Na-T: เลิกเรียนรึยัง กลับพร้อมกันไหม
KH_212: เลิกแล้วค่ะ แต่ยังกลับไม่ได้
Na-T: ทำไมล่ะ?
KH_212: งานยังไม่เสร็จค่ะ พี่กลับก่อนเลย
Na-T: อยู่ไหนเหรอ
KH_212: J.J cafe
หญิงสาวพิมพ์ข้อความส่งไป เขาอ่านแล้วแต่ไม่ได้ตอบกลับ จึงนั่งแปลงานของจันจิต่อ สักพักก็มีชายหนุ่มถือแก้วกาแฟเย็น หย่อนก้นนั่งลงเก้าอี้ว่างที่อยู่ตรงข้ามอย่างถือวิสาสะ
“พี่ขอนั่งด้วยนะครับ น้องข้าวหอม”
“เอ่อ ค่ะ” น้ำเสียงชั่งใจดังขึ้น ทว่าเธอก็ตอบตกลงให้อีกฝ่ายนั่งด้วย
เขามีชื่อว่าทิว เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลตอนทำกิจกรรมรับน้อง มีนิสัยใจดี พูดเพราะ ใบหน้าหล่อตี๋ราวกับลูกครึ่งไทย-จีน และให้ความช่วยเหลือรุ่นน้องเป็นอย่างดี
“ทำไมมานั่งคนเดียวครับ เพื่อนน้องกลับแล้วเหรอ”
“ค่ะ พอดีงานหนูยังไม่เสร็จเลยให้เพื่อนกลับก่อน”
“ความคิดดีนะครับ เอางานมาทำในคาเฟ ได้กินของอร่อย แอร์เย็นสบาย ไอเดียก็จะเกิด”
ทิวคลี่ยิ้มให้คนตรงหน้า จ้องมองหญิงสาวน่ารักด้วยแววตาเปล่งประกาย ถ้าเธอชอบมานั่งที่แบบนี้ สงสัยคงต้องแวะมาบ่อย ๆ เสียแล้ว
“มีอะไรให้พี่ช่วยไหม”
ทิวเห็นหญิงสาวก้มลงมองกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะ สลับกับพิมพ์ข้อความในมือถือ คิดว่าคงกำลังทำงานที่ว่ายังไม่เสร็จเกี่ยวกับเนื้อหาในกระดาษแผ่นนั้น เขาก็พอมีความรู้และผลการเรียนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร จึงเสนอความมีน้ำใจเผื่อว่าเธอจะต้องการ
“ไม่มีค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ทิว” หญิงสาวปฏิเสธพร้อมรอยยิ้ม
นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันได้สักพักข้าวหอมก็รู้สึกปวดปัสสาวะจึงขอไปเข้าห้องน้ำก่อน เพราะงานยังไม่เสร็จ ขนมและน้ำที่สั่งยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง
ทิวมองตามแผ่นหลังของคนที่ลุกออกไป ริมฝีปากบนใบหน้าหล่อตี๋เผยรอยยิ้มขึ้นใจเต้นแรง มือทั้งสองข้างเปียกชุ่มด้วยคราบเหงื่ออย่างตื่นเต้น
เขารู้สึกชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันตอนรับน้อง แม้จะคุยกันได้เพียงไม่กี่ประโยค เจอหน้ากันแค่ไม่กี่หน แต่คนมันชอบก็คือชอบ ไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมารองรับ และการได้มาเจอกันในครั้งนี้ ทิวกำลังชั่งใจ อยากลองขอคบกับเธอ แต่เห็นว่าสาวรุ่นน้องกำลังยุ่งอยู่ทำให้ไม่กล้าเอ่ยออกไป
ขณะนั่งอยู่ตามลำพังเขาก็เริ่มส่งเสียงพึมพำแผ่วเบาราวกับซักซ้อมบทพูด รวบรวมความกล้าเอาไว้บอกกับสาวรุ่นน้องตอนกลับมานั่งที่เดิม
“เราคบกันไหมครับ” ว่าพลางทำหน้าไม่มั่นใจ มันดูเร่งรัด เธอคงไม่ทันตั้งตัว
“พี่ชอบน้องข้าวหอมนะครับ น้องข้าวหอมมีแฟนรึยัง ถ้ายังไม่มีเรามาลองคบกันนะ” พูดจบก็ส่ายหน้า คิดว่าคงยาวไป
“ถ้าน้องข้าวหอมยังโสด พี่ขอจีบได้ไหมครับ”
ทิวคิดว่าประโยคหลังน่าจะดีสุด อย่างน้อยก็ขอจีบก่อน ยังไม่ต้องคบกันก็ได้ เปิดโอกาสให้เธอและเขาได้เรียนรู้กันและกัน แต่ทว่าคนตัวเล็กที่เขาแอบชอบยังไม่ทันได้กลับมานั่งเก้าอี้ตรงข้าม ก็มีเสียงเข้มดังขึ้นทางด้านหลัง
“โสดบ้านพ่อมึงดิ ผัวเธอยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน”
ทิวหันไปมองก็ปรากฏร่างของหนุ่มหล่อในชุดวิศวะฯ เดินเข้ามานั่งลงแทนที่ข้าวหอม ใบหน้าของอีกฝ่ายดุดัน จ้องมองมาทางเขาตาเขม็ง และเขาก็ทราบดีว่าอีกฝ่ายคือใคร
“พี่กับน้องข้าวหอม เป็นแฟนกัน”
ทิวยังคงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ทว่าถ้อยคำนั้นแฝงไปด้วยความประหลาดใจ นทีคือหนุ่มฮอตของคณะ ถ้ามีแฟนก็คงมีข่าวดังไปทั่ว แต่นี่เขาไม่เคยได้ยิน
“ก็เออดิ หรือมึงคิดว่าไง” เสียงเข้มของนทีเอ่ยยืนยัน
ขณะที่นทีเปิดประตูเดินเข้าร้านที่คนตัวเล็กพิมพ์ตอบกลับข้อความ ก็เห็นเพียงกระเป๋าของข้าวหอมวางอยู่บนเก้าอี้ แต่เจ้าตัวหายไปไหนแล้วไม่รู้ แล้วโต๊ะเดียวกันนั้นก็มีชายอีกคนที่สวมเสื้อช็อปสีเลือดหมูนั่งอยู่ ส่งเสียงพึมพำว่าจะขอเธอเป็นแฟน เขาไม่รู้จะทำอย่างไรเลยเอ่ยออกไปเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ หวังว่าอีกฝ่ายจะยอมถอยและไม่มายุ่งกับเธออีก
ทิวสังเกตสีหน้าของนทีที่เต็มไปด้วยความจริงจัง และแสดงความหึงหวงออกมาอย่างชัดเจน หรือว่าข้าวหอมจะเป็นแฟนของรุ่นพี่คนนี้จริง ๆ
“ถ้างั้นผมไม่รบกวนเวลาของพี่สองคนแล้วครับ”
“อือ” นทีส่งเสียงในลำคออย่างขอไปที
ทิวลุกออกจากโต๊ะไปอย่างเสียดาย อีกทั้งยังไม่ได้ล่ำลาคนที่เขาแอบชอบ ไม่นานนักข้าวหอมก็ออกจากห้องน้ำ เดินกลับมาที่โต๊ะก็รู้สึกแปลกใจกับด้านหลังและทรงผมของทิวที่เปลี่ยนไป
“อ้าวพี่นที แล้วพี่ทิวล่ะคะ” เอ่ยพลางเข้าไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิมที่อยู่ตรงข้ามกับนที หันใบหน้ามองไปยังโต๊ะรอบข้าง
“เธอหมายถึงใคร” เขาแสร้งไขสือ
“เมื่อกี้พี่ไม่เจอใครนั่งโต๊ะนี้เลยเหรอคะ”
“ไม่นี่ พี่เข้ามาก็เห็นแต่กระเป๋าใบนั้น” เขาชี้ไปที่กระเป๋าของเธอ
หญิงสาวนึกในใจ สงสัยพี่ทิวคงจะมีธุระเลยรีบกลับไปก่อน
“พี่มาได้ยังไงคะ”
“เดินมา” เขาตอบหน้าตาย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเผลอทำหน้านิ่งใส่อีกฝ่าย จึงปรับมุมปากให้มีรอยยิ้มเล็กน้อย แล้วเอ่ยถาม
“งานยังค้างอีกเยอะไหม เอามาให้พี่ช่วยได้นะ พี่ตั้งใจมาอยู่เป็นเพื่อน”
“อยู่เป็นเพื่อน” หญิงสาวทำหน้างุนงง
“อย่างน้อยมีคนนั่งเป็นเพื่อนก็ดีกว่านั่งเหงาอยู่คนเดียว จริงไหม”
“อืม… ก็จริงค่ะ” เอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มหวาน แล้วถามต่อ “อยากกินอะไรคะ เดี๋ยวหนูเลี้ยง”
“เป็นผู้หญิงจะเลี้ยงผู้ชายทำไม หน้าที่จ่ายเงินให้เป็นของพี่ดีกว่า”
“สุภาพบุรุษจัง เป็นแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนไหมคะ”
ไม่รู้ว่าได้เผลอทำดวงตาเปล่งประกายตอนเอ่ยประโยคนี้ออกไปได้อย่างไร ทั้งยังถามว่าเขาเคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า เธอกำลังคิดอะไรอยู่ข้าวหอม ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นเมื่อได้ยินประโยคที่ดังออกมาจากปากของหนุ่มรุ่นพี่
“ไม่ครับ พี่เป็นแบบนี้กับข้าวหอมคนเดียว”
ถ้อยคำของเขาทำให้บรรยากาศภายในร้านเงียบสงบ ราวกับมีแค่เขาและเธอนั่งอยู่กันสองต่อสอง ภาพหนุ่มหล่อที่ปรากฏในดวงตาคู่สวย ทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนใบหน้าขึ้นกะทันหัน อกข้างซ้ายพลันส่งเสียงเต้นแรงไม่เป็นส่ำแทบทะลุออกมาจากอก นี่เขากำลังจีบเธออยู่เหรอ
“ข้าวหอม”
“ข้าวหอม”
เสียงเรียกดังขึ้นสองครั้งก็ทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์ กระพริบตาปริบ ๆ เผยรอยยิ้มให้คนตรงหน้า
“เอาอะไรเพิ่มไหม พี่จะไปสั่งน้ำ”
“ไม่เอาแล้วค่ะ แค่นี้ก็กินไม่หมดแล้ว หนูขอทำงานต่อดีกว่า”
หนุ่มหล่อลุกไปสั่งโกโก้เย็นที่เคาน์เตอร์ แล้วกลับมานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่เป็นเพื่อนเธออย่างเงียบ ๆ สายตาคู่คมชำเรืองมองใบหน้าคนตัวเล็กเป็นระยะ พลางยกยิ้มมุมปากบางจังหวะ เธอดูเป็นคนตั้งใจ จดจ่อกับงานที่ทำ มองยังไงก็น่ารักไปทุกมุม ยิ่งตอนเห็นผู้ชายคนอื่นเข้าใกล้ ก็ทำให้เขารู้สึกหวงเธอมากขึ้นไปทุกที