EP.2
“ฉันไม่ได้ขายตัวจริงๆ ค่ะ พี่แหวว พี่บอกเขาไปสิคะว่าเพลินไม่ได้ขาย” ฉันหันไปอ้อนวอนพี่แหววอย่างขอความเห็นใจ
“มะ...ไม่จริง...เพลินบอกพี่ว่าอยากได้เงินเร็วๆ เลยจะขายตัวนิ”
“พี่แหวว!ทำไมถึงโกหกแบบนี้คะ พี่หิวเงินมากเลยเหรอ” ฉันตวาดเสียงใส่อย่างเหลืออด ความโลภของเธอกำลังจะทำให้ฉันซวย
“พอได้แล้ว!!เธอนั่นแหละที่โกหก เห็นหน้าซื่อๆ นึกว่าจะพูดเรื่องจริง” เขามองเหยียดฉันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่รู้ว่าทำไมพอถูกมองแบบนี้มันถึงได้รู้สึกเจ็บใจราวกับโดนมีดแทงเป็นร้อยเล่ม
ฉันไม่ได้ชอบเขานะ แต่มันเหมือนกับว่าเราต้องมาโดนด่าในเหตุการณ์ที่เราเองก็ตกเป็นเหยื่อ
“ถ้าพี่แหววบอกว่าเพลินขายตัวจริง ก็เอาใบสมัครมากางเลยสิคะ” ฉันท้า เพราะจำได้ว่าตอนกรอกใบสมัครฉันแจ้งจุดประสงค์เอาไว้อย่างชัดเขน
พี่แหววหน้าซีดทันทีเพราะรู้ดีว่าฉันพูดความจริง
คุณคนนั้นเบนสายตากลับไปมองพี่แหววเพราะเห็นว่าเธอเถียงฉันไม่ออก
“ถ้ามีหลักฐานเอาออกมาเลยครับ”
“เอ่อคือ…คือ…”
“ตอนนี้ผมจะให้โอกาสพูดความจริงทั้งคู่ และจากนั้นถ้าผมจับได้ว่าใครโกหก ผมจะจัดการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” เขากดเสียงต่ำเชิงข่มขู่ แล้วช้อนสายตามองมาอย่างจับผิด
แน่นอนว่าฉันไม่กลัว เพราะฉันไม่ได้โกหก คนที่กลัวควรเป็นพี่แหวว ซึ่งตอนนี้เธอก็กำลังยืนหน้าซีดตัวสั่นด้วยความกลัว
“วะ…แหววขอโทษค่ะคุณอิน แหววผิดเองที่ไม่ตรวจสอบเอกสารให้ดี…” ในที่สุดเธอก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนโกหก
“แสดงว่าคนที่โกหกคือคุณ”
“วะ…แหววไม่ได้ตั้งใจนะคะ คือ…” พี่แหววพยายามจะอธิบาย แต่เขาก็แทรกขึ้นเสียก่อน
“คุณเอาเงินผมไปสองแสน ฉะนั้นถ้าไม่อยากมีปัญหาคุณต้องใช้คืนมาสองเท่า”
“อะไรนะคะ!” พี่แหววหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม คนงกอย่างเธอคงจะช็อกน่าดูที่ต้องเสียเงินสองแสนแบบฟรีๆ
“ผมส่งเลขบัญชีไปที่เบอร์ของคุณแล้ว อย่าลืมโอนมานะครับ บาย” พูดจบคุณที่คาดว่าน่าจะชื่ออินก็เดินเอามือล้วงกระเป๋าแล้วออกจากห้องไปทันที
“กรี๊ดดดดดด!!เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย!!” คล้อยหลังที่เขาเดินออกไป พี่แหววก็กรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น เธอยืนโซเซเหมือนจะล้ม ฉันเลยเดินเข้าไปช่วยประคองเธอเอาไว้
“พี่แหววโอเคมั้ยคะ”
ผลั่ก!
พี่แหววมองฉันตาเหลือกก่อนจะผลักร่างฉันล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง
“แกไม่ต้องมาเสือกเลยนะอีเพลิน!เพราะแกคนเดียวที่ทำให้ฉันต้องเสียเงินฟรี!”
“อะไรกันคะพี่แหวว ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพี่แหววไปโกงลูกค้าเองนะคะ” เรื่องนี้ฉันตกเป็นเหยื่อความโลภของเธอด้วยซ้ำ นอกจากจะไม่ขอโทษฉันแล้วยังจะมาผลักฉันที่เข้าไปช่วยเธอไว้อีก
ทำไมชีวิตฉันถึงเป็นแบบนี้นะ…
“หน็อยย อีเพลิน!!ปากดีนักใช่มั้ย งั้นก็มานี่!!”
“พี่แหววจะทำอะไรเพลินคะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!” ฉันพยายามจะดิ้นเมื่ออยู่ๆ พี่แหววก็เข้ามาพยายามจะกระชากร่างของฉัน โชคดีที่เธอตัวเล็กกว่าจึงทำอะไรฉันไม่ได้
“เฮ้ย!ใครอยู่ข้างนอกบ้างมาช่วยลากอีเพลินออกไปหน่อย!” หลังจากพี่แหววตะโกนไปไม่นานก็มีผู้ชายร่างยักษ์สองคนเดินเข้ามาช่วยดึงฉันออกไป
รอบนี้ฉันขืนแรงคนพวกนี้ไม่ไหวจึงโดนลากออกไปตามระเบียบ
[พาร์ท : อินทราช]
หลังจากได้ตัวคนโกหกผมก็เตรียมที่จะขับรถกลับไปบ้าน ทว่าขณะที่กำลังจะเลี้ยวออกจากร้าน หางตาดันเหลือบไปเห็นผู้หญิงคนนั้นกำลังถูกลากออกมา ก่อนจะถูกผลักให้ล้มลงกับพื้นอย่างแรง
จากนั้นเจ้าของร้านที่โกงผมก็ชี้หน้าขยับปากจนคอขึ้นเป็นเอ็น ถ้าให้เดาเธอคงกำลังถูกต่อว่าอย่างหนักเพราะทำให้เจ้าของร้านต้องเสียเงินให้ผมฟรีๆ ตั้งสองแสน
แต่ช่วยไม่ได้ คนอย่างอินทราชไม่ยอมโง่ให้ใครมาหลอกหรอกนะ และใครที่มันคิดจะทำแบบนั้นมันจะต้องถูกผมเอาคืนอย่างสาสม
กรณีนี้ผมยังไม่ได้เอาจริงเลยนะ เห็นแก่ว่าเป็นผู้หญิงเลยแค่เรียกค่าเสียหายแบบเบาๆ ถ้าเป็นคนอื่นผมจะเล่นให้หนักจนมันต้องปิดร้านหนีไปเลย คอยดูสิ
ผมเลิกมองผู้หญิงที่ชื่อเพลินแล้วทำท่าจะขับรถออกไป ทว่ามีบางอย่างบอกให้ผมหยุดรถแล้วหันกลับไปมองเธออีกครั้ง
อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรกลับไปโดยปล่อยให้เธอโดนรังแกอยู่แบบนี้
“ต้องลงไปช่วยใช่มั้ยเนี่ย” ผมพึมพำเบาๆ เพราะรู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร ปกติแล้วผมไม่เคยสนใจนะว่าใครจะเป็นหรือจะตายยังไง แต่กับผู้หญิงคนนี้กลับทำให้ผมรู้สึกแตกต่างออกไป
เอาวะ อย่างน้อยๆ เธอก็เป็นเหยื่อในเหตุการณ์นี้ แล้วเราก็เกือบจะไปปล้ำคนบริสุทธิ์
เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็ถอยรถกลับไปจอดที่เดิมแล้วรีบลงไปช่วยเธอทันที
“พี่แหววเพลินเจ็บนะคะ”
“แกเจ็บงั้นเหรอ แกเจ็บงั้นเหรอฮะ!!” เจ้าของร้านที่ชื่อคุณแหววง้างมือขึ้นทำท่าจะตบเพลิน ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปคว้าข้อมือเธอเอาไว้
“อย่านะคะ อย่า!” เธอหลับตาปี๋ด้วยความกลัว
โชคดีที่มาทัน ยัยปลาทองเลยไม่โดนตบ
“คุณอิน!มีอะไรอีกคะ เดี๋ยวแหววโอนเงินไปให้ค่ะ” คุณแหววหันมาถามผมอย่างไม่พอใจ
“ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินครับ แต่ผมไม่เห็นด้วยที่คุณจะตบผู้หญิงคนนี้”
“เด็กมันดื้อ ฉันก็ต้องสอน คุณอย่ามายุ่งเลยค่ะ ฉันไม่อยากมีปัญหากับคุณ” พูดจบเธอก็สะบัดมือออกอย่างแรง
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยเพลิน” เพลินเงยหน้าขึ้นขอบคุณผม สายตาเธอประกายไปด้วยแววความจริงใจ
“ฉันไม่ได้ช่วย แค่มาชดใช้ที่เกือบจะปล้ำเธอ” ผมตอบเพลินก่อนจะหันไปพูดกับคุณแหวว “คุณแหววผิดนะครับเรื่องนี้ คุณไม่มีสิทธิ์ไปทำร้ายเพลินเพราะเพลินเป็นเหยื่อ”
“แต่แหววเป็นเจ้านายมัน”
“เป็นเจ้านายไม่ได้แปลว่าจะทำอะไรก็ได้”
“งั้นเหรอคะ ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้น…นังเพลินฉันไล่แกออก!!”
“อะไรนะคะ!มะ…ไม่นะคะพี่แหวว อย่าไล่เพลินออกนะคะ พี่แหววอย่าไล่เพลินออกนะ” เพลินพยายามจะคลานเข้าไปขอร้องคุณแหวว ผมที่ทนเห็นภาพแบบนี้ไม่ได้จึงเข้าไปประคองตัวเธอให้ลุกขึ้นยืน
“ไม่ต้องเพลิน ไม่ต้องไปไหว้ของานจากใคร” บอกตรงๆ ว่าผมสงสารเธอจริงๆ
“ไม่ของานแล้วเพลินจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะคะ” เพลินดูจะไม่พอใจที่ผมทำให้เธอตกงาน คุณแหววที่ได้ยินเพลินพูดแบบนั้นก็เหยียดยิ้มอย่างสะใจที่ตัวเองอยู่เหนือกว่า
ประมานว่าสุดท้ายเพลินก็ต้องอยู่ใต้เท้าเธออยู่ดี ซึ่งความเป็นจริงคุณแหววนั่นแหละที่ต้องง้อเพลิน เพราะรูปร่างหน้าตารวมถึงการที่เพลินยังซิงมันทำให้คุณแหววสามารถขายเธอให้พวกเสี่ยแก่ๆ ได้ไม่รู้ตั้งเท่าไร่
ท่าทีที่ทำเหมือนตัวเองเป็นผู้เหนือกว่าของคุณแหวว กำลังปลุกจิตใจด้านมืดของผมที่ถูกปิดผนึกเอาไว้นานให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
“ถ้าอยากมีเงินใช้…ก็มาทำงานกับฉัน…ฉันจะดูแลเธอเอง ไม่ต้องไปง้อหมาหน้าไหนทั้งนั้น”