ระรินยกถุงของฝากให้มาดามจิน มาดามเปิดดูทำท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้องเกรงใจเลยจ๊ะ มีอะไรให้ฉันช่วยบอกมาได้เลยมันยังเทียบไม่ได้ถ้าไม่มีหนูปานนี้ฉันคงอยู่ที่โรงพยาบาลไปแล้วละจ๊ะ”
“พอดีหนูกับคุณมาวินเรามีโปรเจคร่วมกันแล้วหนูเองที่บอกให้คุณมาวินเอาเอกสารชุดนี้มาให้ท่านเซนต์อนุมัติการส่งออกข้าวสารและอาหารแปรรูป หนูอยากจะรบกวน” ระรินยังพูดไม่จบ
“การค้าครั้งนี้หนูระรินได้รับส่วนแบ่งด้วยงั้นเหรอ” อาร์เทอร์ถามขึ้น
“ใช่คะ 8 เปร์เซนต์เลยคะ” ระรินยิ้มเบาๆแล้วตอบอาร์เทอร์ออกไป
“งั้นไม่มีปัญหา” อาร์เทอร์พูดจบก็ลงนามเซนต์สัญญาทันที
“ขอบคุณมากๆเลยนะครับ เรื่องข้อเสนอ” มาวินยังพูดไม่จบ
“ไม่เป็นไรแค่แบ่งส่วนแบ่งตามที่หนูระรินควรจะได้รับให้หนูระรินไปก็พอ งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันต้องขอตัวกลับก่อนพรุ่งนี้มีประชุมเช้า” อาร์เทอร์พูดและลุกขึ้นยืน
“ขอบคุณมากๆเลยนะคะ” ระรินยกมือไหว้ท่านทั้งสองแล้วกล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไร นี้นามบัตรฉันต้องการความช่วยเหลือโทรหาฉันได้ 24ชั่วโมงไม่ต้องเกรงใจ” อาร์เทอร์พูดจบระรินก็หยิบนามบัตรมาเก็บไว้พร้อมยกมือไหว้อีกครั้งทันที
“ฉันไปก่อนนะ ไว้ว่างๆเจอกัน” มาดามจินพูดจบก็ยกมือลูบหัวระรินและเดินออกไปทันที
“คราวนี้ถึงเวลางานของเราแล้วนะคะ” ระรินมองมาที่มาวินแล้วยื่นเอกสารให้ มาวินเปิดเอกสารอ่านรายระเอียด
“ก็น่าสนใจดี แต่ว่า”
“แต่ว่าของคุณแลกกับ 8 เปอร์เซนนั้นฉันไม่เอา” ระรินพูดแทรกขึ้น มาวินทำท่ากรุ่นคิดเล็กน้อย สายตาของเจย์เดนจ้องมาที่มาวินที่เหมือนกำลังจะเซนต์เอกสารชุดนั้น
“โอเค ตกลงเธอเก่งมากสาวน้อย” มาวินพูดจบก็ลงนามในสัญญานั้นทันที
“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือคะ หวังว่าเราคงจะไม่ได้พบกันอีก” ระรินหยิบสัญญามาแล้วยกมือไหว้ก่อนที่จะเดินกลับมาหาเจย์เดนและตะวันทันที
ณ โต๊ะของเจย์เดน
“นี้เอกสารของนาย” ระรินวางเอกสารไว้ที่โต๊ะแล้วกำลังจะเดินออกไป
“จะไปไหน” เจย์เดนถามขึ้น
“เหนื่อย หิว” ระรินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“ตะวัน บอกคนรถเอารถออก” เจย์เดนหันไปบอกตะวัน
“ไปไหนครับ”
“กลับบ้าน” เจย์เดนมองมาที่หน้าระรินแล้วพูดขึ้น
“คนบ้าอะไร หิวข้าวก็ไม่ให้กินใจร้ายชะมัด” ระรินพึมพำแบะเดินกระแทกเท้าตามตะวันไป
“เจย์เดนคะเราไปหาอะไรทานกันก่อนไหมคะ” แพรวาถามขึ้น
“ไม่มีอารม เอาไว้วันหลังฉันมีงานต้องเครียร์อีกมาก” เจย์เดนพูดและเดินตามระรินและตะวันออกไปทันที
ฝั่งระริน
“คนบ้าอะไรว่ะ หิวข้าวก็ไม่ให้กิน งานก็ทำให้แล้ว” ระรินพึมพำออกมาด้วยความโมโหจนลืมมองดูว่าตะวันหยุดเดินยืนรออยู่
ตุ๊บบ เสียงระรินเดินชนตะวันเข้าอย่างจัง
“โอ๊ย หยุดทำไมไม่บอกเนี่ย” ระรินพูดออกมาด้วยท่าทีที่อารมณ์เสีย
“ระรินเธอต้องใจเย็นกว่านี้ ระรินคุณเจย์เดนไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นหรอกแต่ผู้เป็นนายเขามองดูทรงแล้วอาหารที่นี้มันไม่เหมาะกับเธอ คุณเจย์เดนคงหาอาหารที่ดีกว่านี้ให้เธอกินเองแระ” ตะวันพูดออกมาและเดินต่อไปทันที
“คงหาอารหารที่ดีกว่านี้ให้เธอกินเองแระ แบ๊ะๆๆๆๆ” ระรินทำท่าทางเรียนเสียงตะวัน
“มานี้” ตะวันตะโกนเรียกระรินขึ้น
“วุ๊ย” ระรินส่งเสียงออกมาด้วยความหงุดหงิด
“เดินไป” เจย์เดนที่เดินมาถึงพูดออกมา
“สั่งๆๆ สั่งๆๆ สั่งๆๆแล้วก็สั่งๆๆๆ ที่งานที่ทำให้สำเร็จไม่เห็นขอบคุณสักคำ” ระรินพึมพำและเดินกระแทกเท้าออกไปทันที
“เด็กน้อเด็ก หึ ทั้งหน้าตา ท่าทาง นิสัยก็ยังงเด็กอยู่แต่ฉลาดเป็นกรดเชียวนะ ยัยเด็กกะโปโล” เจย์เดนพึมพำออกมาและยิ้มมุมปากออกมาเบาๆ บอดีการ์ด 4 คนที่เดินตามมามองหน้าและฉีกยิ้มออกมาเบาๆเช่นกัน