บ่ายวันนั้น แสงแดดลอดผ่านกระจกบานใหญ่
ของอาคารสำนักงาน
สาดลงบนพื้นกระเบื้องมันวับ
ขณะที่เสียงพิมพ์คีย์บอร์ด
และเสียงเครื่องถ่ายเอกสาร
ยังคงดำเนินไปตามปกติ
อยู่ ๆ เสียงอุทานแหลมสูง
ก็ดังขึ้นจากโต๊ะทำงานฝั่งแผนกบัญชี
.
“อื้อหื้อ—ใครกันคะ ทำถึงขนาดนี้!”
พนักงานสาวคนหนึ่งยกมือป้องปาก
ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ก่อนรีบหันไปเรียก
“คุณวันวา! มาตรงหน้าต่างนี่สิคะ เร็วค่ะ!”
วันวาที่กำลังตรวจเช็กเอกสารอยู่
เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
สีหน้าของเธอยังคงสงบเรียบร้อยตามแบบฉบับ—
ไม่มีความตื่นเต้นหรือรีบร้อน
เธอค่อย ๆ วางแฟ้มลงบนโต๊ะ
แล้วก้าวเดินอย่างสง่างามไปยังบานหน้าต่าง
แต่เพียงแค่ก้าวแรกที่ได้เห็นภาพเบื้องล่าง…
.
ดวงตาของเธอเบิกกว้างโดยไม่รู้ตัว
หัวใจสะดุดวูบ ราวกับสมองต้องรีบตั้งคำถามทันที
ว่า- นี่มันเรื่องอะไรกัน?
.
ด้านล่างบริเวณลานจอดรถหน้าอาคาร
รถสไลด์สีเงินเงาวับกำลังถอยเข้ามาอย่างเชื่องช้า
บนนั้นคือ รถยุโรปคันใหม่เอี่ยม รุ่นล่าสุด สีขาวมุก
ประกายสีตัวถังสะท้อนแดดระยิบระยับ
ราวกับเพิ่งหลุดออกมาจากโชว์รูม
บนฝากระโปรงหน้ารถ
ผูกโบว์ริบบิ้นสีทองขนาดใหญ่
ผืนผ้าซาตินเป็นเงาเล่นกับแสงจนดูหรูหรา
ที่กระจกบังลมด้านหน้า
มีป้ายอะคริลิกตัวอักษรทองคำวิบวับ
“สุดพิเศษสำหรับ วันวา”
ตัวหนังสือเด่นชัดราวกับตั้งใจให้ทั้งบริษัทได้เห็น
.
เสียงฮือฮาดังระงมทันที
พนักงานหลายคน
แห่กันกรูกันเข้ามาที่หน้าต่างบานกว้าง
บางคนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิป
บางคนถึงกับเอามือปิดปากเพราะความตื่นเต้น
>“โห…รถรุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวเองนี่!”
>“ใครกันนะ! โรแมนติกขนาดนี้”
>“หรือว่า…มีหนุ่มใหญ่ใจป้ำ?”
กระแสซุบซิบดังคลอไปทั่วทั้งแผนก
บรรยากาศแทบจะกลบข่าวครึกโครม
เรื่องรถยุโรปคันเดิมของวันวา
ที่เพิ่งถูกพ่นสีขู่เมื่อไม่วันก่อน
จากความหวาดกลัว กลายเป็น
เรื่องตื่นเต้นระคนสงสัย ในพริบตาเดียว
.
วันวายืนนิ่ง มือบางกำแฟ้มเอกสารแน่นโดยไม่รู้ตัว
ความคิดในหัวพลันแล่นรวดเร็ว—ใครเป็นคนทำ ?
ใครส่งของแบบนี้มาให้กันแน่?
เธอไม่อาจตอบตัวเองได้แม้แต่น้อย
ท่ามกลางเสียงซุบซิบรอบข้างที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ
หัวใจของเธอกลับเต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่
ทั้งจากความประหลาดใจ…
และเงาของความกังวลที่ยังคงซ่อนอยู่ลึก ๆ.