บ้านของใหญ่ตระการไม่ใช่ที่ตึกมหานคร ถึงแม้เขาจะนอนที่นั่นบ้าง แต่ก็มีบ้านหลังใหญ่ใจกลางเมือง ที่แม้ภายนอกดูเหมือนบ้าน แต่พอเดินสำรวจเธอไม่เห็นความอบอุ่นในบ้านหลังนี้เลย
ปีกตะวันออกเป็นห้องนอนของเธอและใหญ่ตระการ ส่วนมิกกี้ลูกชายของเขากลับอยู่กับบัวบูชาที่ปีกตะวันตก
หลังจากย้ายมาหนึ่งเดือนเธอก็ยังไม่เห็นหน้าเด็กน้อยสักเสี้ยว
“ขอโทษนะ ช่วยบอกรหัสไวฟายหน่อยได้ไหม” หญิงสาวเอ่ยทักเด็กสาวรับใช้ที่กำลังขนผ้าจากชั้นบนลงไปที่ห้องซักผ้า
“คุณใหญ่บอกว่าห้ามบอกอะไรทั้งนั้น ให้คุณถามจากคุณใหญ่เองค่ะ”
“อะ…อ้าว!”
“ฉันไม่คิดจะให้หนูอย่างคุณวิ่งกัดสายไฟบ้านผมไปทั่วหรอกนะ” ใหญ่ตระการเอ่ยทักภรรยาของตัวเองหลังออกจากห้องทำงาน หัวคิ้วเรียวของเธอขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจ
ก่อนจะเหลือบมองแว่นตาที่ดูเข้ากับมาเฟียหนุ่มอย่างเหลือเชื่อบนใบหน้าเขา
สามีหมาด ๆ ของเธอนี่หน้าตาดีจนมีอภิสิทธิ์เหนือสิ่งของจริง ๆ ไม่ว่าเข่าจะสวมอะไรก็ดูเหมือนนายแบบที่หลุดออกมาจากนิตยสารไปหมด
“คุณรวยขนาดนี้ไม่มีไวฟายฟรีให้ภรรยาใช้เหรอคะ”
แค่อยากจะขอดูวงจรปิดของฝั่งตะวันตกสักหน่อย
นี่เขาเล่นรู้ทันเธอทุกอย่างเชียว
ถ้าเธอแฮ็กระบบตรง ๆ ใหญ่ตระการก็คงรู้ได้ในทันที และหลังจากเธอป่วนเขาไประบบไฟร์วอลล์ของเขาก็ดูเหมือนจะซับซ้อนขึ้น
มาเฟียหนุ่มเหลือบตามองเกวลินทร์แล้วได้แต่ยิ้มเยาะในใจ
“เอาสิ ถ้าเธอได้ข้อมูลอะไรไปหนึ่งอย่าง ฉันจะจับเธอขึ้นเตียงหนึ่งครั้ง ถ้าอยากคลานแทนการเดินก็ลองแตะต้องดู”
“นี่คุณพูดได้หน้าตาเฉยแบบไม่อายเลยนะคะ” ใบหน้าของหญิงสาวร้อนวูบ
ใหญ่ตระการไหวไหล่รับสูทจากภูผาและถอดแว่นให้ฌอน ที่นอกจากเป็นมือซ้ายและมือขวายังเป็นเลขาของเขาอีกด้วย
ทั้งสองคนหันมายิ้มกว้างและก้มคำนับให้เธอ
เกวลินทร์นิ่วหน้าอย่างกระดักกระเดิด ดูแล้วเธอน่าจะอายุน้อยกว่าเขานะ
“วันนี้ฉันจะนอนที่มหานคร ถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นอยู่แต่ในห้องไม่ต้องออกไปเพ่นพ่านจะดีกว่า”
“รับทราบค่ะ ฉันจะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเลยค่ะ” เธอยิ้มกว้างราวกับดีใจที่เขาจะไม่อยู่บ้าน
“เป็นเด็กดีล่ะ”
“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ”
“ฉันสามสิบ”
“ฉันก็...ยี่สิบสี่แล้วค่ะ ไม่ใช่เด็กซะหน่อย”
“งั้นก็อย่าซน”
“ก็บอกว่าไม่ใช่เด็กไงคะ”
ความเย็นชาของใหญ่ตระการยังเป็นกำแพงที่เกวลินทร์เข้าไปไม่ถึง แม้จะนอนด้วยกันบ้าง แต่เขายังวางเธอไว้ในฐานะภรรยาในนาม เพียงแค่เธอไม่ก้าวก่ายและยุ่งกับเรื่องของเขา บทสนทนาในแต่ละวันแทบไม่มีอะไรเลย
เกวลินทร์ยืนมองจากระเบียงกลางบ้านลงไปด้านล่าง ไม่นานบันไดฝั่งตะวันตกก็ปรากฏร่างเล็กของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ถูกปล่อยจากอ้อมกอดของหญิงสาวที่อายุมากกว่าเธอ มิกกี้วิ่งเข้าไปหาใหญ่ตระการ แต่กลับยืนนิ่งจนบัวบูชาเป็นฝ่ายเรียกมาเฟียหนุ่มให้
แต่แค่ทักทายกันสองสามคำเขาก็เดินจากไป ไม่วายหันกลับมาสบตาเธอ เชิงบอกให้เธอกลับเข้าไป
มาเฟียหรือโดเบอร์แมนเนี่ยถึงได้ดุขนาดนี้
“นี่เหยอผู้หญิงที่ขายตัวให้ป๊ะป๋า ผู้หญิงไร้ค่า”
“ตายแล้วคุณชายคะ”
เกวลินทร์กะพริบตาปริบ ๆ มองร่างเล็กที่ตีนบันไดตะโกนใส่เธอด้วยคำหยาบ โดยมีสายตาขำขันของเหล่าคนใช้มองมาที่เธอ
นี่ไม่ต่างจากใหญ่ตระการในร่างเด็กเลย หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูพยายามจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ด้วยการเท้าเอว ซ้ำยังใส่เสื้อกั๊กเหมือนใหญ่ตระการตอนถอดสูท นาฬิกาเหล็กบนข้อมือจิ๋วนั่นอีก ไม่รู้ว่าดูนาฬิกาเป็นรึยังด้วยซ้ำ
น่ารักจัง
นี่คงเป็นเหตุผลที่มีบอดีการ์ดเดินวนไปเวียนมาอยู่ในบ้านสินะ
“ขอโทษนะคะ มิกกี้ยังเด็กอยู่ค่ะ คุณเกลให้อภัยแกด้วยนะคะ” บัวบูชายิ้มละไม ใบหน้าสวยมีร่องรอยความกังวล เธอก้มลงรับร่างเล็กของมิกกี้อุ้มไปแนบอก “ไม่เป็นไรนะมิกกี้ น้าอยู่นี่แล้วจ้ะ”
ดูท่าทางนั่นสิ ทำเหมือนเธอจะทำอะไรเด็กน้อยอย่างนั้นแหละ
สายตาจ้องมองจากเหล่าคนรับใช้ บัวบูชาและมิกกี้ทำให้เกวลินทร์รู้ในทันทีว่าบ้านหลังนี้ไม่ต้อนรับเธอ พวกเขามองเหมือนเธอเป็นส่วนเกินที่กำลังทำอะไรไม่เข้าที่เข้าทาง
“ขอตัวนะคะ”
“เดี๋ยวค่ะคุณบัวบูชาสินะคะ” เกวลินทร์คลี่ยิ้ม
“ค่ะ คุณเกลมีอะไรกับบัวรึเปล่าคะ ขอโทษด้วยนะคะที่บัวมาแนะนำตัวช้าไป” สวยและวางตัวดี ใบหน้าแต้มยิ้มของบัวบูชาทำให้เธอรู้สึกเหมือนเห็นใครอีกคน
“คุณเป็นคนดูแลมิกกี้เหรอคะ”
“ใช่ แย้วเธอจะทำไมปู้หญิงขายตัว!!! เธอจะมาแย่งป๊ะป๋าไปจากฉัน! คนไม่ดี! คนชั่ว!” มิกกี้ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดมองเกวลินทร์ที่ก้าวไปหา ก่อนจะหลบวูบในอ้อมกอดของบัวบูชา
“คุณเกลคะ!!! มิกกี้ยังเด็กค่ะ อย่าทำอะไรเธอเลยนะคะ”
“เกลแค่สงสัยว่าคำศัพท์ยากเกินกว่าเด็กสี่ขวบจะเรียนรู้ได้น่ะค่ะ”
“คุณหมายความว่าไงคะ” บัวบูชาหลุดหัวเราะออกมาเอียงคอถามเกวลินทร์ “หมายถึงบัวเป็นคนสอนมิกกี้เหรอคะ บัวไม่ได้สอนหรอกค่ะ แกคงจำมาจากที่โรงเรียน”
โรงเรียนที่ไหนจะมีคำพูดพวกนี้กัน
เกวลินทร์ขมวดคิ้ว
“แต่ถ้าเป็นคนดูแลก็ควรช่วยสอนสิคะว่าเป็นคำที่ไม่ควรพูด”
“จะให้บัวตีมิกกี้เหรอคะ”
แค่พูดคำว่าตีออกมามิกกี้ในอ้อมแขนบัวบูชาก็ตัวสั่นหงิก เขากอดคอบัวบูชาเอาไว้ก่อนเริ่มเบะปากร้องอย่างเงียบเชียบ
เหมือนเธอในตอนเด็กเลย
“ไม่ถึงกับต้องตีหรอกค่ะ แค่สอนว่าเป็นคำที่ไม่ดีไม่ควรพูดก็พอค่ะ เด็กตัวแค่นั้นจะตีได้ยังไงกันคะ มิกกี้คะ...” หญิงสาวเรียกเด็กน้อยด้วยท่าทีอ่อนโยน ดวงตากลมโตก็หันมามองเธอ
“การที่มีคนแต่งงานกับคุณพ่อมาเป็นสมาชิกในครอบครัวคนใหม่ ไม่ได้มาแย่งพ่อใหญ่หรอกนะ ไม่ต้องร้องนะคะ”
เพียะ!
แค่ยื่นมือเข้าไปหาเด็กน้อยก็ปัดออก ดวงตาแดงช้ำจ้องเธอราวกับกรุ่นโกรธ
“ฮึก...ผู้หญิงขายตัว กล้าดียังไงมาจับตัวฉัน”
“ขอบคุณที่แนะนำนะคะคุณเกล บัวจะจำไว้ค่ะ แต่ว่าตอนนี้ขอตัวพามิกกี้ไปก่อนดีกว่าค่ะ”
“เชิญค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ แต่อย่างที่เห็นมิกกี้ค่อนข้างกลัวคุณ ขอเวลาให้แกอีกหน่อยนะคะ” บัวบูชายิ้มรับพลางเดินพามิกกี้ออกไป แวบหนึ่งที่มิกกี้หันมามองเธอ พอโบกมือให้เด็กน้อยก็ผลุบตัวหลบกับไหล่ของบัวบูชา
ถ้าใหญ่ตระการเป็นเสือ นี่ก็คือลูกเสือที่ไม่มีเขี้ยวชัด ๆ