ผู้หญิงในอดีต 4

1307 คำ
ภายในบริเวณห้องรับรองมีร่างของคุณฉัตรฉายนั่งเป็นประธานอยู่บนโซฟาตัวยาว โดยที่มัลลิกาถอยออกไปยืนอยู่ด้านหลัง ใบหน้าที่ยังมีเค้าของความงามนั้นเรียบเฉย ต่างจากสาวสวยผู้มาเยือนที่ใบหน้าแต้มรอยยิ้มตลอดเวลา… “ทัต…” รอยยิ้มของพรนภาจางลงเมื่อดวงตาคมสวยหลุบมองไปที่มือใหญ่ซึ่งกอบกุมมือเล็กของผู้หญิงแปลกหน้าตรงมายังหล่อนและมารดาของเขา ส่วนคุณฉัตรฉายทำเพียงปรายตามอง ริมฝีปากที่เม้มเป็นเส้นตรงแสยะออกแสดงอาการรังเกียจอย่างชัดเจน  “หนูภามาพบลูก แม่เลยให้คนไปตาม” ท่านกล่าวขึ้นอย่างไม่จำเป็น พลางเหลือบหางตามองผู้หญิงที่บุตรชายพาเข้าบ้านแถมยังขัดคำสั่งพาขึ้นไปนอนบนห้องด้วยสายตาไม่พอใจ ทว่าเมื่อมีแขกสำคัญมาหานางจำต้องวางมาดนิ่งเฉยชั่วคราว… “ขอบคุณครับ” เขากล่าวพลางรั้งมิ่งขวัญให้นั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน ไม่สนใจสายตาคมดุที่มองมาเป็นคำถาม หรือแม้แต่อาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคนที่เขากุมมือสักนิด กลับยิ้มเยือนให้อีกฝ่ายแล้วไถ่ถามตามปกติ “วันนี้ภามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ ความจริงน่าจะบอกก่อน จะได้ให้คนไปรับ” ชายหนุ่มแสดงความมีน้ำใจ ขณะที่พรนภานับหนึ่งถึงสิบที่จะไม่เข้าไปกระชากผู้หญิงตรงหน้าออกจากชายหนุ่ม ด้วยการฝืนยิ้มและตอบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงหวานๆ ต่างจากนัยน์ตาที่วาววับ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีภาผ่านมา เลยแวะเอาขนมมาฝากคุณแม่”  บอกพลางปรายตามองไปยังคุณฉัตรฉาย ทว่าฝ่ายนั้นมีสีหน้าเรียบเฉยติดจะเชิดเสียด้วยซ้ำ แต่พรนภายิ้มอย่างไม่ใส่ใจท่าทางของท่านนักเพราะชินเสียแล้ว ต่างจากมิ่งขวัญที่ครุ่นคิดถึงปฏิกิริยาของคนทั้งหมดด้วยความประหลาดใจยิ่ง พวกเขาเหมือนกำลังใส่หน้ากากเข้าหากัน ทำไมไม่ทำอะไรให้เป็นไปตามธรรมชาติ หรือว่าเขามีอะไรไม่พอใจกันอยู่…  ฉันท์ทัตยิ้มจางๆ สบตาคู่สวยของนางแบบชื่อดังของเมืองไทยที่เขาเคยรู้จักดีและใกล้ชิดมาช่วงหนึ่ง ก่อนจะห่างเหินกันไปด้วยเหตุผลอันไม่น่าจดจำนัก… “ต้องขอบคุณภามากนะครับที่นึกถึงคุณแม่” เขากล่าวพลางเหลือบตามองมารดา ฝ่ายถูกพูดถึงขยับกายพลางถอนหายใจแสดงถึงความเบื่อหน่าย “ความจริงไม่เห็นต้องลำบากลำบนนะหนูภา บ้านนี้ของกินออกจะล้น พอเหลือมากๆ วันดีคืนดีก็ต้องเจียดไปแบ่งปันให้พวกไม่มีหัวนอนปลายเท้าได้กินด้วย…”  มิ่งขวัญสะอึก เมื่ออีกฝ่ายปรายตามองมายังหล่อน ทำให้    พรนภาต้องมองตามสายตาของคุณฉัตรฉายอย่างครุ่นคิด สำรวจตรวจตรา ต่างจากฉันท์ทัตที่นั่งเฉย ไม่แสดงออกมาว่าพอใจหรือไม่พอใจ ความลำบากใจจึงต้องมาตกอยู่ที่มิ่งขวัญ ซึ่งทำตัวไม่ถูกนัก ได้แต่นั่งนิ่ง ภาวนาให้เวลานี้ผ่านไปโดยเร็ว ก่อนที่ความอดทนของหล่อนจะหมดลง… ในขณะที่ทุกคนต่างเก็บซ่อนความขุ่นขึ้งเอาไว้เงียบๆ      ฉันท์ทัตกลับค่อนข้างพอใจที่พรนภาให้ความสนใจมิ่งขวัญ ชายหนุ่มขยับชิดร่างบาง พร้อมกับละมือที่กุมมือเล็กขึ้นโอบไหล่และกดกระชับเมื่อหญิงสาวพยายามเบี่ยงหลบ เป็นเหตุให้ผู้มาเยือนถึงกับต้องเม้มปาก แววตาที่มองอีกฝ่ายอย่างสำรวจและไม่พอใจอยู่ก่อนแล้วยิ่งวาววับขึ้นด้วยความโกรธเป็นทวีคูณ “ไม่ทราบว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครอย่างนั้นหรือคะ ไม่เห็นทัตแนะนำให้ภารู้จัก” นั่นไง ทุกอย่างกำลังเริ่มแล้ว มิ่งขวัญลอบถอนหายใจ  “อ้อ! ขอโทษที ผมลืมไปนิด” ฉันท์ทัตแก้ต่างให้ตนเอง พลางหลุบตาคมลงมองคนหน้าแดงก่ำเพราะความขายหน้ายิ้มๆ สร้างความไม่พอใจให้กับพรนภาและคุณฉัตรฉายที่มองอยู่ก่อนแล้วเป็นอย่างยิ่ง แต่ฉันท์ทัตกลับยิ้มกริ่ม บอกชื่อของหญิงสาวให้อีกฝ่ายได้รับรู้ “เธอชื่อมิ่งขวัญ เป็นเลขาส่วนตัวของผม” คำว่าเลขาส่วนตัวทำให้พรนภาเชิดหน้าขึ้น ใบหน้าสวยจัดแดงเห่อ แต่พยายามเก็บความโกรธเอาไว้ ต่างจากคุณฉัตรฉายที่ปรายตามองไปยังผู้มาเยือน แล้วยิ้มมุมปากอย่างค่อนข้างพอใจ คิดว่าบางทีท่านอาจไม่ต้องเหนื่อยมากนัก… “ใช้จ้ะ เลขาส่วนตัวมากๆ แหม… ก็หนูภาแทบไม่ค่อยมาเลยนี่จ๊ะ ตาทัตไม่มีเพื่อนคุยก็คงจะเหงา เลยต้องหาเลขาส่วนตัวมาพูด มาคุย มานั่งๆ นอนๆ เป็นเพื่อน” พูดพลางปรายตามองไปยังมิ่งขวัญและสบตาบุตรชายยิ้มๆ ชายหนุ่มยิ้มตอบมารดา เขารู้ว่าท่านกำลังคิดอะไร แต่ไม่สำเร็จหรอก… แต่พรนภาสิ หล่อนกำลังร้อนไปทั้งกายและใจ ไม่อยู่เมืองไทยแค่เดือนเดียวฉันท์ทัตก็คว้าเอาผู้หญิงข้างถนนมาเคียงกาย หญิงสาวสูดลมหายใจลึก พยายามควบคุมสติให้อยู่ ก่อนยิ้มหวานอย่างเช่นเคย “แหม… เหรอคะ ก็ดีค่ะ มีเลขาคอยดูแลทัตจะได้ไม่เครียด อีกอย่างภาก็เข้าใจอารมณ์ผู้ชายดี เพราะเหนื่อยๆ เครียดๆ จากหน้าที่บางทีก็อยากจะ ‘ปลดปล่อย’ บ้างจริงไหมคะคุณมิ่งขวัญ” มิ่งขวัญกำมือแน่น ใบหน้าแดงก่ำลามไปจนถึงลำคอ อยากลุกขึ้นไปทำร้ายผู้หญิงสองคนที่ทำตัวราวกับว่าเป็นผู้ดีให้หนำใจ พวกปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอแบบนี้มิ่งขวัญอยากซัดกลับให้เข็ด หญิงสาวตวัดสายตาขึ้นสบตาคมที่ยิ้มให้แล้วยิ่งโกรธ เขาไม่คิดจะปกป้องหล่อนสักนิด คนเลว คนทุเรศ ใจร้ายกันทั้งบ้าน เอาสิ! ในเมื่อคนพวกนี้จ้องจะทำร้ายจิตใจ หล่อนก็จะไม่เกรงใจใครเหมือนกัน แม้กระทั่งคนที่กำลังกอดหล่อนและจ้างหล่อนมานั่งๆ นอนๆ คนนี้!! “จริงค่ะคุณพรนภา” หญิงสาวตอบคนถามเสียงหวาน และแสร้งช้อนตาขึ้นสบตาคมที่หรี่มองหล่อนด้วยความแปลกใจยิ้มๆ “คุณทัตน่ะ ต้องการคนเอาใจเป็นพิเศษในทุกๆ เรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่อง ‘กินอยู่หรือหลับนอน’ อันนี้คุณทัตบอกฉันเองค่ะ เมื่อกี้ก่อนลงมายังบอก…”  ใบหน้าหวานแต้มยิ้ม แม้ในใจจะเต้นไม่เป็นส่ำเพราะไม่เคยทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้มาก่อน แต่เพราะถูกกระทำจึงไม่คิดจะอยู่นิ่งให้ใครทำร้ายเพียงฝ่ายเดียว หล่อนพร้อมจะโต้กลับ แม้ตรงหน้าจะมีผู้ใหญ่ของบ้านนั่งอยู่ แต่ท่านไม่เคยทำให้หล่อนเกรงใจ ไม่ทำให้หล่อนเคารพ และฉันท์ทัตเองก็ควรจะรู้เอาไว้ด้วยว่าแม้เขาจะเป็นนายจ้าง แต่ไม่ใช่เจ้าชีวิตของหล่อน เพราะฉะนั้นไม่มีทางควบคุมหล่อนได้ทุกเรื่องแน่นอน!!  พรนภาได้แต่กำมือแน่นแต่ใบหน้าแสร้งยิ้ม คุณฉัตรฉายจึงกล่าวออกมาว่า “คนอะไร้... หน้าคงหนาเสียยิ่งกว่าคอนกรีต!” ว่าพลางปรายตาไปยังพยาบาลที่ยืนห่างออกไป “แม่ต่าย พาฉันออกไปจากที่นี่ทีซิ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกไม่ดี เหม็นเน่าสิ่งปฏิกูล อากาศเป็นพิษ ให้ฉันสูดดมนานๆ คงได้ขาดใจตาย!” มัลลิกาสาวเท้าเข้ามาหาผู้เป็นนายพร้อมกับดันรถเข็นเข้ามาเทียบ พลางเข้าพยุงร่างอวบของคุณฉัตรฉายขึ้นนั่งบนรถเข็น แต่ก่อนไปก็ไม่วายปรายตามองทั้งพรนภาและมิ่งขวัญ แล้วดันรถเข็นออกไปจากที่นั่นตามคำสั่ง…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม