ตอนที่ 8 เกือบเอาชีวิตไม่รอด

1474 คำ
คาซาร์ขับรถสปอร์ตคันหรูสีแดงสองที่นั่งของตัวเองมาจนถึงโกดังร้างแถวชานเมืองตามจุดนัดพบที่ไอ้วิลเลี่ยมมันบอกภายในเวลาไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ เพราะเขาเหยียบมาด้วยความเร็วเท่าที่รถยุโรปคันหรูมันจะทำความเร็วได้นั่นแหละ ฟรื่น! ฟรื่น! ฟรื่น! ฟรื่น! เสียงรถคาซาร์ที่ทยานเข้ามา เขาเหยียบคันเร่งในขณะที่จอดรถอยู่เพื่อเป็นสัญญาณให้คนข้างในโกดังรู้ว่าเขามาถึงแล้ว และคนของไอ้วิลเลี่ยมก็ออกมารับเขาเพื่อพาเข้าไปข้างใน ซึ่งกว่าจะถึงก็ต้องผ่านห้องเก็บของหลายห้องซึ่งมีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด เขาสังเกตทางหนีทีไล่เอาไว้สำหรับพาวิฬาร์หนีแต่ทว่าทางค่อนข้างซับซ้อน ถือว่ามันทำการบ้านมาดีพอสมควรแต่คนแบบเขาก็ไม่ยอมให้มันเล่นงานง่ายๆเหมือนกัน เขาจะต้องพาเธอออกจากที่นี่ให้ได้ " คุณ ช่วยฉันด้วยฉันยังไม่อยากตาย " วิฬาร์ที่ร้องไห้จนตาบวมเมื่อเห็นคาซาร์เดินเข้ามาเธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ส่องเข้ามาหารำไรแล้ว " กูเจอหน้ามึงทีไรไม่เคยมีเรื่องดีทุกทีสิน่า " คาซาร์เขามันคนปากไม่ดีอยู่แล้ว เมื่อพูดออกไปแบบนั้นจึงทำให้วิฬาร์รู้สึกโกรธเขาขึ้นมาทันทีได้แต่คิดน้อยใจว่าเพราะใครกันเล่าที่ทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้ แต่ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งเฉยๆรอการช่วยเหลือจากเขาไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม แม้ว่าในใจของเธอจะด่าเขาไปแล้วมากกว่าร้อยคำก็เถอะ คอยดูเถอะนะถ้าเธอรอดไปได้เธอจะด่าเขา 7 วัน 7 คืนไม่พักเลย คนบ้าอะไรไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดทั้งๆที่ตัวเองนั่นแหละพาความซวยมาหาเธอแท้ๆ " ได้เจอกันสมใจแล้วคราวนี้ปล่อยฉันไปได้หรือยัง " วิฬาร์ที่รักตัวกลัวตายก็รีบหาทางออกให้ตัวเองทันที ผู้ชายปากหมาคนนี้เธอไม่จำเป็นต้องห่วงเขาด้วยซ้ำเพราะเขาไม่ได้เป็นอะไรกับเธอตอนนี้เธอควรเอาตัวเองให้รอดก่อนจะดีกว่า " เฮ้ย! พวกมึงปล่อยคุณผู้หญิงสุดสวยไปสิ " วิลเลี่ยมบอกพร้อมกับส่งสัญญาณให้ลูกน้อง เพราะเขานัดกับพวกมันไว้ว่าหลังจากที่ปล่อยเธอเขาจะจัดการกับไอ้คาซาร์แล้วให้ลูกน้องจัดการนังผู้หญิงคนนี้ซะ ถ้าเรื่องไปถึงตำรวจเขาเองก็ขี้เกียจเก็บกวาด วิฬาร์กำลังจะวิ่งหนีไปจริงๆเมื่อเธอถูกแก้มัดสำเร็จแล้ว แต่คาซาร์ก็พูดดักเธอไว้เสียก่อน แม้เขาจะรู้สึกเสียใจนิดๆที่เขาอุตส่าห์มาช่วยเธอแต่เธอกลับจะเอาตัวรอดไปเพียงแค่คนเดียวก็ตามเถอะ " ถ้ามึงคิดว่าพวกมันจะปล่อยมึงไปจริงๆก็วิ่งไปเลย แต่กูบอกไว้ก่อนนะว่ากูเคลียร์ทางนี้อยู่ไปช่วยมึงไม่ทันหรอก แต่ถ้ายังไม่อยากตายยืนอยู่ตรงนี้ " คาซาร์พูดออกไปโดยที่ไม่มองหน้าวิฬาร์สักนิด ดวงตาของวิฬาร์ฉายแววหวาดกลัวอย่างไม่อาจซ่อนเร้นเอาไว้ได้ ในตอนนี้เธอรู้สึกกังวลไปหมด ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร ไม่รู้ว่าจะต้องเชื่อใคร คนที่ชื่อวิลเลี่ยมนั่นบอกว่าจะปล่อยเธอไปแต่คาซาร์กลับบอกว่าถ้าเธอออกไปเธอจะไม่รอด เอาวะเชื่อผู้ชายคนที่เธอเคยช่วยชีวิตสักครั้งแล้วกัน " ก็ได้ ฉันจะยืนอยู่ตรงนี้ " วิลเลี่ยมเกลียดที่คาซาร์รู้ทันเขาไปหมดทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งว่าเขาจะให้ลูกน้องไปฆ่านังผู้หญิงคนนี้ซะ ในเมื่อไม่อยากแยกกันตาย ก็ได้! เขาจะฆ่ามันพร้อมกันที่นี่แหละ " ฉันให้โอกาสเธอหนีแล้วนะคนสวย เธอไม่ไปเอง " วิลเลี่ยมมองวิฬาร์อย่างมีเลศนัย พร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากเพราะคิดว่ายังไงเสียสองคนนี้ก็ไม่มีทางรอด เขากับลูกน้องมีกันนับสิบและทุกคนล้วนแต่มีฝีมือดีทั้งนั้น " มึงนี่ดวงแข็งนะไอ้คาซาร์ กูส่งคนไปฆ่ามึงตั้งกี่รอบก็ไม่เคยสำเร็จสักที " วิลเลี่ยมพูดออกมาในขณะที่เดินมายืนประจันหน้ากับคาซาร์เรียบร้อย ในขณะที่วิฬาร์ย้อนซ้อนหลังคาซาร์อีกทีด้วยความหวาดกลัว " คนดีผีคุ้มน่ะ " คาซาร์พูดออกไปอย่างคนยียวนกวนประสาท เขาไม่มีความกลัวมันในแววตาเลยสักนิดแม้จะมาที่นี่คนเดียวก็ตามจะมีก็แต่ความกังวลเล็กน้อยว่าวิฬาร์จะปลอดภัยหรือเปล่า " ถุย! ถ้ามึงเป็นคนดีกูก็เป็นเทวดาแล้ว " คาซาร์ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างเย้ยหยันก่อนจะเอ่ยออกไปให้มันได้เจ็บใจเล่นอีกครั้ง " เทวดาไม่ลอบกัดนะ ที่ลอบกัดกูก็เห็นมีแค่หมา มึงคงเป็นหมาสินะเพราะกูเห็นมึงลอบกัดเก่งเหลือเกิน " วิฬาร์ถึงกับกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ อย่างน้อยนายคาซาร์นี่ก็พูดถูกใจเธออยู่บ้าง " ไอ้คาซาร์! " วิลเลี่ยมแทบระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้ว " มึงไม่ต้องรีบโมโหหรอก มึงอยากพูดอะไรอีกไหมล่ะเผื่อคนที่ตายไม่ใช่กู " คาซาร์ที่พยายามยื้อเวลาเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเพราะตอนนี้บอดี้การ์ดซ้ายขวาของเขาคงมาถึงแล้ว เขาแค่รอให้พวกมันบุกเข้ามา แล้วเขาก็จะพาวิฬาร์หนีออกไปทันทีในช่วงที่กำลังชุลมุน " หึ มึงคิดว่ามึงจะรอดหรอ ยังจะมีหน้ามาปากดีกับกูอีกนะ มึงแหกตามองดูลูกน้องกูซะก่อนว่ามีเยอะแค่ไหน มึงตัวคนเดียวต่อให้เก่งแค่ไหนก็สู้ลูกน้องกูไม่ได้อยู่ดี อ่อ กูจะบอกให้เอาบุญนะว่ามึงตายแล้วเดี๋ยวกูจะดูแลคาสิโนของมึงแทน กูรับปากว่าจะทำมันให้ดีเผลอๆมันอาจจะกลายเป็นซ่องเอาไว้รับทรัพย์สำหรับกูก็ได้ " วิลเลี่ยมที่เพ้อฝันพูดออกไป วิฬาร์ถึงกับตกใจ คาซาร์เป็นเจ้าของคาสิโนอย่างนั้นหรือ นั่นแสดงว่าทั้งสองคนคือมาเฟียที่ทำงานผิดกฎหมายกันทั้งคู่ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ทำไมชีวิตของวิฬาร์ถึงได้เข้ามาพัวพันกับพวกคนเลวได้ขนาดนี้ " เสียงเตือนสายเรียกเข้าที่นาฬิกาข้อมือของคาซาร์ดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าธันและแบงค์ได้บุกเข้ามาแล้ว นั่นจึงทำให้คาซาร์จับมือของวิฬาร์วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว วิลเลี่ยมและลูกน้องของมันชักปืนออกมายิงไม่ทัน กว่าจะยิงพวกเขาก็กำลังจะพ้นประตูพอดี แต่ก็นั่นแหละเพียงเสี้ยววินาทีมันก็ไม่ทันเมื่อคาซาร์โดนยิงที่หัวไหล่ข้างขวาเพราะเขาบังกระสุนให้วิฬาร์ในขณะที่เธอกำลังวิ่งจะพ้นประตู ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! " เชี่ยเอ้ย! " คาซาร์รู้ตัวว่าโดนยิงเข้าแล้วแต่ก็ไม่แสดงอาการเจ็บปวดใดๆออกมายังคงพาวิฬาร์วิ่งออกมาจนถึงรถสปอร์ตคันหรูสีแดงของตัวเองและรีบจับยัดเธอเข้าไปนั่งจากนั้นตัวเขาก็พาเธอทะยานออกมาจากตรงนั้นก่อน " คุณ! เราหนีออกมาแบบนี้แล้วคนที่ช่วยเราล่ะเราไม่กลับไปช่วยเขาก่อนหรอ " คาซาร์หันมามองหน้าเธอพร้อมกับยิ้มมุมปากออกมาอย่างมีเลศนัย ก่อนจะพูดจาประชดการกระทำของเธอเมื่อสักครู่ออกไป " ทำไม ก่อนหน้านี้ยังจะหนีเอาตัวรอดคนเดียวอยู่เลยไม่ใช่หรอ แล้วอยู่ๆนึกอยากจะช่วยคนอื่นขึ้นมาอย่างงี้ มันเปลี่ยนจากนางมารร้ายมาเป็นแม่พระไม่ได้หรอกนะ ไม่ทันแล้วล่ะ " ร่างเล็กที่ได้ฟังก็ถึงกับโกรธจนควันจะออกหู ผู้ชายอะไรปากร้ายชะมัด เขาคือที่สุดของที่สุดเท่าที่เธอเคยคุยกับผู้ชายที่ไหนมาเลย ก็เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมเธอจะต้องเป็นห่วงเขาขนาดนั้นด้วยล่ะ ผิดตรงไหนที่เธอแค่คิดอยากเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่มันคับขันแต่ก็ไม่ได้ทิ้งเขาไว้จริงๆเสียหน่อย " สาบานว่านั่นปาก! "
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม