ภายในห้องโถงของบ้านพัก อัญมณีรับจูบจากภานนท์ด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยจูบกับเขาเสียเมื่อไหร่ หากแต่จูบครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ภานนท์รั้งท้ายทอยเธอให้รับจูบที่ดูดดื่มจากเขา มืออีกข้างโอบรอบเอวบางด้วยความทะนุถนอม ปลายลิ้นหนาแทรกเข้าไปในกลีบปากอวบอิ่ม เกี่ยวพันปลายลิ้นเล็กแล้วดูดดื่มจนน้ำหวานไหลย้อยออกมาตามมุมปาก
ริมฝีปากหยักไล่จูบซับตวัดเลียลงไป อัญมณีเอียงคอให้อดีตคนรักได้จูบไซ้อย่างเต็มปากพร้อมกับครางอื้ออึงในลำคอแสดงถึงความพอใจ ทำให้ภานนท์คิดว่าถึงเวลาแล้ว
“เพิร์ล เรากลับมาคืนดีกันนะ”
“...” หญิงสาวไม่ตอบ เธอวาดแขนโอบรอบคอเขา ทำให้ภานนท์ยิ้มกว้าง
วงแขนแข็งแกร่งตวัดอุ้มช้อนตัวหญิงสาวขึ้นมา เดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนส่วนตัวที่อยู่ชั้นบน เมื่อไปถึงก็วางเธอลงอย่างแผ่วเบา ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกไปในขณะที่อัญมณีเองก็ถอดเสื้อผ้าของตนออกไปพร้อม ๆ กัน ตอนนี้หัวใจของภานนท์จึงลิงโลดมาก แบบนี้เธอใจอ่อนยอมให้อภัยเขาแน่แล้ว!
เมื่อสองร่างเปลือยเปล่าพร้อมสำหรับการบรรเลงบทรักที่หวานชื่น ภานนท์ก็รีบก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากที่เผยอรอ มือลูบไล้ไปที่เรือนร่าง ชื่นชมผิวเนียนละเอียดของเธอด้วยความหลงใหล
ริมฝีปากหยักบดเบียดริมฝีปากของหญิงสาวด้วยความคะนึงหา ห้าปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยเปิดใจให้ใครและรอคอยเพียงแต่เธอเท่านั้น
เมื่อชิมความหวานในโพรงปากจนพอใจ ริมฝีปากก็ไล้จูบลงมาที่ซอกคอระหง สูดดมกลิ่นกายที่คุ้นเคยแล้วหัวใจก็เต้นรัวกับความหอมหวานนี้ จูบที่หวานล้ำค่อย ๆ พรมจูบไปทั่วลำคอแล้วเลื่อนลงไปจนถึงเนินอกอวบ
ผู้อำนวยการหนุ่มตวัดปลายลิ้นหยอกล้อที่ปลายยอดอกสีหวานจนตั้งยอดชูชัน ได้ยินเสียงครางจากคนด้านล่างก็ยิ่งฮึกเหิมแล้วละเลงปลายลิ้นระรัวเร็ว พร้อมกับมือที่กอบกุมสองเต้าแล้วบีบเคล้นอย่างเต็มสองมือ
“อื้ม...” เสียงครางด้วยความพอใจและร่างกายที่บิดส่ายราวงูเลื้อยนั้นบ่งบอกถึงความพอใจ
ใบหน้าหล่อเหลาจูบไซ้ไปจนถึงหน้าท้องแบนราบ ปลายลิ้นชื้นทำให้อัญมณีสะดุ้งเบา ๆ ทุกครั้งที่มันแตะลงบนผิวหนัง
เมื่อเขากำลังจะลากปลายลิ้นลงไปยังเนินเนื้อสาว เธอก็ดันศีรษะนั้นออกไปไม่ยอมให้เขาได้ทำมัน
“ทำไมล่ะ เพิร์ลเคยชอบไม่ใช่เหรอ” เขาถามเสียงพร่า แต่ก่อนทุกครั้งเวลาที่ร่วมรักกัน อัญมณีชอบที่สุดก็คือการปรนเปรอด้วยปลายลิ้นที่ช่ำชองของเขา
“รีบเถอะค่ะ นี่ก็จะค่ำแล้ว” เธอบอกเหตุผลกับเขา แล้วแยกเรียวขาออกกว้างอย่างเชิญชวน
เมื่อสะโพกหนากดลงมาพร้อมกับนำความสุขสมมาให้ ใบหน้าของหญิงสาวก็แดงก่ำ น้ำเสียงที่ครวญครางก็สั่นเครือ มือเล็กกำผ้าปูที่นอนแล้วจิกแน่น หลับตาลงเมื่อสะโพกสอบเริ่มเคลื่อนไหว
เสียงเนื้อกระทบกันดังแข่งกันเสียงครางกระเส่าที่พร่าสั่นของภานนท์ และเสียงหวานที่ครางอย่างต่อเนื่องก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่แพ้กัน
เวลาผ่านไปเนิ่นนานกว่าเสียงเหล่านั้นจะสงบลง เหลือเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ที่บ่งบอกถึงความหฤหรรษ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป
อัญมณีผละออกไปห้องน้ำด้วยเรือนร่างที่เปลือยเปล่า ท่ามกลางสายตาของเขาที่มองด้วยความหลงใหลและชื่นชม
เธอกลับออกมาแล้วหยิบเสื้อผ้าสวมใส่ทีละชิ้น เขานั่งมองอยู่นานด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ในที่สุดก็สามารถทวงคืนหัวใจของตนเองกลับมาได้สำเร็จ
“รีบแต่งตัวเถอะค่ะ คุณพ่อคุณแม่ป่านนี้พวกท่านรอแย่แล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและฟังดูอ่อนเพลียจากการเดินทางที่ยาวนานแล้วยังโดนเขาตัดกำลังไปอีก
“อืม” ภานนท์รีบทำตามอย่างว่าง่าย สำหรับอัญมณีแล้วจะให้เขาทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น
รถซูเปอร์คาร์สีดำด้านที่สั่งทำพิเศษจอดที่หน้าบ้านเอกรัตนโชติ เมื่อประตูเปิดออกก็เคลื่อนเข้าไปจอดที่ด้านหน้า
อัญมณีไม่รอให้เขาเปิดประตูให้ เธอลงจากรถแล้วกำลังจะเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่ได้เชื้อเชิญเขาด้วยซ้ำ
“เดี๋ยวก่อนสิเพิร์ล รอพี่ด้วย” เขารีบลงจากรถแล้ววิ่งไปดักหน้าเธอเอาไว้
“คุณกลับไปเถอะค่ะ แล้วถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีกนะคะ” เธอไล่เขาแล้วมองด้วยแววตาที่เฉยชา
“อะไรกันเพิร์ล เมื่อกี๊เรายัง...”
“ฉันไม่ถือค่ะ ก็แค่รำลึกความหลังกับแฟนเก่า มันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายนักหรอก ถือเสียว่าเราต่างคนต่างแลกเปลี่ยนความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็แล้วกัน” อัญมณียักไหล่น้อย ๆ แสดงถึงว่าเธอไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ภานนท์ได้ยินแบบนั้นจากที่มีคิดว่าตนสมหวังแล้ว ก็เหมือนถูกดึงให้ตกลงมาจากที่สูง มันทั้งเจ็บปวดและใจหายในเวลาเดียวกัน
“หมายความว่ายังไง เพิร์ลไม่ได้อยากคืนดีกับพี่เหรอ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวัง
“ทำไมฉันต้องเอาตัวเองกลับไปเจ็บด้วยล่ะคะ ในเมื่อตอนนี้ฉันก็มีความสุขดีอยู่แล้ว เชิญกลับไปเถอะค่ะ เราสองคนมันจบไปนานแล้ว” เธอไล่เขาอีกครั้ง
“เพิร์ล...” เขาเรียกชื่อของหญิงสาวที่รักด้วยความใจหาย ตลอดห้าปีเขาอธิบายทุกอย่างกับเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะอยากให้เธอยกโทษให้ แต่ที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบ
“ค่ะ ฉันชื่อเพิร์ล ไม่ใช่เรนนี่... ถึงผู้หญิงคนนั้นจะมีตัวตนหรือไม่ก็ตาม ฉันไม่ได้ใส่ใจมันอีกแล้ว เพราะประเด็นหลักคือคุณเอาความรักของฉันมาล้อเล่น เหยียบย่ำหัวใจจนแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี” อัญมณีพูดเสียงสั่นด้วยความโกรธ
ในตอนนั้นเองศิรินุชมารดาของเธอก็เดินออกมาต้อนรับลูกสาว
“สวัสดีครับคุณอา” ภานนท์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะคุณแม่ เพิร์ลคิดถึงคุณแม่ที่สุดเลย”
“แม่ก็คิดถึงหนู กลับมาบ้านเราเสียทีน่ะ ไปกันเถอะแม่เตรียมของโปรดไว้ให้แล้ว” ศิรินุชสวมกอดลูกสาวแล้วผละออกมามองใบหน้าที่สดใสนั้นด้วยความคิดถึง ก่อนจะหันไปหาภานนท์ที่เป็นลูกชายของภาวิทย์เพื่อนของเพทายสามีเธอ
“มาทันเวลาอาหารเย็นพอดีเลย ภานนท์เข้าไปรับประทานอาหารด้วยกันสิลูก” ศิรินุชเชิญชวนด้วยรอยยิ้มที่ยินดี
“ไม่ต้องไปเชิญเขาหรอกค่ะคุณแม่ เดี๋ยวเพิร์ลจะกินข้าวไม่ลง” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ภานนท์คิดว่าวันนี้เธอเพิ่งจะเดินทางมาถึงอาจจะยังหงุดหงิดอยู่ เขาจึงอยากให้เธอได้พักผ่อนก่อน ไม่ใช่ว่าที่ถอยคราวนี้คือการยอมแพ้
“ไม่เป็นไรครับคุณอา ผมลานะครับ”
เขายกมือไหว้แล้วมองอัญมณีที่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปมาก จากเด็กสาวที่เอาแต่ตามเขาต้อย ๆ ตอนนี้เธอเย็นชาและหมางเมินจนเขาใจหาย
“แล้วพี่จะมาหานะ” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะกลับ
“ถ้าไม่เชิญก็ไม่ต้องมานะคะ ไม่อยากเจอ” ประโยคนั้นตอกย้ำให้ยิ่งเจ็บปวด แต่มันก็สมควรแล้วกับสิ่งที่เขาเคยทำเอาไว้
************************