ปัง! ปัง!
“เจ้า!...”
ปัง! ปัง! ปัง!
“ไอ้เจ้า!...เปิดประตูให้พวกฉันสองคนเข้าไปเร็วๆ เข้า!”
เสียงเคาะประตูรัวๆ ดังสนั่น พร้อมกับเรียกชื่อของเจ้าจันทร์ ดังไปทั่วทั้งชั้นอย่างไม่เกรงใจใคร
เจ้าของชื่อยังคงนั่งอยู่นิ่งๆ แต่ทว่าหัวใจของหญิงสาวกลับกำลังเต้นแรง เพียงแต่ไม่แสดงอาการออกมาเท่านั้น
ก็มันตื่นเต้นนี่หว่า แล้วก็ไม่กล้าจะเปิดคอมเข้าไปดูรายชื่อของนักศึกษา ที่สอบผ่านขั้นตอนสุดท้ายในคณะมันฑณศิลป์ ทั้งๆ ที่มีคนรอยินดี และมีคนรอสมน้ำหน้าอย่างคันศรที่มันกำลังนอนมองเธออยู่บนเตียง
คันศรกับเจ้าจันทร์เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากกว่าใครๆ สามารถไว้วางใจได้หมดทุกอย่าง เพราะทั้งสองคนเป็นเด็กต่างจังหวัด ที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงปัจจุบัน และชวนกันเข้ามาเรียนต่อระดับมหาลัยที่ในกรุงเทพ
เจ้าจันทร์เดินไปเปิดประตูห้อง เพราะเจ้าของมันกำลังมองเธอตาขวาง ถ้าขืนยังนั่งอยู่อย่างนั้น
เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก ร่างสูงพอกันทั้งสองคนต่างก็ดันตัวเองเข้ามาอยู่ในห้อง จากนั้นก็มีเสียงของประตูปิดตามหลัง ด้วยอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่มือของพวกมันแน่ๆ
"ไอ้เจ้าแกสอบเข้ามันฑณศิลป์ได้รึเปล่าวะ? " เจ้าของเสียงที่เดินตาม เอ่ยถามเธอออกมาอย่างร้อนใจมันมีชื่อว่าใต้ฝุ่น
เจ้าจันทร์ ยังไม่ตอบเพื่อนในทันที หญิงสาวเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม ผู้มาใหม่ทั้งสองคนจึงพากันไปนั่งที่โซฟาตัวยาว
“ว่าไงวะไอ้เจ้า..สรุปว่ามีรายชื่อของแกติดอยู่ในนั้นรึเปล่าวะ?”
เสียงห้าวทุ้มของ โชกุน เอ่ยทัก เจ้าจันทร์ ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นสีหน้าด้านข้างของเจ้าของร่างบางสลดลง
เจ้าจันทร์มัวแต่ไล่สายตามองหารายชื่อของตัวเอง จึงไม่ได้ตอบคำถามกลับมา เพียงแต่ปรายหางตามามองเจ้าของคำถาม ก่อนละสายตากลับไปที่เดิม
“แล้วมึงจะให้มันตอบว่ายังไงละวะไอ้โชกุน? ...มึงก็ดูหน้ามันดิ ทำหน้าแบบนี้มันสอบไม่ติดแหง๋ๆ เลยใช่มั๊ยวะไอ้เจ้า?”
ใต้ฝุ่น เพื่อนชายอีกคนที่นั่งอยู่ข้างกัน หันมาตอบแทนร่างบาง พลางเอ่ยถามเพราะต้องการให้เจ้าจันทร์ช่วยยืนยันคำตอบ
เจ้าของร่างใหญ่ต่างพร้อมใจกัน เดินมาหยุดอยู่ทางด้านหลังของเจ้าจันทร์ ราวกับต้องการจะปลอบใจหญิงสาว ที่เป็นเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มของพวกเขา
แต่ทว่า...เจ้าของร่างใหญ่ที่กำลังนอนเหยียดกาย อยู่บนเตียงกว้างขนาดคิงไซส์ในชุดกางเกงยีนส์สีมอ พอๆ กับเสื้อช็อปที่ใส่ บ่งบอกได้ว่าชายหนุ่มกำลังเรียนอยู่คณะอะไร โพล่งออกไปทันทีหลังจากที่เงียบฟังอยู่นาน
“ไอ้เจ้า!...แกเสียเวลาเรียนวิศวะมาพร้อมๆ กับพวกฉันตั้งสองปี แล้วยังต้องหยุดเรียนไปอีกปี เพราะต้องใช้เวลาเตรียมตัวในการสอบเข้าคณะที่ตัวเองไฝ่ฝัน...แล้วมันก็ชวดจนได้ ฉันขอสมน้ำหน้าแกตรงนี้เลยได้มั๊ยวะ!?”
เจ้าของเสียงที่แซะเธอคนสุดท้าย...ไม่ต้องบอกก็รู้ได้เลยว่ามันเป็นใคร?...
ไอ้ลูกศร...เพื่อนชายปากหมาใกล้บ้านของเจ้าจันทร์นั่นเอง...
“ไอ้ศร!”
“ไอ้ศร!”
สองเสียงประสานหันมาเรียกชื่อ คันศร ดังลั่นห้องที่เจ้าของกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงมันนั่นละ
“พวกมึงจะตะโกนหาพ่องมึงรึไงกันวะเฮ้ย!? คันศรย้อนเสียงดังพอกันกลับไปทันที
ในขณะที่ร่างบางที่นั่งเงียบฟังอยู่นาน ถึงกับต้องลุกขึ้นมาห้ามทัพ
“พวกแกหยุด!...แล้วฟังฉัน!”
เจ้าของเสียงใสยืนเท้าสะเอวแล้วมองหน้าหล่อเหลาของเพื่อนชายด้วยสายตาเอาเรื่อง เนื่องจากรู้สึกรำคาญพวกมันนั่นแหละ
แทนที่จะกลัวกันบ้าง แต่พวกมันต่างพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาซะดังลั่น เพราะท่าทางของเจ้าจันทร์ มันดันเหมือนกับกุมารทอง
มันน่าขำมากกว่าจะน่ากลัวเหมือนกับที่เจ้าตัวกำลังพยายามทำ
หญิงสาวหรี่ตามองหน้าเพื่อนสนิททั้งสามคน ด้วยนัยน์ตาที่ติดจะเจ้าเล่ห์นิดหน่อย ก่อนจะปล่อยลมหายออกมาเฮือกใหญ่คล้ายกับกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง พลางขบเม้มริมฝีปากบางเข้าหากันแล้วอมยิ้มจนแก้มป่อง จากนั้นจึงตะโกนก้องจนเสียงดังลั่นห้องออกไปว่า...
“เย้!...ฉันสอบเข้ามันฑณศิลป์ได้แล้วโว๊ย!..ฮ่าๆ”
ก็เพราะคำพูดแซะเชิงดูแคลนเจ้าจันทร์ของคันศรต่างๆ นานานั่น มันเป็นแรงผลักดันให้เธอเอาชนะมันมาได้ตลอดๆ เลยนะสิ
และเมื่อได้ยินอย่างนั้น ทั้งสามคนต่างมองสบตาอย่างที่รู้ ๆ กันอยู่นั่นเลย
โชกุนกับใต้ฝุ่นนั้น มาสนิทกับเจ้าจันทร์ตอนที่เรียนอยู่ชั้นมัธยม...
ส่วนคันศรคือเพื่อนที่สนิทกับเจ้าจันทร์มากที่สุด เขารู้ดีว่าเจ้าจันทร์เป็นคนยังไง? แบบไหน? ไส้มีกี่ขด?
อีกทั้งคันศรยังเป็นรุ่นน้องเพียงคนเดียวที่จอมทัพไว้ใจมาก ถึงกับออกปากฝากฝังให้เขาช่วยดูแลน้องสาว เมื่อรู้ว่าเจ้าจันทร์สอบติดคณะวิศวะที่มหาลัยเดียวกัน
แต่ทว่า...เจ้าจันทร์มันก็โคตรจะดื้อฉิบหายเหอะ!
ยังไงนะเหรอ?...
ทีแรกมันทำท่าอยากจะเป็นหมอ แต่พอรู้ว่าต้องเรียนผ่าศพกับอาจารย์ใหญ่ เจ้าตัวถึงกับเปลี่ยนใจเลยทันที ทั้งที่เสียเงินค่าเดินทางและค่าครอสเรียนต่างๆ ให้กับทางโรงเรียนที่เปิดสอนเฉพาะทางทางด้านนี้ ที่มีอยู่ในกรุงเทพโดยเฉพาะ
พอมารู้ทีหลังว่าพวกเขาจะยื่นคะแนนสอบเข้าเรียนวิศวะเจ้าตัวก็จะเอามั่งอีก...
ด้วยผลสอบของคะแนนที่มีพอๆ กันมันก็เลยทำให้ทั้งสี่คนได้เข้ามาเรียนมหาลัย และอยู่ในคณะเดียวกันนั่นทั้งหมด...
ผ่านมาได้สองปีกับที่พวกเขาพยายามประคับประคองเจ้าจันทร์ เพราะต้องการให้มันเรียนจบไปพร้อมๆ กันอย่างทุลักทุเล
สุดท้าย...มันก็ทำให้พวกเขาอยากจะบ้าตาย ตอนที่มันมาบอกว่าไม่ใช่ทาง!
ศิลปะนั่นต่างหากที่คือทางของเจ้าจันทร์...
เชี่ย!...นี่จุดยืนของมันอยู่ตรงไหนกันวะ!?..
แล้วนะ...เรื่องที่มันดร็อปเรียนวิศวะไว้ กับที่มันลงทุนไปเรียนพิเศษและติวเข้มกับรุ่นพี่ที่เขาเปิดสอนทางด้านนี้โดยเฉพาะเป็นเวลาหนึ่งปี
คนเป็นพี่ชายกับแม่ของมันก็ยังไม่รู้กันเลย...
ไอ้ตัวแสบมันบังคับให้เพื่อนทั้งสามคน ช่วยกันปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ...
แล้วพวกกูก็บาปไปกับมันด้วย!
ซวยฉิบหายเหอะ!