“ขอบคุณนะคะคุณเกรย์”
“อืม หาเงินมาซื้อบ้านหลังนี้แล้วกันเพราะฉันไม่ให้มันไปอยู่ที่อื่น”
“ฮะ?”
“ตามนั้น อย่าทำหน้าโง่ให้รำคาญ”
“อะไรอ่ะแล้วมีนจะหาปัญญาที่ไหนมาซื้อบ้านหลังนี้ ต่อให้ถูกหวยพันล้านถึงเวลาจะขายให้รึเปล่าเถอะ”
“ฮึ ๆ ๆ ถ้างั้นเรียนจบก็มาเป็นคนสวนที่นี่แล้วกันจะได้อยู่กับมัน”
“ชิส์!” ไม่น่าหลงดีใจไปกับคำพูดของคนอย่างอีตานี่เลยให้ตายเถอะ!
“ฮึ ๆ ๆ ไม่ชอบอาชีพเดิม? ถ้างั้นก็มาสมัครเป็นคนเก็บขี้หมาดีไหม”
“พอเถอะ แต่ละอาชีพ คุยกับมีมี่ยังมีสาระกว่า”
“เธอว่าไงนะ?” หน้าตาเอาเรื่องเลยค่ะ
“เปล่าค่ะ มีมี่ขา~ มีมี่หิวขนมไหมพี่มีนพาไปกินขนมดีกว่าเนอะ” ที่จริงก็ไม่กลัวอีตานี่หรอกนะแต่แค่เกรงใจเขาในฐานะลูกชายของผู้มีพระคุณแค่นั้นแหละ ลองไม่ใช่ลูกคุณลุงแล้วมาแกล้งฉันแต่ละอย่างแบบที่เขาชอบทำคงได้โดนมีนาคนนี้กระโดดถีบปากตั้งแต่สิบเก้าปีก่อนไปแล้วแน่นอน
ฉันวิ่งนำมีมี่ไปทางห้องครัวเพราะขี้เกียจคุยกับเกรย์แล้ว มีมี่ก็น่ารักนะคะรีบวิ่งตามพี่มีนเลย
“ขนมมีมี่อยู่ไหนน้า~” ฉันพามีมี่มาที่ห้องครัวแล้วก็หาขนมหมาให้มีมี่กิน
“มีนา” ฉันกำลังเลือกขนมน้องหมาที่มีหลายแบบให้มีมี่อยู่ก็ได้ยินเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งเรียกฉัน ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าใครเพราะมีคนเดียวที่เรียกฉันได้เย็นชาขนาดนี้ แต่เรียกแค่เฉพาะลับหลังคุณลุงนะคะ...ตลกดีเหมือนกัน
“คะคุณฤดี”
“เย็นนี้จะอยู่ทานข้าวเย็นอีกเหรอจ้ะ”
“...เดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ เล่นกับมีมี่อีกสักพักมีนก็จะไปลาคุณลุง”
“อ่อ ถ้างั้นก็เดินทางกลับดี ๆ ล่ะ”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับคุณผู้หญิงของบ้านที่อวยพรแบบแกล้ง ๆ แล้วเดินผ่านหน้าฉันไปเหมือนมีนาคนนี้เป็นแค่อากาศธาตุ
โอเค...ไม่เป็นไร ก็รู้อยู่แล้วว่าคนคนนี้ไม่อยากให้ฉันมาแต่แค่เซ็งที่ตัวเองโดนไล่ทางอ้อมโดยที่ฉันไม่มีสิทธิ์แย้งอะไรได้เลย
“ขอโทษนะมีมี่ พี่มีนอยากอยู่กับมีมี่ให้นานกว่านี้จริง ๆ นะ พี่มีนขอโทษนะคนเก่ง”
-เวลาต่อมา-
“คุณลุงคะ” ฉันเดินไปหาคุณลุงที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น โชคดีที่คุณฤดีไม่อยู่ บอกตรง ๆ นะคะว่าขี้เกียจแกล้งลา
“ว่าไงลูก”
“มีนจะมาลาค่ะ”
“อ้าว เพิ่งวันเสาร์ทำไมรีบกลับล่ะลูกพรุ่งนี้ค่อยกลับพร้อมตาเกรย์สิ”
“พอดีมีนมีงานกลุ่มต้องกลับไปทำด่วนค่ะคุณลุง” เซ็งชะมัดรู้แบบนี้ไม่แคนเซิลงานหรอก งานฉันยิ่งเงินดีด้วย เฮ้อ~
“เหรอลูกไม่เป็นไรลูกลุงเข้าใจ แล้วหนูจะกลับยังไงเดี๋ยวลุงให้ตาเกรย์ไปส่งนะ”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะคุณลุง มีนกลับได้ค่ะ”
“ไม่ได้ลูก ไอ้เกรย์มันว่างให้มันไปส่งนั่นล่ะ”
“แต่... / ไม่มีแต่ ไม่งั้นลุงก็ไม่อนุญาตให้กลับ”
“...” ระหว่างไม่กลับแล้วโดนคุณฤดีจิกกับกลับแล้วโดนอีตานั่นเขม่นที่ต้องไปส่งทางไหนน่าจะลำบากใจน้อยกว่ากัน -_-!
“นวย”
“คะคุณท่าน”
“ไปตามตาเกรย์มาให้ที” เอ่อ...ยังไม่ได้ตกลงเลยค่ะคุณลุงตัดสินใจให้เรียบร้อยแล้ว หวังว่าอีตานั่นจะเข้าใจแล้วกันนะว่าคุณพ่อของเขาเป็นคนสั่งการไม่เกี่ยวกับฉันแม้แต่นิดเดียว
-เวลาต่อมา-
“วุ่นวาย”
“ส่งปากซอยเดี๋ยวมีนนั่งรถต่อเอง”
“เธอคิดว่าคนอย่างพ่อฉันจะไม่โทรเช็คเหรอ? ฉลาดบ้างสิวะ หน้าตาโง่แล้วยังทำตัวโง่ซ้ำซาก”
“...” หุบปากเถอะมีนาถ้าพูดคำไหนก็โดนด่าโดนกัด
“ให้ไปส่งที่ไหน”
“ที่ปั๊มค่ะ”
“ไม่ไปทำงานกับเพื่อนรึไง”
“ก็...เดี๋ยวเอาของไปเก็บที่ห้องก่อน” ฉันตอบเสร็จเขาก็หันมามอง
“พิรุธ”
“พิรุธอะไร ไม่มีเลย”
“ไปทำงานห้องใคร?”
“ห้อง...ขิง”
“เดี๋ยวฉันโทรถามน้ำขิง ถ้าไม่ใช่เธอเละ”
“...” ซวย
ฉันกำลังจะพบความซวยอีกแล้วสินะ เฮ้อ~ ไม่ได้นัดน้ำขิงไว้ถึงมีเวลานัดก็ไม่รู้จะนัดยังไง ให้โทรบอกน้ำขิงว่าถ้าเขาโทรถามให้บอกแบบนี้ ๆ นะก็ไม่มีทางทำได้ในเมื่อไม่มีใครรู้เลยว่าฉันกับอีตานี่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว
“พูดความจริง” ความเงียบของฉันทำให้เขากดดันอีกครั้ง เลือกทางไหนดีวะมีนา
“...คุณเกรย์อย่าทำให้มีนลำบากใจเลย”
“อาฤดีไล่?”
“ไม่ได้ไล่”
“ฮึ!”
บรื๊น!
“คุณเกรย์ขับเบา ๆ แล้วจะเลี้ยวรถกลับทำไม” ฉันถามด้วยความกลัวเพราะเขาเหยียบรถเร็วมาก ความซวยมาเยือนมีนาอีกแล้ว แม่เลี้ยงลูกเลี้ยงเล่นสงครามจิตวิทยากันแต่คนรับกรรมเป็นบุคคลที่สามอย่างมีนาคนนี้ตลอด
...เฮ้อ!
“ต่อไปนี้กลับบ้านทุกอาทิตย์”
“ไม่เอาหรอกค่ะ”
“นี่คือคำสั่ง”
“แต่... / ได้เงินจากบ้านนี้ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่คิดจะกลับมาตอบแทนบุญคุณบ้างเหรอวะ”
“...โอเคค่ะ” ฉันสะอึกไปเลยกับคำพูดของเขา โอเคกลับก็กลับ บุญคุณมันค้ำหัวจะให้ทำยังไง
“แล้วถ้าโง่ให้คนที่ไม่ใช่เจ้าของบ้านไล่จนต้องยอมเขาทุกอย่างก็โง่ต่อไป โง่ให้อกแตกตายไปซะ”
“ไม่ใช่เจ้าของบ้านแต่เป็นภรรยาเจ้าของบ้านนะคุณเกรย์ คุณเกรย์เป็นลูกชายคุณลุงคุณเกรย์ก็พูดง่าย ลองมาเป็นแค่กาฝากแบบมีนดูสิแล้วคุณเกรย์จะเข้าใจ”
“เงียบ”
“ไม่เงียบอ่ะ คุณเกรย์พูดง่ายทุกอย่างเพราะคุณเกรย์มีครบทุกอย่างไง คุณเกรย์ไม่ต้องกลัวใครแต่มีนไม่มีใครมีนก็ต้องกลัวต้องเอาตัวรอดไหมล่ะ”
“ไม่มีใครห่าอะไรวะ! ก็มีฉันคอยปกป้องคนโง่ ๆ อย่างเธออยู่นี่ไง!”