บทที่ 1 จิ้งจอกเก้าหางน้อยผู้อ้างว้าง

1054 คำ
ในอดีตกาลสัตว์ในเผ่าวิเศษน้อยใหญ่ล้วนถูกไล่ล่าจากเหล่ามาร เทพ เซียน หรือแม้กระทั่งมนุษย์ เพื่อนำร่างกายและเลือดมาปรุงเป็นยาวิเศษ จึงทำให้พวกมันต่างดิ้นรนเสาะแสวงหาหนทางเพื่ออยู่รอด ทุกครั้งที่เกิดการไล่ล่าจากมนุษย์ เหล่าสัตว์เวทซ่อนตัวอยู่นานจวบจนความมืดเข้าครอบคลุมสิ้นไร้เสียงแห่งการล่าอีกต่อไป จิ้งจอกเก้าหางน้อยตนหนึ่งพ่นลมหายใจออกมาอย่างช้า ๆ เบาบางที่สุดด้วยความระแวดระวังเมื่อสัตว์ตัวน้อยเห็นว่าบัดนี้ปลอดภัยแล้วจึงเคลื่อนกายว่องไวออกมาจากที่กำบังพร้อมด้วยสัตว์ตัวอื่น อีกทิศหนึ่งมีลำแสงชุมนุมสว่างเป็นสัญลักษณ์ จิ้งจอกน้อยเดินตามแสงเพื่อเข้าไปร่วมชุมนุมกับเหล่าสัตว์วิเศษตนอื่นด้วยความหวาดหวั่นด้วยยังตื่นตระหนกหวาดกลัว เป็นเพราะจิ้งจอกเก้าหางน้อยนั้นไร้ซึ่งบิดามารดาเฉกเช่นผู้อื่น เมื่อมองพ่อแม่ลูกอยู่พร้อมหน้าส่วนตนเองเป็นเพียงจิ้งจอกกำพร้าร่างน้อยก็สั่นเทาการมีชีวิตเพียงลำพังหาได้ง่ายดายอย่างที่นางกำลังเสแสร้งออกมา ความน่ากลัวที่สุดในโลกนี้สำหรับนางแล้วคือการไร้ซึ่งครอบครัวหาใช่การที่คอยเร้นกายหลบหนีมนุษย์ไม่ "หากปล่อยเป็นเช่นนี้ต่อไปลูกหลานของเรามีอันดับสิ้นแน่ พวกเราต้องหาทางปกป้องพวกเขา" ประมุขเผ่าสัตว์วิเศษใบหน้าเป็นสิงโต รูปร่างเป็นเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่เอ่ยขึ้น "มีเพียงวิธีเดียวที่จะหลุดพ้นจากการไล่ล่านี้ได้คือต้องทำข้อตกลงกับเผ่าสวรรค์ให้พวกเขาคอยคุ้มครอง" รองประมุขเผ่าสัตว์วิเศษผู้มีปีกคล้ายนกรูปร่างคล้ายกระต่ายแลดูน่ารักเอ่ยกล่าวต่อ "พวกเจ้าก็รู้ว่าเผ่าสวรรค์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งความเป็นไป พวกเราเป็นเผ่าสัตว์วิเศษหากไม่ได้ถูกจับเพื่อใช้ในการทำสงครามล้วนถูกจับไปทำยาและของวิเศษ เผ่าของเราเป็นผู้ถูกล่ามาแต่โบราณถือเป็นความเป็นไปในโลกนี้ เผ่าสวรรค์จึงไม่เคยสอดมือเข้ามายุ่งเกี่ยว" ประมุขเผ่าสัตว์วิเศษกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าหนักใจ "หากแต่ก่อนมีเพียงเทพและมารเท่านั้นที่ใช้ประโยชน์จากพวกเราก็ดีกว่านี้ อย่างน้อยพวกเขามีเหตุผลมากกว่าพวกมนุษย์ใจมารเหล่านั้น ทั้งเทพเซียนและมารยังนำพวกเราไปเป็นสัตว์เลี้ยง หากจะใช้ประโยชน์จากร่างกายก็เลือกสัตว์เวทที่แก่ชราใกล้สิ้นอายุขัยเท่านั้น แต่ในตอนนี้มนุษย์พวกนั้นหันมาฝึกทั้งวิชามารและเซียนกลับกระโดดเข้ามาเข่นฆ่าเราด้วย พวกเราจึงต้องหลบหนีอยู่ทุกวันนี้เพราะเผ่ามนุษย์เลวทรามนั่นแท้ๆ " สุนัขเวทแผงคอสีขาวสะอาดตนหนึ่งเอ่ยขึ้น "ข้ารู้มาว่าหากเราบำเพ็ญเพียรมีตบะแก่กล้าก็จะสามารถกลายร่างเป็นเซียนได้ เช่นนั้นความหวังที่จะรอดพ้นจากการไล่ล่าก็มี ลูกหลานของพวกเราก็ไม่ต้องกลายเป็นเหยื่อของเผ่าต่างๆ อีก" ประมุขนั่งลงแล้วกล่าวอย่างมีความหวัง "ท่านประมุขก็รู้ว่าการบำเพ็ญเพียรไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ ต้องอาศัยความอดทนอย่างสูงมีผู้ที่เคยทำได้ไม่มากทุกตนล้วนเป็นสัตว์เวทชั้นสูงถูกเลี้ยงดูโดยเทพเซียนบนสวรรค์ สัตว์เวทธรรมดาอย่างพวกเราไม่เคยมีปรากฏว่ามีผู้ใดทำได้ ข้าว่าเรื่องนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ ลูกหลานเราล้วนซุกซนพวกเขาสามารถนั่งนิ่งๆ ได้ไม่ถึงก้านธูปก็หมดความอดทนเสียแล้วส่วนผู้ใหญ่อย่างพวกเราก็ต้องคอยดูแลพวกเขาอีกเช่นนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปนั่งบำเพ็ญเพียรกันเล่า" สุนัขจิ้งจอกตนหนึ่งเอ่ยอย่างไร้ความหวัง เสียงดังสวบสาบคล้ายเสียงแหวกอากาศของธนูดังขึ้นพร้อมเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนของสัตว์เวทดังจากอีกฟากของป่า เหล่าสัตว์เวทต่างพากันตื่นตระหนก พวกเขาเคยได้ยินมาว่าเวลานี้มีการไล่ล่ายามราตรีที่มนุษย์เรียกอีกอย่างว่าการล่ารัตติกาล สัตว์น้อยใหญ่เริ่มกระจัดกระจายตัวต่างหลบหนีหาที่ซ่อนกาย ทิ้งคำพูดเรื่องการบำเพ็ญเพียรไว้เบื้องหลัง เวลานี้ทุกคนต่างดิ้นรนเข้าที่กำบังหาได้มีผู้ใดสนใจถ้อยคำนั้นอีกต่อไป จิ้งจอกน้อยเก้าหางนั่งฟังพวกผู้อาวุโสของเผ่าพูดคุยกันโดยไม่ปริปากอยู่เมื่อครู่เมื่อได้ยินว่ามีการล่ารัตติกาลแถวนี้ก็รีบวิ่งเร้นกายเข้าที่กำบัง นางเป็นจิ้งจอกกำพร้าอาศัยเอาชีวิตรอดมาได้ทุกวันนี้ด้วยความเฉลียวฉลาดและความคล่องแคล่วของตนเอง แม้จะอายุเพียงสามร้อยห้าสิบกว่าปีแต่กลับมีสติปัญญาเกินเด็กทั่วไป อาจเป็นเพราะว่าบิดามารดาของนางเคยเป็นสัตว์เลี้ยงของเทพผู้สูงส่งมาก่อน ในอดีตสัตว์ทั้งสองอยากครองรักกันเพียงลำพัง เซียนบนสวรรค์ผู้ชุบเลี้ยงจึงอนุญาตให้พวกเขาออกจากแดนสวรรค์ เรื่องเลวร้ายเมื่อพวกเขาคลอดนางมาได้ร้อยกว่าปีก็ถูกมนุษย์ฆ่าตายในขณะที่ออกมาหาอาหารในเช้าวันหนึ่ง นางจึงกลายเป็นกำพร้าอาศัยอยู่เพียงลำพังมาตั้งแต่นั้น อาจเพราะบิดามารดามีร่างกายวิเศษสามารถดูดซับพลังเซียนได้จึงได้ถ่ายทอดพลังเซียนนั้นมายังร่างของนางด้วยพลังเซียนเล็กน้อยที่นางมีทำให้นางรอดพ้นอันตรายมาได้จวบจนวันนี้ วาจาที่สัตว์เวทตนนั้นเอ่ยยังดังก้องในหู นางไม่อยากหนีเช่นนี้ไปตลอดชีวิต นางต้องบำเพ็ญตบะจนกลายเป็นเซียนให้ได้ ในเมื่อเคยมีสัตว์เวททำได้ นางก็ย่อมทำได้เช่นกัน สุนัขจิ้งจอกเก้าหางสีขาวเร้นกายในความมืดมิด นางกระโดดเข้าไปยืนอยู่ข้างๆ ประมุขสัตว์เวทซึ่งเร้นกายในที่กำบังเดียวกันกับนางและสัตว์เวทตนอื่นอีกสามตน "ท่านประมุขโปรดช่วยชี้แนะข้าน้อยด้วย หากว่าข้าต้องการจะบรรลุเซียนต้องทำเช่นไร"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม