ในรถยุโรปสีดำ
ที่วิ่งลื่นไหลไปบนถนนยามค่ำคืน
มีเพียงเสียงเพลงแจ๊ซคลอเบา ๆ จากลำโพง
ตัดกับความเงียบระหว่างคนสองคนในรถ
ได้อย่างพอดิบพอดี
แสงไฟเมืองลอดผ่านกระจกด้านข้าง
เป็นเส้นสายสีทอง วันวา เอนหัวพิงเบาะ
หลับตานิ่งราวกับเหนื่อยล้าจนหมดแรง
.
ไม่นานนัก
เสียงโทรศัพท์มือถือดังแทรกขึ้น
วันวาขยับตัวงัวเงีย มือควานหาโทรศัพท์
ในกระเป๋าถือด้วยท่าทีสะลึมสะลือ
ธัตทานนท์ ที่นั่งขับอยู่เหลือบตามอง
ก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าโทรศัพท์ไป
กดรับสายอย่างรวดเร็ว
> “วาน ๆ อยู่ไหน พนักงานบอกว่ามีคนมารับ…?”
เสียงเพื่อนสาวดังลอดออกมาจากปลายสาย
เต็มไปด้วยความกังวล
ทานน์ไม่รอให้พูดต่อ น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยสวนทันที
> “ผมทานน์ครับ มารับวานกลับแล้วครับ
วานโทรเรียกผมเอง ไม่ต้องห่วงนะครับ
เพื่อนคุณปลอดภัย ผมกำลังพาไปส่งคอนโด”
เขาพูดจบก็กดวางสาย
โดยไม่เปิดโอกาสให้ปลายสายถามต่อ
ใบหน้าคมนิ่งสนิท
แต่แววตากลับฉายประกายพึงพอใจแฝงอยู่
.
วันวาที่เพิ่งเริ่มรู้สึกตัวค่อย ๆ ลืมตา
เสียงเมาละเมอแผ่วออกมา
> “พี่ทานน์…โกหก
วานไม่ได้เรียกพี่มารับ…พี่ทานน์คนโกหก”
เธอเอียงคอพิงเบาะ มองเขาด้วยสายตาพร่ามัว .
ปากเล็ก ๆ เม้มเข้าหากันอย่างงอน ๆ
ทานน์เหลือบมองเพียงเสี้ยววินาที
แววตาคมลึกซึ้งผสมความขุ่นเคือง
ใจหนึ่งเขาหงุดหงิด ที่เธอเมาจนไม่ระวังตัว
แต่อีกใจกลับอุ่นวาบ—พอใจที่คนเมาคนนี้
ยังนั่งอยู่ตรงเบาะข้าง ๆ เขา อยู่ในรถของเขา
และอยู่ในขอบเขต ที่เขาเป็นคนควบคุมเอง
__
ในห้องโถงคอนโดเงียบกว่าที่คิด
แสงไฟสีอบอุ่นจากทางเดิน
ส่องกระทบผิวผนังสีครีมเป็นประกายอ่อน ๆ
ธัตทานนท์ กึ่งอุ้มกึ่งประคอง วันวา
ที่ยังมีกลิ่นแอลกอฮอล์เจืออยู่บนเส้นผมนุ่ม
มือหนากุมต้นแขนเล็กไว้แน่นพอที่จะพยุง
แต่ก็ไม่ถึงกับรุกล้ำเกินไป
.
วันวาหันมามองเขาด้วยดวงตาที่ปรือเล็กน้อย
เสียงแผ่วเอ่ยอย่างดื้อ ๆ
> “พี่กลับไปเถอะค่ะ…วานดูแลตัวเองได้”
ทานน์ก้มสบตา เสียงทุ้มเรียบแต่แฝงแรงใจ
> “ไม่ค่ะ พี่ไม่วางใจ ..
จนกว่าวานจะเข้าห้องได้ปลอดภัย”
.
วันวาไม่เถียงต่อ
กดรหัสลิฟต์ขึ้นเงียบ ๆ
ทั้งสองยืนเคียงกันในกล่องเหล็ก
ที่เต็มไปด้วยความเงียบร้อนรุ่ม
เสียงเครื่องลิฟต์ดัง ติ๊ง เป็นระยะ
เหมือนย้ำความใกล้ชิดที่ไม่มีใครพูดถึง
ระหว่างทางขึ้น
ทานน์เหลือบตามองป้ายบอกชั้น—
ในใจจดจำเลขห้องเธอไว้เรียบร้อย
โดยไม่ต้องออกแรงจำ
.
เมื่อถึงหน้าห้อง
วันวาหยิบการ์ดเสียบ
เปิดประตูหมุนคีย์การ์ด ปี๊ป เสียงล็อกปลดออก
เธอหันมาบอกเสียงเบาหวิว
> “ถึงแล้วค่ะ…พี่กลับไปได้แล้ว”
ทานน์ยืนพิงกรอบประตู สบตาเธอนิ่ง
> “พี่ขอดื่มน้ำเย็น ๆ สักแก้วนะคะ
..แค่ให้หายคอแห้งหน่อย”
วันวาหรี่ตา ลมหายใจคล้ายจะถอนออกมา
> “ไม่ค่ะ น้ำดื่มตรงส่วนกลางด้านล่างมี…”
น้ำเสียงของเธอแม้จะเมา
แต่ยังคงพยายามรักษาระยะ
.
ทานน์ทำเสียงต่ำลงเล็กน้อย คล้ายตัดพ้อ
> “แค่น้ำแก้วเดียวเองนะคะ ..
วาน…ทำไมใจร้ายจัง...”
วันวาเผลอกัดริมฝีปาก
เม้มเล็กน้อยเหมือนจะต่อรอง
แต่สุดท้ายเสียงที่ออกมาก็อ่อนลง
> “อือ…ก็ได้ค่ะ…แต่แค่แป๊บเดียวนะ”
เธอเปิดประตู ก้าวถอยให้เขาเข้ามาในห้อง
เสียงประตูปิด คลิก เบา ๆ ตามหลัง
ท่ามกลางกลิ่นหอมสะอาดของห้องพัก
ที่ทำให้บรรยากาศคับแน่นขึ้นกว่าเดิม—
และหัวใจของทั้งสองก็เต้นแรงขึ้น
โดยไม่ได้นัดหมาย