บทที่ 3 เตียงเจ้าช่างใหญ่โต

1560 คำ
            บรรยากาศรอบวังเต็มไปด้วยบรรยากาศมงคล ทั้งผ้าที่ประดับประดาระโยงรยางค์ตามคานไม้ทั้งตัวอาคารและทางเดินสีแดง  พรมปูพื้นสำหรับให้ฮ่องเต้และฮองเฮาย่างพระบาทผ่าน ปะรำพิธีที่มีโต๊ะเก้าอี้สีแดงขลิบทอง ภาพประดับอันเป็นอุดมมงคลล้วนถูกคัดสรรเข้ามาในห้องโถงใหญ่             เจ้าบ่าวตัวสูงเพรียวโดดเด่นในชุดสีแดง ในขณะที่เจ้าสาวร่างใหญ่สวมชุดแดงที่มีขนาดใหญ่กว่าเจ้าสาวทั่วไปถึงสี่เท่า แม้จะขยายไปในทางกว้าง แต่ความสูงของนางก็ยังอยู่ใต้ระดับจมูกของเจ้าบ่าว               ‘โอ๊ย! ซูเจินกับซูเมิ่ง พวกเจ้าทำชุดเจ้าสาวเล็กไปนะ เปิ่นกงจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว’ หานซู่ลี่หมุนตัวซ้ายขวาอย่างอึดอัด สายรัดเอวที่พยายามจะให้เห็นช่วงเว้าอันคอดกิ่ว กลับกลายเป็นเครื่องทรมานการหายใจ             เจ้าสาวร่างใหญ่ท้องร้องโครกคราก เมื่อเช้าเป่ยซูเจินแอบเอาหมั่นโถให้นางหนึ่งลูก ท่านอ๋องเก้าที่ยืนใกล้ได้ยินเสียงอย่างชัดเจน “เจ้าทนไหวไหม?”             “จะ จะ ไม่ไหวแล้วเพคะ” จบคำนั้น องค์หญิงหมีขาวก็หงายผลึงลงไป ท่านอ๋องเก้าเกร็งลมปราณที่แขนประคองนางไว้ได้ เคราะห์ดีที่ผ้าแดงปิดหน้าเจ้าสาวยังไม่หลุดออก             บรรดาแขกผู้ใหญ่ร้องเอะอะโวยวาย ฮ่องเต้ที่ยังไม่เสด็จกลับ มองภาพนั้นแล้วส่ายพระพักตร์เบาๆ ‘อ๋องเก้าเอ๋ย! เราคงต้องทำดีกับเจ้าให้มากขึ้น เกือบไปแล้ว เกือบเป็นเราที่ต้องเป็นเจ้าบ่าว’             หันมองซ้ายมองขวา ก็ไม่มีผู้ใดคิดจะช่วย “นี่เป็นเจ้าสาวของเจ้า เจ้าก็อุ้มนางเข้าหอเลยแล้วกัน” ชินอ๋อง พี่ชายผู้รูปงามสง่ายืนเคียงข้างกับพระชายาเอกที่งดงามราวนางสวรรค์ทำสีหน้าเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ “ท่าทางนางคงจะหิวมากแล้ว เจ้ารีบพานางไปเถิด”             เท่านั้นเอง ท่านอ๋องเก้าก็ต้องแบกนางขึ้นหลังเข้าหอ เหมือนครั้งแรกที่ได้ช่วยชีวิตนางในอุทยานหลวง หากจะให้อุ้มปกติ ท่านอ๋องเก้าอาจจะท่อนแขนหักทั้งสองข้างได้ ใบหน้าของพระสนมโจว มารดาของท่านอ๋องเก้าดูเหยเก ลูกสะใภ้ร่างใหญ่ราวหมีขาว ทำให้นางอับอายผู้คนยิ่ง ซ้ำร้ายยังมาเป็นลมในงานแต่งงานอีก                   อ๋องเก้าแบกนางไปวางในห้องหอที่มีเตียงขนาดใหญ่สั่งทำพิเศษ ระหว่างที่ประวิงเวลาการอภิเษกสมรส เป็นช่วงการสั่งทำเตียง โต๊ะ เก้าอี้ใหม่ที่มีขนาดเหมาะกับนาง เพราะเก้าอี้ธรรมดานางไม่สามารถวางส่วนก้นลงไปได้ อีกทั้งขาเก้าอี้ก็มีแต่โอนเอนเหมือนจะหัก ยิ่งเตียงนอนในคืนสมรส ท่านอ๋องยิ่งหนักใจ             “ท่านอ๋อง ท่านจะเข้าหอกับนางจริงหรือพะยะค่ะ?” ตงชาง  องครักษ์ฝ่ายซ้ายขมวดคิ้วมองดูเตียงที่ท่านอ๋องสั่งให้ยกเข้ามารอในห้องหอด้วยความหวาดหวั่น             “แค่เข้าหอ จะเป็นไร?” นางเป็นองค์หญิงจากต่างแคว้นการจะไม่เข้าหอดูไม่สมควร แต่เรื่องจะหลับนอนกับนางหรือไม่ นั่นเป็นการตัดสินใจของตน             หนานเฉิง องครักษ์ขวาได้แต่มองตาปริบๆ เขาไม่ค่อยออกความเห็นสิ่งใด ปล่อยให้ตงชางพูดจะดีกว่า “ตะ แต่ แต่ว่า....” เมื่อทั้งสองคิดถึงรูปร่างของเจ้าสาวแล้วถึงกับตาเหลือกขึ้นเล็กน้อย             “เล่นงิ้วอีกสักฉาก ประเดี๋ยวก็จบแล้ว” ท่านอ๋องตัดบท ก็เพียงแค่รักษาหน้าให้นางในฐานะองค์หญิงต่างแคว้นเท่านั้น แค่เห็นรูปร่างของนางก็ยากจะทำอะไรได้แล้ว             นางกำนัลรูปร่างล่ำสันทั้งสองเข้ามานวดเนื้อนวดตัวให้ ไม่นานนักเจ้าสาวของเขาก็ผุดลุก             “เปิ่นกงหิวมาก....” เสียงนางแหบโหย ลุกขึ้นได้ก็ซวนเซไปที่โต๊ะอาหาร             อ๋องเก้ามองแล้วส่ายหน้า เขากลับออกไปห้องโถงเพื่อร่วมดื่มกับแขกเหรื่อ แต่แล้วก็ต้องประหลาดใจที่เพื่อนสนิทดั้นด้นเดินทางจากแคว้นผิงกลับทันดื่มอวยพรในค่ำคืนนี้             “หลี่เปียว เจ้ามาทันเวลาเสียด้วย” ฝูหลี่เปียวเป็นคนสูงสันทัด ผอมบาง มีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มประดับบนใบหน้าเสมอ“กระหม่อมต้องมาวันสำคัญของสหายอยู่แล้ว” แม้จะสงสัยที่งานเลื่อนเข้ามากะทันหัน แต่ยามนี้ไม่เหมาะที่จะมาซักถาม ฝูหลี่เปียวมอบสร้อยไข่มุกล้ำค่าที่ได้มาจากการเดินทางไปค้าขายแถบทะเล เขาเดินทางไปทั่วทั้งแคว้นผิง แคว้นเหลียน และแคว้นจิน กว่าจะวนเวียนกลับมาถึงแคว้นหมิงก็มักจะค่อนปลายปี ชายหนุ่มทั้งสองดื่มสุราสนทนากันอย่างออกรส เพราะไม่ได้เจอกันนาน ฝูหลี่เปียวตื่นเต้นที่องค์ชายเก้าได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นจวิ้นอ๋อง ในวังหลวงที่มีองค์ชายจากรัชกาลเดิมจำนวนมาก หากไม่สร้างคุณความดีอย่างแท้จริง ฮ่องเต้หมิงมีหรือจะพระราชทานตำแหน่งสำคัญนี้ให้ “บางที เรื่องมันก็ไม่ได้เป็นแบบที่เจ้าได้ฟังมา” สำหรับฝูหลี่เปียวแล้ว นอกจากจะเป็นสหายสนิทมาตั้งแต่เยาว์วัย ยังถือว่าเป็นญาติห่างๆ สายหนึ่งด้วย ทำให้มิตรภาพของทั้งสองแนบแน่น “กระหม่อมมีเรื่องเล่าจากแคว้นผิงมาฝากท่านอ๋องด้วย” “เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยคุยกัน” ฝูหลี่เปียวงุนงง คืนนี้จะเข้าหอ แล้วพรุ่งนี้เจ้าบ่าวไฉนเลยจะอยากออกมาคุยกับสหายอีกเล่า? มิใช่อยากจะคลอเคลียอยู่กับเจ้าสาวดอกหรือ? ได้ยินว่า เจ้าสาวเป็นองค์หญิงมาจากแคว้นเว่ยที่ร่ำลือกันไปถึงแคว้นผิงว่า มีรูปโฉมงดงามโดยเฉพาะรูปร่างอันอ้อนแอ้นที่หากได้ยลยามนางเยื้องย่างแล้ว แทบจะลืมหายใจ             “ท่านอ๋องคงจะยุ่งเรื่องภายในวังอีกหลายวัน  อีกห้าวันข้างหน้าหม่อมฉันจะมาเยือน พะยะค่ะ”             อ๋องเก้านึกถึงความวุ่นวายที่ต้องจัดการเจ้าหมีขาวตัวนั้น แล้วก็ถอนหายใจ             “เช่นนั้นก็ดี เราคงต้องทำสวนสัตว์ด้านหลังวังสักพัก”             “.......” ฝูหลี่เปียวได้แต่ทำตาปริบๆ               ร่างใหญ่ในชุดแดงกางแขนสองข้างครอบไปเสียเกือบครึ่งโต๊ะ นางใช้มือหนึ่งคืบตะเกียบอีกมือถือเนื้อหมูทอดชิ้นใหญ่ในมือ ความหิวโหยทำให้นางลนลานกว่าปกติ             “องค์หญิงเพคะ อีกสักครู่ท่านอ๋องน่าจะเสด็จแล้ว รีบเถิด” เป่ยซูเจินคอยเร่งอยู่ข้างๆ หากท่านอ๋องมาเห็นสภาพนี้ ไม่รู้ว่าจะเคืองสักปานใด             หานซูลี่ตัดใจโยนเนื้อหมูชิ้นสุดท้ายลงปาก เคี้ยวอย่างตั้งใจ หยิบจอกน้ำชามากระดกแล้วเทใหม่กระดกซ้ำ “อ่า....ค่อยยังชั่ว”             เป่ยซูเจินเตรียมผ้าชุบน้ำมาให้องค์หญิงเช็ดมือ เลื่อนน้ำมาให้บ้วนปาก นำผ้ามาเช็ดปาก และเติมสีชาดให้เรียบร้อย นำองค์หญิงไปนั่งรอที่เตียง แล้วนำผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวมาคลุมไว้             ร่างกายที่อิ่มหมีพีมันได้เวลาพักผ่อน ดีที่กำลังภายในนางแข็งแกร่งจึงนั่งหลับได้นาน นางไม่ได้ยินกระทั่งนางกำนัลป่าวร้องว่า “ท่านอ๋องเสด็จแล้ว”             ตราบจนไม้ที่เปิดผ้าคลุมหน้าเสยเอาผ้าแดงผืนใหญ่ออก นางจึงเห็นเจ้าบ่าว ใบหน้าหล่อเหลาราวหยกสลักด้วยฝีมือเทพเซียนปรากฏต่อหน้า นัยน์ตาองค์หญิงพร่าพรายไปชั่วขณะ ตลอดเวลาทำพิธีนางเห็นเพียงท่อนล่างของชายหนุ่มในชุดสีแดง             “เจ้าไม่ต้องคิดหรอกว่า เปิ่นหวางจะร่วมหอกับเจ้า” น้ำเสียงเย็นชานั้นไม่ดังนัก นางสลัดความมึนงงออก “เจ้ามีเรือนอยู่ด้านหลังวัง ทั้งเตียง โต๊ะและเก้าอี้พวกนี้ เปิ่นหวางจะให้บ่าวไพร่ขนไปให้ พรุ่งนี้เจ้าไปนอนที่โน่น”             อ๋องเก้ามองใบหน้าจิ้มลิ้มที่จมลงไปในเนื้ออูมที่แทบจะท่วมดวงตา จมูก และปากของนาง “เจ้าดูเหมือนหมีขาวจริงๆ”             หานซู่ลี่คิดจะโต้กลับ แต่เจ้าบ่าวกลับยื่นสองมือมาบีบแก้มของนางสองข้าง แยกออกจากกัน             “ข้าจะคิดเสียว่า เลี้ยงหมีไว้ดูเล่นสักตัว”      *************************** ไรท์แนะนำ.....นิยายซีรี่ย์นี้มีทั้งหมด 6 ภาคด้วยกัน (เขียนถึงต้นสิงหาคม 2564) ซึ่งแต่ละเรื่องสามารถอ่านแยกกันได้ เพียงแต่ตัวละครจะรู้จักหรือเป็นญาติกันคะ่ เรื่องที่ 1 "ท่านอ๋องอย่าคิดหนี" เรื่องที่ 2 "ท่านอ๋องเป็นของข้า" พระเอกคือ หมิงเฉินกง เป็นน้องชายของพระเอกภาค 1 เรื่่องที่ 3 "ท่านอ๋องกับชายาหมี" พระเอกคือ ท่านอ๋องเก้า เป็นน้องชายของพระเอกภาค 1 เรื่องที่ 4 "ท่านหญิงจีจอมพลัง" พระเอก คือ ฟ่านหลี่เจี๋ย เป็นพี่ชายของนางเอกภาค 1 เรื่องที่ 5 "ซือซือ ฮองเฮาพันโฉม" พระเอกคือ ฮ่องเต้หมิง พี่ชายของพระเอกภาค 1 เรื่องที่ 6 "สายลับจับอ๋องใหญ่" พระเอกคือ องค์ชายจินเสวี่ยหลงพี่ชายของนางเอกภาค 2 ทุกเล่มมี EBOOK จำหน่ายค่ะทางเว็บไซต์ขายอีบุ๊กหลายเว็บนะคะ.....ติดตามข้อมูลนิยายของไรท์ได้ทางเฟสบุ๊กจ้า https://web.facebook.com/Chaomuangtawanok
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม