"เถียนลี่ลี่ เจ้าจะเหม่ออันใด รีบไปดูท่านชายเร็ว!"
..ไม่เหม่อได้เหรอ จู่ๆ ก็มาอยู่ในยุคโบราณแบบงงๆ เป็นใครก็ปรับตัวไม่ทันภายในสามนาทีหรอกนะ
"คืองี้นะ.."
"ยังจะมาพูดจาประหลาดอีก ไม่ไปตอนนี้เจ้าได้ตายแน่"
หยุดคิดไปสักพัก เพราะตอนนี้หลายอย่างประเดประดังเข้าหัวไม่หยุด ความจริงหลายอย่างน่าตกใจเกินไป ทั้งมาเข้าร่างคนอื่น ทั้งยังเรื่องที่อดีตเจ้าร่างเดิมที่ปากดีไม่คิด ประกาศว่าตัวเองสามารถรักษาโรคให้คุณชายได้ จึงตอบรับคำท้ากับหมอหญิงที่ตนเองทะเลาะด้วย
แล้วไม่อยู่เก็บกวาดเรื่องที่ตัวเองสร้างด้วยนะ
"ต้องไปที่ไหน?"
"บ้านคุณชายน่ะสิ"
มองสำรวจตัวเองและข้าวของ มีแค่ย่ามเล็กๆ สองมือและสองเท้า แม้ว่าจะอยู่ในชุดหมอหญิงสีอ่อนเก็บผมด้วยผ้าสามเหลี่ยมคล้ายไม่ให้ปอยผมตกลงมาตอนตรวจ ส่วนผมก็เกล้าขึ้นแล้วเสียบปิ่นเงินเล็กเอาไว้
จวนตระกูลหวางส่งรถม้ามารับอย่างดี ดังนั้นการมาครั้งนี้จึงเป็นตนเองที่ต้องมารับหน้าโดยลำพัง กระทั่งอาจารย์ยังทำเป็นมองไม่เห็นและไม่ยื่นมือช่วยเหลือ
เธอเป็นแค่คนที่จู่ๆ ก็มาเข้าร่างผู้หญิงอายุยี่สิบที่มีความรู้นิดหน่อยเกี่ยวกับยาและการรักษาเบื้องต้น แต่กับตัวตนที่มาใหม่กลับเป็นเพียงนักศึกษาการตลาดปีสาม ที่อ่านหนังสือหนักเกินไปจึงได้หัวใจหยุดเต้นกะทันหันและถูกดึงมาเข้าร่างนี้
เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ถ้าสิ่งที่เถียนลี่ลี่ได้โม้เอาไว้แล้วทำไม่สำเร็จ รับรองได้ว่า ถูกตระกูลหวางที่เป็นตระกูลใหญ่ทางการค้าจับตัวส่งทางการ แล้วติดคุกไม่มีโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวันอีกอย่างแน่นอน
"เอาวะ ก็แค่โรคนกเขาไม่ขัน ดูคลิปลับมาเยอะขนาดนี้ อย่างน้อยต้องมีสักท่าที่ช่วยแก้ปัญหาได้บ้างแหละ"
ปลุกใจตัวเองแล้วเดินลงจากรถม้า เพียงเห็นท่านพ่อบ้านและสาวใช้จำนวนหนึ่งยืนรออยู่ จึงได้โค้งกายเล็กน้อยแล้วพยามเอ่ยด้วยท่าทางน่าเชื่อถือมากที่สุด
"ท่านพ่อบ้าน อย่างไรการรักษาจะต้องเป็นความลับ ดังนั้นช่วยข้าเรื่องหนึ่งได้หรือไม่เจ้าคะ"
"ท่านหมอหญิง เรื่องนี้จะไม่เหมาะสมกับท่านเอานะขอรับ"
"ข้าน้อยเป็นหมอ เพราะฉะนั้นย่อมต้องทำสิ่งที่ดีเพื่อผู้ป่วยที่ตนเองจะต้องดูแล รบกวนท่านด้วยเจ้าค่ะ"
พ่อบ้านตระกูลหวางมองสีหน้าของหมอหญิงที่หมดจดเกลี้ยงเกลา ถ้าเป็นสตรีผู้อื่นจะต้องมีท่าทางกระอักกระอ่วนเมื่อต้องรักษาเรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน แค่พูดถึงก็ยังต้องหน้าแดง แต่กับหมอเถียนลี่ลี่ นางกลับกล่าวกับเขาด้วยท่าทางปรกติ
ไร้ความเขินอายหรือแววหวั่นไหวใดทั้งสิ้น
จึงได้กล่าวด้วยความไม่แน่ใจ "เช่นนั้นข้าจะเข้าไปเรียนเรื่องนี้กับคุณชาย ตามข้ามาก่อนเถิดท่านหมอเถียน"
ตามท่านพ่อบ้านมายังเรือนคุณชายหวางคนโต ชื่อว่าหวางต้าหยาง รอไม่นานพ่อบ้านจึงออกมาเปิดประตูแล้วผายมือเข้าไปด้านใน
"เชิญท่านหมอ"
"เจ้าค่ะ"
ผู้ทะลุมิติเข้ามาแบบงงๆ ตอนนี้ต้องเรียกความกล้าของตัวเองอย่างหนักหน่วง กระทั่งคิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องทำอะไรเพื่อตรวจดูอาการของเขา
เพียงเดินเข้ามา ก็เห็นเจ้าของเรือนกายสูงนั่งจิบชารอที่ชุดโต๊ะไม้ขัดเงากลางห้อง เบื้องหลังยังเป็นเตียงหลังใหญ่ที่มีม่านสีอ่อนประดับเอาไว้ ดูเหมือนเขาจะชอบความเป็นส่วนตัว
จึงได้กล่าวกับเข้าด้วยท่าทีสุภาพ
"คารวะคุณชายใหญ่ ข้าน้อยเถียนลี่ลี่ เป็นหมอหญิงที่จะมาดูอาการท่านเจ้าค่ะ"
นัยน์ตาเรียวเพียงเหลือบมองแล้วสนใจชาอุ่นที่อยู่ในมือ เสียงทุ้มกล่าว "ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องมารักษาหรือ?"
"เรียนคุณชายใหญ่ ก่อนรักษาข้าน้อยก็ต้องตรวจอาการก่อนเจ้าค่ะ ไม่อาจรักษาทั้งที่ไม่รู้ว่าอาการที่แท้จริง ว่าเกิดจากป่วยเพราะร่างกายหรือป่วยเพราะใจ"
"เจ้ากำลังคิดว่าข้าอาจทุกข์ใจจนป่วย?"
"ข้าน้อยไม่อาจคาดเดาส่งๆ ย่อมต้องตรวจก่อนเจ้าค่ะ"
"เจ้าคิดว่าอยากดูก็ดูได้หรือ?"
"ถ้าคุณชายใหญ่อยากหาย ก็ต้องให้ข้าน้อยลองดูเจ้าค่ะ"
"รู้ผลของการหลอกลวงหรือไม่?"
"ย่อมเข้าใจว่าคุณชายใหญ่ได้เตรียมให้พ่อบ้านแจ้งคนของทางการมาจับโทษฐานหลอกท่าน เพียงแต่ข้าน้อยเป็นหมอก็ต้องตรวจอาการตามขั้นตอน เรื่องอื่นหลังจากนี้ค่อยว่ากันภายหลังเจ้าค่ะ"
หวางต้าหยางไม่เอ่ยสิ่งใด เขาเองก็อยากรู้ว่านางมีลูกไม้ใดกันแน่ รักษาได้จริงหรือเพียงต้องการใช้เรื่องนี้มาใกล้ชิดพวกเขาเท่านั้น เดินไปนอนลงบนเตียงแล้วเอ่ย
"มาสิ"
เถียนลี่ลี่เดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างเตียงแล้วไม่มองเขาแม้แต่น้อย แต่ก็รู้ว่าเขามองมาที่ตนเองอยู่
"ข้าต้องสัมผัส"
"ได้ ต้องถอดหรือไม่?"
"ถ้าตรวจธรรมดาแล้วหาสาเหตุไม่ได้ ก็ต้องรบกวนคุณชายใหญ่เจ้าค่ะ"
"เจ้าช่างเป็นสตรีที่แปลกเสียจริง เป็นหมอหญิงต้องทำถึงเพียงนี้เลยหรือ?"
"ในเมื่อข้าน้อยเคยกล่าวเอาไว้ ก็ต้องทำให้ได้"
หวางต้าหยางเพียงใช้สายตานิ่งๆ จับจ้องอีก พยามไม่สนใจว่านางจะทำสิ่งใด ดังนั้นจึงได้เผลอเกร็งจนนัยน์ตาเรียวบังเกิดแววหวาดระแวงขึ้นมา
เถียนลี่ลี่ทาบฝ่ามือลงตรงกลางกาย ที่คิดว่าเป็นตำแหน่งของผู้ชายน่าจะอยู่ตรงนั้น แต่หวางต้าหยางกลับขยับกายแล้วเอ่ย "ยังไม่รู้เรื่องอีกหรือ?"
"อย่าใจร้อนเจ้าค่ะ"
ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดที่เคร่งครัดและถือตัวเป็นอย่างยิ่ง เขาอดกลั้นกับมือน้อยที่ลูบคลำกลางกายตนเองจนเผลอกลั้นหายใจ กระทั่งเสียงเล็กเอ่ยทั้งที่ไม่ได้มองหน้าเขาสักนิด
"ถอดกางเกงเจ้าค่ะ"
"นี่เจ้า.."
"เร็วเจ้าค่ะ ข้าต้องกลับไปรักษาผู้อื่นที่สำนักอีก"
เขาดึงเชือกที่ผูกเอวตนเองเอาไว้ แต่เพราะอาภรณ์เป็นแบบคลุมยาว เมื่อเอาออกจึงเผยลำตัวให้เห็นหน้าท้องแน่นตึงที่มีกล้ามเนื้อเรียงกันงดงาม
แต่ดวงหน้าเล็กกลับไม่ได้สนใจ นางร่นกางเกงของเขาลงแล้วมองแก่นกายที่หลับใหลอยู่โดยที่ไม่พบแม้แต่แววประหม่า
เพียงเห็นว่ามือน้อยจับที่ของสงวน จึงได้เอ่ยรั้งอย่างลืมตัว "เดี๋ยวสิ ข้า.."
"ท่านทำให้ข้าใช้เวลามากเกินไป" เอ่ยเพียงเท่านั้นก็วางมือที่เจ้าเนื้อนุ่มนิ่มที่หลับสงบไม่กระดิกแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงได้กำเอาไว้แล้วเริ่มชักรูด