บทที่ 7 ขอกอดหน่อยเถิด
หลี่เย่ผละออกจากมู่หลันฮวาทันที ใจของเขาเต้นถี่ระรัวอย่างบ้าคลั่ง นานเท่าไรแล้วที่เขามิได้ใจเต้นอย่างรุนแรงเช่นนี้
"ท่านแม่ทัพสวรรค์หรือ?"
"ขอรับ ท่านแม่ทัพสวรรค์รอท่านอยู่ที่ด้านนอกขอรับ"
"ข้ารู้แล้ว อาหลันเจ้ารออยู่ที่นี่ อย่าออกไปเพ่นพ่านเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่?"
"เจ้าค่ะ"
มู่หลันฮวารู้สึกเสียดายไม่น้อย อยากเห็นใบหน้าของท่านแม่ทัพสวรรค์ที่มาขัดขวางความสุขของนางยิ่งนัก!!
หลี่เย่เดินออกมาต้อนรับแม่ทัพสวรรค์อย่างนอบน้อม เหตุใดจึงมาพบเขาในยามดึกเช่นนี้กันเล่า หรือว่ามีเรื่องใดเกิดขึ้นกันแน่
"คารวะท่านแม่ทัพสวรรค์ เช่นท่านไปดื่มสุราชมจันทร์ในถ้ำของข้าก่อนเถิด"
"อืม"
ท่านแม่ทัพสวรรค์ผู้นี้มีนามว่า อวี้ฉือ เขาคือเทพสงครามที่เผ่ามารและปีศาจต่ำช้าเกรงกลัวเป็นอย่างยิ่ง แม้หลี่เย่จะให้ความเคารพต่อเขาไม่น้อย แต่แท้จริงแล้ว เขากับหลี่เย่ก็นับถือกันเป็นสหายสนิทและดีต่อกันมาโดยตลอด เขานับถือในจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์ของหลี่เย่ยิ่งนัก
อวี้ฉือเดินนำหลี่เย่เข้ามาบริเวณเก้าอี้ไม้แกะสลักลวดลายงดงามที่เขาเตรียมเอาไว้ เมื่อมองออกไปด้านนอกหน้าต่างจะพบกับบรรยากาศหุบเขาป่าไม้ที่งดงามชวนสบายตา ภายในถ้าถูกตกแต่งให้คล้ายกับที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ดูแล้วหลี่เย่คงจะยังฝังใจกับรักครั้งเก่าก่อนของเขาอยู่
อวี้ฉือเองก็รับรู้เรื่องราวโศกนาฏกรรมที่แสนเศร้าของปีศาจพญางูตนนี้มาบ้างไม่น้อย
หลี่เย่รืนสุราชมจันทร์มอบให้แก่อวี้ฉือ เขารับมันขึ้นมาดื่มเพียงเล็กน้อย ก่อนจะมองหลี่เย่ด้วยแววตาที่ล้ำลึก
"ได้ยินว่าเหล่ามนุษย์จัดพิธีกราบไหว้บูชาเจ้าเพื่อขอฝน ไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์จะเคารพเจ้ามากเช่นนี้"
"ท่านแม่ทัพกล่าวเกินไปแล้ว มนุษย์เหล่านั้นเพียงมาขอฝนในทุกปีตามประเพณี ข้าเป็นเพียงปีศาจไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น"
"ได้ยินมาว่าเครื่องสังเวยในครานี้เป็นมนุษย์?"
หลี่เย่ชะงักไปชั่วครู่ เขาวางจอกสุราลงบนโต๊ะ ดวงตาคมจ้องมองอวี้ฉือด้วยความเรียบเฉย
ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าแม่ทัพสวรรค์ผู้นี้มีหูตาที่ล่วงรู้เรื่องราวต่างๆได้อย่างรวดเร็ว เขาเพียงแปลกใจไปชั่วครู่เท่านั้น
อวี้ฉือยกยิ้มที่มุมปาก เขาพอจะเดาทางความคิดของหลี่เย่ออก
"เจ้ามีสิ่งใดจะเอ่ยต่อข้าหรือไม่?"
"นางยังปลอดภัยดี ข้ามิได้ทำร้ายนาง ท่านก็รู้ว่าข้าไม่เคยคิดทำร้ายมนุษย์"
"นางเป็นสตรี?"
"ใช่แล้ว"
"หลี่เย่ เจ้าสู้บำเพ็ญเพียรมาเป็นพันปีเพื่อที่จะได้เป็นสัตว์เทพคอยรับใช้สวรรค์ แต่นี่.."
"ข้าเพียงช่วยนางเท่านั้น อีกเจ็ดวันข้าจะปล่อยนางไป"
"นานกว่านี้ไม่ได้หลี่เย่ เจ้าจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมู่เหลียนฮวาไม่ได้หรือ?"
"อวี้ฉือ!!!!"
อวี้ฉือไม่เอ่ยสิ่งใดต่อ เขารู้ว่าตนได้กำลังยั่วโทสะของหลี่เย่เข้าแล้ว
เมื่อหนึ่งพันปีก่อน เขากับหลี่เย่เคยหลงรักมนุษย์คนเดียวกัน นั่นก็คือมู่เหลียนฮวา
แต่มู่เหลียนฮวารักหลี่เย่ เขาจึงยอมหลีกทาง เพื่อหวังให้ทั้งสองได้ครองรักกัน แต่สุดท้ายมู่หลันฮวาก็ตกตายจากไป และหลี่เย่ยังกินนางเข้าไปด้วย แม้เขาจะโกธรหลี่เย่มากเท่าใด แต่ในเมื่อเป็นความต้องการของมู่เหลียนฮวาเขาก็ยอมรับฟัง
เขารู้สึกสงสารหลี่เย่ที่สูญเสียมู่เหลียนฮวาไป จึงช่วยเหลือและแนะนำให้หลี่เย่บำเพ็ญเพียรเพื้อเป็นสัตว์เทพ เผื่อวันหนึ่งจะได้พบกับมู่เหลียนฮวาอีกครา
แต่ในยามนี้เขากลับพาสตรีอื่นเข้ามาเกี่ยวพัน เช่นนี้!!
"ข้าอยากพบนาง"
"ไม่ได้!!!อย่าดึงนางเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้"
"ข้าเพียงอยากพบนางเท่านั้น หากเจ้าคิดขัดขวางเช่นนี้ ข้าคงต้องทูลรายงานต่อองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ว่าเจ้าคิดทำร้ายมนุษย์"
"อวี้ฉือ เจ้าอย่าทำให้ข้าโมโห"
"ข้าอยากพบนาง"
"เจียวฟาง ไปตามอาหลันมา"
หลี่เย่เบื่อที่จะต้องมาทะเลาะกับอวี้ฉือแล้ว ช่างเถิด!เขาอยากับนางก็ไม่เห็นจะเป็นอันใด อย่างไรเสียอีกไม่กี่วันเขาก็จะปล่อยนางกลับไปแล้ว
มู่หลันฮวาหาเสื้อคลุมของหลี่เย่มาคลุมกายเอาไว้ ยามนี้ร่างของนางเปียกชุ่มและหนาวยิ่งนัก นางเดินออกมาพบกับหลี่เย่ ดวงตาคู่สวยจ้องไปที่อวี้ฉือด้วยความสงสัย
อวี้ฉือที่ได้เห็นมู่หลันฮวาก็รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง เหตุใดใบหน้าของนาง จึงมีส่วนคล้ายกับมู่เหลียนฮวายิ่งนัก
"นี่คือท่านแม่ทัพสวรรค์"
"คารวะท่านแม่ทัพสวรรค์ ข้ามู่หลันฮวา"
มู่หลันฮวา?
มู่หลันฮวาจ้องมองอวี้ฉือด้วยความตื่นเต้น นี่น่ะหรือแม่ทัพสวรรค์ในตำนานน่ะ?
"มนุษย์แซ่มู่มีตั้งมากมาย ท่านจะจ้องนางไปถึงเมื่อใดกัน"
"หลี่เย่ แต่นาง?"
"ได้เห็นนางแล้วก็กลับไปเสีย ข้าไม่มีอารมณ์ต้อนรับแขกวันนี้"
อวี้ฉือเบ้ปากอย่างดูแคลน ถึงว่าสิ!!ที่หลี่เย่เก็บนางเอาไว้ เพราะนางมีส่วนหล้ายกับมู่เหลียนฮวานั่นเอง
"เช่นนั้นข้าขอตัวลา เจ้าอย่าลืมเล่า อย่าเก็บนางเอาไว้ข้างกายเจ้านานนัก อย่าลืมว่าสิ่งใดที่เจ้าเคยเอ่ยต่อข้าเอาไว้ เจ้าจะต้องทำมันให้สำเร็จ"
"ออกไป อย่าคิดว่าข้าไม่กล้ากินแม่ทัพสวรรค์นะ!!"
"ข้าอายุมากกว่าเจ้าไปตั้งหลายพันปี!!"
"ไสหัวไปเถิดขอรับ"
อวี้ฉือนึกอยากจะฆ่าปีศาจงูตนนี้ยิ่งนัก เห็นเขายอมรับเป็นสหายเสียหน่อยก็ยิ่งได้ใจเช่นนี้ หึ!!
อวี้ฉือจากไปแล้ว หลี่เย่จึงปรายตามองมู่หลันฮวาที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆเขาด้วยสายตาที่ครุ่นคิด
"เจ้าหนาวหรือ?"
"เจ้าค่ะ"
"เช่นนั้น โอะ!!ปล่อยข้านะ!!"
"ขอกอดหน่อยนะเจ้าคะ ข้าหนาว!!"
มู่หลันฮวาพุ่งเข้าไปกอดหลี่เย่เอาไว้ พร้อมกับบดเบียดหน้าอกขนาดใหญ่ของนางให้แนบชิดไปกับแผงอกล่ำสันของเขาอย่างยั่วยวน หลี่เย่รู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างที่นุ่มนิ่ม ยามที่มันมาสัมผัสกับกายเขาช่างร้อนรุ่มไม่น้อย
"นางมนุษย์!!ปล่อยข้า"
"ไม่ปล่อยเจ้าค่ะข้าหนาว!"
"อาหลัน!!โอววว อย่าจับตรงนั้น!!"
"โอ๊ยยย!!จับผิดเจ้าค่ะ แต่จับไปแล้ว ขอจับต่อนะเจ้าคะ"
เจียวฟางทนเห็นภาพเช่นนี้ไม่ไหว เขาจึงเลื้อยหนีออกไปทันที
มู่หลันฮวาปลดเปลื้องอาภรณ์ช่วงล่างของเขาออก ก่อนจะใช้มือสวยสาวชักลำแท่งเอ็นร้อนขนาดใหญ่ยักษ์ของหลี่เย่อย่างถี่เร้า มันช่างเต็มไม้เต็มมือนางยิ่งนัก เอาเถิด ไม่ได้วันนี้ก็ไม่เป็นไร หลอกชักทุกวัน ไม่นานนางก็ได้เอง!!
"โอวววว ข้าปวดเบา!!อ๊าส์!!อาหลัน"
โธ่!!!พ่องูสุดรูปงาม ท่านใกล้จะเสร็จสมในอารมณ์แล้ว แต่ช่างไร้เดียงสายิ่งนัก
"ปล่อยมาเลยเจ้าค่ะ ปล่อยมาเลย"
"ซี๊ดดดด!!เอาปากสกปรกของเจ้าออกไป !!อ๊าส์!!"
หลี่เย่รู้สึกเสียวสะท้านไปทั้งร่าง มือหนาใหญ่จับรั้งขอบโต๊ะเอาไว้แน่น เขาไม่รู้ว่านางทำสิ่งนี้ไปเพื่ออันใด แต่เขากลับรู้สึกว่ามันเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก!!
มู่หลันฮวาสาวชักลำแท่งแก่นกายของเขาให้ถี่เร้ามากยิ่งขึ้น ริมฝีปากสวยก็ดูดที่หัวหยักของเขาอย่างหื่นกระหาย
ร่างของหลี่เย่เสียวเกร็งกระตุก น้ำพิษสีขาวขุ่นไหลล้นทะลักออกมาจนเต็มริมฝีปากสวยของนาง มู่หลันฮวากลืนกินมันจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว
หลี่เย่หายใจเหนื่อยหอบ ก่อนจะตั้งสติได้ และรีบก้มมองนางด้วยความตื่นตระหนก
"อาหลัน! เจ้า!!"
"ไว้คืนพระจันทร์เต็มดวงในครั้งหน้า นายท่านยอมเป็นสามีข้าเถิดนะเจ้าคะ"
"นี่เจ้า!!!เจ้าทำลายพรหมจรรย์ของข้า!!!"
"ยังเจ้าค่ะนายท่าน ข้าแค่อมเล่นเฉยๆ"
หลี่เย่หมดคำจะต่อว่านางแล้ว เขาสู้บำเพ็ญเพียรรักษากายให้บริสุทธิ์ แต่กลับต้องมาพ่ายแพ้แก่นาง ต้องถูกนางย่ำยีเช่นนี้ เขาจะมีหน้าไปพบมู่เหลียนฮวาได้เช่นไรกัน
"ข้าจะส่งเจ้ากลับหมู่บ้าน"
"ไม่เจ้าค่ะ"
"อาหลัน"
"ไม่กลับ!!"
"อาหลัน โอะ!!!"
มู่หลันฮวาผลักหลี่เย่อย่างแรง จนเขาล้มลงไปนอนหงายบนพื้น นางใช้โอกาสนี้ขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนกายของเขาทันที
"ขอนะเจ้าค่ะ ข้าอยากได้ท่านเป็นสามี"