บทที่ 7 อดีต

1538 คำ
เช้าวันใหม่ได้มาถึง ฟาเดียขยับตัวเพื่อออกไปเตรียมตัว และเตรียมของให้อลิซตามปกติ เรื่องที่คุยเมื่อคืนยังคงวนเวียนอยู่ในหัว จนไม่สามารถสลัดหลุดได้เลย ขนาดที่นอนอยู่ก็ยังนอนหลับๆตื่นๆ วนเวียนกับเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีก่อน อลิซจะพบเจอกับอุบัติเหตุมาเรื่อยๆตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้น ถ้าย้อนไปได้ฉันจะไม่ปล่อยให้อลิซไปคนเดียว ความรู้สึกไร้ค่าเกาะกินจิตใจของฟาเดีย เหมือนคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้าใส่ ฟาเดียคิดแล้วก็เจ็บใจ เธอทำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่จะปกป้องก็ทำไม่ได้ จะไปคู่ควรอะไรกับอลิซ อยู่ตรงนี้เพื่อชดใช้ความผิด ที่ไม่อาจลบเลือนได้ ความผิดที่เธอไม่สามารถปกป้องอลิซได้ ไม่ว่าจะในฐานะคู่หมั้น หรือบอดิการ์ดในปัจจุบัน เมื่อ 10 ปีก่อน เธอเคยได้เป็นคู่หมั้นของอลิซ เพราะพ่อของเราทำธุรกิจร่วมกัน เป็นพันธมิตรกัน ในความจริงเธอไม่จำเป็นต้องมาเป็นบอดิการ์ดของอลิซเลย แต่เพราะความรู้สึกผิดในตอนนั้น เธอเลยขอที่จะทำมัน ในตอนนั้นเธอกับอลิซทะเลาะกันในห้าง เพราะอลิซเอาแต่ใจและเธอเหนื่อยที่จะตามใจ ทะเลาะกันจนอลิซวิ่งหนีไป และด้วยความหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองในตอนนั้น เลยไม่ยอมตามไป จนอลิซไปเจอกับการกราดยิงในห้าง และคนร้ายก็จับอลิซเป็นตัวประกัน แม้จะช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย คนร้ายถูกจับตัวได้ แต่อลิซก็ได้ของแถมจากเหตุการณ์นี้มา นั่นก็คือการแพนิก เกิดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังที่คล้ายกับเสียงปืน เจอเหตุการณ์ที่กดดัน หรือเจอคนที่มีลักษณะคล้ายคนร้ายในตอนนั้น มันเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกผิดมาตลอด จนขอถอนหมั้นกับอลิซ แล้วมาเป็นบอดิการ์ดแทน แต่ทุกครั้งที่เธอเผลอ หรือ มีธุระที่ต้องไปทำ การฝากอลิซไว้กับใคร ก็ไม่เคยทันเหตุการณ์แย่ๆได้เลย อุบัติเหตุ เกิดขึ้นทุกครั้งที่เธอไม่อยู่ แน่นอนว่าต้องมีคนวางแผนไว้ แล้วคนคนนั้นต้องใกล้ตัวอลิซมาก จนรู้การเคลื่อนไหวทุกอย่าง และที่นึกได้ในตอนนี้ มีเพียง “มีนา” เท่านั้น “ฟาเดีย…ทำไมไม่ปลุกอลิซล่ะ จะสายแล้ว” เสียงหวานเดินขยี้ตามาหาฟาเดีย เพราะเพิ่งตื่น และเมื่อคืนก็หนักกันอยู่ เลยทำให้เธอตื่นมาก็ปวดร้าวไปทั้งตัว “เอ่อ วันนี้วันหยุดนะ คุณไม่ต้องตื่นเช้าก็ได้” ฟาเดียตอบกลับพร้อมมองไปที่ร่างบางที่ มีรอยรักของตัวเองเต็มตัว แต่ดีที่ตรงที่มีรอย เป็นส่วนที่เสื้อผ้าปิดได้ ไม่งั้นเธอคงตีตัวเองหลายที ข้อหาไม่ยับยั้งชั่งใจ “เอ้าหรอ อลิซจำวันผิดหรอเนี่ย แปลกจัง งั้นอลิซไปนอนต่อได้มั้ย?” หญิงสาวถามไม่ใช่เพราะเธอขออนุญาติ แต่ที่ถามเพราะเธอจะต้องไปกับฟาเดียมั้ย เพราะเมื่อคืนฟาเดียบอกว่าจะไปสืบเรื่องมีนา แต่ไม่ได้บอกว่าเธอต้องไปด้วยไหม “ถ้าคุณไม่อยากไป คุณก็นอนต่อได้เลย ฉันไปคนเดียวได้ แต่คุณห้ามออกไปข้างนอก ตอนที่ฉันไม่อยู่ เข้าใจไหม?” ฟาเดียพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม เป็นการเตือนหญิงสาวให้ระวังตัว “โอเค งั้นอลิซจะอยู่บ้าน แต่เดี๋ยวให้คนของพ่อ ช่วยสืบด้วย ได้ไหม?” เสียงหวานพูดติดน้ำเสียงอ้อน “ก็ได้ เผื่อมีข้อมูลอะไรที่หาได้ จะได้เอามารวมกัน” ฟาเดียพูดด้วยน้ำเสียงที่บอกได้ว่าเคร่งเครียด จนอลิซไม่กล้าที่จะแซวเลย ในเช้านี้ หญิงสาวทำได้แค่ พยักหน้าแล้วเดินกลับมานอนที่เดิม ในหัวก็คิดเรื่องอดีต ที่วนเวียนในหัวเธอมาตลอดเวลา เสียงผู้หญิงที่เธอได้ยิน น้ำเสียงมันคุ้นมาก . . หญิงสาวยังคงนอนคิดเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับตัวเองวนไป วันนี้เป็นวันหยุด ฟาเดียก็ออกไปแล้ว พูดเหมือนจะไปสืบอะไรสักอย่างแล้วก็ไป แววตานั้นบอกได้ชัดเจนว่ากำลังกังวลและโทษตัวเองมาก เธอคิดจะทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยฟาเดีย ติ๊ง!! เสียงข้อความเข้า เรียกสติอลิซให้กลับคืนมา เธอหญิงโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็ นึกอะไรออกทันที เจ้าของข้อความนี้ช่วยได้แน่นอน เธอจึงตัดสินใจโทรหาเจ้าของข้อความ เผื่อให้มาช่วยอีกคน ตรู๊ดดด [ ค่ะ คุณอลิซ มีอะไรรึเปล่าคะ] คนปลายสายรับสายพร้อมยิงคำถามที่ตรงใจอลิซพอดี “ชา อลิซมีเรื่องให้ช่วยหน่อย…” จากนั้น ทั้งคู่ก็คุยเรื่องรายระเอียดกัน และคนที่หญิงสาวโทรหานั่นก็คือ ธิชา ภรรยาสุดที่รักของมิรา หรืออดีตคู่หมั้นที่ฟาเดียมองว่าเหมาะสมกับตัวเองที่สุดนั่นเอง ด้วยความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน และการสนับสนุนกันหลายๆอย่าง เลยทำให้พวกเธอสนิทกัน อลิซรักฟาเดีย ส่วนธิชารักมิรา มันชัดเจนจนไม่จำเป็นต้องทะเลาะอะไรกันเลย [เอ่อ..แล้วเรื่องนี้ คุณอลิซอยากรู้ลึกขนาดไหนคะ รวมถึงเมื่อ 10 ปีก่อนด้วยมั้ย เอ่อ…คือ พี่มิให้ถามค่ะ] เสียงปลายสายถามกลับมาหลังจากที่อลิซอธิบายหมด “ถ้าสืบได้ถึงขนาดนั้น ก็ได้ค่ะ ขอแค่รู้ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลัง จะให้อลิซทำอะไรก็ได้ค่ะ” น้ำเสียงที่จริงจังของอลิซ ทำให้ปลายสายเงียบไป “แต่ ได้แค่ไหน ก็แค่นั้นนะคะ อลิซจะให้คนของอลิซสืบด้วย แต่กลัวว่าจะมีหนอน แล้วคนร้ายจะไหวตัวทัน เลยจะให้ทางชาช่วยเราด้วย” อลิซรีบพูดขึ้นอธิบายทันที เธอไม่ได้จะใช้งาน แค่วาน เพราะรู้ว่าเครือของ ธิชา และมิรา ไม่ธรรมดา [ ฉันตกลง คุณอลิซ ฉันขอเวลาไม่เกิน 7 วัน คุณได้ข่าวดีแน่นอน เพราะเรื่องนี้ ไอ้ฟาเดียมันเคยพูดกับฉัน แต่เพราะมันไม่ได้มาขอให้ช่วยฉันก็เลยไม่ได้สนใจอะไร วันนี้คุณมาขอถือว่าฉันตอบแทน ที่คุณกับมัน กันแม่ให้ตอนงานแต่งละกัน] เสียงตอบกลับนั้นเป็นมิรา แน่นอนว่ามีหรอที่คนรักเมียอย่างมิรา จะปล่อยเมียอยู่คนเดียว ตัวติดกันไม่ห่างไปไหน ลูกสองก็ไม่ปล่อยกลัวเมียหนีอีก “ฟาเดีย เคยพูดหรอ?” หญิงสาวต้องตกใจ ที่ฟาเดียเคยพูดอะไร กับคนอื่นด้วย เพราะปกติจะไม่พูดกับใคร [มันเคยพูดตอนเมา ตอนนั้นฉันส่างพอดี เลยทันได้ยิน มันพูดประมานว่า ถ้า10ปีก่อนยอมคุณมากกว่านี้ คุณคงไม่เป็นแบบนี้…ฉันก็ไม่ได้สนใจหรอกนะว่า 10 ปีก่อนยังไง แต่ฉันเคยเห็นข่าวกราดยิง และเพิ่งนึกได้ว่าคุณคือตัวประกันในตอนนั้น ฉันคิดว่าน่าจะเรื่องเดียวกัน ถูกมั้ย?] มิราอธิบายยาว จริงๆแล้วน่าจะสนใจ เพราะถ้าไม่สนใจ คงไม่สืบได้ขนาดนี้ ปกติมิราไม่ใช่คนที่จะสนใจเรื่องคนอื่น “ตามนั้นเลย ฉันทะลาะกันแล้ววิ่งหนีฟาเดียออกไป จนไปเจอคนกราดยิง ฉันโชคดีที่ไม่ได้รับอันตราย แต่โดนจับเป็นตัวประกัน ความผิดนั้นมันเป็นฉัน ที่วิ่งเข้าไปหาพวกมันเองแท้ๆ ฟาเดียจะผิดได้ไง” อลิซอธิบายเสริมให้มิราฟัง [ มีอะไรเพิ่มเติมให้ฉันรู้อีกมั้ย?] เสียงปลายสายเหมือนจะรับรู้อะไรบางอย่าง เลยถามเพิ่ม “ฉันวิ่งไป ตรงนั้นมันเหมือนทุกอย่างพอดีเกินไป เพราะคนพวกนั้นเดินตรงมาหาฉัน แถมมีคนบอกว่าให้จับฉันเพราะฉันเป็นลูกคุณพ่อ แต่ตอนนั้นไม่มีคนนอกรู้นะว่าฉันเป็นลูกใคร แล้วคนพวกนั้นรู้ได้ยังไง” หญิงสาวผ่อนลมหายใจก่อนที่จะพูดต่อ “แถมเสียงนั้น ยังเป็นเสียงผู้หญิง… เอ๊ะ!!! จำได้แล้ว เสียงเดียวกับตอนหน้าลิฟท์เลย ต้องเป็นคนนี้แน่ๆ คุณมิ!!!” หญิงสาวเหมือนนึกอะไรออก จึงอธิบายให้มิราฟังจากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายกัน มิราบอกว่าอลิซช่างสังเกตุมาก ถ้าเป็นคนเดียวกันแปลว่า คนคนนี้หลุดมาจากการจับกุมในตอนนั้น แล้วอาจแค้นเธอ จนตามมาล้างแคนให้พักพวก เมื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมหญิงสาวก็ส่งข้อความไปบอกฟาเดียว่านึกอะไรได้ ฟาเดียก็ตอบกลับมาแบบปกติ แค่คำว่า ‘ดีมาก’ อลิซก็บินขึ้นสวรรค์แล้ว นึกถึงเสียงนี้ตอนอยู่บนเตียง ไม่มีอะไรฟินมากกว่านี้แล้ว คิดแล้วเธอก็นอนดิ้น อยู่บนที่นอน ไม่สมกับที่เป็นคุณหนูประธานบริษัทผู้สง่างามเลย เหมือนสาวน้อยวัย 18 ที่เพิ่งมีความรักมากกว่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม