EP.1
เช้าวันต่อมา
“อย่านะ...อย่าทำ...อย่า...” ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดผวาพร้อมกับอาการหอบหายใจถี่ระรัว ใบหน้าเปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ หัวใจเต้นเร็วจนรู้สึกหวิวโหวงแปลกๆ
ฉันฝันร้ายน่ะ...ฝันว่าถูกผู้ชายพยายามจะข่มขืน ในฝันมันเหมือนจริงมาก ขนาดรู้แล้วว่าเป็นแค่ฝันแต่ฉันก็ยังกลัวไม่หายเลย
แล้วว่าแต่ทำไมเราถึงตื่นขึ้นมาในห้องของแขกวีไอพีแบบนี้ล่ะ?
ฉันค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่งแล้วพยายามนึกย้อนเรื่องเมื่อคืน ฉันจำได้ว่ามีแขกเรียกฉันมานั่งดริงค์ด้วย พอเปิดประตูเข้าไปฉันก็พบกับผู้หญิงคนนึงกำลังกินงูของเขาอยู่ สักพักเธอคนนั้นก็กลับออกไปแล้วก็...
เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ...ทำไมเรื่องราวมันเหมือนในความฝันเลยล่ะ
หัวใจฉันกลับมาเต้นแรงอีกครั้งเมื่อลางสังหรณ์บอกว่าบางทีฉันอาจจะไม่ได้ฝัน แต่คงไม่ใช่หรอกมั้งเพราะตอนนี้เสื้อผ้าของฉันยังอยู่ครบ
จำได้ว่าในฝันฉันนอนโป๊เพราะถูกถอดเสื้อผ้าออกไปหมด
แล้วในขณะที่ฉันกำลังจะโล่งใจ
แกร๊ก!
“ตื่นแล้วก็มาอาบน้ำ” ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของผู้ชายคนหนึ่งที่ท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า ส่วนท่อนล่างถูกพันด้วยผ้าขนหนูที่ผูกปมแบบหลวมๆ
ฉันมองเขาตาค้างเพราะความหล่อ เส้นผมเปียกปอนที่ถูกเสยขึ้นและใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยหยดน้ำช่วยขับให้เขาดูเซ็กซี่เอามากๆ
เลื่อนสายตาต่ำลงมาก็เจอเข้ากับกล้ามเนื้อตรงหน้าท้องที่นูนขึ้นเป็นลอน แถมยังมีขนที่คาดว่ามาจากตรงจุดนั้นโผล่พ้นขอบผ้าขนหนูขึ้นมาเป็นกลุ่มบางๆ
อืม...ดูดีไปหมดทุกส่วนเลยจริงๆ
“มองแบบนี้แล้วเมื่อคืนจะเล่นตัวทำไม”
ฉันขมวดคิ้วกับคำถามของเขา มองไปมองมาก็รู้สึกว่าคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้แปลกๆ
เคยเห็นที่ไหนนะ...
เฮ้ยย!!
คนๆ นี้หน้าเหมือนไอ้ผู้ชายที่มันพยายามจะข่มขืนฉันเลย!!
สรุปแล้วเราไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย...
แล้วหากไม่ได้ฝันก็แปลว่าฉันอยู่ในห้องนี้กับเขาทั้งคืน อย่าบอกนะว่าเขาเผด็จศึกฉันไปแล้ว?
ไม่นะ...ไม่...
“กรี๊ดดดดดดดด!!ไอ้คนเลว ไอ้คนชั่ว!!” ฉันหยิบหมอนแล้วฟาดใส่ร่างเขาอย่างแรง ไม่คิดเลยว่าหน้าตาหล่อๆ แบบนี้จะมีจิตใจสกปรก
“เฮ้ย!อะไรวะเนี่ย” ผู้ชายคนนั้นรีบยกแขนขึ้นมาบัง เขาพยายามจะแย่งหมอนไปจากมือฉัน “ปล่อย!”
“ฉันไม่ปล่อย ไอ้เลว!”
“ไม่ปล่อยใช่มั้ย ได้!”
“อ๊ะ!”
เขาออกแรงกระชากจนแย่งหมอนไปได้สำเร็จ แรงนั้นเกือบทำให้ฉันล้มคว่ำหน้าคะมำ แต่โชคดีเขาช่วยรับเอาไว้ได้ทัน
จริงๆ ก็ไม่เหมือนการรับสักเท่าไหร่ ออกแนวดึงไปกอดซะมากกว่า
“ปล่อยฉันนะ อย่าเอามือสกปรกของคุณมาแตะต้องฉัน” ฉันพยายามดิ้น
“ฉันเพิ่งอาบน้ำจะสกปรกได้ไง?”
“ถึงจะอาบน้ำแต่ก็ยังสกปรกอยู่ดี อาบน้ำมันช่วยได้แค่ภายนอกค่ะ แต่ภายใน...” ฉันลากเสียงแล้วทำสีหน้ารังเกียจเขา ให้เขาคิดต่อเอาเองว่าฉันจะพูดว่าอะไร
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันไปทำอะไรให้เธอฮะ!” เขาดูเริ่มโมโห
“ยังจะกล้าถามอีกเหรอ ก็คุณข่มขืนฉัน!” ความจำเสื่อมหรือไงผู้ชายคนนี้
“เหอะ ข่มขืนงั้นเหรอ? สมองเธอเสื่อมหรือไงฮะ!” เขาแค่นหัวเราะแล้วตอกหน้าฉันกลับราวกับได้ยินความในใจของฉัน
คนบ้า...
“คุณนั่นแหละสมองเสื่อม ลืมแล้วเหรอว่าพยายามจะข่มขืนฉัน”
“ใช่ ถ้าบอกว่าพยายามน่ะฉันไม่เกี่ยง แต่ถ้ามาบอกว่าข่มขืนแล้วเธอนั่นแหละที่ความจำเสื่อม!” เขาไม่พูดเปล่าแต่ยังผลักฉันอย่างแรงจนล้มลงบนเตียง
“หมายความว่ายังไง?” ฉันชักจะเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิ เพราะสีหน้าเขาดูจริงจังมาก
“ก็หมายความว่าฉันพยายามจะปล้ำเธอ แต่เธอก็เป็นลมหมดสติไปก่อนไงยัยปลาทอง!”
คำพูดเขาเปรียบเสมือนการเปิดสวิตซ์ความทรงจำให้กับฉัน ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนทยอยไหลเข้ามาให้หัวจนฉันจำได้ทุกอย่าง
ฉันเป็นลมหมดสติไปอย่างที่เขาว่าจริงๆ นั่นแหละ
“ละ…แล้วไงล่ะ…คะ…คุณอาจจะลักหลับฉันก็ได้” ไม่มีอะไรมายืนยันได้สักหน่อยว่าเขาไม่ได้ทำอะไรฉันตอนที่หลับ
“ถึงฉันจะเซ็กซ์จัดแต่ฉันไม่ชอบลักหลับใคร แล้วอีกอย่างถ้าฉันปล้ำเธอไปแล้วจริงๆ เธอคงไม่มีแรงมาปาหมอนใส่ฉันหรอก แค่แรงเดินจะมีหรือเปล่าเถอะ” เขาทำหน้าเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเบ้ปากพลางเบือนหน้ามองไปทางอื่น
ไม่รู้ว่าทำไมพอฟังแล้วในหัวมันต้องจินตนาการตามเขาด้วย มิหนำซ้ำยังรู้สึกว่าใบหน้ามันร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
นี่เรากำลังเขินอย่างนั้นเหรอ...มะ...ไม่ใช่หรอกมั้ง
“ทะ…ทะลึ่ง!” ฉันกลบอาการเขินอายด้วยการต่อว่าเขา
“ถ้าเธอยังไม่หยุดว่าฉัน ฉันจะปล้ำเธอจริงๆ แล้วนะ รู้มั้ยว่าฉันจ่ายค่าตัวเธอไปตั้งเท่าไหร่?”
“ค่าตัวฉันเต็มที่ก็สองหมื่นนี่คะ”
“ใครบอกสองหมื่น ฉันจ่ายไปตั้งสองแสน!!”
“อะไรนะคะ!!” ฉันเบิกตาร้องถามอย่างตกใจ
เป็นไปได้ยังไง...ก็พี่แหววบอกว่าเรทค่าตัวฉันเริ่มต้นที่สองหมื่นไม่ใช่เหรอ
“ตกใจอะไร มันก็เรทปกติสำหรับคนที่ยังสดซิง” เขามองฉันราวกับฉันเป็นตัวประหลาด
“สดซิงบ้าอะไรของคุณ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ขายตัว ฉันมาเป็นเด็กเอ็น” ฉันอธิบายให้เขาฟังอีกรอบ เมื่อไหร่เขาจะเลิกปักใจว่าฉันขายตัวสักทีนะ
“ไม่ได้ขายตัวบ้าอะไร ก็ฉันจ่ายไปตั้งสองแสน ถ้าแค่งานเอ็นค่าตัวเธอจะสองแสนได้ยังไง”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ คุณไม่ได้จ่ายเงินให้ฉันนี่คะ คุณจ่ายกับใครคุณก็ลองไปถามคนนั้นดูสิ แต่ฉันยืนยันได้ว่าฉันไม่ได้ขายตัว ถ้าไม่เชื่อไปถามพี่แหววดูก็ได้ค่ะ”
เมื่อคุยมาถึงตรงนี้ฉันเริ่มมั่นใจแล้วว่าต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันเกิดขึ้นแน่ๆ คุณคนนี้ดูปักเชื่อใจมากว่าฉันขายตัว ซึ่งหากเขาพูดและจ่ายเงินค่าตัวไปสองแสนจริงๆ แสดงว่ามีคนโกหกเพื่อที่จะหลอกเอาเงินเขาโดยใช้ฉันเป็นเครื่องมือ
ใครทำแบบนี้กันนะใจร้ายจริงๆ
“งั้นเธอรออยู่นี่เดี๋ยวฉันมา ห้ามหนีไปไหน…” เขาสั่งพร้อมเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาในระยะประชิด “…ถ้าหนีล่ะก็…ฉันเล่นงานเธอแน่” เมื่อสิ้นสุดประโยค ร่างสูงก็เดินไปใส่เสื้อและกางเกงแบบลวกๆ ก่อนจะหันเดินหลังออกไป
ส่วนฉันก็นั่งรออยู่บนเตียง ที่ฉันอยู่ก็เพราะว่ากลัวเขาจะเล่นงานฉันตามที่ขู่ เพราะเท่าที่มองๆ ดูแล้วผู้ชายคนนี้ท่าทางจะรวยและมีอำนาจไม่เบา
อีกอย่างเพราะฉันอยากจะรู้ด้วยว่าสรุปแล้วเขาถูกโกงเงินและฉันถูกหลอกใช้จริงหรือเปล่า
ฉันนั่งรออยู่ในห้องประมานยี่สิบนาทีผู้ชายคนนั้นก็กลับเข้ามาพร้อมกับพี่แหววที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ เดินเข้ามาปุ๊บเธอก็มองค้อนใส่ฉันปั๊บ อาการแบบนี้มันหมายความว่ายังไง
คงไม่ใช่พี่แหววหรอกใช่มั้ย
“ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของร้าน คุณช่วยบอกผมสิว่าเด็กคนนี้ขายตัวหรือเปล่า?” เขาเค้นเสียงแข็งถามพี่แหวว สีหน้าดูโกรธและไม่พอใจเอามากๆ
“คะ...คือว่า...คือ...”
“คืออะไรตอบมาสิ!”
“พะ...เพลินเป็นเด็กขายตัวค่ะ” คำตอบของพี่แหววทำเอาฉันรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก ทำไมพี่แหววถึงพูดแบบนี้ เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้ขายตัว สรุปแล้วพี่แหววตั้งใจโกงลูกค้าและหลอกให้ฉันขายตัวใช่มั้ย
คุณคนนั้นหันขวับมามองฉันทันที สายตาดุดันของเขาทวีความน่ากลัวเพิ่มขึ้นกว่าเดิมจนฉันที่มั่นใจว่าไม่ผิดยังรู้สึกหวาดกลัวจนตัวสั่น
“ไหนเธอบอกว่าไม่ได้ขายตัวไง!”
“…!!”