ทำเหมือนหนูเป็นเด็กไปได้

2642 คำ
ฉันตื่นมาบนเตียงของโรงพยาบาล มีพ่อที่นั่งด้านข้างด้วยความเป็นห่วง กระนั้นสายตาก็มีความคาดโทษเบา ๆ ภาพเลือนรางที่ฉันจำได้ครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดกลายเป็นความว่างเปล่า คือป้าจำปาเข้ามาในห้อง พยายามจะช่วยเหลือแต่คนแก่ก็เงอะงะไปหมด สุดท้ายฉันก็หมดสติไป หากให้คาดเดา ป้าจำปาคงไปเรียกพ่อฉันมาช่วย ถึงได้มาอยู่โรงพยาบาลได้ ซึ่งแม้ว่าจะถึงมือหมอ ร่ายของฉันก็ยังเจ็บร้าวมากทีเดียว นี่ถือเป็นเลือดตกยากออกรุนแรงที่สุดในชีวิต  ยังรู้สึกเจ็บที่ช่วงท้องขณะที่ขยับตัว แผลก็คงจะลึกไม่น้อยจากสายตาที่มองเห็น ตัวโยธกาก็มือหนักมาก ๆ ด้วย “ไม่ต้องไปยุ่งกับไอ้ฐาอีกเลย มันทำลูกพ่อเจ็บขนาดนี้” คิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ แต่คนเร้ามันห้ามกันได้ง่าย ๆ หรือไง ในเมื่อผูกใจรักมาหกปีแล้ว “พ่อ... พี่รฐาไม่ได้ทำหนูสักหน่อย” พูดความจริงทุกอย่าง เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับพี่รฐา  “พ่อ แล้วผู้หญิงคนนั้นเธอเป็นยังไงบ้าง เธอทำร้ายป้าจำปากับลุงวัตรรึเปล่า มีใครเป็นอะไรไหม?” “แทนที่จะถามว่าหลับไปกี่วัน ยังกล้าห่วงคนอื่นอีก!! หนูพิมพ์รู้ไหม ว่าพ่อเป็นห่วงหนูแค่ไหน รู้ไหมลูก!!” “รู้ค่ะ... หนูขอโทษ ที่ทำให้พ่อเป็นห่วง” ฉันยกมือพนมไหว้ด้วยความเสียใจ ทำไมจะไม่รู้เล่า พ่อคนนี้รักฉันที่สุดในโลกแล้ว “ต่อไปจะดูแลตัวเองดีกว่านี้ จะไม่ทำให้ตัวเองต้องมีบาดแผลแม้แต่น้อย แบบนี้ดีไหมคะ” “เหอะ! พูดแบบนี้คงไม่ยอมเลิกยุ่งกับไอ้รฐาสินะ” “โถ้พ่อจ๋า... คนเรามันเลิกรักกันได้ง่ายที่ไหน เหมือนกับที่หนูรักพ่อไง” ฉันพูดอย่างเอาใจพ่อ พยายามพยุงตัวนั่งโดยมีพ่อช่วยอีกแรง “หนูหลับไปสองวัน ใจของพ่อมันจะขาด พ่อไม่มีใครแล้วนอกจากหนู อย่าทำให้ตัวเองอยู่ในอันตรายได้ไหม พ่อเป็นห่วง” ฉันพลาดที่พาตัวเองไปอยู่ในที่อันตราย พี่รฐามัดเธอไว้แน่นหนาดีแล้ว เพราะพี่รฐาคงรู้ ว่าเธออาจทำร้ายและหลบหนี  ฉันพลาดเองโทษใคร ไม่ได้เลย “หนูขอโทษค่ะพ่อ..” ฉันยกมือไหว้พ่ออีกครั้ง รู้สึกผิดมาก เรามีกันแค่สองคน พ่อมีฉัน ฉันเองก็มีแค่พ่อเช่นกัน หายโกรธหนูนะคะ หนูขอโทษ” “หายโกรธก็ได้” คนตัวโตอยากจะเข้ามากอดฉัน แต่เมื่อเห็นว่าลูกเจ็บอยู่ พ่อก็ยอมนั่งลงด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เราคุยกันพักใหญ่ถึงเรื่องอื่น ๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องพี่รฐา จนในที่สุดพ่อยอมเล่าทุกอย่างออกมาเอง ว่าป้าจำปาและลุงวัตรเดินทางไปกรุงเทพฯ พี่รฐาถูกยิง อาการเป็นตายเท่ากัน  สิ่งที่ฉันรับรู้ทำให้ฉันตกใจอย่างมาก เราสองคนเจ็บตัวแทบจะพร้อมกันเลย คำที่บอกว่า ‘เป็นตายเท่ากัน’ ดูร้ายแรงสุด ๆ ใจคอคนที่เพิ่งตื่นลืมตาวันนี้ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ฉันอยากไปเยี่ยมพี่รฐาใจจะขาด แต่ก็ไม่กล้าขอพ่อ ฉันจะทำยังไงดี หากกล้าขอไปกรุงเทพ พ่อก็คงไม่ยอม เพราะแผลของฉันมันยังหนักเอาการ นอนพักเพื่อฟื้นฟูร่างกาย แต่ฉันก็หลับตาไม่ลง ใจมันลอยไปอยู่ที่กรุงเทพแล้ว ฉันควรทำอย่างไรดี หาทางออกแบบไหนดี มีใครช่วยฉันได้บ้าง จนช่วงสายที่พ่อออกไปซื้อของ พี่ภาคินเข้ามาเยี่ยม เป็นจังหวะเดียวกับที่หมอเข้ามาตรวจร่างกาย และบังเอิญมากไปกว่านั้น เมื่อหมอเจ้าของไข้ที่เข้ามาตรวจร่างกายฉัน เธอคือพี่ชะเอม แฟนเก่าพี่รฐาสมัยเรียน แถมยังเป็นเพื่อนของพี่ภาคินด้วย โลกกลมอย่างไม่น่าเชื่อ  โลกกลมยิ่งกว่านั้น เมื่ออาจารย์ที่สอนมาแจ้งเรื่องสำคัญ ว่าทุนที่ฉันยื่นขอเพื่อไปเรียนที่กรุงเทพฯ ผ่านแล้ว ทุกอย่างเหมาะสมลงตัวไปหมด ราวกับมันถูกจัดวางเอาไว้อย่างดี “หนูพิมพ์เจ็บแบบนี้ก็ไปรายงานตัววันพรุ่งนี้ไม่ได้สิ  ทุนนี้ก็ต้องเป็นโมฆะใช่ไหม” พี่ภาคินถามขึ้น เมื่ออาจารย์และหมอชะเอมออกไปแล้ว จะทำยังไงดี ร่างกายก็ยังไม่หาย ทุนก็อาจเป็นโมฆะ แถมไปดูแลพี่รฐาก็ไม่ได้ จะทำยังไงดีนะ... ฉันยังคงครุ่นคิดอยู่อย่างนั้น หาทางออกที่มันน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด จนกระทั่งมีความคิดร้าย ๆ เข้ามาในหัวของฉัน “พี่คิน ช่วยอะไรหนูพิมพ์หน่อยได้ไหม” คนที่นั่งอยู่ข้างเตียงมองหน้าฉันนิ่ง  “ช่วยให้พี่ชะเอมส่งตัวหนูพิมพ์เข้ากรุงเทพได้ไหม หนูพิมพ์จะได้ไปรายงานตัวทัน” ทั้งที่จุดประสงค์ของฉันอยู่กับพี่รฐาสะมากกว่า  อาการของเขาแย่ ให้ฉันได้ดูแลสักนิดเถิด “ทุนนี้สำคัญสำหรับหนูพิมพ์มาก หนูพิมพ์อยากที่จะไปให้ได้ ช่วยหนูพิมพ์นะคะ ขอร้องนะคะพี่ภาคิน” อ้อนสุดชีวิต ได้โรดละพี่ภาคิน ช่วยทำให้ความต้องการของฉันสำเร็จด้วย “ลุงภาคก็ต้องตามหนูพิมพ์ไปนะคะ ลุงภาคไม่ปล่อยให้หนูไปคนเดียวแน่” “ทำยังไงดี พี่คิน หนูพิมพ์ทำยังไงดี หนูพิมพ์อยากไปมาก” ฉันกำลังร้อนรน เมื่อฉันอยากที่จะไปเยี่ยมพี่รฐามาก  อาการของเขาเป็นตายเท่ากัน  ฉันอยากที่จะไปหาเขาเหลือเกิน  แต่ระหว่างที่ฉันกำลังคุยกับพี่ภาคิน ฉันก็ไม่ทันสังเกตว่าพ่อเข้ามาในห้อง ไม่รู้ว่าเข้ามาตอนไหน ได้ยินไปมากน้อยเท่าไร เมื่อพ่อกำลังยืนมองฉันนิ่ง สายตาราบเรียบทำให้ฉันรู้ว่าพ่อกำลังโกรธ “ภาคิน กลับไปก่อน ลุงจะคุยกับหนูพิมพ์” เสียงพ่อนิ่งมาก  “ครับคุณลุง” สายตาของพี่ภาคมองมาอย่างห่วงใย แต่คงช่วยอะไรไม่ได้แล้วแหละ ต้องสุดแล้วแต่เวรกรรมใช่ไหมนะ ความเงียบเข้ามาเยือน เมื่อพี่ภาคออกไปจากห้องแล้ว ฉันที่ไม่กล้าแม้แต่สบตาพ่อ เพราะฉันกำลังคิดที่จะหาทางโกหก ต้องการไปหาพี่รฐา ทั้งที่พ่อพยายามห้ามปราม  ก็ฉันรักเขา ฉันก็อยากที่จะดูแลเขา ยิ่งเขากำลังเจ็บ จะให้ฉันทนอยู่ได้ยังไง ที่ผ่านมาพ่อสอนมาตลอด เมื่อเราคิดที่จะทำอะไร จงทำอย่างตั้งใจและเต็มที่ เรื่องความรักสำหรับฉันก็เช่นกัน ความเงียบทิ้งเวลาเนิ่นนาน จนทำให้ฉันน้ำตาไหลออกมา พ่อโกรธฉันมากแน่ ๆ  “พ่อจ๋า หนูพิมพ์ขอโทษ แต่หนูพิมพ์มีรายงานตัวจริง ๆ ฮึก ๆ หนูพิมพ์ไม่ได้โกหก” “ถ้าทุนนี้โมฆะ หนูพิมพ์ก็รู้ว่าพ่อส่งเรียนได้ แต่ที่หนูพิมพ์อยากไป ทั้งที่ตัวเองเจ็บ เพราะว่าหนูพิมพ์อยากไปหาไอ้ฐาต่างหาก” ฉันร้องไห้อย่างหนัก ฉันตั้งใจหาทางโกหกพ่อ แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายจิตใจท่าน “หนูพิมพ์รู้ไหมว่าพ่อเสียใจแค่ไหน ที่ผู้หญิงของไอ้ฐา มาทำร้ายลูกของพ่อ พ่ออยากจะฆ่ามัน ที่โง่มองไม่เห็นความรักของลูกพ่อ ยิ่งเห็นหนูเจ็บ... พ่อเจ็บมากกว่าหนูหลายเท่านะ ให้พ่อโดนแทงแทนหนูพ่อก็ยอม แต่หนูกลับยอมเจ็บเพราะคนที่มันไม่ได้รักหนู” “ฮื้อ ฮึก ๆ  พ่อ... หนูพิมพ์ขอโทษ” ฉันยกมือประนมไหว้ทั้งน้ำตา ฉันผิดไปแล้ว นี่ฉันทำอะไรลงไป ฉันทำร้ายจิตใจของพ่อที่รักฉันมากกว่าใคร  พ่อตรงเข้ามากอดฉันแน่น เราก็กอดกันร้องไห้แบบนั้นนานหลายนาที ฉันจะตาบอดเพราะความรักแค่ไหนก็ได้ แต่ฉันควรที่จะมองเห็นพ่ออยู่ในสายตาเสมอ “พ่อมีบ้านที่กรุงเทพ พ่อจะไปส่งที่นั่น ให้ไอ้องุ่นไปอยู่ดูแลหนูพิมพ์” นี่พ่อกำลังจะบอกว่า อนุญาตให้ฉันไปกรุงเทพ ให้ฉันไปหาพี่รฐาได้ แบบนั้นใช่ไหมนะ? “แต่พ่อจะให้ไปก็ต่อเมื่อ หมอบอกว่าหนูออกจากโรงพยาบาลได้ ทุนก็ช่างมัน... ชีวิตลูกพ่อสำคัญกว่า ตกลงตามนี้นะ” ฉันยังร้องไห้พร้อมกับการพยักหน้าตอบ  ไม่มีใครในโลกรักฉันเท่าพ่อ ทั้งที่ปากบอกว่าอยากจะฆ่าพี่รฐา แต่สุดท้ายก็ยอมที่จะให้ฉันไป  เพราะพ่อรักฉัน ทำเพื่อฉันได้ทุกอย่าง สามวันผ่านไป หลังจากวันที่ทำการตกลงกับพ่อ ฉันได้รับการบอกเล่าเรื่องอาการของพี่รฐาเสมอ ซึ่งตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ก็ยังไม่ฟื้น  ส่วนป้าจำปาและลุงวัตรกลับมาที่บ้าน เพราะพวกท่านอายุมาก การไปอยู่ต่างที่ต่างถิ่นอันตราย เพื่อนของพี่รฐาเป็นคนดูแลจัดการ ทั้งยังทำหน้าที่ขับรถมาส่ง นั่งคือข่าวสารที่ฉันรับรู้ตลอดสามวันที่ผ่านมา พ่อเรื่องที่สำคัญกับฉันอีกหนึ่งอย่าง พี่รฐามีตำแหน่งพันตำรวจเอกของหน่วยปราบปรามยาเสพติด ได้รับการเลื่อนขั้นครั้งใหญ่ หลังจากปิดคดีมาเฟียข้ามชาติได้  หกปีที่เขาหายไปคงทำงานอย่างหนัก ยศที่ได้มาจึงคุ้มค่าเสียยิ่งกระไร เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ป้าจำปาก็ต้องรู้สึกยินดีไม่ต่างกันแน่นอน ผู้ชายที่หลายคนมักพูดว่า... ทิ้งพ่อแม่ที่แก่เฒ่าให้ต้องลำบาก บางครั้งถูกนินทาให้เสียหาย กลายเป็นพันตำรวจเอกที่น่าเกรงขาม น่าภูมิใจแทนป้าจำปาและลุงวัตรจริง ๆ ฉันได้แต่นั่งยิ้มอยู่บนเตียงผู้ป่วย ขณะที่พี่หมอชะเอมกำลังตรวจอาการ “ตอนนี้แผลปิดสนิทดีแล้วนะ” “ขอบคุณค่ะพี่หมอ”  “ตอนนี้เรียนพยาบาลอยู่ใช่ไหม รู้รึเปล่าว่าต้องดูแลตัวเองยังไง” พี่หมอชะเอมถาม ฉันยิ้มและพยักหน้าเข้าใจ  ตอนนี้อยากออกจากโรยาบาลแล้ว “เดี๋ยวให้พยาบาลชี้แจงเพิ่มเติม เรื่องการดูแลตัวเอง และก็สามารถกลับบ้านได้แล้วนะคะ” “กลับได้แล้วเหรอคะ!!” ฉันร้องด้วยความดีใจก่อนจะหันไปหาพ่อ มีชายวัยห้าสิบปีส่ายหัวเบา ๆ พร้อมกับยิ้มเล็ก ๆ ก็คนมันดีใจนี่น่า แถมยังทำตามข้อตกลงทุกอย่าง พ่อไม่มีสิทธิ์โกรธ “กลับได้แล้วค่ะ แต่ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ” “รับทราบค่ะ” ดีใจราวกับเรียนจบพยาบาล แค่คิดว่าจะได้ไปหาพี่รฐา กำลังใจในการดูแลตนเองก็มีล้นหลาม คิดถึงจะแย่แล้ว อยากเห็นหน้าหล่อ ๆ นั้น ฉันได้ออกจากโรงพยาบาลในสายของวัน ทันทีที่มาถึงบ้าน ก็เห็นเจ้าองุ่นเก็บกระเป๋ารอ ข้าวของมากมายอย่างกับจะไปเที่ยว เพราะฉันแอบโทรบอกก่อนที่จะมาถึงบ้าน แต่ไม่คิดว่าจะเก็บเยอะขนาดนี้ พ่อไม่ได้ว่าอะไรกับสิ่งที่เห็น พ่อยิ้มแล้วเดินเข้าไปในบ้าน คิดว่าน่าจะรู้อยู่แล้วแค่ไม่พูดก็เท่านั้น พวกเราจัดการเตรียมของอีกเล็กน้อย จากนั้นก็เดินทางไปกรุงเทพฯ ทันที ตลอดทางพ่อก็เอาแต่พูดบอกว่า... ต้องดูแลตัวเองดี ๆ ถ้าเจ็บตัวเพราะพี่รฐาอีก จะไม่ยอมอะไรอีกทั้งนั้น ซึ่งทุกอย่างก็เพราะความเป็นห่วงล้วน ๆ ตลอดการเดินทางมากรุงเทพฯ ฉันกระตือรือร้นมาก ไม่อยากให้จอดรถเติมน้ำมันด้วยซ้ำไป แต่เจ้าองุ่นก็เหมือนกลั้นแกล้ง รายนี้เข้าห้องน้ำบ่อยมาก พ่อพาเข้าไปในโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใหญ่มากทีเดียว เป็นบ้านหลังไม่ใหญ่มาก แต่มองจากสายตาก็น่าจะราคาหลายล้าน ฉันรู้ว่าพ่อมีบ้านในกรุงเทพ ฯ แต่ไม่เคยรู้ว่าจะหลังใหญ่ขนาดนี้ มีป้าแก้วที่พักในบ้านออกมาต้อนรับตามที่คิดเอาไว้  ป้าแก้วอยู่กับลูกสาวสองคน ลูกสาวของป้าแก้วชื่อกิ่ง ตอนนี้อายุสิบแปดปีเท่ากับองุ่น เราเคยเจอกันเมื่อตอนที่ฉันยังเด็กมาก ไม่แน่ใจว่าอายุเท่าไร แต่พอจะจำความได้บ้าง มาถึงที่บ้านพ่อก็พาองุ่นไปเอารถกับเพื่อน บอกว่าเพื่อนเปิดร้านเช่ารถ พ่อบอกว่าองุ่นมีใบขับขี่ พอจะพาฉันไปไหนมาไหนได้ มากไปกว่านั้นก็จัดการดูกลอนประตูหน้าต่าง ในห้องที่ฉันพักด้วยความเป็นห่วง แม้แต่หมอนผ้าห่ม พ่อก็ยังเอาไปดมว่ามันสะอาดไหม ป้าแก้วดูแลดีไหม พ่อของฉันอาจเป็นช่างซ่อมรถที่ตัวเปื้อนน้ำมัน แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องของลูกสาว ฉันรับลองว่ามันจะเป็นสิ่งที่พ่อดูแลอย่างดี สมกับที่พ่อมักพูดว่า ‘หนูพิมพ์คือแก้วตาดวงใจของพ่อ’ “พ่อจ๋า อะไรจะขนาดนั้น หนูอายุจะยี่สิบสองแล้วนะ พ่อทำเหมือนหนูเป็นเด็กไปได้” พูดไปอย่างนั้นเอง แท้จริงฉันชอบมองพ่อ เวลาที่ท่านทำเรื่องน่ารัก บางครั้งก็แอบถ่ายรูปเก็บเอาไว้ “ถึงหนูพิมพ์จะมีครอบครัวแล้ว หนูพิมพ์ก็ยังเป็นเด็กสำหรับพ่อ” คนเป็นพ่อทำเสียงเข้ม แต่คำที่พูดออกมาแสนน่ารัก ฉันได้แต่ยิ้มและไม่ขัดใจพ่อ   “ไอ้งุ่น อยู่ไหน มานี่เส้!!” เสียงเรียกของพ่อทำให้เจ้าของชื่อวิ่งเข้ามาหาอย่างไว  “รถนะขับให้มันดี ๆ มีใบขับขี่ไม่ใช่สักแต่จะขับ อย่าขับเร็ว! แล้วก็อย่าเล่นสนุกจนไม่ดูแลลูกสาวกู ถ้ากูรู้ว่ามึงเที่ยวเล่น ไม่สนใจลูกกูนะ! กูเตะไม่เลี้ยง!” “โถ่ลุง เห็นผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ” “ก็เออนะสิ..” “โถ่ลุง... ผมออกจะแสนดีนะ” องุ่นทำท่าทางจะเข้าไปกอดพ่อ แต่ก็ถูกพ่อง้างขาจะแตะ สองคนนี้เล่นกันน่ารัก พ่อเองก็รักองุ่นไม่ต่างไปจากลูกชายคนหนึ่ง ฉันหัวเราะชอบใจกับภาพที่เห็น ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าพ่อ ท่านมีพลังอันยิ่งใหญ่ เป็นผู้ชายที่เลี้ยงลูกสาวจนเติบโต ดูแลทุกอย่างแม้แต่ซักผ้า ขอแค่ลูกคนนี้มีความสุข ไม่มีเลยที่พ่อจะปฏิเสธ พ่อสั่งการอะไรอีกมากมายกับองุ่น ขณะที่ฉันคิดไปถึงคนที่นอนหลับยังไม่ฟื้น ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง อยากจะไปหาแล้ว แต่ก็รู้ว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร ต้องแข็งใจอดทนเอาไว้ พรุ่งนี้เมื่อพ่อเดินทางกลับก็สามารถไปหาพี่รฐาได้ “พ่อว่าจะไปเยี่ยมไอ้รฐาก่อนกลับได้ พ่อให้ไอ้เอกเข้ามาช่วยดูอู่แล้ว” พ่อหันมายิ้มหวานขณะนั่งปอกส้มให้ฉัน จากตอนแรกที่บอกว่ามีงานต้องส่งลูกค้า “พ่อต้องขับรถกลับบ้านดี ๆ นะ ห้ามขับรถเร็วด้วย” “ไม่เชื่อมือพ่อหรือไง” มือหนาป้อนส้มใส่ปากฉัน เพราะมีคนเอาใจแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ฉันจึงอยากได้ผู้ชายที่อบอุ่นอ่อนโยน ไม่รู้ว่าพี่รฐาจัดอยู่ในผู้ชายประเภทนี้ไหม แต่ทุกครั้งที่คิดถึง ผู้ชายคนนี้ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจได้เสมอ ทำให้รักได้ตลอดเวลา ๆ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม