“พี่อยากได้คำตอบแบบไหนคะ?”

752 คำ
เสียงฮือฮาดังมาจากหน้าตึกกระจกของบริษัท จนแม้แต่ประตูบานหนาในห้องผู้บริหาร ก็ไม่อาจกลบได้ ธัตทานนท์ที่กำลังประชุมอยู่ชะงัก หันมองทางหน้าต่างบานสูงอย่างไม่สบายใจ เสียงพนักงานหญิงร้องเรียกกันตื่นเต้น ยิ่งทำให้คิ้วเข้มของเขาขมวดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ -“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะก้าวยาว ๆ ออกจากห้องประชุม โดยไม่รอคำตอบใคร . ทันทีที่เดินมาถึงโถงด้านหน้า ภาพที่เห็นด้านล่างลานจอดรถ กลับทำให้เขาหยุดหายใจไปชั่วขณะ รถยุโรปคันใหม่สีขาวมุก แวววาว ราวกับเพิ่งหลุดจากโชว์รูม ถูกผูกโบว์ทองขนาดใหญ่ และที่สำคัญ…ป้ายหน้ากระจกกลับระบุชัด “สุดพิเศษสำหรับ วันวา” กรามแข็งเกร็งทันที ความไม่พอใจปะทุขึ้นอย่างไม่อาจซ่อน สายตาคมกริบกวาดหาตัวคนที่เกี่ยวข้อง -เพียงคนเดียวในหัว เมื่อพบวันวาที่กำลังยืนทำท่าทางงุนงง ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานด้านล่าง เขาไม่รอแม้แต่วินาทีเดียว เดินตรงผ่านกลุ่มพนักงานไปหาเธอทันที “คุณวันวาครับ” น้ำเสียงทุ้มต่ำถูกปรับให้ฟังดูปกติที่สุด แม้แววตาจะแฝงความกดดัน จนคนรอบข้างสัมผัสได้ “รบกวนมาที่ห้องทำงานผมทีครับ” วันวาเงยหน้าขึ้นสบตาเขา เพียงครู่เดียวก็รู้ทันที ถ้าเรื่องนี้ เป็น ฝีมือธัตทานนท์… เขาคงไม่มีทางเรียกเธอไปพบแบบนี้ หัวใจเธอหนักอึ้งราวมีหินถ่วง เมื่อก้าวตามเขาไปยังลิฟต์เงียบ ๆ เสียงซุบซิบรอบข้างยังดังตามหลัง แต่ไม่มีคำไหนลอดเข้าสู่โสตประสาท . เมื่อเข้ามาในห้องทำงานผู้บริหาร ธัตทานนท์หมุนตัวกลับมาปิดประตูบานใหญ่ เสียงล็อกดัง กริ๊ก ชัดถ้อยชัดคำในความเงียบ เพียงเท่านั้นก็เพียงพอให้วันวารู้ว่า พายุที่กำลังรออยู่ในห้องนี้…ไม่มีทางหลบหนีได้. ... บรรยากาศในห้องทำงานส่วนตัว ของประธานบริษัทเงียบงัน จนแทบได้ยินเสียงหัวใจเต้น เพดานสูงโปร่งและผนังกระจกใส ที่มองเห็นวิวเมือง ยิ่งทำให้ความกดดัน ถาโถมเข้ามาไม่หยุด .. ธัตทานนท์ยืนพิงขอบโต๊ะทำงาน มือทั้งสองกำแน่นจนเส้นเลือดบนหลังมือปูดชัด แววตาคมกริบเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ และความหึงหวงที่เก็บไม่อยู่ เขาสูดลมหายใจแรง ๆ ราวกับพยายามสะกดอารมณ์ แต่เสียงที่เอ่ยออกมากลับต่ำและหนัก “ใครส่งมา? …ใครส่งรถคันนั้นมาวาน” มือหนาชี้ออกไปทางกระจกสูง ที่มองลงไปยังลานจอดรถ สายตาเขาวาววับเหมือนมีเปลวไฟลุกอยู่ข้างใน . วันวายืนนิ่งอยู่กลางห้อง ร่างบางดูสงบนิ่ง แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกตึงเครียด เธอรู้ทันทีตั้งแต่เห็นสีหน้าของเขา ว่านี่ไม่ใช่เรื่องงาน แต่เป็นเรื่อง หัวใจ น้ำเสียงที่พยายามคุมให้เรียบ ดังออกมาแผ่วแต่มั่นคง “ถ้าคุณเรียกฉันมาพบเพื่อถามเรื่องนี้… คำตอบของฉันคือ ไม่ทราบค่ะ” คำตอบสั้น ๆ ของเธอ เหมือนราดน้ำมันลงบนไฟ ทานน์กระแทกลมหายใจแรงจนได้ยินชัด “ไม่ทราบ!!?” เขาโน้มตัวมาข้างหน้า เสียงต่ำแต่เฉียบคม “ไม่รู้ได้ยังไงวาน!!? รถทั้งคัน โบว์ทองทั้งผืน ป้ายชื่อชัดขนาดนั้น อย่ามาบอกพี่ว่า ไม่รู้ —ตอบพี่มาสักทีสิ!” เสียงสุดท้ายเกือบกลายเป็นการตะคอก แม้ยังพยายามกดระดับเสียง ไม่ให้เล็ดลอดออกไปนอกห้อง . วันวาสูดลมหายใจลึก พยายามไม่ถอยแม้เขาจะก้าวเข้ามาใกล้ เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ ก่อนโต้กลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พี่อยากได้คำตอบแบบไหนคะ?” ดวงตากลมโตสบกับสายตาคมเข้มโดยไม่หลบ “อยากให้วานตอบว่า ใช่ … ตอบว่า วานมีคนอื่น วานคุยกับใครสักคน แบบนั้นใช่ไหมคะ ที่พี่อยากฟัง?” . คำพูดนั้นเหมือนคมมีดตัดผ่านอากาศ ห้องทั้งห้องราวกับหยุดนิ่ง เหลือเพียงลมหายใจแรง ๆ ของชายหนุ่ม ธัตทานนท์ชะงักไปชั่วขณะ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะเมื่อครู่แข็งค้าง ในแววตานั้นปรากฏทั้งความเจ็บปวด สับสน และความรู้สึกที่ไม่มีชื่อ ความเงียบปกคลุมห้องอย่างหนักหน่วง —หนักพอจะทำให้ได้ยินเสียงหัวใจของทั้งคู่เต้น สวนกันอย่างร้อนแรง. ___
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม