Ep.4
“คุณวีคะ คุณฟิลลิปส์ให้ป้ามาถามค่ะว่าเย็นนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม” กรองแก้วเอ่ยถามคนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียงอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงนัก เมื่อได้เห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีของเธอ
“....” วีนัสส่ายหน้าสองทีแทนการกล่าวคำปฏิเสธ ไม่แม้แต่จะหันไปสบตากับหญิงวัยกลางคนที่เป็นแม่ครัวของบ้านนี้
ตั้งแต่ออกมาจากห้องนอนของฟิลลิปส์ ส่วนลึกภายในจิตใจก็เหมือนถูกความเจ็บปวดกลืนกินเข้าไป พานทำให้ภายนอกดูเหี่ยวเฉาไร้ชีวิตชีวา ราวกับต้นไม้ขาดปุ๋ยขาดดินก็ไม่ปาน
“ค่ะๆ งั้นป้าไม่รบกวนแล้วนะคะ” แม่บ้านสาวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วก้มศีรษะลงเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เธอพยายามปิดประตูให้เบามือมากที่สุด ไม่อยากให้เสียงของมันไปรบกวนคนที่นั่งอยู่ข้างใน
“เป็นยังไงบ้าง” กรองแก้วตกใจจนตัวสะดุ้ง เมื่อจู่ๆ เสียงเย็นยะเยือกของเจ้านายหนุ่มก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง เธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอี้ยวตัวหันกลับไปส่ายหน้าด้วยความลำบากใจพลางพูดว่า
“คุณวีเธอไม่เอาอะไรเลยค่ะ”
“คิดจะอดตายเพราะคนอย่างไอ้บ้านั่นรึไง”
“คุณฟิลลิปส์ก็ให้เวลาเธอหน่อยแล้วกันนะคะ ในฐานะที่ป้าเป็นผู้หญิง ป้าเข้าใจคุณวีเธอดีค่ะ ที่เธอเป็นแบบนี้เพราะผิดหวังที่ถูกคนรักทรยศหักหลัง มันเจ็บปวดจวนใจแทบขาดเลยค่ะ ป้าเองก็เคยผ่านจุดนี้มาก่อน”
“....” ฟิลลิปส์เงียบไปอยู่ครู่ใหญ่ เขาพยายามที่จะรับฟังคำบอกของแม่บ้านสาว อยากรู้ว่าควรทำตัวอย่างไร จึงจะไม่เผลอไปสร้างบาดแผลในใจเพิ่มให้เธอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เข้าใจกับคำว่าความ ‘เจ็บปวด’ อยู่ดี
สำหรับคนที่ไม่เคยได้รู้จักกับคำว่า ‘ความรัก’ อย่างเขา คิดได้เพียงแค่ว่าดีแล้วเสียอีกที่เธอจะได้หลุดพ้นจากคนทรามอย่างบิลลี่ ทว่าสำหรับเธอที่มีบิลลี่เป็นรักแรกแล้วนั้นมันให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“ลงไปเตรียมตามที่ฉันสั่งก็แล้วกัน” กรองแก้วพยักหน้ารับแทนการออกเสียง ก่อนจะเดินก้มศีรษะตอนก้าวผ่านร่างของเจ้านายหนุ่ม แล้วรีบวิ่งลงบันไดไป
แกร๊ก!
“....” มาเฟียหนุ่มชะงักไปเล็กน้อยในตอนที่เปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นสภาพที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณของคนตัวเล็ก เขายืนมองเธออยู่ตรงขอบประตูได้ราวๆ เกือบห้านาที ก็เริ่มมีการตอบสนองจากคนบนเตียง
“....” วีนัสละสายตาจากผนังห้องสีขาว มองไปยังเจ้าของร่างกำยำเพียงนิด ก่อนจะเบนกลับไปมองยังจุดเดิม โดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
“ทำไมไม่กินข้าว” หลังจากปล่อยให้บริเวณห้องพักถูกปกคลุมด้วยความเงียบเกือบสองนาทีได้ ฟิลลิปส์จึงเอ่ยถามขึ้นเสียงเรียบ
“....” ไร้วี่แววการตอบกลับจากเด็กสาว ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเธอกลายเป็นอากาศธาตุไปโดยปริยาย
“ทำแบบนี้ไปแล้วได้อะไร มันย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้?”
“....”
“หรือมันจะสำนึกผิดแล้วกลับมากราบตีนเธอ?”
“....”
“ฟูมฟายไปก็เท่านั้น มันไม่กลับมาหาเธอหรอก แทนที่เธอจะ..”
“ขอหนูอยู่เงียบๆ คนเดียวได้ไหมคะ” วีนัสแทรกขึ้นโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยค เธอไม่ได้ถือสาหรือโกรธเคืองกับถ้อยคำที่ไม่รู้จุดประสงค์ที่พรั่งพรูออกมาจากปากของเขา แต่เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองแบบเงียบๆ ก็เท่านั้น
“หึ” ฟิลลิปส์แค่นเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ นึกน้อยใจลึกๆ ที่เธอดูไม่อยากจะรักษาน้ำใจของเขาบ้างเลย ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก นอกจากหันหลังแล้วก้าวขาเดินจากไป
“....” คนตัวเล็กหันมองไปทางประตูเมื่อได้ยินเสียงของมันถูกปิดลง แล้วค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นเดินไปกดล็อกเบาๆ สำหรับเธอแล้วขอเพียงแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นที่จะอ่อนแอ หลังจากผ่านพ้นเที่ยงคืนนี้ไป เธอจะกลายเป็นวีนัสคนใหม่
คนที่จะเข้มแข็งขึ้นจากความเจ็บปวด คนที่จะไม่ยอมหยิบยื่นหัวใจไปให้ใครย่ำยีได้ง่ายๆ อีก
“มีเอกสารที่ต้องเซ็นวางกองเท่าภูเขา ทำไมนายถึงยังไม่รีบจัดการคะ” เอวาที่เพิ่งรู้เรื่องทั้งหมดจากอดัมรีบตรงเข้ามาเอ่ยถามมาเฟียหนุ่มด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ปกติแล้วเขาไม่เคยเสียงานเสียการเพราะใครหรือผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“ฉันยุ่ง” ฟิลลิปส์ตอบกลับเสียงเรียบ ตั้งท่าจะเดินเข้าไปในห้องทำงาน ทว่ากลับต้องชะงักฝีเท้าเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของมือซ้ายคนสนิท
“ยุ่งเรื่องอะไรคะ? ยุ่งเพราะมัวแต่เอาเวลาไปสนใจผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้น่ะเหรอ?” เสี้ยววินาทีหนึ่งที่ความหึงหวงเข้าครอบงำสติ เป็นเหตุให้เผลอพลั้งปากพูดในสิ่งที่ไม่สมควรออกไป “ขอโทษค่ะ วาแค่เป็นห่วง”
“ห่วงงาน หรือ ห่วงฉัน? แต่ไม่ว่าจะห่วงอะไรเธอก็ไม่มีสิทธิ์มาตั้งคำถามเหมือนเป็นเจ้าของชีวิตฉัน” เขากดเสียงต่ำจนคนฟังรู้สึกใจหวิว คำพูดของเอวาไม่ได้สร้างความผิดหวังเสียใจให้กับเขา ทว่าเป็นความรำคาญเสียมากกว่า “อย่าทำหน้าที่เกินตัว” ว่าจบก็เดินเข้าไปในห้องทำงานทันที ไม่แม้แต่จะหันแลคนข้างหลังด้วยหางตา
“เกินตัวงั้นเหรอ..อึก” มือซ้ายสาวเป็นต้องแหงนหน้าขึ้นมองเพดาน เพื่อกันไม่ให้หยาดน้ำใสๆ ที่คลอเต็มสองตา มีทิศทางในการไหลริน
คำพูดสุดท้ายของเจ้านายหนุ่มเสมือนเป็นคมมีดที่ทิ่มลงตรงกลางอกซ้าย ทั้งที่จงรักภักดีกับเขามาตลอด แม้มันจะเกินคำว่า ‘เจ้านาย’ และ ‘ลูกน้อง’ แต่เธอก็ไม่เคยทำให้เขาต้องลำบากใจเลยสักครั้ง ทว่าครั้งนี้วีนัสดูจะสำคัญกับเขามากเกินความจำเป็น จึงรู้สึกยุบยิบในหัวใจจนเผลอใส่อารมณ์
ทั้งหมดนั่นเป็นเพราะความหึงหวงที่มีเหตุมาจากความรัก