“เฮ้อ ขาหนูเหมือนไม่มีแรงเลยค่ะ”
ฉันกลับมาถึงบ้านก็ลงจากรถแล้วก็บ่นพึมพำออกมา คือมันเดินไปหลายที่หลายตึก แล้วเหมือนมันเดินเยอะก็เลยรู้ว่าขาจะตึงๆ
“หึหึ ก็รองเท้าส้นมันสูงขนาดนี้ เดินไปเดินมามันก็ปวดขาน่ะสิ ลื้อขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำไป จะได้สบายตัว แล้วก็กินยาแก้ปวดด้วยล่ะ มันจะได้ไม่ปวดมาก”
“ค่ะมาม๊า”
“เจ๊แป้งกลับมาแล้ว ปาป๊ากับมาม๊าก็มาแล้ว”
ฉันมองน้องชายตัวแสบ เจ้าปรัชญ์นั่นแหละ น้องชายตัวแสบของฉันเอง แสบก็แสบ ตัวก็กลม ผิวขาว ปากแดงๆ เหมือนซาลาเปามากๆ ฉันกอดน้องชายตัวแสบที่ปากเลอะขนมก่อนจะใช้มือเช็ดให้น้องและบีบแก้มเจ้าตัวแสบเบาๆ
“หึหึ ตัวแสบ ขนมเลอะปากไปหมดเลยนะเราน่ะ”
“ขนมอร่อยครับ เจ๊แพงจังก็กินด้วย เฮียภพ เฮียกิตก็กินครับ”
“เหรอ แล้ววันนี้น้องชายเจ๊ดื้อหรือเปล่านะ”
“ไม่ดื้อครับ ปรัญช์ช่วยอาม่าขายของด้วย”
“คิกๆ เก่งจังเลย ปะ เราเข้าบ้านกันดีกว่า”
“เฮียนัยมาครับ”
พรึ่บ!
ผมลงจากรถแล้วก็เห็นร่างบางกำลังพูดคุยกับน้องชายตัวเล็กหน้าตาน่ารักอยู่ พอผมเดินเข้ามาหาเจ้าตัวเล็กก็วิ่งมาหา ผมเลยอุ้มเด็กตัวเล็กขึ้นมา แล้วผมมาที่นี่บ่อย เล่นกันจนสนิทไปแล้ว
“คุณมาอีกแล้วเหรอคะ”
ฉันหันไปถามคนตัวสูงตรงหน้าตรงๆ แล้วคือเวลานี้เหมือนเป็นเวาลาเลิกงานของเขา เขาก็จะมาที่บ้านฉันตลอด แล้วตอนมืดถึงจะกลับ บางวันก็นอนค้างบ้านอานัส หรือบางวันก็นอนห้องรับแขกของบ้านใหญ่ ทุกวันก็คือทุกวันจริงๆ มาจนฉันงง มาจนไม่รู้ว่าที่นี่บ้านใครกันแน่
“หึหึ พี่เลิกงานแล้วก็ต้องมานี่ก่อนสิครับ ต่อไปก็จะเป็นแบบนี้ปกติทุกวัน ใช่ไหมครับน้องปรัชญ์”
“ครับ”
ผมยิ้มแล้วก็ตอบร่างบางกลับไป แล้วถ้าภาพที่เจ้าเด็กตัวเล็กซึ่งตอนนี้เป็นน้องชายของร่างบางเปลี่ยนมาเป็นลูกผมแล้วเหมือนแม่กับลูกรอผมเลิกงานทุกวันแบบนี้ก็คงดีไม่น้อยเลย พอได้ยินอาม่าซึ่งเป็นลูกค้ามาซื้อของที่ร้านผมเลยยิ้มพร้อมกับตอบท่านกลับไป
“อ้าว อานัย ลื้อเลิกงานแล้วเหรอ”
“ครับอาม่า อาม่ามาซื้อของเหรอครับ”
“อืมๆ ไอหย่า อาแป้ง ลื้อสวยจริงๆ ใส่ชุดมหาวิทยาลัยแล้วเหรอ”
“ค่ะอาม่า”
“แล้วลื้อเรียนอะไรล่ะ”
“เรียนออกแบบเสื้อผ้าค่ะ”
“อ่อๆ”
“แป้ง ตัวกลับมาแล้วเหรอ”
“อืม ตัวถึงนานแล้วเหรอ”
“ใช่ๆ ของเราทำเรื่องไม่นานเท่าไหร่ เราทำขนมอยู่กับน้องๆ ตัวลองมาชิมสิ”
“โอเค แป้งขอตัวก่อนนะคะอาม่า สวัสดีค่ะ”
“เฮงๆ ไอหย่า อาซิ้ม หลานสาวลื้อสวยกินกันไม่ลงเลยนะเนี่ย ลูกหลานบ้านลื้อนี่หล่อสวยเหมือนกันทุกคนจริงๆ”
“อืม อีโตเป็นสาวแล้ว เฮีย เดี๋ยวมาขายของให้หน่อยนะ อาแป้ง เดี๋ยวลื้อตามอาม่ามาที่ห้องหน่อยนะ อานัยด้วยนะ”
“ครับม๊า”
ฉันมองอาม่าแบบงงๆ แต่ก็เดินตามท่านมานะ โดยที่คนตัวสูงก็เดินตามมาด้วย แล้วพอเข้ามาฉันก็นั่งบนเบาะรองนั่งโดยคนตัวสูงนั่งข้างๆ ส่วนอาม่าก็นั่งข้างบน แล้วทำไมมันเป็นภาพนี้นะ มันแปลกๆ เหมือนในละครหลังข่าวที่ฉันเคยดูเลย แล้วพออาม่าเริ่มพูดหัวใจฉันยิ่งเต้นแรง
“อาแป้ง ลื้อก็โตแล้วนะ ลื้อมีคนรักหรือยัง”
“แป้งไม่มีหรอกค่ะอาม่า แป้งจะเรียนตั้งใจเรียนให้จบแล้วก็หาเงินมาดูแลอาม่า อากง แล้วก็ปาป๊ากับมาม๊า แล้วแป้งก็อยากมีเงินออมเยอะๆ ก่อนค่ะ แป้งค่อยมีแฟน”
ผมปรายตามองร่างที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งผมเห็นน้องตั้งแต่เด็กๆ อะ แล้วน้องก็ช่วยแม่ทำทุกอย่าง ขายของ ล้างของ งานบ้าน อีกอย่างน้องก็น่ารักน่าเอ็นดู ผมจะหลงรักก็คงไม่แปลกอะไร
“หึหึ ลื้อเป็นเด็กดีจริงๆ อาม่าอยากให้ลื้อมีคนมาดูแล มาอยู่ข้างๆ เป็นกำลังใจให้กัน ถ้าลื้อยังไม่มีใครอาม่าจะหมั้นลื้อให้กับพี่ดนัยเขา เรารู้จักกันมานาน พี่เขาก็เห็นเราตั้งแต่เราเด็กๆ ถ้าลื้อได้พี่เขาดูแล อาม่าก็หมดห่วง ลื้อตกลงไหม”
มัน มัน สิ่งที่ฉันคิดคือมันกำลังเกิดขึ้นกับฉันจริงๆ แล้วอาม่าเป็นคนพูดเองจะขัดก็คงจะยาก เพราะอาม่าท่านใจดีก็จริง แต่ตอนที่ท่านโมโหท่านก็น่ากลัวอยู่นะ พอนึกขึ้นได้เลยพูดกับอาม่าออกไปพร้อมกับให้เหตุผล
“แล้วมันจะไม่น่าเกลียดเหรอคะอาม่า เพราะพี่เขาก็เป็นเพื่อนอานัส คนข้างนอกจะมองเราแปลกๆ หรือเปล่าคะ อีกอย่างพี่เขาก็มีศักดิ์เป็นอา แล้วก็เป็นเพื่อนอานัส”
“ไอหย่า มันจะน่าเกลียดอะไร เราไม่ได้แต่งงานในเครือญาติสักหน่อย อานัยอีก็ใช่ว่าอายุห่างจากลื้อ 20 ปี 30 ปี ซะเมื่อไหร่ อีกอย่างตอนนี้ลื้อก็โตเป็นสาวแล้ว ใครมันจะว่าก็ให้มันลองดู อาม่าจะจัดการให้ลื้อเอง แล้วอีกอย่างถ้าลื้อแต่งงานกับอานัยอาม่าก็จะได้หายห่วง เพราะอาม่าเห็นพี่เขามาตั้งแต่เด็ก อาม่าเชื่อว่าพี่เขาจะเป็นบ้านให้ลื้อแล้วก็คอยดูแลลื้อได้ อานัย ลื้อรักหลานสาวของม๊าจริงๆ หรือเปล่า”
ผมมองร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ พอได้ยินอาม่าถามเลยพยักหน้าพร้อมกับตอบมาม๊ากลับไปด้วยความจริงใจแล้วก็ไม่ปิดบัง
“รักครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้น้องเสียใจเด็ดขาดครับ ถ้าวันไหนที่ผมทำผิดต่อน้องวันนั้นผมจะถอดสร้อยพระแล้วม๊าให้มนัสเอาปืนมายิงที่หัวใจผมได้เลยครับ”
ฉันแอบมองคนตัวสูงที่นั่งคุยกับอาม่า เท่าที่ดูเขาก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกหก แล้วที่ผ่านมาเขาก็ดีกับฉันอยู่นะ แต่ถามว่าตอนนี้รู้สึกกับเขายังไง ก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น มีแค่ความรู้สึกที่หมั่นไส้เขาในบางเวลา แล้วปาป๊ามาม๊าจะคิดยังไง ถ้าไม่เห็นด้วยฉันก็อาจจะมีทางรอดอยู่
“อาม่าคะ แล้วปาป๊ากับมาม๊าว่ายังไงคะ”
“ป๊าลื้อกับม๊าลื้อเห็นด้วย แล้วสรุปลื้อว่ายังไง”
“แป้งให้อาม่าเป็นคนตัดสินใจค่ะ เพราะอาม่ารักแล้วก็หวังดีกับแป้ง อาม่าต้องเห็นแล้วว่าควรจะยกแป้งให้ใคร แป้งเชื่ออาม่าค่ะ”
“หึหึ ลื้อนี่ฉลาดพูดจริงๆ งั้นอาม่ายกลื้อให้พี่เขาแล้วกัน แล้วลื้อก็ลดความดื้อลงมาบ้างล่ะ เดี๋ยวพี่เขาจะได้วิ่งหนีไปซะก่อน”
“ถ้าเขาวิ่งก็ปล่อยเขาวิ่งเถอะค่ะอาม่า แป้งก็อยู่กับ อากง อาม่า ปาป๊า มาม๊า แล้วก็น้องๆ ไงคะ”
“งั้นพี่ต้องบอกว่าเสียใจด้วยนะครับ เพราะพี่ไม่เคยวิ่งหนีน้องแป้งเลยสักครั้งเดียว”
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะตอบร่างบางกลับไป แล้วถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปก็ต้องอายบ้างเล็กน้อย แต่ดูว่าที่ภรรยาของผม
“คุณเบาๆ ลงหน่อยก็ดีค่ะ ฉันรู้สึกเหมือนอยากจะอาเจียน”
ฉันหันมามองคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วเขานึกอยากจะพูดอะไรห็พูดออกมาโดยที่ไม่ได้มองเลยว่าอาม่าก็ยังอยู่ตรงนี้ แล้วพอได้ยินเขาตอบกลับมาฉันเลยใช้กำปั้นต่อยลงไปที่ท้องของเขาหนึ่งทีแรงๆ ก่อนจะหันมาไหว้อาม่าแล้วก็เดินออกมา
“หื้อ อาการน้องแป้งเหมือนคนตั้งท้องเลยนะครับ หรือว่าพี่มองน้องมากๆ แล้วตอนนี้น้องตั้งท้องลูกเราอยู่”
ปัก!!
“ลูกคุณน่ะสิ แป้งไปข้างนอกก่อนนะคะอาม่า”
“ไอหย่า อาแป้ง อานัย ลื้อเป็นยังไงบ้าง”
“จุกนิดหน่อยครับ เดี๋ยวผมออกไปหาน้องก่อนนะครับ”
“ไอหย่า ลื้อยังไม่เข็ดเหรอ เดี๋ยวไส้ลื้อจะแตกเอานะ”
ผมเลิกคิ้วมองม๊าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วท่านเป็นคนพูดนิ่งๆ เหมือนจะไม่ตลก แต่ตลกไม่น้อยเลยนะ ผมเลยยิ้มแล้วก็ตอบม๊ากลับไปจากนั้นผมก็เดินตามร่างบางออกมา
“หึหึ ม๊าไม่ต้องห่วงครับ ผมชอบอะไรที่ท้าทายครับ ตำรวจแบบผมไม่ยอมแพ้แน่นอนครับ”
“ไอหย่า งั้นลื้อก็เหมาะกันแล้วแหละ หึหึ”
“ครับ ผมไปข้างนอกก่อนนะครับ ไปโดนอีกสักหมัดสองหมัดจะได้นอนหลับสบาย”
“หึหึ ตามใจลื้อเถอะ”
“หื้อ น้องปรัชญ์ครับ ทำไมของเล่นหนูเต็มหน้าทีวีขนาดนี้ล่ะคะ”
ฉันเดินออกมาจากห้องพักผ่อนของอาม่า แล้วตอนแรกว่าจะเดินไปห้องครัว ไปหาเนตรนั่นแหละ แต่ในจังหวะที่เดินผ่านของเล่นของน้องชายฉันเต็มหน้าทีวีไปหมด แล้วตอนนี้ก็เล่นอยู่กับน้องบูม ลูกของป้าสะใภ้สอง อายุก็ไล่เลี่ยกัน ฉันเลยหยุดแล้วก็ถามเจ้าเด็กตัวกลมที่นั่งเล่นกันอยู่สองคน
“หุ่นยนต์ของปรัชญ์กำลังปล่อยพลังครับ เดี๋ยวเฮียภพกับเฮียกิตจะเล่นด้วยครับ”
“เหรอครับ งั้นพอหุ่นยนต์ปล่อยพลังเสร็จต้องทำไมนะ”
“ต้องพาหุ่นยนต์ไปพักผ่อนในกล่องครับ”
“คิกๆ เก่งมากจ้า งั้นเจ๊เข้าไปในครัวก่อนนะ”
“ครับ”
ผมเดินตามร่างออกมาก่อนจะมาหยุดอยู่ด้านหลังของร่างบางแล้วก็ยิ้มออกมาที่มุมปากหลังจากเห็นร่างบางหัวเราะออกมากับน้องชายตัวเล็ก สักพักก็ได้ยินเสียงระฆังของรถขายของ น้องชายตัวเล็กก็รีบลุกขึ้นมาหาร่างบาง
“เจ๊แป้งครับ ขนมมาแล้วครับ”
“ตัวแสบ รีบลุกเลยนะ ปะ เดี๋ยวเจ๊พาไปดู น้องบูมไปดูขนมด้วยกันไหมครับ”
“ครับ”
“เนตร”
“จ้า”
“รถขนมมาแล้ว ตัวกินไหม เราจะซื้อมาฝาก”
“เอาจ้า เอาเหมือนตัวเลย น้องๆ อีก 4 คน ด้วยนะจ๊ะ”
“จ้า”
ฉันถามเนตรจบพร้อมกับได้บทสรุปก็เลยจับมือน้องชายแล้วก็หันหน้ากลับมา แล้วพอหันมาหน้าฉันเหมือนจะชนกับช่วงแผ่นอกของคนตัวสูงพอดี แล้วเขายืนใกล้ มันใกล้มากเกินไปอะ
“อุ้ย คุณ คุณจะมายืนใกล้ฉันขนาดนี้ทำไมคะ”
“หึหึ พี่ก็ตามแป้งมาไงครับ แล้วน้องแป้งจะไปซื้อขนมไม่ใช่เหรอ ไปครับ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”
“ถ้าคุณบ่นฉันจะต่อยให้คุณช้ำในวันนี้แหละ”
“หึหึ พี่ไม่บ่นแป้งหรอกครับ”
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะตอบร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับไป จากนั้นก็พากันเดินมาที่รถขายขนมที่เขามาจอดอยู่กลางระหว่างบ้านใหญ่กับบ้านของเพื่่อนผม แล้วตอนนี้เด็กๆ ที่เล่นอยู่บริเวณนี้ก็ยืนรอเต็มรถขายขนมไปหมด ร่างบางก็ให้เด็กตัวเล็กๆ ไปก่อน ผมยืนซ้อนหลังร่างบางอยู่แล้วก็ได้ยินเสียงป้าคู่กรณีเพื่อนผมดังขึ้นมา อาเล้งนั่นแหละ
“อาเล้ง นู่น อีว่าอานัยกับลูกอาปิ่นนี่มันยังไงกัน อั๊วเห็นอานัยมาเฝ้าตั้งแต่ปีที่แล้ว จนตอนนี้อาแป้งอีขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วนะ ไอหย่า แต่ดูทรวดทรงอาแป้งอีสิ แป๊บเดียวโตเป็นสาวแล้ว หน้าตาก็สวยมากซะด้วย ลูกหลานบ้านอาซิ้มอีหน้าตาดีกันหมดทุกคนเลยดูสิ แต่ก็อย่างว่า คนมีเงินก็เลี้ยงแบบนั้นแหละ อั๊วเห็นรถขายของคันไหนหลานอาซิ้มวิ่งซื้อทุกคัน อีก็ให้เงินหลานทุกคนด้วยนะ อั๊วเคยไปซื้อของ อั๊วเห็น แล้วตอนนี้บ้านอีก็ใส่แต่เสื้อผ้าแพงๆ ตัวหนึ่ง 6-7 ร้อย บางชุดเป็นพันก็มี”
“เหอะ จะไม่มีเงินได้ยังไง! วันๆ คอยแต่หาผัวรวยๆ ให้หลาน เรียนจบก็ไม่ต้องทำอะไรหรอก เรียนจบก็เอาผัว แบบนี้ที่อาซิ้มอีตั้งใจเอาไว้ไง”