EPISODE 01
เริ่มด้วยทักทาย ลงท้ายด้วยจูบ [1]
Nice Bar
23.50 น.
ผมเดินเข้ามาในร้านได้สักพักแล้ว ตอนนี้กำลังกวาดสายตามองหาคนที่ผมต้องการพบแต่ยังไม่เจอ
“สวัสดีค่ะพี่มังกร มองหาใครอยู่รึเปล่าคะ”
ถ้าผมจำไม่ผิดเธอชื่อแนนนี่ เด็กปีสอง รุ่นน้องที่คณะของผมเอง
เธอคงจำได้ว่าผมเป็นรุ่นพี่ แม้ว่าผมจะไม่ค่อยสุงสิงหรือโผล่หน้าไปเจอรุ่นน้องตอนทำกิจกรรมของคณะเท่าไหร่นัก
ผมมองเธอกลับไปนิ่งๆ แล้วเดินผ่านมาทันที ไม่คิดจะตอบคำถาม เพราะผมไม่ชอบคุยกับคนที่ผมไม่สนิท
แม้จะรู้ว่าคงเลี่ยงการถูกมองว่าหยิ่งไม่ได้ อีกทั้งการมาที่นี่ยังอาจทำให้เรื่องของผมกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง แต่ผมก็เพียงแค่ขับรถผ่านมา
ใช่ครับ ผมแค่ขับรถผ่านมา พอดีกับที่โทรศัพท์แจ้งเตือนขึ้นมาว่าวันนี้เป็นวันเกิดของพลอย ไหนๆ ผมเองก็ตั้งใจเตรียมของขวัญวันเกิดเอาไว้ให้เธอแล้ว ก็เลยแค่จะแวะเอามาให้ แต่จนถึงตอนนี้ผมก็ยังหาเธอไม่เจอหรือไม่เธอก็คงตั้งใจหลบหน้าผม ดีไม่ดีตอนนี้เธออาจกำลังแอบมองผมอยู่จากมุมไหนสักมุม แต่ไม่เจอก็คือไม่เจอ เอาเป็นว่าผมแวะมาแล้วก็แล้วกัน
“มังกร”
ไม่ทันกลับออกมาก็มีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนเรียกผมเสียงดัง ตอนแรกผมคิดว่าจะเป็นเพื่อนของพลอย แต่หันไปมองแล้วไม่ใช่
เสียงของเธอคนนั้นทำให้เราทั้งคู่ตกเป็นเป้าสายตา ท่าทางที่เดินมาหาผมทั้งที่ยืนทรงตัวยังลำบากทำผมยืนงง เพราะเราไม่น่าจะเคยรู้จักกันมาก่อน
ผมยืนพิจารณาคนเมาอยู่ครู่หนึ่ง ดูจากส้นสูงที่เธอใส่ บ่งบอกว่าเธอมีทักษะในการทรงตัวดีมาก เพราะถึงแม้จะเดินโซซัดโซเซมาตลอดทางแต่กลับไม่ล้ม อยากรู้เหมือนกันว่าเธอทรงตัวอยู่ได้ยังไง
ทุกคนตรงนั้นพร้อมใจกันหลีกทางให้เธอ เท่าที่ผมกวาดสายตามองไปรอบตัวตอนนี้ คนทั้งร้านพร้อมใจกันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเตรียมถ่ายคอนเทนต์แล้ว ไม่รู้ว่าครั้งนี้ผมจะดังขึ้นอีกเท่าไร
คิดแล้วได้แต่ถอนหายใจ เพียงแต่ไม่รู้จะต้องห้ามใคร ห้ามยังไงในเมื่อผมไม่ได้เป็นคนเริ่ม
“มีอะไร” ผมถามด้วยความเบื่อหน่ายเมื่อผู้หญิงคนนั้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม มองเธอตั้งแต่หน้าผากแคบไล่ลงไปจรดปลายนิ้วเท้า แม้แสงสว่างจะไม่มากพอให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน แต่พออนุมานได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่รูปร่างดี เดรสหนังสีดำรัดรูปแบบทำให้เธอดูเซ็กซี่เย้ายวนจนผมต้องลอบกลืนน้ำลาย ใบหน้าของยัยนี่รูปไข่แต่แอบมีแก้มนิดๆ คิ้วหนา ขนตายาว บวกกับดวงตาคมค่อนไปทางดุทำให้โดยรวมแล้วดูเป็นคนหน้าหยิ่ง ริมฝีปากอิ่มๆ ของเธอถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงขับให้เธอดูฮ็อตและโดดเด่นในแสงไฟ นัยน์ตาที่เป็นประกายหวานหยาดเยิ้มเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ สรุปเลยแล้วกันว่ายัยนี่สวย ยอมรับว่าน่ากิน ถ้าได้กัดสักคำ สาบานจะฟัดให้ช้ำเลย
ผมเป็นผู้ชายครับ ไม่ใช่เจ้าชาย ไม่ใช่พระอิฐพระปูน และไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ มีผู้หญิงสวยๆ มายืนยิ้มให้อยู่ตรงหน้าจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรก็ไปตายห่าเถอะ!
“ฉันชื่อ...เพิร์ล”
เปิดตัวแรงจนผมต้องประเมินความเสี่ยงดูอีกรอบ อย่างที่บอกว่าเธอสวย เข้าขั้นสวยมากเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าเคยรู้จักเธอมาก่อน กำลังนึกสงสัยอยู่ว่ายัยนี่รอดสายตาผมมาได้ยังไง
“ฉันมีอะไรน่าสนใจมานำเสนอให้นาย” เสียงอ้อแอ้ฟังแทบไม่รู้เรื่อง เธอยกแก้วเหล้าในมือขึ้นวนไปมาระหว่างที่ใช้สายตาเย้ายวนมองผม ดูท่าแล้วไม่น่าใช่แค่ผมที่อยากกินเธอฝ่ายเดียว เพราะเธอเองก็ดูหิวเหมือนกัน เพียงแต่ตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจว่าเธอหิวแสงหรือหิวผมมากกว่ากัน
“อะไร”
“นาย!”
สัญชาตญาณสั่งให้ผมฉวยข้อมือเธอไว้ทันทีที่เธอยกมือขึ้นมาชี้หน้า
“อย่ามาจับมือฉันนะ!”
“ยัย…”
บ้าฉิบ! ขืนไม่จับ นิ้วเธอก็จิ้มตาผมน่ะสิ
เธอสะดีดสะดิ้งแล้วรีบดึงมือกลับไปก่อนจะก้าวถอยหลังไปสองก้าว โชคดีที่ด้านหลังของเธอมีโต๊ะขวางอยู่พอดี ไม่อย่างนั้นผมคงเห็นคนหงายหลัง
ท่าทางอวดดีของเธอทำผมรู้สึกหมั่นไส้ ประมาณคร่าวๆ ดูแล้ว ความยาวของเดรสที่เธอสวม วัดจากเอวลงมาน่าจะประมาณคืบมือผมพอดีเท่านั้นเอง แถมยังรัดรูปเสียจนน่าจะเดินลำบาก
ค่าครองชีพมันแพงสินะ อะไรประหยัดได้ก็ควรจะประหยัด
“มีอะไรก็รีบพูดมา” ผมถามเร่งตัดรำคาญ เพราะยิ่งช้าก็ดูเหมือนว่าทุกคนจะยิ่งสนใจเรากันมากขึ้น ถึงผมจะไม่สนใจสายตาของคนพวกนี้มากเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชอบเป็นจุดสนใจ
กึก!
เสียงส้นสูงกระทบกับพื้นดังขึ้นท่ามกลางความเงียบเมื่อเธอก้าวกลับเข้ามาหาผมอีกรอบ
ท่าทางมุ่งมั่นของเธอทำให้ผมล้วงมือข้างหนึ่งซุกเอาไว้ในกระเป๋ากางเกง รวมถึงเป็นการเก็บกล่องของขวัญซ่อนเอาไว้ด้วย
“ฉันเอาเหล้ามาให้นายน่ะ” เพิร์ลกรีดยิ้มพร้อมยื่นแก้วเหล้าในมือให้ผม
“ฉันไม่ได้สั่ง”
“ฉันสั่งมาเอง แก้วนี้...เพื่อนาย”
ยัยนี่คิดจะทำอะไรกันแน่
ยิ่งรู้สึกไม่ไว้ใจผมก็ยิ่งจ้องเธอ ซึ่งปกติแล้วไม่ว่าผมจะจ้องใคร คนหลบสายตาก่อนจะไม่ใช่ผม
ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าเข้าใกล้ผมในระยะประชิดตัวแบบที่เธอกำลังทำอยู่ด้วยซ้ำ ยิ่งมีคลิปวันที่ผมทะเลาะกับพลอยถูกแชร์ออกไป ผมก็ยิ่งกลายเป็นตัวอันตราย
แต่เธอมาแปลก เพราะนอกจากจะกล้าเข้าหาผมก่อนแล้ว ระยะที่เข้าใกล้ ยังใกล้เสียจนอันตราย ใกล้จนผมได้ยินเสียงลมหายใจของเธอ ได้กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งอยู่ระหว่างใบหน้าของเรา
เธอมองผมสลับกับคนอื่นอย่างรู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตา หากแต่นัยน์ดวงตาคู่นั้นกลับไม่ดูไม่ยี่หระ มองเผินๆ ผมว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์ น่าสนใจ แต่ในทางกลับกันก็ดูน่ากลัว เพราะตั้งแต่เธอเดินเข้ามาหาผม ยังไม่มีวินาทีไหนเลยที่ผมจะเห็นว่าเธอหลบสายตา ทำราวกับว่าผมคือเป้าหมายของเธอในคืนนี้
“ไม่ดื่ม” ผมปฏิเสธเสียงเรียบ
เธอทำหน้าเศร้าเมื่อได้ยินคำตอบ มุมปากงุ้มงอลงเล็กน้อย แต่นัยน์แววตากลับกรุ้มกริ่มดูทะเล้น
“นายกำลังทำให้ฉันเสียใจนะ”
บอกเลยว่าถ้าเธอทำตาปริบๆ แบบนี้ ใช้เสียงกระเส่าๆ แบบนี้พูดกับผมตอนที่เราอยู่กันสองคน ความปลอดภัยในชีวิตของเธอจะเป็นศูนย์
“ฉันไม่รับของจากคนแปลกหน้า”
“งั้นถ้าเราไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อกัน นายจะยอมดื่มใช่มั้ย” เธอต่อรองยิ้มๆ แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหน รอยยิ้มของเธอก็หาความจริงใจไม่ได้เลย เดาว่าคืนนี้ยัยนี่คงไม่ปล่อยผมไปง่ายๆ และผมเองก็กำลังคิดแบบนั้นเหมือนกัน
“ใช่”
ผมไม่ใช่คนอ่อนโยนและไม่ชอบถูกท้าทาย ถ้าเจตนาของเธอคือการปั่นหัวผม หรือตั้งใจจะฉีกหน้าผมต่อหน้าคนอื่น อีกไม่เกินสิบนาทีรับรองว่าผมจะหิ้วเธอออกไป
“เอ ฉันต้องทำยังไงนายถึงจะเลิกมองฉันเป็นคนแปลกหน้ากันนะ” เธอแสร้งทำเป็นครุ่นคิด เสียงกระซิบฟังแล้วรู้สึกหวิวในอก ประกอบกับที่เธอตั้งใจจิ้มปลายนิ้วลงมากลางหน้าอกผมและตอนนี้เธอก็กำลังลากปลายเล็บนั้นของเธอลงไปด้านล่าง
ไม่ปฏิเสธว่าการกระทำของเธอเริ่มทำให้ผมมีอารมณ์ แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่ได้ประมาท แค่กำลังอย่างรู้ว่าเธอจะใจกล้าแค่ไหน
ผมปล่อยให้เธอลากปลายนิ้วลงต่ำจนพอใจ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงหยุดอยู่แค่สะดือทั้งที่ผมประเมินเธอเอาไว้สูงกว่านั้น คิดว่าเธอจะกล้าลงไปต่ำกว่าเอวกางเกงของผมอีกสักหน่อย เอาเถอะ แค่นี้ผมยังพอทนได้
“บอกฉันมาว่าในเหล้ามีอะไร” ผมถามตรงๆ พร้อมกับจ้องมองริมฝีปากอิ่มที่กำลังยิ้ม ในใจเริ่มอยากรู้ว่าถ้าริมฝีปากของเธอถูกขยี้แรงๆ เธอจะยังยิ้มได้แบบนี้รึเปล่า
“แอลกอฮอล์”
นอกจากจะยั่วยวนเก่งแล้ว ยังกวนตีนด้วย!
ตอนนี้ดูเหมือนเราทั้งคู่จะกำลังเล่นเกมอะไรบางอย่างกันอยู่ ซึ่งผมกลายเป็นหมากตัวหนึ่งในเกมของเธอไปโดยไม่ทันตั้งตัว และคนอย่างผมก็แพ้ไม่เป็นเสียด้วยสิ
“ไม่ใช่เหรอ ฉันเสียค่าเปิดเหล้าตั้งแพง แต่ได้เหล้าปลอมหรือไง” เธอยิ้มยียวน แต่ผมไม่มีอารมณ์ร่วมพอที่จะยิ้มตามได้ ในสมองกำลังค้นหาความจำบางอย่างที่อาจถูกซุกซ่อนไว้ในซอกรอยหยักของสมอง บางทีผมกับเธออาจจะเคยรู้จักกันมาก่อน หรือไม่ผมก็คงเคยหักอกเธอ ไม่อย่างนั้นทำไมอยู่ๆ เธอถึงเดินเข้ามาทำแบบนี้กับผม ติดตรงที่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกน่ะสิ
“โอเค ฉันไม่เล่นกับนายแล้วก็ได้”
จู่ๆ เธอก็ทำเหมือนจะเป็นฝ่ายยอมแพ้ ทอดสายตาเศร้าๆ มองผมก่อนจะค่อยๆ ก้าวถอยหลังออกไปทีละก้าวๆ ราวกับกำลังประวิงรอเวลาอะไรสักอย่าง
ผมนับได้ห้าก้าวที่เธอถอยหลังออกไป จากนั้นเธอก็ยกแก้วเหล้าในมือขึ้นช้าๆ จนสุดแขน