9 นับชีพจรบนข้อมือ…แต่เหงื่อซึมที่ต้นคอ

1423 คำ
ภายใต้แสงไฟสีขาวสว่างจ้าในห้องทำงานส่วนตัวอันเงียบสงบ นายแพทย์รามินทร์ วงศ์วริศ กำลังนั่งจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงผลการวิจัยทางการแพทย์ล่าสุด แต่ในหัวของเขา...กลับไม่ได้มีเรื่องสารประกอบทางเคมีหรือสถิติผู้ป่วยอยู่เลยแม้แต่น้อย ภาพที่ฉายวนซ้ำอยู่ในความคิดของเขา คือภาพของหญิงสาวร่างเล็กในชุดเดรสลายดอก ที่ทำหน้าเหมือนลูกแมวถูกขัดใจ ดวงตากลมโตที่ฉายแววดื้อรั้นแต่ก็แฝงไปด้วยความหวาดหวั่นในเวลาเดียวกัน ริมฝีปากอิ่มที่เม้มแน่นทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ และปฏิกิริยาสะดุ้งเฮือกที่น่าเอ็นดูทุกครั้งที่เขา ‘เผลอ’ สัมผัสตัวเธอ คุณอัญชัญ อิงครัต...คนไข้ที่สร้างความปั่นป่วนให้เขาได้มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มทำงานเป็นแพทย์มา รามินทร์ถอดแว่นตาออก วางลงบนโต๊ะแล้วยกมือขึ้นนวดขมับเบาๆ เขายอมรับกับตัวเองอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักว่า ช่วงหลังมานี้ สมาธิในการทำงานของเขาลดลงไปอย่างน่าใจหาย โดยมีสาเหตุมาจากคนไข้เพียงคนเดียว ตอนแรกที่เขาเห็นชื่อเธอในแฟ้มประวัติ พร้อมกับหมายเหตุตัวแดงจากพยาบาลว่า ‘กลัวเข็มมาก, เคยเป็นลม’ เขาก็แค่คิดว่าเป็นอีกหนึ่งเคสที่ต้องรับมือด้วยความใจเย็นและเด็ดขาดตามสไตล์ของเขา แต่เมื่อได้เจอตัวจริง...ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คิด ความโก๊ะและความโวยวายแบบเด็กๆ ของเธอไม่ได้ทำให้เขารำคาญใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับทำให้เขารู้สึก...ขบขันและอยากจะแกล้งขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ยิ่งได้เห็นเธอพยายามทำใจดีสู้เสือ เถียงคำไม่ตกฟากทั้งที่ขาสั่นไปหมด มันก็ยิ่งปลุกสัญชาตญาณดิบบางอย่างในตัวเขา...สัญชาตญาณของนักล่าที่เจอเหยื่อที่น่าสนใจ ‘คุณมันหมอบ้ากาม!’ ‘ทำไมคุณหมอต้องทำแบบนี้ด้วย...ยั่วเก่งจังเลยนะคะ!’ คำพูดของเธอในวันนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหู เขายกยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงใบหน้าแดงก่ำและแววตาสั่นระริกราวกับจะร้องไห้ของเธอในตอนนั้น...น่ารัก...น่ารักจนเขาอยากจะรวบตัวเข้ามากอดแล้วฟัดให้แก้มช้ำไปข้างหนึ่ง เขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน ตลอดชีวิตที่ผ่านมา รามินทร์คือชายหนุ่มผู้ยึดมั่นในกฎระเบียบและเหตุผล ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้คือเส้นแบ่งที่เขาไม่เคยคิดจะก้าวข้าม แต่กับผู้หญิงคนนี้...เส้นแบ่งนั้นมันดูเลือนลางลงไปทุกที ความคิดของเขาถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตูเบาๆ “คุณหมอรามคะ คนไข้นัดบ่ายสองมาแล้วค่ะ” เสียงพยาบาลดังมาจากหน้าห้อง รามินทร์เหลือบมองนาฬิกา...บ่ายสองพอดี เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เรียกสมาธิและความเยือกเย็นกลับคืนมา สวมแว่นตาแล้วปรับสีหน้าให้เรียบนิ่งเหมือนเดิม “ให้เข้ามาได้เลยครับ” ประตูเปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของร่างที่เขาเพิ่งจะนึกถึงเมื่อครู่...คุณอัญชัญ อิงครัต วันนี้เธอมาในชุดเสื้อเบลาส์สีขาวกับกระโปรงสีฟ้าอ่อน ดูเรียบร้อยน่ารัก แต่ใต้ตาที่ดูคล้ำเล็กน้อยนั้นบ่งบอกว่าเธอคงไม่ได้นอนหลับสบายอย่างที่ควรจะเป็น...ซึ่งเขาก็พอจะเดาสาเหตุได้ “สวัสดีค่ะคุณหมอ” เธอทักทายเสียงเรียบ พยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แต่การที่เธอไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ นั้น เป็นการฟ้องทุกอย่าง “สวัสดีครับ เชิญนั่ง” เขาตอบกลับเสียงเรียบเช่นกัน ผายมือไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เธอนั่งลงอย่างว่าง่าย กอดกระเป๋าถือไว้บนตักแน่นเหมือนเคย เป็นท่าทางป้องกันตัวที่เขาเริ่มจะคุ้นตา “วันนี้ไม่มีเรื่องด่วนอะไรใช่ไหมครับ ถึงได้มาตรงตามนัดได้” เขาเปิดประเด็นด้วยการแขวะเธอเบาๆ ตามสไตล์ ข้าวปั้นช้อนตาขึ้นมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ติดจะประชดประชันเล็กน้อย “ก็ไม่อยากโดนใครบางคนหาว่าดื้อน่ะสิคะ เลยต้องรีบมา” รามินทร์ยกยิ้มในใจ...แม่สาวจอมแก่นเริ่มเผยฤทธิ์เดชออกมาแล้ว “ดีแล้วครับที่คิดได้” เขายืนขึ้นเต็มความสูง “มาครับ เริ่มตรวจกันเลยดีกว่า” เขาเดินนำเธอไปที่เตียงตรวจเหมือนทุกครั้ง ข้าวปั้นเดินตามมาอย่างเสียไม่ได้ แต่ก็ยังคงทิ้งระยะห่างจากเขาเล็กน้อย “วันนี้วัดชีพจรก่อนแล้วกัน” เขาบอกพลางหยิบนาฬิกาจับเวลาเรือนเล็กขึ้นมา “คะ? ปกติวัดความดันก่อนไม่ใช่เหรอคะ” เธอถามอย่างสงสัย “วันนี้ผมอยากเปลี่ยนลำดับบ้าง...หรือคุณมีปัญหา?” เขาหรี่ตามองเธอผ่านกรอบแว่น “มะ...ไม่มีค่ะ” เธอตอบเสียงอ่อย ยอมทำตามแต่โดยดี “ยื่นข้อมือซ้ายมาครับ” เธอค่อยๆ ยื่นแขนออกมาให้เขาอย่างลังเล รามิลรับข้อมือเล็กๆ นั้นไว้ในอุ้งมือของเขา ผิวเนื้อเนียนละเอียดและอุ่นจัดของเธอทำให้เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการควบคุมสีหน้าให้เรียบนิ่ง เขาพลิกข้อมือเธอหงายขึ้น ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางทาบลงบนตำแหน่งของเส้นเลือดแดงเรเดียลอย่างแม่นยำตามหลักการแพทย์ทุกประการ...แต่ในใจของเขานั้นกำลังคิดอีกอย่าง ข้อมือเล็กๆ นี่...ถ้าโดนรวบด้วยมือเดียวก็คงอยู่หมัด “ทำตัวตามสบายครับ ไม่ต้องเกร็ง” เขาพูดเสียงเรียบเมื่อรู้สึกได้ว่าเธอกำลังเกร็งข้อมือเล็กน้อย เขาจ้องมองเข็มวินาทีบนนาฬิกาที่กำลังเดินไปข้างหน้า แต่สมาธิทั้งหมดกลับอยู่ที่ปลายนิ้วที่กำลังสัมผัสกับจังหวะการเต้นของชีพจรเธอ... มันเต้นเร็วกว่าปกติเล็กน้อย...เหมือนทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้เธอ รามิลแกล้งทำเป็นมีสมาธิจดจ่อกับการนับ แต่ปลายนิ้วของเขากลับจงใจ...กดน้ำหนักลงไปมากกว่าเดิมเล็กน้อย และลูบไล้ผิวเนื้อเนียนละเอียดบริเวณข้อมือของเธอเบาๆ...ช้าๆ... เขาเห็นเธอเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เหงื่อเม็ดเล็กๆ เริ่มผุดซึมขึ้นมาตามไรผมและต้นคอขาวผ่องของเธอ ...น่ากัด... ความคิดนั้นแวบเข้ามาในหัวอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย รามิลต้องรีบสลัดมันทิ้งไป ก่อนที่เขาจะเผลอทำอะไรที่ไม่เหมาะสมลงไปจริงๆ “อืม... 95 ครั้งต่อนาที” เขารายงานผลเมื่อครบหนึ่งนาที “ยังเร็วเหมือนเดิม...ตื่นเต้นอะไรครับวันนี้?” เขาปล่อยข้อมือเธอแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตาตรงๆ ยิงคำถามที่รู้ทั้งรู้ว่าคำตอบคืออะไร “ปะ...เปล่านะคะ! ก็...ก็เดินขึ้นบันไดมา มันก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา!” เธอรีบหาข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นที่สุด “โรงพยาบาลเรามีลิฟต์นะครับคุณอัญชัญ” เขาตอบกลับอย่างใจเย็น “หรือว่าคุณแค่อยากจะออกกำลังกายให้หัวใจเต้นแรง...เวลามาเจอหมอ?” คำพูดสองแง่สองง่ามของเขาทำให้ข้าวปั้นหน้าแดงก่ำ อ้าปากจะเถียงแต่ก็พูดอะไรไม่ออก รามินทร์มองภาพนั้นด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้อีกก้าวหนึ่ง โน้มตัวลงมาเล็กน้อย จนใบหน้าของเขาอยู่ในระดับเดียวกับเธอ “เหงื่อออกเยอะนะครับ” เขากระซิบเสียงพร่า ก่อนจะยกมือขึ้น...ใช้นิ้วหัวแม่มือปาดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่ซึมอยู่ข้างต้นคอของเธอออกให้อย่างแผ่วเบา... สัมผัสที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันบริเวณซอกคอที่ไวต่อความรู้สึก ทำให้ข้าวปั้นสะดุ้งสุดตัว ขนลุกซู่ไปทั้งร่าง “คุณหมอ!” “ผมก็แค่...เช็ดเหงื่อให้คนไข้” เขายิ้มมุมปาก “เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้นะครับ” เขายังไม่ยอมถอยห่าง ปลายนิ้วยังคงแตะค้างอยู่ที่ต้นคอของเธอ สายตาจ้องมองริมฝีปากอิ่มที่กำลังเผยอขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ...ดูนุ่ม...และน่าจูบ... “หมอรามครับ...ผมว่าผมเจอแล้วว่าอะไรที่ทำให้หัวใจของคนไข้คนนี้...เต้นผิดปกติ” เขานึกในใจ ก่อนจะค่อยๆ ผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง ดูเหมือนว่า...การตรวจร่างกายในวันนี้...จะเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม