หลายวันผ่านไป ร่างบางและสองบอดิการ์ดเดินเข้าไปในบริษัทตามปกติ หญิงสาวยังคงความสง่างาม บอดิการ์ดก็ยังคงดูเท่เหมือนทุกครั้ง แม้จะตามสืบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องทำงานต่อไป
อลิซยังคงทำหน้าที่เป็นเหยื่อล่อ ให้กับคนร้าย ในตามปกติ หลังจากที่อลิซฝากให้มิราสืบ พร้อมกับที่ฟาเดียก็ไปสืบมา จากหลายๆทางทำให้ได้ข้อสรุปที่ทุกคนไม่อยากจะเชื่อเลย
เลยต้องมาสืบความจริงหรือหาหลักฐานเพื่อมัดตัวคนร้าย ไม่ให้หลุดไปได้ และแผนการนี้ มีอลิซเป็นเหยื่อล่อ เพราะเป้าหมายของคนร้ายคืออลิซอยู่แล้ว
หญิงสาวแม้ใจจะตื่นเต้น แต่ก็เก็บอาการไว้ เดินเข้าไปในบริษัท ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ชื่นชมในตัวเธอ รอยยิ้มของเธอแค่นิดเดียวก็ทำให้ผู้คนมากมายพร้อมที่จะพลีกายให้
“สวัสดีค่ะ คุณอลิช ขออนุญาติแจ้งตารางงานวันนี้ค่ะ” เลขาสาวเข้ามาทำหน้าที่ตัวเองตามปกติ
“ได้ค่ะ” อลิซตอบกลับด้วยสีหน้าที่ปกติ
หลังจากตารางงานจบ เลขาสาวก็โค้งศรีษะ ก่อนที่จะขอตัวออกไป แต่อลิซก็ขัดไว้ พร้อมกับถามเธอด้วยความเป็นห่วงในแบบฉบับของอลิซ เลขาสาวตอบกลับมาด้วยใบหน้าที่ดีใจ ตอบกลับมาอย่างกระตือรือล้นว่าเธอดีขึ้นมากแล้ว ตอนนั้นแค่ตกใจมากไปหน่อย การสนธนาดูจะไม่มีอะไร แต่ก็ทำให้ฟาเดียกับอลิซได้รู้ และ มั่นใจอะไรมากขึ้น
หลังจากเลขาสาวเดินออกไป ฟาเดียก็เรียกฟาเอลมาคุย ปล่อยให้อลิซได้เคลียร์งานของตัวเองที่กองรวมกันอยู่บนโต๊ะ
“ฟาเอล เดี๋ยวบ่ายนี้ฉันไปทำธุระหน่อยนะ แม่เล่นฉันอีกแล้ว เดี๋ยวตามเมลมาช่วย วันนี้อลิซไม่ได้ออกไปไหน คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” ฟาเดียพูดกับญาติผู้น้องด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิด
“รับทราบค่ะ รอบนี้ไปนานมั้ยคะ เผื่อคุณหนูถาม” ฟาเอลถามกลับ เผื่อเจ้านาย เพราะรู้ดีว่าหญิงสาวจะหงุดหงิด และอารมณ์เสียทุกครั้งที่พี่สาวตัวเองไปดูตัวกับสาวอื่น
“ไม่รู้ เดี๋ยวฉันบอกอีกที ถ้าอลิซถามก็บอกไปว่าฉันไม่ได้บอก”
“รับทราบค่ะ”
.
.
หญิงสาวนั่งที่โต๊ะทำงานในช่วงบ่าย วันนี้เธอเคลียร์งานที่เร่งด่วนหมดแล้ว เหลือแต่งานที่รอได้ ฟาเดียออกไปทำธุระแล้ว ท่าทางอลิซหงอย เหมือนที่เคยเป็น
“คุณหนูเอาขนมหน่อยมั้ยคะ” เมลที่มองอลิซอยู่เลยถามขึ้น เผื่อว่าหญิงสาวจะอารมณ์ดีขึ้น
หญิงสาวมองไปที่เมลด้วยใบหน้าที่หลากหลายความรู้สึก แต่ก็พยักหน้ารับน้ำใจของเมล จากนั้นเมลก็บอกให้เธอรอ จะไปซื้อมาให้ อลิซมองตามเมลไปจนสุดสายตา ก่อนที่จะหันไปอีกทาง คิดอะไรไปเรื่อย
เวลาผ่านไปไม่นาน เสียงเคาะประตูดังขึ้น มีนาเข้ามาในห้องพร้อมกับเค้กช็อกโกแลตพร้อมเสริฟ กับชาเย็นยามบ่าย เธอเดินประคองถาดขนมมายังโต๊ะทำงานของอลิซ
“คุณอลิซคะ น้องเมลไปซื้อเค้กมาค่ะ แต่เห็นว่าปวดท้องกระทันหัน เลยให้ฉันเอาของมาให้แทน” เลขาสาววางเค้กไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะยืนรอบางอย่าง
“ออกไปได้เลยค่ะ เดี๋ยวอลิซทาน ขอบคุณมาก” อลิซตอบกลับด้วยใบหน้านิ่ง ก่อนที่จะไล่เลขาสาวให้ออกไป ฟาเอลที่นั่งอยู่โซนโซฟามาตั้งแต่แรก ก็เดินเข้ามาร่วมวง เพราะดูท่าทางเลขาสาวจะยังไม่ยอมออกไป
“ทำไมหรอ คุณมีนา ยังมีอะไรอีกรึเปล่า?” ฟาเอลถามขึ้น เมื่อเห็นท่าทางเลขาสาวอยากพูดอะไร แต่ไม่กล้าพูด
“คือ ฉันเห็นว่าน้องตั้งใจไปซื้อมาให้ บอกว่าคุณอลิซดูไม่ค่อยร่าเริงเลย ถ้าได้ทานคงจะอารมณ์ดีขึ้น ฉันเลยอยากเห็นคุณอลิซทานกับตา ” เลขาสาวตอบเสียงเบา
“ทำไมถึงอยากเห็นละ มีอะไรในเค้กหรอ?” คำถามนี้ฟาเอลเป็นคนถาม อลิซเพียงนั่งมอง
“เอะ อะ มะ ไม่มีค่ะ ไม่มีจริงๆ คะ แค่เห็นน้องตั้งใจไปซื้อ และอยากเห็นตอนคุณอลิซอารมณ์ดี” เลขาสาวตอบเสียงกระตุก ดูมีพิรุจอย่างมาก ฟาเอลเริ่มที่จะเปิดโหมดระวังตัว เพราะรู้สึกว่าคนตรงหน้า ไม่ปกติ
“งั้นเธอลองชิมก่อน ถ้ามันไม่มีอะไรจริงๆ” ฟาเอลพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ทำให้มีนา กลัวจนแทบไม่กล้าขยับเลย
“ตะ แต่ว่า”
“กิน!!!” ฟาเอลพูดเสียงดังขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก จนเลขาสาวยอมที่จะกินเค้ก และน้ำตรงหน้าลงไปแบบเงียบๆ ด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า
เมื่อเลขาสาวตักเค้กเข้าปากไปแล้วสักพัก ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฟาเอลจึงไล่ให้เธอกลับไปทำงานของตัวเอง มีนาก็เดินออกไป อย่างคนที่หวาดกลัว
อลิซมองไปที่เค้กแล้วหันไปมองที่ฟาเอล ด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูก เธอกลัวว่าถ้าในเค้กมีอะไรจริงๆ มีนาจะไม่แย่หรอ แต่ถ้ามีนาไม่ได้ใส่อะไรลงไปในเค้ก ทำไมต้องลนลานตอนที่ฟาเอลถาม
“คุณหนูอย่ากินมันเข้าไปนะคะ” ฟาเอลบอกแค่นั้น ก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม พร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมา พิมพ์อะไรบางอย่างลงไป
อลิซเห็นท่าทางของฟาเอลแล้วแอบกลัว เพราะร่างนี้ของฟาเอลทำให้รู้สึกว่าสามารถฆ่าใครได้ทันทีเลย ถ้าเจอคนที่ทำผิด
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูขัดจังหวะความคิดของอลิซ หญิงสาวที่เข้ามาใหม่ยิ้มร่าเริง เพราะไม่ได้รู้เลยว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น สายตาหันไปเห็นเค้กและน้ำที่ถูกกินแล้ว ก็ยิ้มดีใจ
“เค้กอร่อยมั้ยคะคุณหนู ร้านนี้คนเยอะมากเลย” เมลถามอลิซด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นและเบิกบานใจ
“อลิซ…ยะ” ยังไม่ทันที่อลิซจะพูดตอบอะไร เสียงแตกตื่นด้านนอกทำให้อลิซต้องหันไปมอง
“คุณอลิซคะ แย่แล้วค่ะ คุณมีนาอยู่ๆก็ปวดท้องหนัก ตอนนี้สลบไปแล้วค่ะ” พนักงานคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงานอลิซ ทำให้ทั้งหมดแตกตื่น คนที่ลุกไปคนแรกคือฟาเอล
“เป็นเธอจริงๆหรอเนี่ย!!” เสียงสบถของฟาเอล ทำเอาอลิซขนลุก แต่ก็วิ่งตามไปดู พร้อมกับเมลที่ทำหน้างง ไม่เข้าใจสถานการณ์
“เกิดอะไรขึ้นหรอคะ คุณหนู” เมลถามขึ้น เมื่อเห็นทุกคนดูวุ่นวาย แต่ตัวเองกลับไม่รู้อะไรเลย
“อลิซสงสัยว่ามีนาคือคนร้ายที่คิดจะทำร้ายอลิซ เค้กวันนี้ที่เมลซื้อมา มีนาเป็นคนเอาเข้ามาให้อลิซ ฟาเอลเห็นท่าทางมีนาแปลกๆ เลยให้มีนากินเค้กเข้าไป” อลิซอธิบายขณะเดินตามฟาเอล ที่กำลังอุ้มมีนาไปส่งโรงพยาบาล
“คุณหนูไม่ได้ทานหรอคะ?” เมลถาม ด้วยใบหน้าที่อลิซเห็นแล้วรู้สึกแปลกๆ
“เปล่า เมลอยากให้อลิซทานหรอ?”
“เปล่าค่ะ ฉันรู้สึกดีใจมากกว่า ที่คุณหนูไม่ได้ทานมันลงไป” เมลตอบกลับด้วยนำเสียงปกติ
.
.
ฟาเอลได้พามีนามาส่งที่โรงพยาบาลในที่สุด พร้อมกับแจ้งคนของตระกูลมาเพื่อกักตัวมีนาไว้ เผื่อเธอจะหนีไป ตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่ามีนาใช่หรือไม่ใช่คนร้าย แต่กักตัวไว้ก่อน เพราะจากเหตุการณ์วันนี้ มันชี้มาที่มีนาทั้งหมด
“เหยื่อติดกับแล้ว” เสียงรายงานของฟาเอลส่งไปถึงใครสักคน ใบหน้าสื่อถึงความกังวล และความหวัง การใช้อลิซเป็นเหยื่อครั้งนี้ หวังว่าจะทำให้ตัวอลิซเองหลุดพ้นจากคนที่ปองร้ายเธอ
.
หลังเกิดเหตุไม่นานนัก ร่างในเงาร่างหนึ่งเดินไปที่กระเป๋าของมีนาบนโต๊ะทำงานมีนา หน้าห้องทำงานของอลิซในความมืด เพราะเกิดเรื่อง โซนที่มีนาอยู่เลยถูกปิดตายไว้ เพื่อไม่ให้ใครมายุ่งกับโต๊ะนี้ เพราะมันอาจจะมีหลักฐาน ที่มัดตัวคนผิดได้
ร่างในเงานั้นใส่ขวดอะไรบางอย่างเข้าไปในกระเป๋าของมีนา พร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายที่เหมือนจะยินดีเป็นอย่างมาก กับเหตุการณ์ในวันนี้
“ขอบใจนะ ที่มาเป็นตัวแทนให้” เสียงเย็นพูดเบาๆ ใส่รูปมีนาที่วางบนโต๊ะ ก่อนที่จะเดินออกไปจากจุดนั้น ด้วยใบหน้าที่พึงพอใจ
แตร๊ก ปิ๊ง!
เสียงกดสวิตช์ไฟ มาพร้อมแสงสว่างทันที ทำให้คนในเงาที่กำลังเดินออกไปแสบตาจนต้องหลับตาปริบ ก่อนที่จะลืมตารับแสงได้อีกครั้ง ก็ต้องพบกับความตกใจที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ
“ฉันไม่เคยคิดเลยนะ ว่าจะเป็นเธอ และเป็นเธอมาตลอด”