ผู้ชายที่ขโมยจูบเธอ แถมยังพูดดูถูกเหยียดหยามเธอจนรู้สึกเจ็บแปลบในใจ แต่ทำไมเธอถึงโกรธเขาไม่ลงนะ หรือเพียงเพราะคำพูดให้กำลังใจที่ได้ยินจากเขามาเมื่อวันก่อน เพียงแค่นั้นจริงๆ เหรอ? คิดอยู่นานก็ยังไม่มีคำตอบใดๆ ผุดขึ้นมาในหัวของหญิงสาวเลยสักนิด
ร่างบางเดินไปหยิบบัวรดน้ำขนาดย่อมมารดน้ำต้นไม้ที่เขาปลูกช้าๆ ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน หญิงสาวพบแฟ้มเอกสารเล่มใหญ่วางอยู่บนโต๊ะ มือเล็กหยิบขึ้นมาแล้วไล่เปิดดูทีละหน้าอย่างตั้งใจ ในแฟ้มนั้นมีแบบบ้านมากมายที่ธาวินตั้งใจจะนำมาให้เธอดูในวันนี้ แต่เจ้าของแฟ้มเล่มนี้กลับไม่อยู่เสียแล้ว...
แสงสว่างกำลังจะเลือนหายไป ตอนนี้ตะวันกำลังจะลับขอบฟ้า เป็นเวลาที่ธีภพกลับบ้านหลังจากเคลียร์งานเสร็จ ชายหนุ่มมาพร้อมกับแฟนสาวชื่อนิศา เพื่อนร่วมงานคู่ใจที่ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกันจนมีทุกวันนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง แถมยังจิตใจดี เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในทุกๆ ด้านจริงๆ แต่นิศากลับเลือกทิ้งความสุขสบายเพื่อมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับธีภพด้วยความเต็มใจ
ธีภพวางถุงกับข้าวที่เขาซื้อมาเยอะจนเต็มสองมือลง ก่อนจะเดินไปหาน้องสาวที่นอนขดตัวอยู่บนโซฟา แม้ทีวียังคงเปิดอยู่ ทว่าวรารีกลับหลับไปแล้ว ในมือของหญิงสาวจับแฟ้มเอกสารเล่มหนาไว้แน่น ธีภพถึงกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ก่อนจะหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาเปิดอ่านช้าๆ
“น่าจะเป็นของพี่เจสนะคะ” นิศาชะโงกหน้ามาดูแฟ้มในมือของแฟนหนุ่ม “สงสัยจะตั้งใจดูจนหลับไปเลยมั้งคะ”
“ตั้งใจทำเพื่อพี่ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” ธีภพมองน้องสาวด้วยความสุขใจ
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังสนทนากัน เสียงโทรศัพท์ของนิศาก็ดังขึ้น หญิงสาวขอตัวเดินออกไปรับสายข้างนอก เพราะคนที่โทรมาก็คือธาวิน เขาบอกกับเธอว่าได้ติดต่อสถาปนิกคนใหม่มารับงานต่อจากเขาแล้ว ธาวินขอปฏิเสธที่จะทำงานนี้ แล้วก็วานให้นิศาเอาแฟ้มที่ลืมไว้มาให้เขาที่บริษัทด้วย
ธีภพมองว่าที่ภรรยาขณะกำลังเดินกลับมาด้วยความสงสัย เพราะสีหน้าท่าทางของเธอดูจะเปลี่ยนไปจากเดิม “มีอะไรรึเปล่านิศา”
“พี่ตะวัน ศาว่าเราคงเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ น่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรไม่ดีก่อนที่พวกเราจะมาถึงแน่ๆ จู่ๆ พี่เจสก็โทรมาบอกกับศาว่าขอยกเลิกงาน”
“จริงเหรอคะ” วรารีที่เพิ่งจะงัวเงียตื่นรีบพูดแทรกด้วยสีหน้าตกใจ เธอไม่คิดว่าธาวินจะทำอย่างที่พูดไว้จริงๆ “แล้วเขาบอกว่าอะไรอีกเหรอคะ จะหาคนให้เหรอคะ?”
“แปลว่าเรากับคุณเจสมีปัญหากันจริงๆ ใช่ไหม?” ธีภพเอ่ยถามน้องสาวที่ตอนนี้ดูร้อนรนชอบกล
ฝั่งธาวิน ชายหนุ่มขับรถกลับคอนโดอย่างหัวเสีย หลังจากทีโทรบอกนิศาเสร็จแล้วเขาก็รู้สึกหงุดหงิดหนักกว่าเดิม เพราะเขาไม่ได้อยากจะยกเลิกงานนี้ แต่เพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่จะลบล้างความผิดของตนได้ และวิธีนี้คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
ธาวินก้าวมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องปวดหัวหนักกว่าเดิม เพราะเสียงดนตรีที่เล็ดลอดออกมาจากอีกด้านของประตู ทำให้คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนจะผูกเป็นปมได้ ชายหนุ่มรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของน้องสาวตัวแสบ คงจะชวนเพื่อนมาจัดปาร์ตี้ที่คอนโดโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตอีกแน่ๆ
ทันทีที่ธาวินก้าวเข้าไปข้างใน เสียงซุบซิบของเหล่าบรรดาเพื่อนของน้องสาวก็ดังขึ้น สายตาทุกคู่พลันจ้องมองมาที่ธาวินเป็นสายตาเดียวกัน อกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนิดๆ ของชายหนุ่ม ทำให้เขาถูกมองราวกับจะถูกกลืนกิน
“กลับมาแล้วเหรอพี่เจส” ร่างเล็กร้องแจ้วมาจากห้องครัว นั่นเป็นเสียงของน้องสาวธาวิน เธอเป็นเด็กสาวมหาลัยปี2 อายุราวๆ 20 ปี ใบหน้าจิ้มลิ้มเพราะได้พันธุกรรมดีเช่นเดียวกับพี่ชาย
“มาสนุกกับเพื่อนหนูไหม?” น้องสาวตัวดีสะกิดเพื่อนให้เข้าไปดูแลพี่ชายที่กำลังทำหน้าหงุดหงิด
หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหาธาวินด้วยสายตายั่วยวน เธออยู่ในชุดเดรสสั้นคอกว้างจนเห็นเนินอกขาวที่แทบล้นทะลักออกมา ขาเรียวยาวของหล่อนหยุดอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มในระยะประชิด พลางโยกตัวไปมาตามจังหวะเสียงเพลง นิ้วเรียวของหญิงสาวไล้ตามหน้าอกแกร่งของธาวินอย่างชอบใจ หุ่นเพรียวราวกับนางแบบช่างยั่วยวนให้เสือร้ายกระโจนเข้าใส่ยิ่งนัก แต่ไม่ใช่เสือหงอยตัวนี้ ต่อให้เธอเอาหน้าอกอันมหึมามาเบียดเสียดตัวเขาเพียงใด ร่างสูงก็ยังคงยืนแน่นิ่งไม่ไหวติง แม้ว่าความนุ่มนิ่มของอกอวบขาวที่แทบล้นทะลักคู่นั้นจะพยายามล่อลวงจิตใจชายหนุ่มก็ตาม ทว่าธาวินในตอนนี้กลับไม่มีอารมณ์ร่วมใดๆ เลย
ธาวินจับมือของหญิงสาวที่กำลังคลอเคลียเขาออกไกลตัว พลางยิ้มเล็กๆ แทนคำขอโทษที่เสียมารยาท ก่อนจะหันไปทำหน้าดุใส่น้องสาวที่ขยันยัดเยียดผู้หญิงให้พี่ชายได้ทุกวี่ทุกวัน
“อย่าเสียงดังล่ะ พี่จะทำงาน” พูดจบร่างสูงก็รีบเดินเข้าห้องนอนก่อนที่จะหมดความอดทน เวลาผ่านไปไม่นานน้องสาวตัวดีของธาวินก็มาเคาะประตูเรียก
“พี่เจส เปิดประตูให้เดียร์หน่อยสิ” ตอนนี้ทุกอย่างได้กลับคืนสู่สภาวะปกติ ปาร์ตี้ที่แสนวุ่นวายจบลงในระยะเวลาอันสั้น