จำไม่ได้

1620 คำ
1 มกราคม​ 2566 กลับมาเหยียบผืนแผ่นดินไทยวันแรกฝนก็ตกโปรยปราย​เชียว​ ยืนกางร่มอยู่ที่ป้ายรถเมล์​เพื่อรอเจอใครบางคนหลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้ามาเกือบสองปี​ป่านนี้คงจะโตขึ้นเยอะแล้วล่ะ พูดเหมือนนานมากแต่สำหรับผมจะสองวันก็เท่ากับสองปี​ จะสองปีก็เท่ากับสิบปี! ทำมาดเท่กางร่มยืนท่ามกลางสายฝนประหนึ่งเป็นพระเอกซีรีส์เกาหลี​ ชุดสูทที่สวมใส่ทำให้ดูดีขึ้นอีกระดับ​ ส่องสายตามองไปรอบๆ​ ว่าเธอจะมาเมื่อไรเพราะนี่สี่โมงเย็นเป็นเวลาเลิกเรียน​ หัวสมองก็พลันนึกย้อนไปตอนที่อยู่ญี่ปุ่น​ อยากจะบอกว่าไปวันแรกก็ทำเอาน้ำตาร่วง​ มันรู้สึกแปลกที่แปลกถิ่นแถมยังต้องปรับตัวเยอะแยะไปหมด​ หนำซ้ำยังไม่มีอาหารไทยอร่อยๆ​ ให้กินอีกด้วย​ นี่โชคดีนะที่มีคนมาช่วยงานพ่ออีกแรงผมเลยได้อิสระและกลับมาบ้านเกิดที่รักของตนเอง​ ยายก็กลับมาเช่นกัน อยู่ที่นั่นไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงยัยเด็ก​ ไม่คิดว่าเด็กอายุสิบสองในวันนั้นจะทำให้ผมใจสั่นและตราตรึงใจ​มาถึงวันนี้​ ถ้าให้นับคร่าวๆ​ ตอนนี้แนทน่าจะอายุสิบแปดปีเห็นจะได้ และสิ่งที่ผมรอก็สมใจเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเดินตรงมา​ ทว่าเธอดูสวยออร่ามาแต่ไกล​แถมยังตัวสูงขึ้นกว่าเดิม​ ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มที่จำได้ฝังในหัวใจไม่คิดจะลืม แนทหยุดยืนข้างๆ​ พร้อมกับยกกระเป๋านักเรียนขึ้นมาบังฝนที่ร่วงโรย​ เธอส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้จากนั้นก็มองตรงไปยังอีกฝั่ง ยัยเด็กยังคงจำผมไม่ได้อยู่ดีสินะ​ "ทำไมยืนตากฝนแบบนั้นล่ะ​ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก" ถามพร้อมกับยื่นร่มที่มีอยู่คันเดียวให้เธอ​ "เอาร่มไปสิ" "ไม่เป็นไรค่ะ​ เดี๋ยวก็ขึ้นรถแล้ว" ปฏิเสธนิ่มๆ​ แล้วส่งยิ้มให้อีกครั้งอย่างแฝงความเกรงใจ "เอาไปเถอะ" "..." ยัยเด็กมีท่าทีลังเล "เอาไปสิ" เธอยอมรับร่มไปกางในที่สุด​ "ขอบคุณมากๆ​ นะคะ" เอ่ยขอบคุณแล้วก้มหัวลงเล็กน้อย และรถเมล์​ก็วิ่งมาจอดพอดี​ เธอก้มหัวให้ผมอีกครั้งก่อนจะขึ้นไป​ ผมเองก็ใช่ว่าจะปล่อยผ่าน​ ขึ้นตามไปแล้วนั่งลงข้างๆ​ คนตัวเล็ก แนทเพียงแค่มองหน้าผมชั่วครู่ก่อนจะละความสนใจไปดูบรรยากาศ​รอบนอกผ่านหน้าต่างรถ นั่งรถมาประมาณยี่สิบนาทีก็ถึงที่หมาย​ ยัยเด็กเดินลงจากรถ​ผมเองก็เดินลงตาม​ ไม่ได้ลืมจ่ายเงินแต่อย่างใดเพราะป้าแกเก็บตั้งแต่เดินขึ้นรถแล้ว คนตัวเล็กเดินนำหน้าไปเรื่อยๆ​ ก่อนจะหยุดยืนนิ่ง​ "ตามหนูมาทำไมคะ" หันมามองหน้าพร้อมขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม​ "คิดไม่ดีเหรอ?!" ยกร่มขึ้นทำท่าจะฟาดแต่ก็ยั้งมือไว้ "ใจเย็นๆ​ พี่มาดี" เดินตะล่อมๆ​ เข้าไปอย่างบริสุทธิ์ใจ​แล้วใช้มือแตะปลายร่มไว้ก่อนจะกดมันลงช้าๆ​ "แค่จะตามมาส่งเฉยๆ​ เห็นเป็นผู้หญิง" "..." มองหน้าเหมือนกำลังพิจารณา​อยู่​ว่าผมมันน่าไว้ใจหรือเปล่า "จำพี่ไม่ได้จริงๆ​ ดิ" "..." จดจ้องหน้าหนักกว่าเดิม "โอเคๆ​ จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร" "แล้วพี่จะตามหนูไปถึงไหน?" "ถึงบ้าน" "อย่างนั้นก็กลับไปเถอะ​ นี่ก็ใกล้จะถึงบ้านหนูแล้ว" "ไล่เหรอ" "เพื่อความปลอดภัยของตัวเองค่ะ" "เชื่อสิว่าพี่ไว้ใจได้" "ขอบคุณสำหรับร่มนะคะ" ยัยเด็กยื่นมันคืนให้​ "เก็บไว้เถอะ​ บ้านพี่มีเยอะแล้ว" ไม่รับคืนแถมยังอวดไปอีก​ จริงๆ​ นั่นร่มของยายที่ผมยืมมา​ กลับบ้านไปคงจะโดนบ่นหูชาอีกเป็นแน่ "ที่บ้านหนูก็มีเยอะแล้วเช่นกันแค่วันนี้ลืมเอาติดมือไปด้วย​ เพราะฉะนั้นรับคืนไปเถอะ" ยัดมันใส่มือโดยที่ไม่รอผมพูดอะไร​ "ยังไงก็ขอบคุณในความหวังดีนะคะ" ก้มหัวลงก่อนจะเงยขึ้นมาคลี่ยิ้มใส่​ "อ้าว​ ก้อนกลมหนีออกมาอีกแล้วเหรอ" เธอเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นอ่อนโยนก่อนจะวิ่งไปทางข้างหลังผมแล้วอุ้มแมวขนปุยตัวหนึ่งขึ้นมากอดมาหอม อิจฉาแมวนี่ผิดไหมวะ?! "เลี้ยงแมวด้วย?" "ไม่ได้เลี้ยงหรอกค่ะ​ แมวของบ้านข้างๆ​ พอดีเจ้าของไม่ค่อยสนใจมันเท่าไร​ เห็นแล้วสงสารหนูก็เลยชอบให้ข้าวให้น้ำมันกิน​ บางทีมันก็มานอนกับหนู" เธอพูดพร้อมรอยยิ้ม​ "มันชื่อก้อนกลม" แสดงว่ายัยเด็กคงจะเป็นทาสแมวสินะ "สวยแล้วยังใจดีอีก" เยินยอเธอพร้อมกับยื่นมือไปลูบเจ้าแมวเบาๆ เมี้ยว​ ~ ก้อนกลมมันส่งเสียงร้อง "ฮึ.." เธอหัวเราะในลำคอ​ "ผู้ชายที่เข้าหาก็มักจะชมแบบนี้ทุกคน" "อะไรนะ?!" ใครเข้าหา​ มันเป็นใคร​กัน​ ผู้หญิงหรือผู้ชาย?!!! "ทำไมพี่ถึงทำหน้าแบบนั้น" "บอกพี่ได้ไหมว่าเธอหมายถึงอะไรและใครเข้าหา" "อ๋อ​ ก็พวกผู้ชายแหละค่ะ​ หมู่นี้ชอบมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ​ แล้วมักจะชอบพูดว่าสวยแล้วยังใจดีอีกอะไรประมาณนี้" "..." พูดไม่ออกมันร้อนรุ่มอยู่ในอก ไอ้บ้าหน้าไหนมันกล้ามาวอแวยัยเด็กของผมวะ! "ขอตัวก่อนนะคะ" "เดี๋ยว​" รั้งแขนเธอไว้​ "คะ?" "ตอนนี้...มีแฟนยัง?" ถามไปก็รอลุ้นคำตอบจนตัวเกร็ง​ ใจก็ขอให้ตอบมาว่ายังไม่มี "พี่ล่ะมีหรือยัง?" เธอไม่ตอบแต่ถามผมกลับ "ไม่มี​ เก็บใจไว้ให้ใครบางคน" ตอบพลางกลอกตามองไปทางอื่น ก็คนมันเขินนี่หวา​ เธอสวยขึ้นเยอะ "เขินอะไรคะ?" "เปล่า​ ไม่ได้เขินสักหน่อย" รีบเก็บอาการแล้วพยายามทำตัวปกติ​ "เธอยังไม่ตอบพี่เลยว่าโสดไม่โสด" ย้ำถามอีกครั้ง "อายุแค่สิบแปดจะรีบมีทำไม​ หนูไม่หาเรื่องปวดหัวใส่ตัวหรอกค่ะ" เธอพูดพลางย่นหน้าพร้อมกับลูบขนปุยของก้อนกลมอย่างทะนุถนอม​ "ตอนนี้มีต้าวก้อนก็พอแล้ว" กดปลายจมูกหอมหัวแมวประหนึ่งมันเป็นลูกรัก "..." ให้ตาย! ที่บอกว่าอิจฉาแมวนี่ผมไม่ได้พูดเล่นนะ​ บ้าฉิบ!! "ขอตัวก่อนนะ​คะ" พูดจบก็หันหลังให้แล้วเดินจ้ำอ้าวไปโดยไม่สนใจใดๆ อะไรวะ? จำกันไม่ได้จริงๆ​ เหรอ เซ็ง! ในขณะที่ก้มหน้ามองพื้นอย่างน้อยใจก็มีเสียงใสตะโกนดังขึ้น​ "จะตามมาก็ไม่ว่าอะไรนะ...พี่คิง" ยัยเด็กยกยิ้มกว้างให้หนึ่งทีก่อนจะเดินไปต่อ "จำกันได้อยู่นี่หว่า" ผมถึงกับหลุดยิ้มอย่างดีใจแล้ววิ่งตามเธอไปติดๆ​ เดินไม่กี่ก้าวก็มาถึงบ้านที่แนทอาศัยอยู่​ มันเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสภาพเก่าแต่ไม่ถึงกับเก่ามาก​ ภายนอกทาสีครีมแล้วมีต้นไม้ในกระถางวางเรียงรายอยู่ภายในรั้วหน้าบ้าน​ ข้างๆ​ ก็มีบ้านสไตล์​เดียวกันอยู่ประมาณสิบกว่าหลัง "ย้ายมาอยู่ที่นี่นานหรือยัง" เอ่ยถามในขณะที่ยัยเด็กไขกุญแจบ้าน "ก็หลังจากวันนั้นแหละค่ะ​ วันที่พี่มาช่วย​ พ่อรู้สึกไม่สบายใจและอึดอัดกลัวว่ามันจะวกกลับมาข่มขู่อีกเลยเลือกย้ายมาอยู่นี่ดีกว่า​ ผู้คนเป็นมิตรและไม่ค่อยคิดปองร้ายกัน" แนทหันมาตอบพร้อมประตูบ้านที่เปิดออก​ เธอเดินนำเข้าไปส่วนผมเดินตามก่อนจะนั่งลงที่พื้นเนื่องจากมันไม่มีโซฟา​ "ถ้ารู้สึกไม่โอเคจะกลับเลยก็ได้นะคะ" "บ้าเหรอ​ พี่ยังไม่ได้พูดเลย​ อีกอย่างคนอย่างพี่ไม่ใช่ผู้ลากมากดีที่จะทำตัวติดดินไม่เป็น" ตอบด้วยใจจริงแล้วมองสำรวจรอบๆ​ ภายใน​ บ้านดูสะอาดเรียบร้อย​ ของตกแต่งน้อยแต่ดูสบายตา​ อาจจะแคบนิดหน่อยแต่ถ้าอยู่สองคนก็คงจะสบายๆ​ ไม่อึดอัด​ "ลุงไปทำงานเหรอ?" ถามออกไปเพราะว่าไม่เห็นลุงแกอยู่ "สองปีแล้วยังไม่กลับเลย" คนตัวเล็กเดินมาพร้อมกับน้ำเปล่าขวดหนึ่ง​แล้วยื่นให้​ "จะกระดกหรือใส่แก้วดี" "ได้หมด" รับขวดน้ำมาพร้อมกับคาใจในคำพูดเมื่อครู่ของยัยเด็ก​ "ทำงานที่ไหนทำไมสองปียังไม่กลับ" "บนฟ้าค่ะ" รอยยิ้มที่ปะปนความเศร้าเผยออกมาพร้อมกันบนใบหน้าของแนท "โอเคไหม" เลือกที่จะถามความรู้สึกแทนเหตุผล​แล้วดึงมือเธอเบาเพื่อให้นั่งลงข้างๆ​ "แนทโอเค​ อาจจะมีบ้างที่คิดถึงแล้วเศร้า​ แต่พอคิดว่าเลือดครึ่งหนึ่งในตัวเราก็มีของพ่ออยู่มันก็ดึงสติตัวเองกลับมาเข้มแข็งได้" ตอบพร้อมรอยยิ้ม "เข้มแข็งและเก่งมากนะรู้ตัวไหม" เอ่ยชมพลางใช้มือลูบผมยาวไปมาอย่างอ่อนโยน เธอเองก็ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวหรือระแวงอะไรผมเลยแม้แต่น้อย​ แถมยังเอียงหัวให้ลูบด้วยซ้ำ​ "ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ" "เหงาไหม?" "เหงาบ้างเป็นบางเวลาค่ะ" "ไปอยู่กับพี่ไหม​ ยายใจดีนะ" ออกปากชวนอย่างหน้าด้านๆ​ เป็นผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวน่าเป็นห่วงชะมัด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม