ไม่ต้องมาไล่หนูพราวไม่ไป 2

1607 คำ
“เออ รู้ก็ดีแล้วว่าตอนนี้เวลาทำงาน” หัสดินทร์พูดจบก็เดินนำไปยังห้องประชุมทันที พายัพส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะจูงมือพราวนภาให้ตามไปหญิงสาวยังคงเจื้อยแจ้วหัวเราะเสียงใสเมื่อพายัพพูดถูกอกถูกใจ หลังจากประชุมเสร็จ พราวนภาก็ต้องจัดทำเอกสารร่วมกับเลขาฯ ของพายัพ ปล่อยให้สองเพื่อนรักนั่งคุยกันเพียงลำพัง “มีอะไรจะถามก็ถามสิวะไอ้ดิน อย่าลีลา” พายัพเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทางอึดอัดของเพื่อนรัก “พูดอะไรไอ้เหนือ ไม่เห็นเข้าใจ” “เออ ตามใจละกัน กลับไปได้แล้ว ฉันจะทำงาน” “อะไรวะ มาไล่กันได้ไง ไม่กลับโว้ย” “เออ...เรื่องของแก” สองหนุ่มนั่งมองหน้ากันเงียบๆ ก่อนที่พายัพจะหยิบงานมาทำ แต่หัสดินทร์ก็ดึงออกจากมือเขา “ไอ้เหนือ” “อะไรนี่ไอ้ดิน อย่ามากวนนะโว้ย” “..........” “ไอดิน” คราวนี้น้ำเสียงของเพื่อนรักเข้มขึ้นแสดงถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไป “เออๆ ฉันอยากรู้เรื่องของพราวนภากับแก” ในที่สุดความอยากรู้ก็ชนะทุกสิ่ง “หึๆ ก็แค่เนี้ย ทำเป็นลีลาอยู่ได้” พายัพหัวเราะหึๆ “เออ ที่นี้แกเล่าได้ยัง” คราวนี้เป็นหัสดินทร์บ้างที่เสียงเข้มใส่ “เออๆ หนูพราวน่ะฉันรู้จักมานานตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก เราสนิทกันมากๆ หนูพราวมาเรียนที่เชียงใหม่ ตอนนี้ก็จบแล้ว พ่อเขาจะให้แต่งงานกับลูกชายเพื่อนตามคำโบราณที่ว่าเรือล่มในหนองทองจะไปไหน หนูพราวไม่ยอมก็เลยมาขอให้ฉันช่วย ฉันเลยให้มาทำงานกับแกที่นี่ไง” ชายหนุ่มอธิบายแบบรวบรัดตัดตอนให้เพื่อนรักฟัง “อ้าว แล้วที่เขาบอกว่าแกเป็นอาจารย์บรรยายอะไรนั่นล่ะ” “มันก็ส่วนหนึ่ง นอกนั้นหนูพราวคงเติมเองแหละ เอาน่า ถือว่าช่วยเด็กตาดำๆ ละกัน ขืนส่งกลับตอนนี้ มีหวังถูกจับแต่งงานแหงๆ” “แล้วพ่อเขาไม่ว่าหรือที่เขามาอยู่กับแก” หัสดินทร์หรี่ตามองเพื่อนที่แสร้งทำหน้าเหลอหลา “ใครบอกว่ามาอยู่กับฉัน หนูพราวมาอยู่กับแกต่างหากไอ้ดิน แบบว่าหนีตามคนรักไปประมาณนั้น ตอนนี้พ่อเขาก็กำลังตามหาอยู่ได้ยินว่าถ้าเจอตัวผู้ชายคนนั้นเมื่อไร คงได้ตายกันไปข้าง” คำพูดของเพื่อนรักทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว สรุปว่าเขาคือแพะรับบาป แถมยังถูกล่าอีก “ไอ้เหนือ ทำอะไรแบบนี้วะ แกนี่มัน...มัน” หัสดินทร์ชี้หน้าเพื่อนมือไม้สั่น “เอาน่าไอ้ดินช่วยๆ หน่อย แกเองก็ดูจะพอใจหนูพราวนี่หวา... อ๊ะ อ๊ะ อย่าปฏิเสธ เพราะฉันเห็นแววตาหึงหวงของแก” พายัพดักคอเพื่อนอย่างรู้ทัน เพราะเขาไม่เคยเห็นหัสดินทร์มีทีท่าแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน อีกอย่างแววตาของเพื่อนรักบ่งบอกชัดเจนว่าคิดกับพราวนภาเกินคำว่าเจ้านายกับลูกน้อง “แล้วทีนี้จะทำไงวะ” “ก็ไม่ทำไง” “ไอ้เหนือ” คราวนี้พ่อเลี้ยงฝั่งโคนมถึงกับขึ้นเสียงกับท่าทางกวนประสาทของเพื่อนรัก “แกก็ทำตัวปกติ ทำงานอยู่กับวัวอยู่ในไร่ของเรา แล้วก็ดูแลหนูพราวดีๆ มีเมียเด็กนี่ดีนะโว้ยไอ้ดิน มันกระชุ่มกระชวยหัวใจ ฮ่าๆ” แทนที่จะหาวิธีช่วยเหลือดันหัวเราะเยาะอีกมันน่านัก “ไอ้เหนือ แก...แก...” ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาต่อว่าเพื่อนรักนอกจากสะบัดหน้าเดินออกจากห้องไป “ฉันหวังดีกับแกนะโว้ยไอ้ดิน ฮ่าๆ” พายัพตะโกนตามหลัง “เออขอบใจ” หัสดินทร์ประชดเข้าให้ ทางด้านกานพลู “มาสมัครงานค่ะ” น้ำเสียงหวานใสดังขึ้นที่หน้าโต๊ะทำงาน ของฝ่ายบุคคล “นั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวเอาใบสมัครให้กรอก” เจ้าหน้าที่ส่งยิ้มให้อย่างสุภาพ หญิงสาวเดินตรงไปนั่งรอยังโต๊ะรับแขก สายตาคู่งามกวาดมองรอบๆ ด้วยความชื่นชม โรงงานแปรรูปนมวัวของ Crown Farm เป็นโรงงานผลิตนมที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ ใครๆ ก็อยากเข้ามาทำงานที่นี่เพราะเงินเดือนดี สวัสดิการก็เยี่ยม พนักงานน้อยคนนักจะลาออกถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ “กรอกเอกสารเสร็จแล้วรอสัมภาษณ์จากผู้จัดการฝ่ายการตลาดเลยนะคะ คุณจันทร์ฉายเธออยู่พอดีค่ะ แต่ตอนนี้เธอกำลังประชุมกับพ่อเลี้ยงอยู่ รอก่อนนะคะ” “ขอบคุณค่ะพี่” หญิงสาวกรอกเอกสารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พาเธอไปนั่งรอที่หน้าห้องผู้จัดการฝ่ายการตลาด เกือบชั่วโมงจึงถูกเรียกเข้าไปสัมภาษณ์ “เชิญคุณเข้าไปสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ” เลขาฯ สาวใหญ่ของผู้จัดการเดินออกมาเรียก “ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” หญิงสาวยิ้มหวานส่งให้พนักงานสาวก่อนจะเดินตามเธอเข้าไปในห้อง “มาแล้วค่ะคุณจันทร์ฉาย พ่อเลี้ยง” “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ก่อนจะเงยหน้าขึ้น แต่แล้วเธอก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ข้างจันทร์ฉาย “ละ...ลุ...” เกือบไปแล้ว เกือบจะเอ่ยทัก ถ้าไม่สบเข้ากับดวงตาแสนดุดันเฉยชาหนอยแนะทำเป็นไม่รู้จักกันใช่ไหม ฮึ หญิงสาวเชิดหน้าขึ้น ริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มเข้าหากันแน่น รู้สึกน้อยใจขึ้นมาในอก อีตาหนวดคอยดูนะจะไม่คุยด้วยเลย โทรมาก็จะไม่รับด้วย แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งออกจากภวังค์เมื่อเสียงหวานใสของผู้จัดการสาวเอ่ยขึ้น “เชิญนั่งสิจ๊ะ” ผู้จัดการสาวเอ่ยด้วยใบหน้าที่เจือไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเปิดแฟ้มประวัติของเธอ “ชื่อกานพลูหรือ เพราะดีนะ เพิ่งเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์ทางด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์” ผู้จัดการสาวส่งแฟ้มให้เจ้านายพิจารณา “เอ่อค่ะ” “ทางโรงงานของเราต้องการคนที่เป็นมืออาชีพและมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง สินค้าของเราทุกชนิดจะต้องมีแพ็กเกจที่ดูดีดึงดูดความสนใจของลูกค้า” ผู้จัดการสาวพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เอ่อค่ะ” “หนูคงต้องหาประสบการณ์เพิ่มเติมให้มากกว่านี้ แล้วค่อยมาสมัครงานใหม่นะจ๊ะ” ทั้งน้ำเสียงและแววตาของผู้จัดการสาวมีแต่การดูแคลนและปิดโอกาสนักศึกษาจบใหม่อย่างเธอ “หนูคงหาประสบการณ์ที่ไหนเพิ่มเติมไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าถูกปิดโอกาสตั้งแต่แรกเริ่ม คนที่จบใหม่ทุกคนต้องการประสบการณ์ทั้งนั้น เราจะมีได้อย่างไรถ้าไม่ได้เริ่มทำงาน คุณถามหาประสบการณ์ แต่คุณลืมไปหรือเปล่าว่าทุกอย่างมันก็ต้องมีครั้งแรกทั้งนั้น โอกาสที่คุณควรหยิบยื่นให้คนที่เรียนจบใหม่อย่างหนู มีบ้างหรือเปล่า” กานพลูเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกผิดหวังแอบเหวี่ยงเล็กๆ เมื่อหันไปมองคนหน้านิ่งข้างกายผู้จัดการสาว “พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง Crow Fram เป็นบริษัทใหญ่พนักงานทุกคนล้วนมีความสามารถถ้าเราให้โอกาสกับเด็กจบใหม่ทุกคนคงจะไม่ไหวมั้งคะหนู” ผู้จัดการสาวเอ่ยยิ้มๆ พยายามระงับความไม่พอใจ ที่ถูกเด็กจบใหม่พูดให้เธอดูเหมือนไร้น้ำใจ ดูเป็นคนใจแคบในสายตาของ พายัพ “เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณที่ให้โอกาสเข้ามาสัมภาษณ์นะคะ” “พรุ่งนี้มาทำงานได้เลยภายในหนึ่งเดือนพิสูจน์ตัวเองให้ฉันเห็นว่าเธอมีความสามารถมากพอที่จะทำงานที่นี่ ก็จะถือว่าผ่านโปร ว่าไงกานพลูตกลงไหม” คนที่นั่งนิ่งอยู่นานเอ่ยทะลุกลางปล้องเมื่อเห็นว่ายายขี้เมาของเขาหน้าสลดลงด้วยความผิดหวัง... “พ่อเลี้ยงคะ แต่ว่า...” พ่อเลี้ยงหนุ่มโบกมือเป็นเชิงห้ามปราม “ว่าไงล่ะ ตกลงไหม” ชิ ทีอย่างนี้มาพูดกับเธอได้นะอีตาหนวด “ตกลง” กานพลูรับปากก่อนจะสะบัดหน้าหนีเขาไปอีกทางอย่างแสนงอน ชายหนุ่มได้แต่อมยิ้มตาพราวกับท่าทางของเธอ “เริ่มงานพรุ่งนี้ก็แล้วกันต้นเดือนพอดี รายละเอียดเธอไปคุยกับฝ่ายบุคคลก็แล้วกัน” จันทร์ฉายยกหูโทรศัพท์สั่งงานก่อนจะหันมาบอกกับเธออีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม “หวังว่าหนูคงไม่ทำให้พ่อเลี้ยงผิดหวังล่ะ” “ขอบคุณผู้จัดการมากๆ ค่ะที่ให้โอกาส” กานพลูพนมมือไหว้ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงไปยังประตู “คืนนี้จะโทรหานะครับแล้ว พรุ่งนี้ 7.30 น. พบกันนะครับยาหยี” ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินมากระซิบกับเธอให้พอได้ยินกันสองคน “คนบ้า” หญิงสาวทำปากขมุบขมิบด่าเขาก่อนที่พ่อเลี้ยงหนุ่มจะเปิดประตูแล้วเดินออกไปก่อน “เมื่อกี้พ่อเลี้ยงพูดอะไรกับเธอ” “เปล่าค่ะ” “เปล่าได้อย่างไร อย่าคิดว่าพ่อเลี้ยงรับเธอเข้าทำงานแล้วเธอจะผ่านโปร เพราะฉันคือคนที่จะประเมินเธอ และเป็นคนที่จะเขี่ยเธอออกจากที่นี่เมื่อไรก็ได้ จำเอาไว้ อย่ามากำเริบกับฉัน บอกมาว่าคุยอะไรกับพ่อเลี้ยง” ผู้จัดการสาวพูดจาข่มขู่ แต่หารู้ไม่ว่าใช้ไม่ได้กับคนอย่างกานพลู “เรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับงาน ขอตัวก่อนนะคะ” การพลูไหว้อีกครั้ง ก่อนจะเดินเชิดหน้าออกไป “หนอยแน่ะ ยายผู้จัดการ คิดจะมาดูถูกเด็กจบใหม่อย่างไอ้พลู รู้จักเราน้อยไปซะแล้ว เอ๊ะ...หรือว่ายายนั่นจะหวงลุงหนวดกับเรา ต้องใช่แน่ๆ เลย อย่างนี้ก็สนุกสินะ” เด็กสาวหัวเราะคิกคักตาพราวระยับ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม