บ่ายแก่ ๆ ของวัน
ทานน์ถือแฟ้มเอกสารและข้อมูลตัวเลข
ของเครื่องจักรที่วันวาสงสัย
มายืนหน้าห้องทำงานของเธอ
เขาเคาะประตูเบา ๆ
ก่อนผลักเข้าไปด้วยสายตาจริงจัง
“วานคะ พี่เอาข้อมูลตัวเลขเครื่องจักร
ที่วานสงสัยมาให้ดู”
เขาเอ่ย พลางวางเอกสารบนโต๊ะ
วันวาเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
สายตาสับสนปนสงสัย แต่ก็สนใจ
ทั้งสองคนเริ่มคุยกันอย่างจริงจัง
วางข้อมูลบนโต๊ะ ชี้ตัวเลข พลิกเอกสาร
แลกเปลี่ยนความเห็น
เสียงคีย์บอร์ดและปากกาขีดเขียนเอกสาร
ดังอยู่รอบ ๆ
.
กระทั่งมีพนักงานเคาะประตูเบา ๆ
“คุณทานน์ การประชุมที่สาขาย่อย
ห้าโมงเย็นวันนี้…คุณแจ้งเลื่อนใช่ไหมคะ?”
ทานน์เงยหน้าขึ้น ยืนยันด้วยน้ำเสียงมั่นคง
“ใช่ครับ เลื่อนครับ ผมกำลังคิดงานสำคัญอยู่
รบกวนแจ้งคนเข้าประชุมด้วยครับ”
.
วันวาเงยหน้ามองเขา เลิกคิ้วเล็กน้อย
“ไม่เห็นต้องเลื่อนเลยค่ะ
งานตรงนี้ฉันจัดการเองได้”
แต่ทานน์ยืนกราน แววตาจริงจัง
“แต่ผมขออยู่ช่วยดูข้อมูลสเปคเครื่องจักร
ด้วยครับ จะได้มั่นใจว่าทุกอย่างถูกต้อง”
วันวาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงสุภาพ
“ขอบคุณค่ะ”
ทานน์ยิ้มบาง พลางเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“งั้น…ขอเปลี่ยนจากคำขอบคุณ
เป็นมื้อเย็นสักมื้อได้ไหมครับ?”
วันวาเม้มปาก ไม่ตอบทันที
ทานน์ทำเสียงตัดพ้อเบา ๆ เหมือนเด็กดื้อ
เสียงของเขาแผ่วแต่เต็มไปด้วยความหวัง
วันวาเงยหน้ามองเขาเพียงครู่หนึ่ง
น้ำเสียงเมื่อตอบกลับเต็มไปด้วยความยอมจำนน
“…ก็ได้ค่ะ”
ทานน์ยิ้มกว้าง ราวกับได้รางวัลใจจากเธอ
บรรยากาศในห้องทำงาน
จึงเต็มไปด้วยความรู้สึกผสมผสาน
ระหว่างความจริงจังในการทำงาน
และความใกล้ชิดที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น
---
ช่วงเย็นหลังเลิกงาน
แสงสุดท้ายของวันสะท้อนบนตึกสูง
ทานน์เดินเคียงข้างวันวาไปยังลานจอดรถ
ทั้งสองต่างเงยหน้ามองด้วยความตกใจ
รถยุโรปคันหรูของวันวาถูกสเปรย์สีแดงฉีดพ่น
ทั่วทั้งคัน เส้นสีแดงสดตัดกับตัวถังอย่างรุนแรง
ข้อความที่เขียนด้วยลายมือหยาบ ๆ ปรากฏ
ชัดเจนว่า:
“ลาออกจากงานนี้ซะ ถ้าไม่อยากตาย”
.
วันวาสูดหายใจลึก พยายามสงบสติ
แต่สายตายังคงสั่นเครือ
เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอหันมามองทานน์
เขารู้ว่าเพียงแค่คำขู่เดียวนี้
ก็ทำให้ใจเธอเกือบหยุดเต้น
.
ทานน์ไม่รอช้า
เขาก้าวเข้าใกล้โอบเธอเข้ามาแนบชิด
ร่างของเขาเป็นเกราะป้องกันรอบตัวเธอ
“วาน…พี่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัว”
-เขาพูดเสียงเข้มแต่มั่นคง
แววตาจับจ้องไปยังรอบ ๆ
เหมือนบอกกับใครก็ตามที่กำลังเล่นงานเธอว่า
เขาอยู่ที่นี่!
วันวารู้สึกถึงความอบอุ่น
และความปลอดภัยชั่วขณะ
หัวใจที่เต้นแรงเริ่มสงบลงเล็กน้อย
แต่ก็ยังมีความหวาดกลัวอยู่เต็มเปี่ยม
สองคนยืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางความเงียบ
และแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
รู้ชัดเจนว่าใครบางคนกำลังจ้องเล่นงานเธอ
และครั้งนี้…อันตรายไม่ได้แค่ขู่
ทานน์กุมมือวันวาแน่น
ราวกับจะส่งพลังให้เธอมั่นใจ
“ไม่มีใครทำร้ายวานได้ถ้ามีพี่อยู่ตรงนี้”
วันวาพิงตัวเข้าหาเขา เงยหน้าขึ้นมองตาเขา
ทั้งสายตาและลมหายใจบ่งบอกถึงความเชื่อใจ
แม้ในสถานการณ์ที่อันตรายที่สุด
---