“อีกสองอาทิตย์ไปค่ายใช่ไหม”
“ค่ะ” เขาถามขึ้นระหว่างที่กำลังขับรถกลับในเช้าตรู่ของวันจันทร์
...โคตรง่วง
“อืม ชวนขิงไปด้วยล่ะ”
“ชวนขิง?”
“อืม”
“ชวนได้ไงขิงไม่ใช่คนในชมรม”
“ชวนได้”
“แต่... / ไม่มีแต่ได้ไหม ฉันสั่งให้ทำอะไรเธอเป็นแค่คนสวนก็ทำไปสิวะ”
“โอเค เดี๋ยวจัดการให้ค่ะแต่ถ้าไม่สำเร็จก็อย่าด่านะ ขิงมันก็ดื้อพอตัว”
“ลองดูก่อน ถ้าเธอชวนแฟนฉันไม่ได้เดี๋ยวฉันชวนเอง”
“ค่ะ” ฉันรับคำสั้น ๆ ขี้เกียจคุยถึงแม้ในใจจะมีคำพูดมากมายก็ตาม รู้ว่าอยากให้แฟนตัวเองไปแต่ทำไมไม่ชวนเองให้จบ ฉันยังไม่ชวนยังรู้คำตอบเลยว่าขิงมันไม่ไปหรอก แต่ถ้าชวนได้ก็ดีนะคะยังกังวลอยู่เลยว่าไปค่ายครั้งนี้ไม่มีเพื่อนที่สนิทเลยถ้าขิงไปฉันก็คงมีเพื่อนแล้วก็สนุกมาก
-หลายวันต่อมา-
ตื๊ด ตื๊ด~
...พ่อ
“...” เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในเย็นวันศุกร์กับชื่อคนที่โทรมาทำให้ฉันเริ่มหวั่นใจขึ้นมาแปลก ๆ อย่าบอกนะว่าจะโทรมาสั่งให้กลับบ้าน
ติ๊ด!
“ค่ะ”
(อีกห้านาทีจะถึงปั๊ม)
“ฮะ?” นั่นไงเดาไว้ไม่ผิดเลย! T^T
(อย่าถามซ้ำถ้าเธอไม่ได้หูหนวกเข้าใจไหมยัยคนสวน)
“คุณเกรย์จะกลับบ้านเหรอ”
(เออสิวะ อาทิตย์ก่อนคุยกันแล้วไม่จำรึไง?) ถ้าบอกว่าจำไม่ได้ก็ด่าฉันโง่ซ้ำซ้อนเชื่อไหมล่ะ -_-!
“จำได้ค่ะ แต่อาทิตย์นี้คงไม่ได้กลับหรอกคุณเกรย์ มีนมีธุระ”
(ธุระอะไร?)
“มีนจะไปช่วยงานเพื่อน”
(งานอะไร?)
“เพื่อนมีนขายออนไลน์มันให้ช่วยแพ็คของ”
(ใคร?) เออว่ะ ใครวะ
“ชื่อใบตอง เพื่อนเก่าสมัยมัธยมคุณเกรย์ไม่รู้จักหรอก”
(ตกลงไม่กลับ?) เสียงเอาเรื่องเลย ไม่ได้อย่างใจก็แบบนี้ตลอด
“อาทิตย์หน้านะคะ อาทิตย์นี้ขอช่วยงานเพื่อนก่อน มันไม่มีใครช่วย”
(อาทิตย์หน้ากลับทำห่าอะไร) โห แรงไปไหมแค่นี้เองต้องหยาบเลยเหรอ
“ก็...”
ติ๊ด!
“เอ้า!” ตัดสายไปแล้วแล้วทางนี้ต้องทำยังไงต่อ?
แล้วแต่เถอะเกรย์ หน้าหล่อแต่ไม่ใช่ผัวไม่ได้หาเงินให้ใช้ไม่สนใจขนาดนั้นหรอกนะ
-วันต่อมา-
“ไงมึง”
“อืม”
“มาเจอเพื่อนเก่าทั้งทีทำหน้าเซ็งอะไรขนาดนั้นวะ”
“ไม่มีอะไรกูเบื่อ ๆ ดื่มเดี๋ยวก็ดีขึ้น”
“เสียดายไอ้ไทน์น่าจะมา”
“อืม มันไม่ว่าง” วันนี้ผมมีนัดสังสรรค์กับพวกเพื่อนเก่าสมัยมัธยมต้น ความจริงก็ไม่ค่อยอยากมาหรอกกลับบ้านแล้วรู้สึกเบื่อ ๆ จนไม่อยากทำอะไรแต่รับปากพวกมันแล้วไม่อยากผิดคำพูดก็เลยต้องมา
“แล้วไอ้เจมส์เมื่อไหร่จะมาวะ”
“เดี๋ยวก็มา มันส่งข้อความบอกกูอยู่ว่าช้าหน่อย ไปส่งเด็กอยู่ว่ะ”
“เด็ก?” ไอ้หลุยส์ถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจเพราะไอ้เจมส์ที่พูดถึงคือเด็กเนิร์ดใส่แว่นพูดคุยกับผู้หญิงที่ไหนไม่เป็นหน้าตาก็ไม่ต้องพูดถึงมากหรอก เอาเป็นว่าถ้าโลกนี้มีผู้ชายเหลือแค่สิบคนกับผู้หญิงล้านคนไอ้เจมส์จะเป็นคนเดียวที่โสดจนแก่ตาย เพราะแบบนี้เลยไม่แปลกที่ไอ้หลุยส์จะทำหน้าแปลกใจขนาดผมที่กำลังเซ็ง ๆ ยังสนใจเลย
“เออ”
“ฮึ ๆ ๆ มันมีเด็กด้วยเหรอวะ อย่างไอ้เจมส์นี่นะ”
“เออ”
“อยากเห็นหน้าเด็กไอ้เจมส์ว่ะ กูว่าเนิร์ดเหมือนกันชัวร์” คำพูดไอ้หลุยส์ทำให้ทุกคนขำส่วนผมก็แค่ยกเหล้าเข้าปากกับเปิดหูฟังเท่านั้นไม่ขอออกความคิดเห็นอะไร
“แซบ”
“อะไรนะ?”
“แซบแล้วก็ไม่ซ้ำหน้า”
“หมายความว่าไงวะ ไอ้เจมส์มีเด็กเยอะเหรอ”
“เออ”
“ไอ้เจมส์นี่นะ?” ไอ้หลุยส์ยิ่งทำหน้างงมากกว่าเดิม
“เออ”
“ใช่เหรอวะ มึงโจ๊กรึเปล่า”
“ฮึ ๆ ๆ โจ๊กห่าอะไร ไม่โจ๊กกูพูดเรื่องจริง ไอ้ห่าเจมส์ชอบส่งรูปเด็กมันมาให้กูดูประจำ ส่งแม่งทุกอาทิตย์ไม่ซ้ำหน้า”
“มันไปเอารูปมาจากเน็ตมาโม้ให้มึงฟังรึเปล่า”
“นั่งข้างฟิวแฟนจะรูปจากเน็ตส้นตีนอะไรล่ะ”
“ไอ้ห่า ถ้าที่มึงพูดเป็นเรื่องจริงแสดงว่ามันฮอตกว่าไอ้ไทน์อีกนะนั่น”
“ฮึ ๆ ๆ มันไม่ได้ฮอตกว่าไอ้ไทน์หรอกมันแค่กล้าจ่าย”
“ฮะ? มันซื้อกินเหรอวะ”
“อันนี้กูไม่แน่ใจ ไม่รู้แค่จ้างมาเที่ยวหรือกินด้วย ยิ่งคนที่มันควงวันนี้แม่งยิ่งสวย กูว่าสวยกว่าทุกคนที่เคยเห็นเลยว่ะ”
“หลักฐาน” ไอ้หลุยส์พูดสั้น ๆ ไอ้เฟรมก็หยิบโทรศัพท์มาเปิดรูปให้ดู
“ไอ้ห่า~ โคตรสวย~” ท่าทางไอ้หลุยส์อึ้งมากแล้วพวกมันก็ยื่นโทรศัพท์ส่งให้กันดูจนมาถึงผมสุดท้ายที่ต่อให้ไม่อยากดูก็ต้องรับมาดูผ่าน ๆ ตา
จะสวยแค่ไหนกันวะ...สวยเท่าคนที่อยู่ไกลของผมรึเปล่า
“...”
“เป็นไงไอ้เกรย์ สวยไหมวะ”
“...อืม กูติดธุระว่ะ ขอตัวก่อน” ผมยื่นโทรศัพท์ให้ไอ้เฟรมแล้วก็ลุกจากโต๊ะทันทีท่ามกลางความงงของเพื่อนต่อให้พวกมันจะตะโกนถามเท่าไหร่ผมก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากเดินออกมาจากร้านเหล้าให้เร็วที่สุด!
-เวลาต่อมา-
ตื๊ด ตื๊ด~
ติ๊ด!
(ค่ะ)
“ฉันทะเลาะกับขิงว่ะ”
(คะ?)
“เซ็ง ลงมาหาหน่อย”
(อะไรนะคะ)
“ลงมาหาหน่อย จอดรออยู่ซอยเล็ก ๆ ถัดจากหอเธอ”
(เอ่อ...ค่ะ ๆ แป๊บนะมีนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ)
“อืม”
ติ๊ด!
“...”
#GRAY END
#MEENA TALK
...อะไรของเขา?
ทะเลาะกับน้ำขิงเหรอ? เมื่อกี้เคาะประตูทักทายเพื่อนตอนกลับถึงห้องก็ไม่เห็นจะดูเหมือนคนทะเลาะกับแฟนนะ
ช่างเถอะขิงมันก็ไม่ค่อยบอกอะไรเรื่องความรักอยู่แล้ว
ฉันรีบแต่งตัวเดินลงจากหอไปที่ซอยเล็ก ๆ ข้างหอที่ค่อนข้างมืด ถึงจะบอกเกรย์ว่าให้รอก่อนแต่คนสวนอย่างฉันก็ไม่กล้าเอ้อระเหยหรอกขืนช้าได้โดนด่าพอดี นั่นไงรถเขา เดินเข้าซอยได้นิดเดียวก็เห็นท้ายรถที่คุ้นตาแล้ว ดีนะที่ฉลาดมาจอดรอตรงนี้ไม่ใช่เอาแต่ใจจอดรอที่หอไม่งั้นคนในมหาลัยได้คิดว่าฉันเป็นชู้กับแฟนเพื่อนแน่นอนเพราะเกรย์เป็นคนดัง รถของเขาก็แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ
ก๊อก ๆ ๆ
ฉันมาถึงก็เคาะกระจกรถเขาเบา ๆ
ครืด~
“ขึ้นมา” เขาลดกระจกรถแล้วก็สั่งคำเดียวจากนั้นก็ปิดกระจกสนิทเลย
เฮ้อ! อะไรของเขาก็ไม่รู้ สงสัยอยากให้ฉันช่วยเคลียร์กับน้ำขิงให้มั้งคะขึ้นรถไปเดี๋ยวก็คงบอกเองนั่นล่ะ
“คุณเกรย์มีอะ... / เท่าไหร่”
อะไรวะขึ้นรถมากำลังจะถามว่าเขามีอะไรให้ช่วยอยู่ดี ๆ ก็ถามแทรกว่าเท่าไหร่ อะไรเท่าไหร่แล้วถามทำไมมีปัญหากับแฟนอยู่ไม่ใช่รึไง คำถามว่างงแล้วนะแต่ไอ้ท่าทางนั่งนิ่งมองตรงไปข้างหน้าไม่มองหน้ากันนี่ยิ่งทำให้งงมากกว่าเดิมอีก
“คะ?” จบคำถามสั้น ๆ ของฉันเขาก็หันหน้ามามอง นี่ขนาดข้างในรถมืดนะยังรู้เลยว่าสายตาของเขากำลังเต็มไปด้วยความโกรธ
“เท่าไหร่”
“อะไรเท่าไหร่คะ?”
“ค่าตัวเธอไง...ขายตัวไม่ใช่เหรอ”