หลังจากเหตุการณ์ในงานเลี้ยงที่ทำให้ฉันต้องเผชิญหน้ากับทั้งเหมยลี่และคุณธนกร ความรู้สึกของฉันก็สับสนปนเปกันไปหมด ฉันยังคงไม่เข้าใจว่าเหมยลี่เกี่ยวข้องอะไรกับภูผาถึงได้แสดงออกถึงความไม่พอใจฉันอย่างชัดเจน ส่วนคุณธนกร… การกลับมาของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกเปิดแผลเก่า และความกลัวว่าความลับของน้องไทม์จะถูกเปิดเผยก็ยิ่งทวีคูณ
ภูผาขับรถกลับคฤหาสน์ด้วยความเงียบงัน ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกจากปากเขา ฉันเองก็เลือกที่จะเงียบ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดอะไรดี บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความอึดอัดและตึงเครียด
เมื่อมาถึงคฤหาสน์ ฉันรีบก้าวลงจากรถและเดินตรงไปยังห้องของตัวเองทันที ฉันต้องการอยู่คนเดียว อยากจะหนีจากทุกสิ่งที่กำลังถาโถมเข้ามา
ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความอ่อนล้าทั้งกายและใจ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูรูปน้องไทม์ ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ไร้เดียงสาของเขาทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวด ‘แม่จะปกป้องหนูได้นานแค่ไหนนะลูก’ ฉันกระซิบในใจ
ฉันรู้ดีว่าภูผากำลังสืบเรื่องราวของฉันอยู่ และการปรากฏตัวของคุณธนกรในวันนี้ อาจจะเป็นเบาะแสสำคัญที่ทำให้เขาเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น
ตลอดทั้งคืน ฉันนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาบนเตียง ภาพของเหมยลี่ที่เต็มไปด้วยไฟริษยา และแววตาของคุณธนกรที่ดูสับสนและผิดหวังยังคงวนเวียนอยู่ในหัว
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวตุบ ๆ ฉันลงมาที่ห้องอาหาร พบภูผากำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่แล้ว
“เมื่อคืนเธอดูไม่ค่อยสบายนะ” ภูผาเอ่ยขึ้นโดยไม่เงยหน้า “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
คำถามของเขาทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาใส่ใจฉันด้วยหรือ? หรือนี่เป็นเพียงการหยั่งเชิงเพื่อหาข้อมูล?
“เปล่าค่ะ” ฉันตอบสั้น ๆ “คงจะเพลีย ๆ นิดหน่อยค่ะ”
ภูผาไม่พูดอะไรต่อ เขาหันกลับไปสนใจหนังสือพิมพ์ในมือ
ตลอดทั้งวันนั้น ฉันพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ฉันไปเยี่ยมพ่อที่ห้องเช่า พ่อของฉันอาการดีขึ้นมาก และเริ่มเดินได้คล่องขึ้นแล้ว นั่นทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
“น้องไทม์อยู่ไหนเหรอคะพ่อ” ฉันถามเมื่อไม่เห็นน้องไทม์วิ่งเล่นอยู่ในห้อง
“แก้วเพิ่งพาไปซื้อของเล่นที่ตลาดน่ะลูก เดี๋ยวก็คงกลับมาแล้ว” พ่อตอบยิ้ม ๆ
ฉันพยักหน้า ก่อนจะนั่งคุยเป็นเพื่อนพ่อ ฉันพยายามหาจังหวะที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อฟัง แต่ก็ยังไม่กล้าพอ ฉันกลัวว่าท่านจะรับไม่ได้กับเรื่องที่ฉันแอบแต่งงานกับภูผา และกลัวว่าพ่อจะลูกว่าแท้จริงแล้วน้องไทม์ไม่ใช่ลูกของเพื่อน แต่เป็นลูกของฉันเอง
ในช่วงบ่าย ขณะที่ฉันกำลังกลับมาที่คฤหาสน์ของภูผา ฉันได้รับโทรศัพท์จากแก้ว
“ลินิน… ฉันว่าแกต้องมาที่นี่แล้วล่ะ” เสียงแก้วปลายสายฟังดูเคร่งเครียดและกระวนกระวาย
“มีอะไรเหรอแก้ว น้องไทม์เป็นอะไรไป!” ฉันถามด้วยความร้อนรน
“ไม่ใช่แค่น้องไทม์หรอก” แก้วตอบเสียงสั่น “มีคนแปลกหน้ามาที่ห้อง เขาอ้างว่าเป็นคนของภูผา… และเขาถามหาแก”
หัวใจของฉันหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม ‘เขามาแล้วจริง ๆ ด้วย!’
“แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ไหน” ฉันถามเสียงสั่น “น้องไทม์ปลอดภัยดีใช่ไหม”
“น้องไทม์อยู่กับฉัน ไม่ต้องห่วงนะ” แก้วตอบ “แต่พวกเขาบอกว่าจะรอจนกว่าแกจะกลับมา”
ฉันแทบจะวางสายและรีบกลับไปที่ห้องเช่าทันที ความกังวลและความหวาดกลัวเข้าครอบงำฉันไปทั่วทั้งร่าง ลางสังหรณ์ที่ไม่เป็นมงคลกำลังชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
ฉันรู้ดีว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้ากับความจริงที่ฉันพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด อดีตกำลังจะกลับมาทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยทำผิดพลาดไว้
ฉันได้แต่ภาวนาให้ฉันเข้มแข็งพอที่จะรับมือกับทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ฉันจะต้องปกป้องน้องไทม์ให้ปลอดภัยให้ได้