[4]
ฉันมาถึงยังจุดนัดหมายที่จอห์นทิ้งไว้ให้ เป็นคลับเล็กๆ แห่งหนึ่งที่พ่อเคยขับรถผ่านอยู่บ่อยครั้ง ไม่นึกเลยว่าจะมาถึงจุดที่ต้องเป็นคนมาที่นี่ซะเอง ฉันลองมองหาจอห์นก่อนจะเจอเขายืนอยู่หน้าประตู พร้อมแว่นกันแดดและชุดที่พร้อมปิดบังทุกส่วนของร่างกายจากแสงแดด ฉันเดินไปหาแวมไพร์จอมกวนประสาททันที
"มาช้าจังนะ" จอห์นพูดพลางมองนาฬิกาข้อมือ
"ฉันไม่ได้วาร์ปมาเหมือนนายซะหน่อย แล้วมีอะไรล่ะ?"
"เข้ามาก่อนเถอะ"
เสียงดุเข้มอันแสนมีเสน่ห์ของจอห์นสะกดฉันได้อยู่หมัด ฉันเดินตามแวมไพร์หนุ่มเข้าไปด้านในและมองดูรอบๆ ผนังเกือบทั้งหมดถูกทาด้วยสีแดงเลือดหมู เสาถูกแกะสลักออกมาเป็นงานสถาปัตยกรรมแบบจีน มีภาพมังกรและเสือแปะอยู่ตามจุดต่างๆ ส่วนเก้าอี้ที่ยังถูกยกวางไว้บนโต๊ะเป็นการบอกว่าที่นี่ยังไม่เปิดให้บริการ เอาตรงๆ ฉันคิดว่าที่นี่ออกจะเชยไปหน่อย
"พาฉันมาที่นี่ทำไม?"
"มีคนอยากเจอเธอ" จอห์นที่สูงกว่าก้มหน้ามองฉัน "และอีกอย่างป่านนี้ไอ้แวมไพร์หน้าจืดนั่นคงป่าวประกาศไปทั่วแล้วล่ะว่ามีเลือดหายากสำหรับพวกเขา ถือว่าฉันช่วยเธอนะ"
"ฉันต้องขอบใจนายหรอ?"
"ก็ควรอยู่ ฉันช่วยชีวิตเธอ ให้เลือดเธอ ดูเหมือนเธอจะได้ประโยชน์อยู่คนเดียวนะสาวน้อย”
มันก็จริง...แต่อันที่จริงเขาก็ได้ประโยชน์ที่ดื่มเลือดฉันเหมือนกันนี่ เพราะฉะนั้นเขาก็พูดเข้าข้างตัวเองไม่ได้หรอก จอห์นมองใส่ฉันแบบดุๆ เมื่อได้ยินว่าฉันกำลังนินทาเขาในใจ
"เดี๋ยวจับดูดเลือดซะนี่" จอห์นพูดกวนโอ๊ย ฉันแลบลิ้นใส่เขาและเดินตามจอห์นเข้าไปด้านใน
ยิ่งเดินเข้ามาเรื่อยๆ ฉันยิ่งรู้สึกว่าที่นี่มีอะไรที่น่าพิศวงอยู่อีกเยอะ ทางเดินที่วนเวียนไม่จบไม่สิ้น เหมือนกับฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะไปจบที่ตรงไหน จอห์นจำทางที่ซับซ้อนขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
"ยินดีต้อนรับ...คลับแวมไพร์ของเรา"
"พระเจ้า…"
ฉันมองแวมไพร์เกือบสองโหลที่กำลังปาร์ตี้กันอยู่ที่นี่ แสงไฟนีออนที่ช่วยให้ที่นี่ดูเปล่งประกายกำลังสาดไปรอบๆ มีสาวเปลื้องผ้าเต้นอยู่หน้าเวที ดูแล้วเธอคงจะเป็นแวมไพร์เหมือนกัน ฉันมองไปและเห็นแวมไพร์หนุ่มรูปหล่ออีกคนกำลังนัวเนียกับสาวน้อยหน้าตาดีทั้งหลาย ฉันหันกลับทันทีเมื่อเห็นเขาแยกเขี้ยวและงับที่ต้นคอของเธอ ดวงตาสีอำพันที่ส่องประกายออกมาแวบนึงมองที่ฉันด้วยความสนใจ
"ที่นี่เจ๋งดีมั้ยล่ะ? สวรรค์ของพวกเรา" จอห์นที่เห็นท่าทางขยะแขยงของฉันถาม น้ำเสียงยังเย็นชาเหมือนเคย
"ผู้หญิงพวกนั้นเต็มใจรึเปล่า?"
"ส่วนใหญ่ก็ไม่หรอก แต่เราก็มีวิธีหาเลือดของเรา พวกที่กระเป๋าหนักก็จะซื้อเอา ส่วนพวกแวมไพร์ธรรมดา...ส่วนใหญ่ก็จะดูดเลือดแล้วก็ลบความทรงจำพวกเธอออก"
ฉันถูกจอห์นจูงมือผ่านเหล่าแวมไพร์มาจนพ้น แต่ทันใดนั้นแรงฉุดมหาศาลก็ดึงฉันออกจากจอห์นอย่างแรง หัวฉันกระแทกกำแพงพร้อมกับแรงบีบบนต้นคอจากมือของแวมไพร์สาวผมสั้น สีบลอนด์ปนน้ำตาลที่แซมอยู่ทำให้เธอเป็นสาวเปรี้ยวได้ไม่ยากนัก อายแชโดว์สีดำหม่นทำให้ตาสีเหลืองอำพันคู่นั้นดูดุร้ายขึ้นไปอีกเท่าตัว
"อย่ายุ่งกับแขกของฉันวิเวียน!" จอห์นดึงเธอออกมาและแยกเขี้ยวขู่
"กลิ่นเลือดแบบนี้มันอะไรกัน แกเป็นตัวอะไรกันแน่?"
"วิเวียน..."
จอห์นกดเสียงต่ำ ดูก็รู้ล่ะว่าเขาคงเอาจริงถ้าฉันเป็นอะไรไป แวมไพร์สาวจอมซ่าปล่อยมือจากฉันและเก็บเขี้ยวกลับเข้าไปเช่นเดิม เธอมองจอห์นด้วยสายตาไม่สบอารมณ์
"ระวังอีเลียตไม่เหลือให้นายล่ะ แล้วก็ระวังพวกฉันให้ดีๆ ด้วยล่ะจอห์น"
"ข้ามศพฉันไปให้ได้ก่อนเถอะ"
และวิเวียนก็เดินจากไปอย่างสงบ จอห์นเก็บเขี้ยวและเร่งให้ฉันรีบเดินออกมาจากฝูงแวมไพร์ให้เร็วกว่าเดิม เขาดูไม่เหมือนคนอื่นๆ เลย ฉันเดินมากับแวมไพร์ผมบลอนด์จนถึงหน้าห้องที่มีไม้แกะสลักเขียนไว้ว่า 'อีเลียต' จอห์นเคาะประตูสามครั้งและเปิดเข้าไป
"ไงโจนาธาน"
ฉันสตั้นไปพักนึง ไม่เคยเห็นใครที่ดูสุขุมแล้วก็ดูดีขนาดนี้มาก่อน แวมไพร์ผู้เป็นนิรันดร์คนนั้นมีสีผิวขาวสว่าง ผมสีดำและตาสีน้ำตาลแบบนั้นไม่ค่อยหาได้ในเมืองนี้นัก เขาเดินย่างกรายมาหาฉัน ดวงตาคู่นั้นเหมือนกำลังทำให้ฉันตกอยู่ในหลุมพรางของมนต์สะกดช้าๆ แต่เขาทำไม่ได้หรอก
"น่าสนใจ..." เขาพูดยิ้มๆ ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน ดูไม่เดือดร้อนใจเรื่องที่ฉันไม่อยู่ภายใต้อำนาจของเขาเลยแม้แต่น้อย
"แล้วคุณเรียกฉันมาทำไม?" ฉันตัดสินใจถามออกไปตรงๆ
"จอห์นโทรมาบอกฉันว่าเธอเป็นถุงเลือดชั้นดีของเรา และเธอก็ดูจะไม่หลงมนต์แวมไพร์ง่ายๆ ด้วย...นั่นล่ะที่ฉันสนใจ"
"ก็น่าสนใจดี แต่ฉันไม่ได้เป็นถุงเลือดของใคร อรุณสวัสดิ์จอห์น"
ฉันรีบเดินออกจากห้อง แต่จอห์นวาร์ปมาขวางฉันไว้ รอยยิ้มชั่วร้ายของอีเลียตบอกเป็นนัยๆ ว่าวันนี้ฉันอาจจะไปไม่รอดถึงบ้าน...โดนดูดเลือดจนตายคงไม่ใช่ความคิดที่ดีนักหรอก
"ได้โปรดอเลสซ่า"
"ไม่จอห์น นายบังคับฉันเพราะฉันเป็นหนี้ชีวิตนายไม่ได้หรอก...หลีกทางให้ฉันเถอะนะ"
ฉันวิ่งหนีจอห์นออกมา สายตาของเหล่าแวมไพร์ที่มองฉันอย่างหิวกระหายทำให้ฉันเริ่มรู้สึกอยากอ้วกอีกครั้ง ฉันพยายามวิ่งกลับทางที่พอจะจำได้แต่สุดท้ายก็วนกลับมาที่เดิม จนในที่สุดฉันก็ยืนหอบอยู่ตรงนั้น ในใจก็คิดอยู่ว่าจะแบกหน้าไปหาจอห์นอีกดีรึเปล่า
"เธอออกไปไม่ได้หรอก"
ฉันหันขวับ แวมไพร์สาวผมขาวสนิท ผิวซีดจนกลืนไปกับสีผมทำให้เธอดูโดดเด่นกว่าแวมไพร์หรือคนธรรมดาทั่วไป แวมไพร์สาวเดินเข้ามาหาฉัน แต่เธอดูไม่อยากจะสนใจฉันมากนัก
"ฝีมือแม่มด" เธอแค่นเสียงหัวเราะ "แม่มดซื่อบื้อก็เท่านั้นแหละ ไม่คิดเลยว่าจะเจอมนุษย์หลงทางที่นี่"
จากนั้นเธอก็เดินเข้ามาใกล้ขึ้น ดวงตาสีฟ้าอ่อนคู่นั้นไล่สายตาจากปลายเท้าจรดขึ้นถึงหัวของฉัน เหมือนเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว เธอดมที่ซอกคอของฉันก่อนจะเปลี่ยนเป็นการสูดกลิ่นเข้าไป
"กลิ่นแปลกใหม่ คงจะอร่อยน่าดู" ฉันขนลุกซู่เมื่อเธอพูดแบบนั้นออกมา "ขอชิมเลือดซักหน่อยจะได้มั้ยที่รัก? "
จังหวะที่ฉันกำลังจะอ้าปากพูดว่าอย่า เธอก็ใช้มือข้างนึงอุดปากฉันไว้ไม่ให้ส่งเสียงร้องก่อนจะแยกเขี้ยวออกมา สัมผัสร้อนจากเขี้ยวของเธอแผดเผาอยู่ในตัวฉัน ฉันที่ไม่มีแรงจะต่อต้านเธอต้องปล่อยให้เธอทำแบบนั้น ในใจนึกอยากจะหยิบมีดเงินที่พกมาด้วยแทงเธอ แต่ฉันไม่มีแรงพอจะทำแบบนั้นหรอก จนในที่สุดร่างของฉันก็ล้มลง แวมไพร์ตนอื่นๆ เริ่มวาร์ปเข้ามาและกัดที่ร่างกายของฉันเพื่อลิ้มรสเลือด
"จอห์น..."
และเขาก็ออกมาจริงๆ ไอ้แวมไพร์เฮงซวย...ฉันคิดในใจก่อนจะมองเขาและอีเลียตที่เข้ามาเช่นกัน และพวกแวมไพร์ก็แตกฮือเมื่ออีเลียตตะคอกบอกว่าใครที่ยังเข้ามาเขาจะตัดหัวแวมไพร์พวกนั้นทิ้งซะ ส่วนแวมไพร์สาวตัวก่อเรื่องยังยืนอยู่ตรงหน้าฉัน สีหน้าเธอดูไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น
"นี่มันบ้าอะไรคริสตัล?! บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้ดื่มเลือดในเขต!"
"ก็กลิ่นเธอมันยั่วยวนฉัน ฉันยังไม่ได้ฆ่าเธอสักหน่อย"
"ไปจัดการกับตัวปัญหานายซะจอห์น ก่อนที่ฉันจะมีน้ำโหมากกว่านี้ ไป!"
จากนั้นบทสนทนาก็สิ้นสุดลง ฉันเห็นรองเท้าส้นสูงของเธอและรองเท้าผ้าใบของจอห์นเดินออกไปอีกทาง จากนั้นอีเลียตก็อุ้มฉันเข้าไปที่ห้องทำงานของเขา เขายังส่งยิ้มอบอุ่นนั้นในตอนที่ฉันกำลังจะตายได้ยังไงกัน...แวมไพร์ผมดำเช็กดูแผลที่แวมไพร์พวกนั้นทิ้งไว้และหันกลับมามองฉัน
"เฮ้! อย่าเพิ่งตาย ฉันจะให้เลือดเธอนะ" อีเลียตพูดและกัดข้อมือของเขา "นี่ ดื่มซะ"
ฉันจำยอมต้องดื่มเลือดที่เขาให้มาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เลือดของอีเลียตเหมือนยากล่อมประสาทที่กำลังออกฤทธิ์ช้าๆ ฉันไม่รู้ว่าจะต้องเจอผลกระทบอะไรจากเลือดเขาบ้าง แต่ขอไม่วิ่งหนีแวมไพร์เหมือนของจอห์นก็พอ
และสติฉันก็ดับวูบลงอีกครั้ง...
[To Be Continued...]