เช้าวันใหม่
ท้องฟ้ายังคลอด้วยแสงแดดอ่อน
ธัตทานนท์
ก้าวเข้ามาในตึกสำนักงานใหญ่ของบริษัท
เช้ากว่าทุกวัน ชุดสูทสีเทาเข้มที่เขาเลือกสวมวันนี้
ดูสบาย ๆ แต่เรียบหรู เส้นผมถูกเซ็ตอย่างตั้งใจ
กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ติดกาย
บอกชัดว่าเขามีจุดหมายเดียว—รอเจอวันวา
.
เสียงรองเท้าหนังของเขา
ดังแผ่วไปตามพื้นกระจกเงาวับ
ขณะที่สายตาคมกริบ
กวาดไปยังหน้าห้องทำงานของเธอทันที
แต่สิ่งแรกที่สะดุดตากลับไม่ใช่เจ้าของห้อง
ดอกไม้ช่อเล็ก กับกล่องขนมสีพาสเทล
วางเด่นอยู่บนโต๊ะรับเอกสาร
ดึงสายตาให้หยุดนิ่งทันใด
..
ทานน์ขมวดคิ้วทันที
ความรู้สึกหงุดหงิดพุ่งขึ้นแบบไม่มีเหตุผล
“ใครกันวะ…แม่งจะส่งมาทุกวันหรือไง”
เขาพึมพำในลำคอ
ก่อนก้าวเข้าไปใกล้ช่อดอกไม้
ด้วยหัวใจที่เต้นแรงเกินควร
.
มีการ์ดโน้ตเล็ก ๆ เสียบอยู่
.
> “สวัสดีตอนเช้าที่สดใส ^^”
.
ธัตทานนท์กัดฟันกรอดเบา ๆ
ดวงตาคมกริบฉายประกายไม่พอใจ
“สดใสบ้าอะไรล่ะ…เหอะ เสน่ห์มากนักนะวันวา”
เสียงบ่นต่ำลอดไรฟัน
ทั้งที่รู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์จะรู้สึกอะไร
แต่หัวใจกลับร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่อยู่
.
ขณะที่เขายังจ้องการ์ดโน้ตนั้น
ร่างบางในชุดสูทกระโปรงสีครีมก็ก้าวมาถึงพอดี
กลิ่นน้ำหอมหวานเย็นของวันวาลอยมาก่อนตัว
เสียงส้นรองเท้าดังเป็นจังหวะชัดเจน
เธอหยุดยืนไม่ไกลนัก มองภาพชายหนุ่มในสูท
กำลังทำหน้าบึ้งใส่ดอกไม้ด้วยรอยยิ้มขำ ๆ
.
“หวัดดีค่ะ” วันวาเอ่ยทัก เสียงใสเจือกลั้วหัวเราะ
“เช้านี้มีสาวคนไหนทำให้อารมณ์เสียรึคะ?
หน้าหงิกเชียว”
เธอปรายตามองช่อดอกไม้กับกล่องขนมที่โต๊ะ
แต่ไม่ได้สนใจมากนัก
ก่อนหันกลับมาสบตาเขาอีกครั้ง
“ขอตัวเข้าห้องทำงานก่อนนะคะ”
วันวาพูดพลางยิ้มบาง ๆ
ราวกับไม่รับรู้ถึงพายุในใจของอีกฝ่าย
แล้วหมุนตัวก้าวเข้าห้องอย่างสง่างาม
.
ทานน์ยืนนิ่งมองแผ่นหลังเธอหายลับตา
ความหงุดหงิดที่ไม่ควรมี
ยิ่งตอกย้ำว่าเขา…กำลังหวงเธอ อย่างช่วยไม่ได้.
.
วันวายังไม่ทันได้วางกระเป๋า
ธัตทานนท์ก็ตามเข้ามา พร้อมแรงกระแทก
ของบานประตูที่ทำให้กระจกสะเทือนเบา ๆ
เสียง คลิ๊ก จากกลอนประตูดังชัด
ในห้องที่ปิดสนิท
วันวาหันขวับ !-
ใบหน้าเรียบสงบแต่แฝงความไม่พอใจ
“คุณทานน์…ทำอะไรคะ”
น้ำเสียงเธอคุมอารมณ์ให้เป็นปกติ
แต่แววตาเริ่มแข็งกร้าว
.
ธัตทานนท์ก้าวช้า ๆ เข้ามาใกล้
น้ำเสียงต่ำแทบเป็นกระซิบ
“วาน…ใครส่งดอกไม้กับขนมมาให้คะ”
.
วันวาขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำหน้างงราวกับไม่เข้าใจ
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ก็อย่างที่เห็น..
ฉันมาถึงก็วางอยู่หน้าห้อง คุณมาถึงก่อนฉัน
..คุณไม่เห็นคนส่งรึไง?”
เธอตอบพลางเอียงคอเล็กน้อย แฝงท่าทีประชด
แต่เขาไม่ยอมปล่อยผ่าน
ธัตทานนท์ขยับเข้ามาใกล้อีกก้าว
แววตาคมกริบตอกย้ำความคาดคั้น
“อย่ามากวนพี่นะ…พี่ถามว่าใครส่งมา”
น้ำเสียงอ่อนแต่หนักแน่น
ราวกับต้องการคำตอบที่ตอกย้ำหัวใจตัวเอง
.
วันวาขยับถอยหลัง ก้าวเท้าไปที่บานประตู
ตั้งใจจะปลดล็อกเพื่อจบสถานการณ์
แต่ยังไม่ทันเอื้อมมือถึง
ธัตทานนท์ก็รวบข้อมือเธอไว้แน่น
แรงกดไม่เจ็บแต่แน่นพอให้หยุดเคลื่อนไหว
เขาโน้มตัวเข้ามา กอดเธอจากด้านข้าง
เสียงกระซิบชิดใบหู
“พี่ขอบอกไว้..ไม่ว่าใครจะส่งมา..ไปบอกกับมันซะ
ตอนนี้..พี่กลับมาทวงวันวา…ของพี่คืน
..วานคนเดียวที่พี่ไม่เคยลืม”
กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ของเขา
ผสมกับกลิ่นผมนุ่มของเธอ
ธัตทานนท์ก้มลงสูดลมหายใจเบา ๆ ที่ผมของเธอ
ราวกับจะเก็บความทรงจำที่เคยสูญเสีย
.
วันวาชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนรีบตั้งสติ
เธอผลักอกเขาออกเต็มแรง
ดวงตาฉายประกายเย็นชา
น้ำเสียงแข็งกร้าวเด็ดขาด
“ไม่มีวัน!
ฉันไม่มีวันกลับไปเจ็บเพราะคนแบบคุณอีก
คุณธัตทานนท์”
..
คำเรียกชื่อเต็มเปี่ยมด้วยระยะห่างและกำแพง
เธอสะบัดแขนออก หมุนตัวเปิดประตู
ที่เขาล็อกไว้เมื่อครู่
เสียงกลอนดัง คลิ๊ก ตามแรงมือ
จากนั้นก้าวออกไปโดยไม่เหลียวกลับแม้แต่น้อย
.
เหลือเพียงธัตทานนท์ยืนนิ่งในห้องที่ว่างเปล่า
เสียงประตูปิดลงทิ้งความเงียบกดทับ
เขารู้สึกได้ถึงลมหายใจตัวเองที่หนักหน่วง
คำพูดของเธอยังคงก้องอยู่—
.
> ไม่มีวัน…!
ประโยคนั้นแทงลึกกว่าที่เขาคาดไว้
และย้ำเตือนว่าอดีตที่เขาเคยทำ…
ไม่อาจลบเลือนได้ง่าย ๆ.