Episode 3 เพราะอานัยคลั่งรักค่ะ

2014 คำ
ฉันตวัดสายตาไปมองอาเล้งที่นั่งปิ้งมัน เผือก แล้วก็กล้วย ซึ่งวันทั้งวันเขาก็ปิ้งแค่นั้นแหละ ไม่ค่อยมีใครซื้อของเขาหรอก ก็ปากแบบนี้ใครจะไปกล้าซื้อ ตอนแรกก็จะด่า แต่คนแบบนี้ยิ่งทำให้เราขึ้นได้เขาก็ยิ่งชอบ ฉันเลยไม่สนใจ แต่ถ้าพูดขึ้นมาอีก ฉันจัดการแน่ๆ “ทำเป็นหัวสูงเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน จะเรียนไปทำไมวะ เรียนไปก็มีผัว หรือใส่ชุดไว้ล่อผัว” ผมถอนหายใจออกมาก่อนมองป้าเขาด้วยความเอือมระอา เพราะแต่ละคำที่เขาพูดคนอื่นเขาก็ไม่พูดกัน แล้วพอได้ยินเสียงร่างบางตอบเขากลับไป ผมเลยยิ้มแล้วก็มองร่างบางยืนอยู่ข้างหน้า “ถ้าใส่แล้วล่อได้ขนาดนี้อาเล้งควรจะซื้อมาใส่บ้างนะคะ แล้วอาเล้งพูดออกมาทำให้คนอื่นรู้เลยนะคะว่าอาเล้งไม่มีความรู้ เพราะถ้าคนที่มีความรู้เขาคงไม่มีคำถามหรอกค่ะว่าเรียนไปทำไม แล้วดิฉันกับพี่เขาเป็นคู่หมั้นกัน คู่หมั้นคู่หมายกันไปมาหาสู่กันมันเป็นเรื่องปกตินะคะ ป้าน่าจะรู้นะคะ เพียงแต่บ้านฉันไม่ใช่พวกปากสว่างที่ต้องคอยไปสาธยายให้ใครฟัง แล้วบ้านฉันมี ฉันมีสิทธิ์ที่จะเลือก ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องของอาเล้งสักนิด” “เออ บ้านมึงก็จับแต่ผู้ชายรวยๆ นั่นแหละเว้ย โถ่ กูไม่อยากจะพูด” ฉันดอดอกแล้วก็ตอบอาเล้งกลับไปแบบตรงๆ แล้วทุกอย่างที่ฉันพูดก็ล้วนเป็นความจริง แล้วตอนนี้ฉันกับคนตัวสูงอยู่ในฐานะคู่หมั้นกันถึงแม้จะยังไม่ได้ผ่านพิธีการหมั้น แต่เราก็พูดได้ไม่ได้เสียหายอะไร ปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง แล้วพอพูดจบอาวาดก็ออกมาหน้าบ้านแล้วก็ฉีดน้ำไปฟังอาเล้งพร้อมกับแพงจังแล้วก็เป่าเป้ยที่ตอนนี้เป็นกองเชียร์ ฉันเลยมองแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ “กรี๊ดดด อิวาด มึงบ้าไปแล้ว” “เออ! อิแก่ แก่แต่ไม่อยู่ส่วนแก่แบบพวกมึงต้องเจอกู สาระแนเรื่องคนอื่นทุกเรื่อง แล้วรู้หรือยังว่ามึงจะตายวันไหน เตรียมใจไว้บ้างนะ เพราะปากแบบนี้อยู่ไม่ยืดหรอกค่ะ หลานกูได้ดีจนมึงหมั่นไส้ล่ะสิ ดิ้นเหมือนไส้เดือนโดนน้ำเลยเนาะ ตายละ อยากมีผัวกับเขาเหรอสาว รีบหาหน่อยนะ เพราะคงอยู่อีกไม่นาน อิพวกชั่ว!” “มาม๊า มาม๊า” แปะ แปะ แปะ “มาม๊า มาม๊า มาม๊าเก่งที่สุดเลยค่ะ” “อานัส ลื้อสอนเมียลื้อบ้างนะ” “ภรรยาผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ อาเล้งมายุ่งกับครอบครัวผมก่อน แล้วอาเล้งเพิ่งไปเสียค่าปรับมาได้ไม่กี่วันไม่ใช่เหรอครับ หมิ่นประมาทซึ่งหน้า ระวังโดนอีกนะครับ” “หึหึ นี่ค่ะลูก กระเป๋าเงินน้อยๆ ของหนูสี่คน” “อาวาด อานัส สวัสดีค่ะ” “จ้า อาฝากลูกลิงตัวน้อยๆ ไปบ้านใหญ่ด้วยนะลูก เดี๋ยวอาวาดทำกระเพาะปลาเสร็จแล้วจะตามไป บอกที่บ้านใหญ่ด้วยนะลูกว่าวันนี้ไม่ต้องทำกับข้าว” “ได้เลยค่ะอาวาด” “ขอบใจลูก” “เจ๊แป้งขา พวกหนูมาแล้วค่ะ” ฉันยิ้มแล้วก็มองเด็กตัวเล็กๆ ที่วิ่งมาหาที่รถขายขนม แล้วอาวาดกับมนุษย์ป้าเขาก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน แต่อาวาดไม่ได้เริ่มก่อนนะ ส่วนมากก็จะเป็นฝั่งนี้ที่เริ่มก่อน แล้งคำศัพท์ของอาวาดคือจึ้งมาก คิกๆ คำนี้ก็มาจากอาวาด คือถ้าวาดของขึ้นบอกเลยว่าอาเล้งเถียงไม่ทันเลย “น้องปรัชญ์มาซื้อขนมเหรอคะ” “ครับ ปรัชญ์กับน้องบูมเอาหุ่นยนต์ออกมารอแล้วครับ” “โอเค เดี๋ยวเราซื้อขนมแล้วเราไปเล่นกันนะ” “ครับ” “ถึงของพวกหนูแล้ว พวกหนูเอากันอะไรกันลูก” “เด็กๆ สั่งลุงเขาเลย สั่งทีละคนนะจ๊ะ เดี๋ยวลุงเขาลืม” “ครับ น้องเป่าเป้ยก่อนเลย เพราะน้องตัวเล็กที่สุด” “ขอบคุณค่ะเฮียปรัชญ์ หนูเอาผลไม้อันนี้ค่ะ เอาทุกลูกเลยค่ะ” ผมหัวเราะออกมาเบาๆ หลังลูกสาวของเพื่อนผมใช้นิ้วน้อยๆ ไปที่ลูกชุบ ซึ่งเขาก็ทำเป็นผลไม้ชนิดต่างๆ นั่นแหละ พอซื้อขนมกันเสร็จผมกับร่างบางแล้วก็เด็กตัวน้อยๆ พากันเดินมาที่บ้าน “มาม๊า ปาป๊า อากง อาม่า หนูซื้อลูกชุบลุงมาฝากค่ะ” “ไอหย่า ร้านนี้เขาทำสวยนะ” “ใช่ค่ะอาม่า สวยจนน้องเป่าเป้ยเอาผลไม้มาหมดเลยใช่ไหมคะ” “ใช่ค่ะ เป่าเป้ยก็เหมามาหมดเลยค่ะ” “คิกๆ น้องซื้อ ถ้าเหมา มาม๊าบอกว่า ต้องซื้อหมดถาด” “ค่ะ” “หึหึ จริงด้วย แป้งเกือบลืมไปเลยค่ะ วันนี้อาวาดทำกระเพาะปลามานะคะ อาวาดบอกว่าไม่ต้องทำกับข้าวค่ะ” “อืมๆ อาแป้ง ม๊าว่าจะขายก๋วยเตี๋ยว ลื้อว่าดีไหม” ฉันยิ้มให้มาม๊าแล้วก็พยักหน้า เพราะฉันก็ชอบขายของ แล้วมาม๊าทำอะไรขายก็ขายดีหมดเลยนะ แล้วตอนนี้มีบางวันที่เลิกเรียนครึ่งวันฉันก็กลับมาช่วยงานมาม๊าได้ อีกอย่างฉันก็ชอบกินเมนูเส้นๆ มากกว่าข้าว อีกอย่างฉันชอบหาเงิน ถ้ามีเงินฉันก็มีความสุข “ดีค่ะ มาม๊าขายเลยค่ะ เดี๋ยวแป้งช่วยขาย แป้งเรียนครึ่งวันตั้งสองวันค่ะ” “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวลื้อก็เหนื่อยกันพอดี เรียนอย่างเดียวก็พอ” “ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ” “หึหึ ลื้อเห็นเงินก็หายเหนื่อยใช่ไหมอาแป้ง” “ใช่แล้วค่ะอาม่า” ผมมองร่างบางก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเท่าที่ผมเห็นเด็กในวัยนี้เขาจะไปเที่ยวบ้าง แต่ลูกหลานบ้านนี้ช่วยงานบ้านแล้วก็ช่วยกันหาเงินตลอดนะ ส่วนมากก็มีแต่บ้าน ถ้าไปเที่ยวไหนก็จะพากันไป แล้วน้องก็ขยันมาตั้งแต่เด็กแล้วนะ “หึหึ” “แล้วม๊าเตรียมของแล้วเหรอคะ” “ยังเลย ม๊าว่าจะปรึกษาลื้อก่อน เพราะป๊าลื้อก็ไม่อยากให้ม๊าขาย” “ทำไมเหรอคะ” “เดี๋ยวม๊าลื้อจะเหนื่อยเกินไปน่ะสิ” “ป๊าลื้ออีเป็นห่วงม๊าลื้อ” ฉันมองอากงที่พูดพร้อมกับทำสีหน้าล้อป๊ากับม๊า ฉันเลยหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก็หันไปบอกป๊า “อ่อ เดี๋ยวแป้งกับน้องๆ ช่วยค่ะป๊า วันเสาร์อาทิตย์เดี๋ยวแป้งขายกับน้องเองค่ะ ให้ม๊าพัก” “งั้นลื้อจะไปซื้อของวันไหนก็บอกนะ” “อั๊วว่าจะไปวันพรุ่งนี้ แต่ลูกชิ้นว่าจะทำเอง อาวาดอีบอกว่า ถ้าทำเองแล้วอร่อยเราก็ขายลูกชิ้นได้ด้วย เป็นสูตรของเราเอง” “อืม งั้นลื้อจะซื้ออะไรบ้างก็จดเอาไว้แล้วพรุ่งนี้ก็ไปซื้อตลาดเช้า” “อือ อาวาดอีบอกว่าจะไปด้วย” “ผมไปด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะไปช่วยถือของ” “ขอบใจลื้อนะ” “ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มแล้วก็ตอบว่าที่พ่อตาแม่ตาในอนาคตก่อนจะได้ยอนเสียงร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามขึ้นมา “แล้วคุณไม่ต้องไปทำงานเหรอคะ เดือนหนึ่งคุณทำงานกี่วันกัน” “ไอหย่า อาแป้ง พี่เขาเป็นหัวหน้าแค่คุมการทำงานลูกน้องเฉยๆ เหมือนอานัสของลื้อไง ถ้าไม่มีงานด่วนพี่เขาก็ไม่ต้องเข้าไป ต่อไปค่อยๆ ถามพี่เขานะ อย่าถามโต้งๆ แบบนี้” “ค่ะอาม่า” ฉันตอบกลับอาม่าออกไป แล้วถ้าเขาย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันฉันได้คงทำไปแล้ว เช้าก็มาแต่เช้า แล้วก็อยู่ถึงดึกดื่นถึงจะกลับ บางวันก็นอนที่นี่หรือไม่ก็ไปนอนบ้านอานัส ฉันก็แค่หมั่นเขี้ยวเลยถามออกไป เพราะอานัสก็เคยบอกเหมือนอาม่าเหมือนกัน “ไม่เป็นไรครับอาม่า ตรงๆ ดีครับ ไม่ซับซ้อนดี” “เอ้า ลื้อก็ชอบอีก หึหึ” “เพราะอานัยคลั่งรักค่ะ” “งื้อ อะไรนะอาเป่าเป้ย” “อานัยคลั่งรักค่ะ เหมือนปาป๊าหนูเลยค่ะ ปาป๊าเป่าเป้ยก็คลั่งรักมาม๊า มาม๊าทำอะไรก็น่ารักไปหมดเลยค่ะ” “หึหึ งั้นเหรอ ไอหย่า ดูปากลื้อสิ ไหนมา อาม่าเช็ดปากให้ลื้อ” ผมมองหลานสาวก่อนจะหันกลับมามองร่างบางที่มองผมอยู่ก่อนแล้วจากนั้นร่างบางก็แลบลิ้นใส่ผมแล้วก็ไปช่วยว่าที่แม่ยายจดรายการที่จะต้องซื้อผมก็นั่งข้างๆ ร่างบาง พอนึกขึ้นได้เลยถามว่าที่พ่อตาออกไป แต่ก็ถามแบบที่เคยพูดเคยเรียกกัน “เฮีย เฮียได้ดูฟุตบอลแมตช์เมื่อคืนไหมครับ” “ดูๆ ชนะด้วย สมกับที่ตั้งตาดูหน่อย” “ผมก็หวั่นใจช่วงแรก ดีนะแก้กลับมาได้ทัน ไม่งั้นวันนี้ผมไม่มีแรงแน่ๆ” “หึหึ เออๆ เมื่อเช้าเฮียได้ยินคนพูดกันว่าวันนี้รวย” “ฮึ นี่ผมบอกให้ลูกน้องมาลงละ ขนาดตำรวจมานี่เกือบทุกวัน เมื่อเช้าผมเหยียบโพยผลบอล เชิญชวนผมซะแล้ว” “ลมมันพัดแรงมั้ง” “พัดมาถูกที่ซะด้วย” “ฮ่าๆ” ฉันจดรายการตามที่มาม๊าบอกแล้วก็ช่วยม๊าคิดที่ต้องใช้โดยที่หูอีกข้างก็ได้ยินเสียงคนตัวสูงที่คุยอยู่กับป๊าแบบออกรสออกชาติอยู่ใกล้ๆ คือถ้าไม่ได้คุยกันป๊าฉันก็จะบอกให้เขาหยุดแล้วนะ แต่นี่คุยกับป๊าเราไง ฉันก็เลยไม่ได้พูดอะไร พอเสร็จเรียบร้อยอาวาดกับอาสี่ก็มาที่บ้านพอดี คนตัวสูงก็เลยช่วยอาสี่ยกของลงจากรถมา ฉันกับม๊าก็พากันเข้ามาในบ้าน แล้วตอนนี้ตะวันก็เริ่มจะตกดิน ซึ่งร้านขายของของอาม่าจะเปิดถึงสองทุ่ม แล้วก็เปิดตั้งแต่ตี 5 พอเดินเข้ามาในบ้านฉัน เนตร แล้วก็น้องสาวรุ่นราวคราวเดียวกันก็ล้างมือแล้วก็มาช่วยกันเตรียมของ ก็มีเครื่องปรุง เปิดกล่องกระเทียมเจียว กล่องหอมผักชี แล้วก็เริ่มหยิบเส้นใส่ถ้วย เพราะอาวาดทำมาให้แล้ว ส่วนป๊าม๊า อากง อาม่า อาแปะ อาอึ้ม ท่านก็เหนื่อยจากงานมาทั้งวันพวกฉันเลยจะเป็นคนเตรียมกันเองซะส่วนใหญ่ พอได้ยินเสียงของอาม่าฉันเลยพยักหน้าแล้วก็เริ่มตักกระเพาะปลาแล้วก็ให้เนตรยกส่งให้ทุกคน ส่วนน้องๆ ก็พากันไปนั่งกระจำที่ แล้วเครื่องปรุงฉันก็วางไว้บนแท่นหมุนของโต๊ะ ใครจะปรุงมันก็สะดวกไม่ต้องลุก “มาๆ อาแป้ง อาเนตร ตักกระเพาะปลาเลย” “ค่ะอาม่า” “เฮีย แล้วทำไมถึงรีบไปโรงสีล่ะ” “คนเขาเอาข้าวมาสีเพิ่ม เป็นลูกค้าใหม่ เฮียกับเจ๊เลยรีบไป” “อืม วันนี้มีลูกค้ามาซื้อกับเราเพิ่มด้วย เป็นลูกค้าใหม่เหมือนกัน ซื้อหลายตันพอสมควร” “อื้ม อีกสองเดือนก็จะวันสารทจีนอีกแล้วนี่” “จริงด้วย” “อานัย ลื้อไปไหนล่ะ” “ไปช่วยน้องยกครับ” “ระวังกำปั้นดีๆ นะ” “หื้อ อะไรเหรอครับม๊า” ผมมองม๊าที่ใช้มือป้องปากแล้วก็พูดเบาๆ พอพูดจบพี่ๆ แล้วก็หลานๆ ที่พอจะรู้เรื่องก็หัวเราะออกมา ผมก็หัวเราะออกมาแล้วก็เดินมาหาร่างบาง “วันอานัยโดยอาแป้งต่อยน่ะสิ” “ฮ่าๆ สู้เว้ย ไอ้น้องชาย” “คิกๆ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม