“คนนี้ไม่เหมือนกัน”

1147 คำ
เสียงดนตรีจังหวะชิลล์ ผสมกับเบสหนักดังคลอไปทั่วบริเวณสระน้ำ แสงไฟประดับรอบสระกระทบผิวน้ำ เป็นประกายระยิบระยับ แขกในงานแต่งตัวทันสมัย ทั้งกลุ่มหนุ่มสาวเดินชนแก้ว สลับกับเสียงหัวเราะ และบทสนทนาที่คลอไปกับกลิ่นเครื่องดื่ม และน้ำหอมราคาแพง .. ทานน์นั่งเอนพิงพนักโซฟายาวริมสระ แก้ววิสกี้ในมือไม่ได้ถูกยกขึ้นมาชนกับใคร เหมือนทุก ๆ ครั้ง สายตาคมที่เคยเต็มไปด้วย แววขี้เล่นกลับดูเหม่อลอย แม้สาวๆ ในงานจะผลัดกันเข้ามาแซว และเชิญชวนชนแก้ว แต่เขาเพียงยกยิ้มบาง ๆ ตอบรับ ก่อนจะปล่อยให้พวกเธอเดินจากไป ด้วยความงุนงง .. คิมหันต์ เพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เอียงตัวกระแทกไหล่เขาเบาๆ พลางเลิกคิ้ว “วันนี้ไม่เห็นมึงเอ็นจอยกับสาวๆ เหมือนทุกทีเลยว่ะ มีเรื่องอะไร..? มึงอยากเล่าให้กูฟังไหม?” .. ทานน์หันมามองเพื่อน สบตาเพียงแวบเดียว ก่อนจะละสายตากลับไปที่ผิวน้ำ “วันวา” เขาเอ่ยสั้น ๆ ราวกับชื่อนั้นคือคำตอบทุกอย่าง .. คิมหันต์หรี่ตามอง สีหน้าฉายแววสงสัย “แฟนเก่ามึง? …ทำไมวะ เธอจะแต่งงานรึไง ? ...มึงถึงได้ทำหน้างี้?” .. ทานน์ส่ายหัวช้า ๆ เสียงแผ่วจนแทบกลืนไปกับเสียงเพลง “เปล่า… กูแค่… อยากกลับไปหาเธอ กู…ไม่รู้สิ... กูอยากกลับไป” . คิมหันต์แทบสำลักเครื่องดื่ม เขาเบิกตากว้าง “กูว่ามึงบ้าไปละ! น้องเขาไปได้ดีแล้วนะเว้ย มึงก็รู้ มึงเคยทำเลวไว้ขนาดไหน” .. บรรยากาศที่เคยครื้นเครง เงียบลงทันตา คิมหันต์เอ่ยขึ้นเสียงขุ่น “มึงจะไปยุ่งกับเขาอีกทำไมวะทานน์ ปล่อยน้องเขาเถอะ เขาเจ็บเพราะมึงมากพอแล้ว” . ทานน์ยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียว ราวกับหวังจะกลบความรู้สึก แต่รสขมกลับทิ้งร่องรอยแสบคอ เขาก้มหน้าลง ใช้นิ้วหมุนขอบแก้วช้าๆ ก่อนเอ่ยเสียงต่ำและแหบพร่า “กูควรทำไงวะคิม… ตอนนี้วันวาเข้ามาทำงาน ในบริษัทกู กูอยากเจอเธอแทบทุกวัน… แล้วแม่ง —” เขาหยุดกลืนน้ำลาย เสียงเริ่มสั่น “—มีคนส่งดอกไม้ ส่งขนม ให้เธอตลอด… กูเห็นแล้วแม่งเจ็บ...บอกไม่ถูกจริง ๆ หว่ะ” . คิมหันต์ที่นั่งพิงพนักโซฟาเดิมอยู่ข้างๆ ขยับตัวโน้มมาข้างหน้า แววตาเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที “เอาจริงๆ มึงก็ไม่มีสิทธิอะไรจะไปหวงเขา” เสียงของเขานิ่งและหนักแน่น “เพราะจบกันไปแล้ว อดีตก็คืออดีต ถ้ามึงคิดว่ามึงจริงจังจริงๆ ก็ต้องทำให้น้องเขาเห็น… ไม่ใช่ควงคนนู้นคนนี้ไปทั่ว” . ทานน์เงยหน้ามองเพื่อน สายตาเจ็บลึกแต่ยอมรับความจริง คิมหันต์ถอนหายใจพลางจ้องตาเขาไม่หลบ “ถ้ากูเป็นวันวา กูก็หนีมึงเหมือนกันว่ะ… แต่ตอนนี้พวกมึงไม่ใช่เด็กมหาลัยแล้ว ถ้ามึงแน่ใจจริง ๆ กูก็ว่าหน้าด้านจีบไปเลย —แต่ต้องจีบแบบจริงจัง ไม่ใช่เล่นๆ แบบเมื่อก่อน” . คำพูดนั้นเหมือนกระแทกเข้ากลางอกทานน์ เขานิ่งไปครู่ใหญ่ เหลือบตามองผิวน้ำ ที่สะท้อนเงาตัวเองในความมืด แววตาที่เห็นคือความลังเลปนมุ่งมั่น ความรู้สึกที่เขาไม่กล้าพูดออกมาตลอด เริ่มถาโถมขึ้นจนเกือบล้น—ครั้งนี้เขารู้ดีว่า ถ้าจะกลับไปหาเธอ ต้องไม่ใช่ทานน์คนเดิมอีกต่อไป. . เขาพ่นลมหายใจหนัก ราวกับจะระบายความกดดันที่อัดแน่นอยู่ในอก “กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันวา…กำลังคบกับใคร หรือมีใครจีบอยู่รึเปล่า” เสียงต่ำพร่าแฝงความหงุดหงิด “กูพยายามเข้าหา แต่แม่ง… คำพูดแต่ละคำของเธอ เหมือนถีบกูออกจากวงโคจรตลอด” . คิมหันต์หัวเราะเบาๆ พลางเอนหลังพิงโซฟาอย่างสบาย แต่แววตาเต็มไปด้วยความจริงจัง “เป็นกูก็ไม่อยากยุ่งกับมึงหรอก เจ็บแล้วจำไง” เขายักไหล่ “แต่ใครจะคบกับเธอ ใครจะจีบเธอ… เกี่ยวอะไรกับมึงวะ ถ้ามึงอยากได้จริง ก็ต้องเดินเข้าไป ไม่ใช่เอาแต่เฝ้าดู” . ทานน์ก้มหน้าลง กำแก้วแน่นจนข้อนิ้วซีด “เอาตรงๆ กูกลัว” เสียงเขาแผ่วลงจนแทบเป็นกระซิบ “กูกลัวว่าเธอจะปฏิเสธ…กูรับไม่ได้จริง” . คิมหันต์หัวเราะเสียงดังสะท้อนก้องริมสระ “โธ่เอ๊ย หนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างมึงเนี้ยนะจะกลัว? จีบสาวคนไหนกูไม่เคยเห็นมีใครรอดสักราย” . ทานน์เงยหน้าขึ้นสบตาเพื่อน แววตาเข้มลึกจนคิมหันต์ต้องชะงัก “คนนี้ไม่เหมือนกัน” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหนักแน่น “สิ่งที่กูเคยทำไว้…มันเป็นแผลในใจมาตลอด กูเลยกลัว กลัวว่าแผลที่มีจะยิ่งบาดลึกกว่าเดิม” . เขาหยุดหายใจเพียงครู่ ก่อนเอ่ยต่อด้วยเสียงสั่นพร่า “วันวาคือคนเดียวที่กูไม่เคยลืมมาตลอด— ไม่ว่ากูจะพยายามลืมแค่ไหนก็ตาม” . คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบลงทันที แม้เสียงเพลงยังดังอยู่ แต่สิ่งเดียวที่ได้ยินชัดเจน คือเสียงหัวใจของทานน์ ที่เต้นแรงราวกับกำลังประกาศความตั้งใจ ครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต. . คิมหันต์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบเบา ๆ ก่อนเอื้อมมือมาตบไหล่เพื่อนอย่างให้กำลังใจ เสียงเพลงข้างสระยังคลออยู่ไกล ๆ แต่คำพูดของเขาชัดเจนกว่าเสียงใด “เอาน่า…กูจะคอยเอาใจช่วย” คิมหันต์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจ แววตาคมเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลา มึงอยากได้ใจเขากลับมา มึงต้องพยายามให้ถึงที่สุด ถ้ามึงจริงจังจริง ๆ มึงก็ต้องพิสูจน์” . เขาหยุดเล็กน้อยเพื่อให้คำพูดนั้นซึมลึก ก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ไม่แน่…แผลในใจของมึงกับวันวา อาจจะรอวันที่จะกลับมาหายดีก็ได้” . ทานน์ก้มหน้าลง เสียงหัวใจเต้นแรงในอกยังไม่คลาย ความกลัวและความหวังตีกันในอก แต่คำพูดของคิมหันต์เหมือนแรงผลัก ให้เขามีลมหายใจใหม่ มือของทานน์กำแก้วแน่นขึ้น ก่อนพึมพำแผ่วเบาเกือบเป็นเสียงในลำคอ “กูจะพิสูจน์…ไม่ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน” . คิมหันต์ยิ้มบาง ๆ พลางตบไหล่เพื่อนอีกครั้ง “นั่นแหละเพื่อนกู—จำไว้ ว่า คนที่กล้ากลับไปขอโอกาส คือคนที่เข้มแข็งที่สุด” . ลมกลางคืนพัดผ่าน เสียงน้ำในสระ กระทบขอบเบา ๆ เหมือนรับรู้ถึงคำสัญญา ที่เพิ่งเอ่ยออกมาในค่ำคืนนั้น.
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม