หลังจากทำงานของตัวเองเสร็จแล้ว มาริสาก็เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะไปนั่งรอพลอยใสอยู่ที่ห้องรับรอง เพราะวันนี้เพื่อนสาวของเธอบอกว่า จะเดินทางไปเยี่ยมศรีประพาด้วยกัน ขณะที่เธอนั่งรอหน้าห้องรับรองอยู่นั้น ร่างสูงของไต้ฝุ่นก็เดินผ่านพอดี
ชายหนุ่มหยุดชะงักอยู่กับที่ เมื่อมองเห็นสาวน้อยถักผมเปีย ใส่เสื้อฮู้ดและกางเกงยีนส์ธรรมดา มาริสาล้างเครื่องสำอางออกจากใบหน้าจนหมดเกลี้ยง แถมถักผมเปีย 2 ข้างไว้หลวมๆ
ก่อนจะมานั่งเล่นมือถือรอพลอยใสอยู่ตรงนี้ เพราะว่าเพื่อนสาว กำลังถือร่มให้คริสเตียนโน่ ที่กำลังแข่งขันในสนามแข่งอยู่ตอนนี้
มาริสาก้มหน้าเล่นเกมในมือถือ แต่รู้สึกเหมือนกับว่ามีคนจ้องมอง หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นไปดู
พลันสองสายตาประสานกันนิ่งไปชั่วขณะ ในสายตาคู่นั้นมันมีความรู้สึกผูกพันแปลกๆ ก่อนที่มาริสาจะเป็นฝ่ายเมินหนีไป เพราะรู้สึกสะเทิ้นเขินอายที่โดนจับจ้องอยู่ตอนนี้
เขากำลังจ้องมองเธออย่างโหยหา จ้องเหมือนกับว่ารู้จักกันมานาน ทั้งๆ ที่เธอกับเขา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย
หลังจากมาริสาเมินหน้าหนี
เขาเองก็ไม่ทักทายเธอเหมือนกัน พลันสายตาโหยหาเมื่อสักครู่นี้ แปลเปลี่ยนเป็นเย็นชาเหมือนดังเดิม ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และกลับออกมาด้วยชุดใหม่ ก่อนจะเดินผ่านหน้าเธอไป และไม่หันมามองอีกเลย
ไต้ฝุ่นไม่คิดจะสนใจผู้หญิงคนไหน ถึงแม้ว่าหน้าตาของมาริสา มันจะเหมือนกันกับคนรักเก่าในอดีตของเขา แต่ไม่มีวันเป็นคนคนเดียวกัน เพราะเอลิเซียตายไปนานแล้ว เขาไปงานศพของเธอด้วยตัวเอง
ชายหนุ่มหวนคิดถึงเอลิเซียอีกครั้ง เมื่อกลับมาถึงห้องของตัวเอง ไต้ฝุ่นหยิบรูปภาพของอดีตคนรักขึ้นมาดู พลางลูบไล้ไปที่ใบหน้าสวยสดใสของเธอ
เอลิเซียเป็นลูกครึ่งไทยอิตาลี่ เขาและเธอคบกันตั้งแต่ชั้นไฮสคูล จนกระทั่งกลับมาอยู่เมืองไทยด้วยกัน ทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่ว่าที่เจ้สาวของเขา เสียชีวิตไปเสียก่อน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก่อนถึงวันวิวาห์แค่สองอาทิตย์ เอลิเซียกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่อิตาลี่ และเกิดอุบัติเหตุรถชนกันในอุโมงค์ แฟนสาวของเขาเสียชีวิตทันทีพร้อมคุณแม่ของเธอ ร่างกายของเอลิเซียถูกเผาไหม้ จนแทบจะจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร
เหตุการณ์นั้นผ่านมาตั้งนานแล้ว แต่มันยังเป็นฝันร้ายของไต้ฝุ่นอยู่เลย เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ชายหนุ่มนั่งกอดรูปภาพคนรักเก่าแล้วร้องไห้ออกมา เขารักเอลิเซีย และจะไม่มีวันจะเปลี่ยนไปรักใคร
ส่วนทางด้านมาริสานั้น เธอนั่งรอพลอยใสอยู่สักพักหญิงสาวก็เดินเข้ามา พลอยใสเดินมาพร้อมกันกับคริสเตียนโน่ ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะมองสำรวจ หน้าตาของมาริสาอย่างมีความหมาย และก้มลงไปกระซิบข้างหูพลอยใสว่า
"อย่าลืมถามนะ ถ้าทำงานสำเร็จ ฉันมีรางวัล" คริสเตียนโน่บอกเธออีกครั้ง ก่อนจะเดินผ่านไป ทิ้งให้มาริสาค้างคาใจ เพราะผู้ชายคนนั้นมองเธอแปลกๆ อีกแล้ว
"มีอะไรเหรอพลอยใส" มาริสาเห็นว่าคริสเตียนโน่มองเธอแปลกๆ จึงถามเพื่อนรักอย่างสงสัย ทำไมวันนี้นักแข่งในสนามต่างจ้องมองเธอ เหมือนกับว่ารู้จักกันมานาน ทั้งๆ ที่มาริสามาทำงานที่นี่ได้แค่วันเดียว
"เราขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง" พลอยใสบอกกับเพื่อนรัก ก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าห้องแต่งตัว ก่อนจะกลับออกมาด้วยกระโปรงชุดใหม่ เป็นชุดแซกสีชมพู ดูสดใสสมวัย
" นักแข่งคนเมื่อกี้เขาคุยอะไรกับตัวเองเหรอ" มาริสาเอ่ยถามเพื่อนรักอีกครั้ง หลังจากนั่งรถมาด้วยกัน
"เดี๋ยวเอาไว้เยี่ยมแม่เธอเสร็จก่อน เราจะเล่าให้ฟัง"
พลอยใสบอกมาริสาพร้อมตีไฟเลี้ยว เข้าไปจอดในโรงพยาบาล หลังจากนั้นสองสาวก็เดินเข้าห้องไปเยี่ยมศรีประพา แต่วันนี้อาการกลับแย่กว่าเมื่อวาน เพราะว่าเนื้องอกมันเจริญเติบโตทับเส้นประสาท จนเริ่มขยับตัวลำบาก แล้วคุณหมอที่ทำการรักษาก็เรียกเธอไปคุย
"คุณต้องตัดสินใจ ให้คนไข้ผ่าตัดนะครับ" คุณหมอบอกมาริสา ขณะที่เรียกเข้าไปคุยในห้องทำงานส่วนตัวและมีพลอยใส เข้าไปฟังด้วย
"หนูทราบค่ะ แต่เงินมันยังไม่พอค่ะ" เธอบอกกับคุณหมอไปตามความจริง ถึงจะขายสมบัติที่บ้านไปเกือบหมด แต่กว่าจะค้นหาโรคเจอ ก็เสียค่ารักษาไปหลายตังค์ แล้วนี่ถ้าหากผ่าตัด เงินมันยังไม่พอ
มาริสาจึงต้องออกหางานทำ เธอหวังว่าจะได้เงินพอมารักษาแม่ แต่พึ่งไปทำงานได้เพียงวันเดียวเอง จะหาเงินหลักแสนมาจากไหน
"แต่ถ้าหากปล่อยเอาไว้นาน จะเป็นอันตรายกับคนไข้นะครับ" คุณหมอบอกกับเธอ
"หนูรู้ค่ะ หนูจะหาเงินมาผ่าตัดแม่ให้เร็วที่สุด" ถึงจะบอกคุณหมออย่างนั้น แต่ทว่ามาริสาก็เดินออกจากห้องนั้นอย่างหมดแรง เงินจำนวนมากมาย เธอจะไปหามาจากที่ไหนกัน
"เงินค่าผ่าตัดขาดอยู่เท่าไหร่เหรอมาริสา" พลอยใสถามเธอ
"ขาดเกือบหนึ่งแสนบาทน่ะ เรายังหาไม่ได้เลย" มาริสาก้มหน้าร้องไห้ รถคันเก่าของคุณแม่ก็ขายไปแล้ว อะไรที่พอขายได้เธอก็ขายไปแล้ว แต่มันยังไม่พอ
เพราะก่อนหน้านี้ต้องจ่ายทั้งค่าเทอมและค่าหาหมอของคุณแม่มาเกือบหนึ่งปี กว่าจะตรวจหาโรคเจอว่าสาเหตุของอาการปวดหัวข้างเดียวของศรีประพา มันเกิดจากอะไร
"ถ้าหากมีคนเสนองานพิเศษให้ เธอจะทำไหม" พลอยใสเริ่มเกริ่นถามเพื่อนรัก เธอก็รู้ว่ามาริสา ไม่เคยทำตัวเหลวไหล แต่ถ้าหากมันจำเป็น มันก็ต้องทำใช่ไหม
"งานอะไร" มาริสาเอ่ยถามเพราะไม่เคยอยู่ในวงการนี้มาก่อน ปกติแล้วเธอแค่ทำขนมขายกับแม่เท่านั้น แต่หันมารับงานพริตตี้ เพราะต้องการเงินมารักษาแม่แค่นั้นเอง
"พี่คริส หมายถึงคริสเตียนโน่ นักแข่งที่เราถือร่มให้วันนี้น่ะ เขาอยากจะจ้างเธอไปเอ็นเทอร์เทน วันเกิดของเพื่อนเขาน่ะ"
"หมายความว่ายังไง" มาริสาถามอีกครั้ง เพื่อความกระจ่างชัดทันที
"หมายความว่า เขาจะจ้างเธอไปนอนกับเพื่อนของเขา" คราวนี้มาริสา ถึงกับตาโต จ้างไปนอน หมายความว่าให้เธอไปขายตัว
"จ้างไปนอนอย่างนั้นเหรอ" เอ่ยถามพลอยใสใบหน้าซีดเผือด เธอแค่คิดอยากจะไปเป็นพริตตี้
แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากจะไปขายตัวให้ใคร
" อืม คือแฟนพี่ไต้ฝุ่นเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน หน้าตาของผู้หญิงคนนั้นเหมือนกันกับเธอมาก เขาเลยอยากจ้างให้ไปเอ็นเทอร์เทน คือจ้างไปนอนกับเพื่อนเขานั่นหละ"
เพราะคริสเตียนโน่ วางแผนจะทำเซอร์ไพรส์เพื่อน อยากให้เพื่อนมีความสุขเหมือนดั่งวันวาน คริสเตียนโน่จึงลงขันกับอีริค จ้างสาวบริการแบบส่วนตัว
"เราไม่ทำงานอย่างนั้นหรอก เราจะลองไปขอกู้เงินดูก่อน"
เธอตัดปฏิเสธพลอยใสทันที เพราะคิดว่าจะเอาโฉนดบ้าน ที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของคุณแม่ไปจำนอง และหลังจากนั้นค่อยหาเงินผ่อนส่งเอา
++++++++++++++
ชีวิตรันทดของมาริสา แล้วทำไมหน้านางถึงได้เหมือนกันกับแฟนของพระเอก ใครรู้ช่วยบอกที