แม้ชีวิตในเมืองพอร์ตเวลล์จะเปี่ยมสุขและมั่นคง แต่ความสงบก็มักเป็นสิ่งที่ดึงดูดเงาแห่งอันตรายให้คืบคลานเข้ามาโดยไม่คาดคิด
วันหนึ่ง ขณะที่อลิซกำลังตรวจสอบแปลงเพาะปลูกดอกไม้รัตติกาลแห่งใหม่ที่ขยายขนาดออกไปในป่าไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เธอก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ กลิ่นแปลกๆ ลอยมาตามลม ไม่ใช่กลิ่นหอมของสมุนไพร แต่เป็นกลิ่นฉุนของควันที่เจือด้วยความรู้สึกน่าขนลุกคล้ายเวทมนตร์
"คุณคล้าวคะ... คุณได้กลิ่นอะไรไหม" อลิซหันไปถามคล้าวที่กำลังสำรวจระบบชลประทานอยู่ใกล้ๆ
คล้าวชะงัก สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้นทันที "ได้กลิ่นอยู่ครับ... กลิ่นเหม็นไหม้ คล้ายกับมีคนจุดไฟในป่า" เขาเงี่ยหูฟัง "และเสียงนั่น... เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว"
ด้วยสัญชาตญาณที่เฉียบคมของอดีตองครักษ์ คล้าวรีบดึงอลิซให้หลบหลังพุ่มไม้หนาทึบ ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง
ไม่นานนัก เงาร่างของชายสี่คนก็ปรากฏขึ้นจากแนวป่า พวกเขาสวมชุดคลุมสีเข้มมอมแมม และมีผ้าพันรอบใบหน้า แต่ที่น่าสังเกตคือท่าทางที่ลับๆ ล่อๆ และอุปกรณ์แปลกๆ ในมือที่ดูเหมือนจะเป็นอุปกรณ์สำหรับการเล่นแร่แปรธาตุหรือปรุงยา
"นี่มัน... คนเหล่านี้ต้องการอะไรกัน" อลิซกระซิบถาม
"ดูท่าพวกเขาจะกำลังหาอะไรบางอย่าง" คล้าวตอบ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ชายคนหนึ่งที่กำลังใช้เครื่องมือบางอย่างขุดคุ้ยดินใกล้กับแปลงดอกไม้รัตติกาลของพวกเขา "หรือบางทีก็อาจจะกำลังหา ดอกไม้รัตติกาล ของเรา"
ชายคนหนึ่งในกลุ่มหันไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมกลุ่มด้วยเสียงทุ้มต่ำ แม้จะจับใจความไม่ได้ทั้งหมด แต่อลิซก็จับคำสำคัญได้สองสามคำ
"ดอกไม้" และ "พลังงาน"
ทันใดนั้น ชายอีกคนในกลุ่มก็ชี้มือไปที่แปลงดอกไม้รัตติกาล ของอลิซและคล้าว ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น
"เจอแล้ว! ดอกไม้พวกนั้น! มันคือสิ่งที่เราตามหา!" เสียงของเขาดังขึ้นกว่าเดิม
คล้าวรู้ว่าไม่สามารถหลบซ่อนได้อีกต่อไป เขาดันอลิซให้ถอยร่นออกไปด้านหลังอีกนิด ก่อนจะพุ่งตัวออกจากที่ซ่อนด้วยความรวดเร็ว
"หยุดเดี๋ยวนี้! พวกเจ้ากำลังทำอะไรในที่ดินของผู้อื่น!" คล้าวตะโกนก้อง
ชายกลุ่มนั้นตกใจและหันขวับมาเผชิญหน้ากับคล้าว พวกเขาสังเกตเห็นว่าคล้าวมีดาบและท่าทางที่ดูเป็นนักสู้ แต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวมากนัก
"หึ! ใครกันที่บังอาจมาขัดขวางพวกเรา!" หนึ่งในชายชุดคลุมยิ้มเย้ยหยัน "เราแค่อยากจะยืมของบางอย่างไปใช้ประโยชน์เท่านั้น"
จากนั้นชายคนนั้นก็ชูมือขึ้น พลังเวทมนตร์สีเทาเข้มเริ่มก่อตัวขึ้นในฝ่ามือของเขา คล้าวรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่นักเวทธรรมดา แต่น่าจะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุเถื่อน หรือผู้ที่ใช้เวทมนตร์ในทางที่ผิด ซึ่งมักจะหมกมุ่นอยู่กับการทดลองเวทมนตร์เพื่อสร้างพลังหรือแสวงหาความร่ำรวยโดยไม่สนใจผลกระทบ
"คุณคล้าวระวัง!" อลิซตะโกนเตือน
คล้าวพุ่งเข้าจู่โจมก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ร่ายเวทมนตร์เต็มที่ เขาใช้ดาบฟันเข้าใส่ แต่ชายคนนั้นก็ว่องไว เขาหลบดาบของคล้าวและปล่อยลูกไฟเวทมนตร์ขนาดเล็กพุ่งเข้าใส่
การปะทะกันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คล้าวต้องรับมือกับนักเล่นแร่แปรธาตุที่ใช้เวทมนตร์โจมตี ในขณะที่ชายอีกสามคนพยายามตรงเข้ามาที่แปลงดอกไม้รัตติกาล
อลิซรู้ว่าเธอไม่สามารถยืนอยู่เฉยๆ ได้ เธอหยิบขวดเล็กๆ ที่บรรจุผงสมุนไพรบางชนิดที่เธอเตรียมไว้เพื่อใช้เป็นยาไล่แมลงศัตรูพืช เธอเขวี้ยงขวดนั้นออกไปที่พื้นใกล้กับชายที่กำลังจะเข้าถึงแปลงดอกไม้รัตติกาล ทันทีที่ขวดแตก ผงสมุนไพรนั้นก็ฟุ้งกระจายไปในอากาศ ทำให้เกิดควันขาวข้นและกลิ่นฉุนรุนแรง
ชายคนนั้นสำลักไอและถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว
คล้าวเหลือบมองอลิซด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มออกมา เขาเห็นว่าอลิซไม่เคยหยุดนิ่งที่จะใช้ไหวพริบของเธอ
ในที่สุด ด้วยความเหนือกว่าของคล้าวและลูกเล่นของอลิซ พวกนักเล่นแร่แปรธาตุเถื่อนก็เริ่มล่าถอย พวกเขาไม่อยากเสี่ยงที่จะปะทะกับผู้ที่ดูมีฝีมือและยังมียาแปลกๆ ที่ทำให้สำลักได้
"หนีไปก่อน! แล้วรายงานเรื่องดอกไม้พวกนี้ให้หัวหน้า!" ชายคนหนึ่งตะโกน ก่อนที่ทั้งกลุ่มจะพากันวิ่งหายไปในป่าอย่างรวดเร็ว
คล้าวเดินกลับมาหาอลิซพร้อมกับตรวจสอบรอบๆ บริเวณ "พวกเขาคงต้องการดอกไม้รัตติกาลจริงๆ นั่นแหละครับ"
"ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของดอกไม้รัตติกาลจะเริ่มแพร่กระจายไปแล้วนะคะ" อลิซกล่าวอย่างกังวล "นี่อาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นของปัญหา"
คล้าวพยักหน้า สีหน้าของเขาเคร่งเครียด "ใช่ครับคุณเซเรน่า เราจะต้องเพิ่มมาตรการป้องกันให้มากขึ้น"
แม้ภัยคุกคามจะผ่านพ้นไป แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เตือนใจอลิซและคล้าวว่า แม้พวกเขาจะสร้างชีวิตใหม่ที่สงบสุขได้ แต่โลกนี้ก็ยังคงมีเงาแห่งอันตรายที่พร้อมจะเข้ามาปั่นป่วนได้เสมอ และพวกเขาจะต้อง เตรียมพร้อมรับมือกับมันอยู่เสมอ