การกลับมา

2992 คำ
“โยธกาเป็นยังไงบ้างหนูพิมพ์” เสียงของชายที่ออกไปเมื่อชั่วโมงก่อน เขากลับเข้ามาอีกครั้งด้วยความกังวน เขาห่วงใยผู้หญิงคนนี้มากจริง ๆ “หนูทำแผลให้แล้วค่ะ  ถ้าเธอตื่นมากินยาก็น่าจะดีขึ้น  ไม่น่าห่วงอะไรนะคะ” ฉันมองหน้าพี่รฐาด้วยความคิดถึง พี่รฐาตัวโตกว่าเดิมมาก ใบหน้าของเขาดูคมเข้ม ผิวออกสีแทน เขาดูหล่อและดุดันมาก   ฉันไม่อยากละสายตาจากพี่เขาเลย “หวังว่าเธอจะปลอดภัยนะโยธกา เธอต้องปลอดภัยนะ” สายตาของฉันหลุบลงต่ำ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องเงียบ ๆ เมื่อเสียงเพ้อรำพึงของพี่รฐาเต็มไปด้วยความห่วงใยผู้หญิงคนนั้น  ฉันคงทนฟังไม่ได้ มันเจ็บปวดเกินไป เดินเข้าไปหาป้าจำปาที่นั่งอยู่กับสามี ก่อนจะเอากล่องยาที่แกกินประจำมาจัดอย่างคุ้นชิน นั่งลงกับพื้น จากนั้นก็แกะยาแต่ละชุดมาวางไว้  เพราะป้าจำปาแก่มากแล้ว หูตาก็เริ่มมองไม่เห็น ฉันจึงแกะยาเตรียมไว้ให้ในแต่ละอาทิตย์ ว่าอันไหนกินก่อนอาหาร อันไหนกินหลัง ขณะที่มือกำลังแกะยา หัวใจก็ล่องลอยไปหาคนในห้อง ไม่รู้เลยว่าพี่รฐาจะรับรู้ไหม ว่ามีใครคนนี้เฝ้ารอ  ฉันอยู่ในสายตาของเขาไหม  ฉันสวยในสายตาของพี่รฐาหรือเปล่า  หากผู้หญิงคนนั้นคือคนรักของพี่รฐา ความหวังที่ฉันรอเขามาเนิ่นนานก็คงสูญเปล่าแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดโทษใคร เพราะฉันเต็มใจที่จะรอเขา แม้เป็นได้แค่น้องสาวก็ได้ “โตเป็นสาวแล้วนะหนูพิมพ์” เสียงของชายที่ฉันกำลังคนึงหาดังขึ้น พี่รฐากำลังถอดเสื้อสูทออก ก่อนที่จะนั่งลงกับพื้นตรงหน้าฉัน เขายิ้มและยีหัวของฉันเบา ๆ  มันเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งตอนที่ฉันเป็นเด็ก  “ขอบใจนะหนูพิมพ์ ที่ดูแลพ่อแม่...ของพี่ พี่ขอบคุณมาก ๆ นะ” ฉันมองชายคนพูดอย่างอิ่มเอม เวลาที่เราชอบใคร ได้ยินเท่านี้ก็มีความสุขแล้ว “พ่อกับแม่ก็ได้หนูพิมพ์นี่แหละ  ทั้งยูกยา อาหารการกิน หนูพิมพ์เขาเข้ามาดูแลตลอด แล้วนี่ฐากินข้าวรึยัง เมื่อเย็นหนูพิมพ์ทำแกงส้มผักบุ้งมาให้ แม่จะไปยกมานะ” “ผมไปกินในครัวดีกว่าครับแม่” “เดี๋ยวหนูไปจัดจานให้ค่ะพี่รฐา” ฉันไม่รีรอ รีบลุกเข้าไปในครัวทันที หัวใจของฉันมันเต้นโครมคราม เมื่อคิดว่าพี่รฐาจะกินฝีมือของฉัน เขาจะชอบฝีมือของฉันไหม  ครัวที่คุ้นชิน ฉันเข้าออกไม่ต่างจากบ้านของตัวเองก็ว่าได้  จัดจานตักข้าวสวยร้อน ๆ และแกงส้ม วางให้กับพี่รฐาที่กำลังเข้ามาในครัว ยังไม่ทันที่พี่รฐาจะได้นั่งบนเก้าอี้ ฉันก็เปิดตู้เย็นหาน้ำเสร็จสรรพ  ฉันอยากทำทุกอย่างให้กับเขาเลย “ไม่ต้องบริการพี่หรอกหนูพิมพ์ แค่ดูแลพ่อแม่พี่... พี่ก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว” “ไม่ต้องเกรงใจ... หนูยินดี หนูอยากทำ” ปากพูดไปตามความรู้สึก แถมยังเก้บรอยยิ้มตัวเองไม่ได้ ฉันมองเห็นข้อมือพี่รฐามีรอยแดง แขนก็เต็มไปด้วยรอยช้ำ ความเป็นห่วงจึงทำให้ฉันปรี่ตัวไปหาและจับที่แขนทันที “ทำไมมีแต่รอยแดง เขียวไปหมดเลย เดี๋ยวหนูไปเอายามาทาให้นะคะ  อ๊ะ!!” ร่างกายของฉันถูกพี่รฐาจับยึดไว้  ฉันตกใจที่ถูกเขาจับยึด พร้อม ๆ กับความดีใจที่ถูกแตะต้องเนื้อตัว  ฉันคงชอบเขามาก จนไม่คิดว่าจะมีโอกาสแบบนี้เกิดขึ้น “อย่าถูกเนื้อตัวผู้ชายแบบนี้อีกรู้ไหมหนูพิมพ์  หนูพิมพ์โตเป็นสาวแล้วนะ” หัวใจของฉันมันจะออกมาจากอก การอยู่ใกล้ชิดแบบนี้  พร้อมกับคำพูดแบบนี้ มันทำให้ฉันใจสั่นไหวไปหมดแล้ว จากที่ฉันชอบเขามากเป็นทุนอยู่แล้ว “พี่ขอโทษ” พี่รฐาปล่อยแขนที่จับยึด ก่อนที่เขาจะนั่งลงบนเก้าอี้  “ไม่ต้องหายามาทาให้พี่หรอก พี่ไม่ได้เป็นอะไรเลย แค่นี้สบายมาก” “ค่ะ” ฉันตอบด้วยความขัดเขิน “ไหนลองชิมสิ... ว่าโตเป็นสาวแล้วจะมีฝีมือทำกับข้าวรึเปล่า” ปากพูดพี่รฐาก็ตักแกงส้มผักบุ้งคำโตเข้าปาก มันทำให้ฉันจ้องมองอย่างจริงจัง แม้ริมฝีปากของเขาซึ่งกำลังขยับเคี้ยว “อื้ม... ฝีมือดีนะเนี้ย  อร่อยมากเลย” “ถ้าพี่รฐาชอบ หนูจะทำให้กินอีก” “จริงเหรอ ทำไมน่ารักขนาดนี้หนูพิมพ์  อร่อยจริง ๆ นะ” หัวใจพองโตอย่างมาก เมื่ออาหารที่ฉันทำมันถูกปากพี่รฐา ฉันจะตั้งใจทำอาหารมากกว่านี้... จะทำให้พี่รฐาชอบมากกว่านี้ เช้าของวันใหม่ที่แสนสดใส ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมีความสุขได้ขนาดนี้ รอบกายเต็มไปด้วยความสวยงาม ไม่มีเรื่องไหนเลยที่ไม่ดี “กลิ่นอะไรหอมขนาดนี้ลุงภาค หิวข้าวเช้าเลยลุง” เสียงขององุ่นร้องถามพ่อที่กำลังอยู่หน้าทีวี จากน้ำเสียงก็ร่าคนทั้งคู่สนิทกันมาก ทีวีอยู่ในส่วนของอู่ซ่อมรถ เป็นพื้นที่ซึ่งพ่อมักจะนั่งกินกาแฟ และนั่งคุยกับลูกน้องตรงนั้นเสมอ ภาพที่ค่อนข้างเห็นจนคุ้นชิน ตั้งแต่จำความได้ องุ่นไม่พูดเปล่ายื่นหน้าเข้ามาในครัว ขณะที่ฉันกำลังขะมักเขม้นทำอาหาร ตั้งใจทำแกงเลียงจากผักสดที่พ่อปลูกไว้ ส่วนกุ้งปั่นจักรยานไปซื้อที่ตลาดเมื่อเช้า “ก็ลูกสาวคนสวยกูอะสี้!! ตื่นมาเก็บผักเก็บหญ้า ที่พ่อมันปลูกไว้แต่เช้า ตั้งใจปลูกผักเอาไว้ให้ลูกมาทำให้กิน แต่ลูกดันเก็บมาทำให้ผู้ชาย” เสียงพ่อว่า แสดงความน้อยใจได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามบนโลกใบนี้ “โถ่!! พ่อ... หนูก็ทำให้พ่อกินด้วยนะจ๊ะ ดูทำเสียงพูดเข้า น้อยใจเก่งจังเลย” ฉันพูดพรางยกโถทรงกลมที่ใส่แกงเลียงออกจากครัว เพื่อเตรียมไปบ้านป้าจำปา เป้าหมายของแกงเลียงโถนี้  อยากรู้จังว่าถ้าพี่รฐาชิมแล้วจะชอบฝีมือของฉันไหม ฉันอยากทำให้พี่รฐากินในทุกวัน อยากให้เขามีความสุขเสมอ “มีเหลือถึงผมไหมพี่หนูพิมพ์ กลิ่นมันน่ากินสุด ๆ เลย ถ้าได้สักถ้วยต้องมีแรงทำงานแน่นอนพี่!!” “เยอะเลย... ในครัวนะ องุ่นเข้าไปตักกินได้เลยนะ” ฉันพูดด้วยรอยยิ้ม องุ่นก็เหมือนน้องชายคนหนึ่ง “หนูไปก่อนนะพ่อ” “ข้าวเช้าก็จะไม่กินกับพ่อเหรอ พ่อไม่อยากกินกับไอ้องุ่น!!” หันไปยิ้มให้กับประโยคเรียกร้องของพ่อ ฉันคิดว่าพี่รฐาคงอยู่อีกไม่กี่วัน เขาก็คงจะต้องกลับไปทำงานแล้ว เพราะงานของเขาอยู่นานไม่ได้ วันนี้จึงขอเทใจให้ผู้ชาย ฉันเดินยิ้มเล็กยิ้มน้อยเข้าไปในบ้านของป้าจำปา  มุ่งตรงไปยังห้องครัวเพื่อจัดแจงแกงเลียง ซึ่งฉันตั้งใจทำสุดชีวิตให้กับพี่รฐา  คาดหวังว่ามันจะได้รับคำชม การชอบใครมาเน้นนานขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ฉันมั่นคงมาตลอด มันคงเป็นความรู้สึกของคนโง่ที่ไม่มีเหตุผล สำหรับฉัน... ทุกอย่างมันทำด้วยหัวใจ ทว่าเมื่อเดินเข้าไปในบ้าน ฉันก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังจากชั้นสอง เป็นเสียงที่ทำให้หยุดฝีเท้าทันที เมื่อเสียงนั้นคล้ายคนกำลังต่อสู้กัน “นายมันโง่ นายไม่ต้องช่วยฉัน ฉันยอมตายสะยังดีกว่า” “อย่าทำแบบนี้ได้ไหมโยธกา อย่างน้อยก็รักษาตัวก่อน ถ้าเธอกลับไปตอนนี้ คนของนายท่านฆ่าเธอแน่ และฉันก็คิดว่า... ชีวิตของฉันก็คงปกป้องเธอไม่ได้...” “นายมันโง่!!” ปึง!! เสียงประตูเปิดกระแทกดังลั่น ก่อนที่ผู้หญิงผมยาวสีดำขลับตะสาวเท้าออกมา  มีพี่รฐาพยายามฉุดกระชากรั้งตัว จนเหมือนว่าทั้งสองกำลังต่อสู้กัน “โอ๊ย!!” เพล้ง!!!! ร่างกายของผู้หญิงคนนั้นกระแทกเข้ามาหาฉันอย่างจัง ก่อนที่โถบรรจุแกงเลียงจะหลุดออกจากมือ  แรงกระแทกทำให้ฉันกระเด็นไปอีกด้าน กระแทกกับขอบประตูจนเกิดความเจ็บปวด  “รฐา นายต้องเลิกโง่ เลิกที่จะรักฉัน เพราะฉันไม่มีวันรักนาย ต่อให้นายโดนฆ่าตายตรงหน้า ก็ไม่มีวันที่ฉันจะรัก..โอ๊ะ!!!” พี่รฐาใช้ด้ามกระบอกปืนกระแทกตรงท้ายทอย ทำให้เธอคนนั้นสลบไปกลางอากาศ ร่างกายสูงใหญ่โอบอุ้มเธอขึ้นไปยังชั้นบน เดินผ่านป้าจำปาและลุงวัตรที่ยืนอยู่ และเดินผ่านแกงเลียงที่กระจายเต็มพื้น  มันเป็นแกงที่อยู่กับพื้น กินไม่ได้แล้ว แกงที่ฉันตั้งใจทำอย่างมาก หกกระจายพร้อมกับโถใบสวยที่เลือกใส่มา “เจ็บไหมหนูพิมพ์ ไหนป้าดูสิ เจ็บตรงไหนลูก” ป้าจำปาเข้ามาประคอง พยายามช่วยให้ฉันลุกขึ้นยืนช้า ๆ “ไม่เจ็บจ๊ะ แกงเลียงหกหมดเลย เดี๋ยวหนูไปตักให้ใหม่ที่บ้านนะจ๊ะ” ฉันกัดฟันลุกจากพื้น เดินออกไปจากบ้านทางด้านหลัง มันค่อนข้างใกล้ แต่ทางเดินยากลำบากไปบ้างเท่านั้น ฉันเดินกลับมาที่บ้านด้วยสติล่องลอย คำพูดผู้หญิงคนนั้นยังติดอยู่ในหู คำพูดที่บ่งบอกว่าพี่รฐารักเธอ ยอมตายเพื่อเธอได้ นี่เรียกว่าความจริงที่ฉันต้องยอมรับใช่ไหม “เจ็บจัง!!” มือหนึ่งทุบแรง ๆ ที่อกข้างซ้าย เจ็บด้านในจนอยากให้หมอผ่าตัด การรอคอยของฉันสูญเปล่าแล้ว สองเท้าเดินเข้าไปในบ้าน ก่อนที่ฉันจะหยิบยาแก้ฟกช้ำ หยิบมันออกมาที่หลังบ้าน เพราะไม่อย่างให้พ่อเห็น ไม่อยากให้ท่านรู้สึกไม่ดี หากฉันไปที่บ้านป้าจำปาแล้วเจ็บตัว กระจกบานเล็กถูกส่องไปที่บ่า จากนั้นก็ค่อย ๆ ทายา คิดแล้วก็น่าจะไปทาบนห้อง ตรงนี้ไม่ค่อยสะดวกเลย แอบระวังว่าพ่อจะมาเห็นไหม ยิ่งสร้างความลำบากใจไปอีก “หนูพิมพ์เจ็บไหม” เสียงของพี่รฐาทำให้ฉันตกใจ “พี่ขอดูแผลหน่อย” หันไปด้านหลังก็พบเป็นพี่รฐาจริง ๆ เขากำลังจ้องมองมายังฉัน คาดเดาสายตาไม่ได้ แต่ฉันจะพยายามเลิกคิดเข้าข้างตัวเองแล้ว “เออ... หนูไม่ได้เป็นอะไรค่ะ” ฉันไม่พูดเปล่า รีบเก็บยาแก้ฟกช้ำและจัดเสื้อให้เข้าที่ทันที เขาคงไม่ทันเห็นหรอก ขนาดฉันยังเห็นไม่ค่อยชัด “โกหก เมื่อกี้พี่เห็นรอยแดงที่บ่า ขอพี่ดูหน่อยนะคะ” ปากจะร้องห้ามแต่พี่รฐานั่งลงแล้วรั้งร่างกายเข้าหา จับชายเสื้อของฉันแล้วเปิดสาบเสื้อเล็กน้อย “ช้ำขนาดนี้ ทำไมถึงบอกว่าไม่เป็นอะไรคะ” ฉันได้แต่เงียบกับเสียงตำหนินั้น ก็ฉันไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ ไม่อยากให้ใครรู้สึกไม่ดี ทั้งที่ความจริงก็อยากได้รับการดูแล พี่รฐาหยิบยาแก้ฟกช้ำทาให้ฉันเบา ๆ  เขามือเบามาก เบาจนฉันไม่รู้สึกถึงแรงสัมผัส ผู้ชายตัวโตทำให้รู้สึกอ่อนโยนได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ  หัวใจของฉันเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ สองมือบีบเกร็งเข้าหากันแน่น เมื่อฉันหันใบหน้าไปเล็กน้อย ระยะห่างระหว่างเราสองคน แรงสัมผัสของลมหายใจ นี่มันใกล้เกินไปหรือเปล่า  ไม่รู้ว่าหัวใจของพี่รฐา จะยังมีพื้นที่ให้กับฉันรึเปล่า พื้นที่เล็ก ๆ ให้ฉันได้พักพิง อยู่ใกล้ มันต้องอบอุ่นมากแน่ ๆ ฉันอยากเข้าไปอยู่ในพื้นที่นั้นเหลือเกิน  หรือหากทั้งหัวใจยกให้ผู้หญิงคนนั้นไปหมดแล้ว  ขอแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ เท่านี้ฉันก็มีความสุขแล้ว คนแอบรักจะมีสิทธิ์อะไรไปมากกว่านี้ “พี่ขอโทษนะหนูพิมพ์ ที่วันนี้ทำให้ต้องเจ็บตัว” “ไม่ใช่ความผิดพี่รฐาสะหน่อย” “ใช่สิค่ะ” น้ำเสียงนั้นดุเล็กน้อย แต่เขาพูดคำว่า ‘ค่ะ’ เพราะจังเลย “โยธกาเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารนะ ชีวิตของเธอเจอแต่เรื่องเลวร้าย พี่คงปล่อยให้เธอกลับไปไม่ได้” ฉันเงียบแล้วลอบถอนหายใจออกมา ฟังโดยไม่ออกความเห็น ก็จะให้ฉันพูดอะไรเล่า ในเมื่อเรื่องที่พี่รฐาพูด มันเป็นเรื่องของผู้หญิงคนนั้น “เย็นนี้พี่ต้องกลับไปทำงาน พี่ฝากหนูพิมพ์ดูแลโยธกาหน่อยได้ไหม พี่มองไม่เห็นใครที่ไว้ใจได้แล้วจริง ๆ” ฉันเงียบและไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ฝากดูแลงั้นหรือ ทำไมรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงเลบนะ “งานของพี่น่าจะจบภายในสองวัน พี่จะกลับมาดูแลเธอเอง” คนที่กำลังทายาอธิบายเพิ่ม พี่รฐาเคยคิดบ้างหรือเปล่า ทำไมผู้หญิงคนหนึ่งดูแลครอบครัวพี่เขามาตั้งหลายปี จะรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนี้แอบชอบ “ค่ะ! หนูจะดูให้ค่ะ” ฉันรับปากเขาไปจนได้ ทั้งที่เย็นนี้ต้องเดินทางกลับไปเรียน มันก็สำคัญมากไม่แพ้กัน แต่ฉันก็ยังเลือกที่จะรับปาก เลือกสิ่งที่พี่รฐาขอร้องเสมอ  เขาบอกว่าความรักทำให้คนตาบอด ฉันว่ามันไม่จริงเลยสักนิด เพราะคนต่างหากที่ยอมตาบอดเพื่อความรัก เหมือนกับฉันในเวลานี้ ที่ฉันยอมหยุดเรียนเพื่อพี่รฐา “ขอบใจนะคะหนูพิมพ์” พี่รฐาลูบหัวของฉันเบา ๆ เมื่อทายาเสร็จ รอยยิ้มที่ส่งมาคือยาใจชิ้นดี รอยยิ้มผู้ชายคนนี้ไม่ต่างไปจากเมื่อก่อนเลยสักนิด “พี่คิดว่าต้องกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวลุงภาคมาเห็นจะดูไม่ดี” “เดินกลับดี ๆ นะคะ” “ขอบคุณอีกครั้งนะคะหนูพิมพ์” พี่รฐาลูบหัวฉันอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะกลับไปยังทางที่เชื่อมติด ทิ้งไว้เพียงสัมผัสที่หัวใจของฉันพองโต  มันไม่เคยเป็นของตนเองเลย สายของวันซึ่งกำลังนั่งพิมพ์รายงานอย่างเร่งรีบ ด้วยเพราะพรุ่งนี้ตัดสินใจจะไม่ไปเรียน งานบางส่วนที่คั่งค้างจึงต้องทำให้ทัน จากนั้นก็ฝากให้เพื่อนช่วยเหลือ ได้ยินเสียงหัวเราะของพ่อดังเข้ามาในห้อง เป็นเสียงที่ทำให้ฉันสนอกสนใจ เพราะดูเหมือนจะอารมณ์ดี แต่มันไม่เหมือนการพูดคุยกับช่างในอู่ซ่อม ความสงสัยจึงทำทำให้ฉันตัดสินใจเดินออกไปดู สิ่งที่เห็นคือพี่รฐากำลังนั่งคุยกับพ่อ  ทำไมพี่รฐาถึงมาคุยกับพ่อ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า สายตาของพ่อที่มองมาทางฉัน หลังจากที่หันมาหาลูกสาว เหมือนกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง เป็นแววตาซึ่งคนคุ้นเคยเท่านั้นที่จะมองเห็น “หนูพิมพ์ มาพอดีเลย... พ่ออยากกินขนมร้านยายศรี หนูไปกับไอ้งุ่น ไปซื้อขนมมาให้พ่อกินหน่อย” ขนมร้านยายศรีอย่างนั้นเหรอ พ่อไปชอบกินตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไหนพ่อเคยบอกว่ารสชาติไม่ถูกปาก แย่ยิ่งกว่าลิ้นเลียจารบีในอู่ แล้วทำไมวันนี้ถึงอยากกินได้ “เดี๋ยวผมพาไปซื้อเองครับลุงภาค อยากตอบแทนอะไรหนูพิมพ์บ้าง” พี่รฐาพูดแทรกขึ้น พี่รฐาจะพาไปอย่างนั้นเหรอ!  ในระหว่างที่กำลังตกใจอยู่ สายตาของฉันจะหันมาหาพ่อ นั่นเองที่ทำให้เห็นอะไรบางอย่าง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของพ่อ ท่าทางที่ทำให้เข้าใจทันที นี่พ่อคิดจะเป็นพ่อสื่อให้ฉันกับพี่รฐาอย่างนั้นสินะ  ทำไมพ่อน่ารักขนาดนี้ “งั้นหนูพิมพ์ก็แวะกินน้ำปั่นร้านไอ้เอกมันด้วย มันเพิ่งเปิดร้าน ไปอุดหนุนมันหน่อย จะหาว่าพ่อขี้เหนียวไม่ไปอุดหนุน” อุบายของพ่อออกมาเรื่อย ๆ  สุดยอดพ่อสื่อจริง ๆ เพราะเห็นว่าลูกชอบผู้ชายคนนี้ หรืออยากได้เป็นลูกเขยกันแน่นะ ฉันยังยืนที่เดิมกับความตื่นเต้น ไม่รู้ว่าควรยิ้มหรือไม่ พูดอะไรดี วางท่าทางแบบไหน  จนกระทั้งพ่อพูดเสียงดังว่า “ฝากด้วยไอ้ฐา ลุงจะไปซ่อมรถต่อแหละ โตเป็นหนุ่มมีความคิดความอ่าน อนาคตไกลนะเรา ชอบ ชอบ!!” พ่อเน้นคำว่าชอบเสียงดังฟังชัดมาก เมื่อพ่อเดินแยกออกไปแล้วฉันก็อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เอ่อ... พี่รฐาไม่ต้องไปก็ได้นะคะ หนูไปคนเดียวได้” ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากไป แต่เห็นว่าเขาเอาแต่นั่งเงียบ จะว่าหน้าบึ้งก็ไม่ใช่ แต่มองอย่างไรก็ไม่ใช่ยิ้มแย้ม บางทีอาจจะอยากกลับไปดูแลผู้หญิงคนนั้นมากกว่า “ทำไมละ ไม่อยากให้พี่ไปเหร” “เปล่านะคะ หนูไม่ได้คิดแบบนั้น” “พี่อยากพาหนูพิมพ์ไปนะ เชิญค้าบ..” พี่รฐาผายมือด้วยความสุภาพ แถมยังส่งยิ้มที่แสนจะอบอุ่นมายังฉัน มันทำให้ผู้หญิงคนนี้ประหม่าสุด ๆ รู้สึกไม่เป็นตัวเองเลย ถ้ามีพี่รฐาอยู่ใกล้ ๆ ค่อยดูแล แค่ได้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย ฉันก็อยากหยุดเรียนสักอาทิตย์ มันมีความสุขมากมายอะไรขนาดนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม